ตอนที่ 2 เสือมิแสดงอำนาจต่อข้าเหมือนแมวป่วย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 2 เสือมิแสดงอำนาจต่อข้าเหมือนแมวป่วย
ตอนที่ 2 เสือมิแสดงอำนาจต่อข้าเหมือนแมวป่วย ดวงตาดำขลับของซ่างกวนเมี่ยวฝูเปิดขึ้นอย่างเย็นชา นางยืดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนจะจ้องมองไปที่ข้อมือขวาของตนเอง มันเป็นสีขาวโพลน มิมีอันใดปรากฏขึ้นมา ทันใดนั้น นางก็ได้ยินเสียงดัง “ปัง” มาจากใต้เตียง ต่อเนื่องกันก็มีเสียงกรนดังขึ้นมา “เวรเสียจริง ผู้ใดทำร้ายข้าจนสลบ แล้วนำมายัดไว้ใต้เตียงเช่นนี้!” ซ่างกวนเมี่ยวฝูตะลึงงัน พลันดวงตาของนางก็เย็นชาอย่างฉับพลัน คิดมิถึงว่าใต้เตียงมีคนอยู่ นางสวมใส่อาภรณ์อย่างใจเย็น ก่อนจะมองสำรวจไปทั่วทั้งสี่ทิศว่ามีอาวุธอันใดที่สามารถใช้การได้บ้าง ในเพลาที่ชายผู้นั้นคลานออกมา ซ่างกวนเมี่ยวฝูก็ได้ถือแจกันดอกไม้ไว้ในมืออย่างแน่นหนาเป็นที่เรียบร้อย นางเตรียมตัวซุ่มโจมตีอย่างลับๆ "นี่เจ้าตื่นแล้วหรือ? สาวน้อยเจ้างดงามยิ่งนัก เทพธิดาเช่นนี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมิให้เงินเจ้า ข้าก็จะให้เจ้าอย่างเต็มใจ ฤดูใบไม้ผลิที่สวยงามคุ้มค่ากับทองเป็นพัน มาเถิดสาวน้อย เรามาเริ่มกันเถิด ... " เมื่อหวางหมาจื่อที่นั่งอยู่บนพื้นกำลังจะพุ่งเข้ามาหาเมี่ยวฝู เมี่ยวฝูก็ทุบแจกันในมือของนางไปยังหวางหมาจื่อ มันกระแทกเข้าที่หัวของเขาพอดี ในช่วงเวลานั้น มีเลือดจำนวนมากไหลลงมาจากศีรษะของหวางหมาจื่อ เขารู้สึกเจ็บปวดมากยื่นมือออกไปสัมผัส พบว่าศีรษะเต็มไปด้วยเลือด “นางผู้หญิงต่ำช้า เจ้ากล้าที่จะตีข้างั้นหรือ เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะฆ่าเจ้า!” ในขณะที่หวางหมาจื่อกำลังจะลงมือ ก็มีเสียง "ปัง" ดังขึ้นอีกครั้ง ประตูถูกคนเตะให้เปิดออก ตามกันมาก็มีกลุ่มคนทั้งชายและหญิงในอาภรณ์งดงามพรวดพราดเข้ามา ทันทีที่ทุกคนเดินเข้ามา เมื่อพวกเขาเห็นฉากด้านใน จึงทยอยกันกล่าวหาด้วยความขุ่นเคือง "ซ่างกวนเมี่ยวฝู เจ้ามีสัมพันธ์กับผู้ล่วงประเวณีของสวนหลิวหลีจริง ๆ เจ้ามันผู้หญิงสารเลว เจ้ามองเห็นองค์รัชทายาทอยู่ในสายตาบ้างหรือไม่? ข้าจะสั่งสอนเจ้าแทนฝ่าบาท ข้าจะฆ่าเจ้า!" หญิงสาวในกลุ่มคนผู้หนึ่งมีนามว่ามู่หยู่ฉินรีบหยิบแส้เดินตะบึงเข้ามา และฟาดไปที่เมี่ยวฝู ได้ยินเสียงแส้ “เพี๊ยะๆๆ” หลายครั้ง แส้ของมู่หยู่ฉินตีอย่างรุนแรงลงบนตัวของเมี่ยวฝู ส่งผลให้มือและขาของ เมี่ยวฝูเป็นแผลฉีกขาด ไม่นานนัก ก็มีรอยแดงที่แขนของนางหลายรอย และมีเนื้อสดสีแดงเปิดออกมา มู่หยู่ฉินตีไปพลาง คนรับใช้ของนางก็ตะโกนอย่างโกรธเคือง "เฆี่ยน! จงเฆี่ยนนางขยะที่ไร้ศีลธรรมนี้ให้ตาย มาไล่ตามองค์รัชทายาทถึงสวนหลิวหลีอย่างไร้ยางอาย และยังมีความสัมพันธ์กับชายชู้ นางคือคู่หมั้นของฝ่าบาท การกระทำเช่นนี้ก็เท่ากับดูถูกเหยียดหยามพระองค์ ! " “ฝ่าบาท พระองค์เห็นด้วยตาตัวเอง เจ้านางซ่างกวนเมี่ยวฝูนี้ให้ท่าชายที่ท่าทางน่าเกลียดเช่นหมาจื่อเช่นนี้ ซึ่งหมายความว่าตั้งใจจะหักหน้าของพระองค์นะเพคะ นางคิดว่าท่านพ่อของนางเป็นนายพล มิสนในตำแหน่งชายาองค์รัชทายาทมิว่า แต่ยังสวมเขาให้พระองค์อีก พระองค์ต้องนำตัวนางไปขังไว้ที่หญ้ากรงหมูเพคะ! " "ใช่เพคะ แม้แต่หมาจื่อยังตกใจจนเอ่ยมิออก หญิงที่ต่ำช้าพรรค์นี้ต้องขังในหญ้ากรงหมูเท่านั้น ถ้าพระองค์มิขังในกรงหมู คงเป็นการยากที่จะกำจัดความเกลียดชังในใจของเราเพคะ! มู่หยู่ฉิน เฆี่ยนนางให้หนัก ทางที่ดีเอาให้ตายไปเสีย! " อดีตชาติเมี่ยวฝูคืออัจฉริยะทางวงการแพทย์ นางมีความเชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนจีนและตะวันตก อีกทั้งยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหมอเทวดา แม้แต่ประมุขแห่งแคว้นและรัฐบาลในทุกประเทศก็ต้องมาหานางเพื่อขอให้นางรักษาอาการป่วยของพวกเขา ผู้ใดที่พบนางมิมีสักคนที่ไม่เคารพนาง นางไปที่ใดก็จะได้รับการเคารพสักการะชื่นชมจากผู้คนเป็นพันเป็นหมื่น มิคิดว่าจะวันนี้จะถูกมองอย่างเหยียดหยาม อีกทั้งยังถูกเฆี่ยนด้วยแส้ ช่างเป็นเหมือนเสือตกสวรรค์และถูกสุนัขรังแก เสือที่มิแสดงอำนาจจึงถูกพวกนางมองเป็นแมวป่วย นางมิเชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้ แต่ทว่าเพราะนางมักจะต้องจับมีดผ่าตัดบ่อยครั้ง ในเพลาที่แส้ดุเดือดกำลังพุ่งเข้ามานั้น นางก็ก้าวไปด้านหน้าและจับหางแซ่นั้นไว้แน่น ในขณะเดียวกัน เปลวไฟร้อนแรงในดวงตาของนางก็ลุกไหม้ขึ้น แทบจะเหมือนกับการรังแกผู้อื่นมากไป คนเหล่านี้ทำเกินไปแล้ว! เมื่อเห็นว่าเมี่ยวฝูกล้าหยุดแส้ของตนเอง ใบหน้าของมู่หยู่ฉินก็มีความประหลาดใจปรากฏขึ้นมา “นางผู้หญิงต่ำช้า เจ้ากล้าหยุดแส้ของข้างั้นหรือ เจ้ามิอยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่?” ทั้งใบหน้าของมู่หยู่ฉินประหลาดใจ หญิงแพศยาผู้นี้ความกล้าหาญนั้นน้อยนิดราวกับหนู ผู้ใดก็สามารถรังแกได้ แต่เหตุใดวันนี้นางจึงกล้าเอาคืน อีกทั้งยังจ้องมองนางด้วยสายตาที่เย็นเยือก ผู้ใดให้ความกล้าหาญเช่นนี้แก่นาง! เมี่ยวฝูดึงแส้ออกมาอย่างเย็นชา ใบหน้าดำค่ำเครียดให้ความรู้สึกเย็นเยือกราวกับว่าสามารถกลืนกินหัวใจของผู้คนได้ แทบจะทำให้ในใจของมู่หยู่ฉินสั่นสะท้าน เด็กสาวผู้นี้ เหตุใดจึงเปลี่ยนกลายเป็นคนมั่นคงมิตื่นตระหนกเช่นนี้ได้! เพลานั้น เมี่ยวฝูเงยหน้าขึ้น ยืนอยู่ที่นั่นอย่างสงบ ท่าทางที่มิยอมแพ้ของนาง ทำให้คนไม่กล้าดูถูก “นังผู้หญิงต่ำช้า เจ้ากล้าจ้องมองข้างั้นหรือ? ผู้ใดให้ความกล้าหาญแก่เจ้า ข้าเฆี่ยนเจ้าเจ้ามิเข็ดใช่หรือไม่? หากเจ้ามิยอมแพ้ เช่นนั้นข้าก็จะเฆี่ยนต่อไป จะเฆี่ยนจนกว่าเจ้าจะคุกเข่าลงขอความเมตตาจากข้า!” มู่หยู่ฉินเอ่ยจบก็ดึงแส้กลับไปอย่างฉับพลัน แต่ทว่าพบนางดึงมันก็พบว่ามิขยับ เป็นเพราะว่าอีกด้านหนึ่งของแส้ถูกเมี่ยวฝูจับไว้อย่างแน่นหนา เมื่อพบว่ามิสามารถดึงแส้ให้ขยับได้ พลันมู่หยู่ฉินก็กัดฟันและออกแรงทั้งหมดเพื่อถึงแส้กลับมา ในขณะเดียวกัน เมี่ยวฝูก็ปล่อยมืออย่างฉับพลัน! พอนางปล่อยมือ มู่หยู่ฉินก็ล้มลงกระแทกกับพื้น เพราะการออกแรงดึงที่มหาศาลของนาง ในขณะเดียวกัน แส้ก็เด้งกลับมาและกระแทกเข้ากับใบหน้าของนางอย่างแรง ทันใดนั้น ใบหน้าที่ถูกแส้ฟาดอย่างรุนแรงของนาง ส่งผลให้ใบหน้าเล็กราวกับดอกไม้ปรากฏเป็นรอยเลือดยาวขึ้นมา ดูเหมือนว่าบาดแผลจะเป็นรอยเลือดสดที่เปียกโชก ดูน่าเวทนาเป็นอย่างมาก ผู้คนจำนวนมากถูกการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ตกใจจนใบหน้าถอดสี ทยอยกันกล่าวหาเมี่ยวฝูอย่างโกรธเคือง เจ้าผู้ที่ขี้ขลาดผู้นี้ เหตุใดถึงกล้าลงมือกับมู่หยู่ฉิน “ซ่างกวนเมี่ยวฝู เจ้ากล้าตีบุตรสาวของสิงปู้ซ่างซูงั้นหรือ? เจ้ามิกลัวตายหรืออย่างไร?” ดวงตาดำคลับของเมี่ยวฝูกวาดมองไปยังทุกคนอย่างเย็นชา ในดวงตาเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม “ดวงตาคู่ใดของเจ้าที่มองเห็นว่าข้าตีนางหรือ? ข้าเพียงแค่ปล่อยมือส่งแส้คืนให้แก่นางเท่านั้น” เมื่อทุกคนได้ฟังก็ตกใจจนพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง เมี่ยวฝูมิได้ลงมือจริงๆ มู่หยู่ฉินเป็นผู้ที่ตีนางก่อน นางเพียงแค่ปล่อยมือจากแส้ มู่หยู่ฉินโชคร้ายเสียเอง จักโทษเมี่ยวฝูมิได้ “ซ่างกวนเมี่ยวฝู ต่อหน้าข้าเจ้ายังกล้าที่จะเย่อหยิ่ง เข้ามาด้านใน นำตัวหญิงแพศยาผู้นี้ออกไป ข้าจักสั่งสอนให้นางรู้จักผิดชอบชั่วดี!” ผู้ที่เอ่ยออกมาคือองค์รัชทายาทที่มองดูสถานการณ์นี้มาเนิ่นนาน พอองค์รัชทายาทเดินเข้ามา เมี่ยวฝูก็มองไปยังเขา องค์รัชทายาทที่เบื้องหน้าสวมใส่เสื้อคลุมแบบจีน ผมสีดำเข้มสวมมงกุฎที่เอวของเขาคาดเข็มขัดหยกสีเขียวไว้ ลักษณะท่าทางดูเหมือนคนรวยที่มีรูปแบบของสุนัข แต่น่าเสียดาย เรื่องราวที่เขาทำนั้นมิเหมือนกับเป็นมนุษย์ ในดวงตาของเขาอันตราย ลึกซึ้งและน่ากลัวอย่างยิ่ง ข้างๆเขามีหญิงสาวสวยสวมชุดสีขาวที่ดูเหมือนนางฟ้า ในเพลานี้หญิงสาวสวยจ้องมองตนเองอย่างเย็นชา ไม่ต้องเอ่ยก็รู้ว่านี่คือซ่างกวนบี้หรุง ผู้ที่ดูถูกเมี่ยวฝูอยู่เสมอในความทรงจำ ทันทีที่องค์รัชทายาทแถลงการณ์ ในเพลาที่สุนัขรับใช้ต้องการที่จะออกมาข้างหน้าและจับตัวเมี่ยวฝูอยู่นั้น เมี่ยวฝูหันไปด้านข้าง ดวงตาของนางเป็นประกายสดใส นางจ้องมองทุกคนอย่างเยือกเย็น "ช้าก่อน! ข้ายังมิได้ทำผิดกฎหมายอันใด ฝ่าบาทอิงอันใดมาจับข้าหรือเพคะ?” ฉูซู่ไม่ได้คาดหวังว่าเด็กสาวขี้กลัวและขี้ขลาดกล้าที่จะต่อปากต่อคำ และกล้าที่จ้องมองเขาราวกับว่านางกลายเป็นคนละคนไปแล้ว ความโกรธของเขาปะทุขึ้น ดวงตามืดมนเหมือนงูพิษ "เจ้าหักหลังข้า แอบมีความสัมพันธ์ลับๆกับผู้อื่น แล้วยังกล้าตั้งคำถามต่อข้าอีกหรือ? " "ดวงตาคู่ใดของพระองค์ที่เห็นข้าแอบมีความสัมพันธ์ลับๆกับผู้อื่นหรือเพคะ? เอ่ยว่าข้าแอบมีความสัมพันธ์ลับๆกับผู้อื่น ข้าอยากถามว่าพระองค์มีหลักฐานอัใด?" เมี่ยวฝูไม่ตื่นตระหนก นางเดินไปหาฉูซู่อย่างไม่รีบร้อน นางเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ ทำให้ผู้คนรู้สึกสงบ และท่าทางที่น่าดึงดูดของนางยังมีแรงผลักดันและก้าวร้าวซึ่งทำให้ผู้คนมิกล้ามองตรงๆ
已经是最新一章了
加载中