ตอนที่ 6 ล้างความผิดจากการประทุษร้าย
1/
ตอนที่ 6 ล้างความผิดจากการประทุษร้าย
ชายาหมอพิษ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 6 ล้างความผิดจากการประทุษร้าย
ตอนที่ 6 ล้างความผิดจากการประทุษร้าย คิดไม่ถึงว่าเมี่ยวฝูจะกล้าเอ่ยตำหนิองค์รัชทายาทมิมีน้ำยา องค์รัชทายาทมิมีเลือดลูกผู้ชาย องค์รัชทายาทไม่มีความสามารถ ต่อหน้าฝูงชนเช่นนี้ นับว่าความกล้าหาญของเมี่ยวฝูนั้นมากมายเลยทีเดียว แต่ทว่าสิ่งที่นางเอ่ยนั้นแทบจะเป็นจริงทุกเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบ ทุกคนล้วนเห็นเพียงว่าองค์รัชทายาทร่วมมือกับผู้อื่นทำให้นางตกทุกข์ได้ยาก แม้แต่คำพูดที่ปกป้องนางแม้แต่คำเดียวก็มิมี แต่ทว่าควรรู้ว่าคู่หมั้นของตนเองลอบมีความสัมพันธ์กับผู้อื่น ใบหน้าขององค์รัชทายาทควรจะไม่มีแสงสว่างและถูกเย้ยหยันจากโลกที่ตนเองถูกสวมเขา เดิมทีหากมีคนรู้น้อยก็ยิ่งดี แต่ทว่าองค์รัชทายาทกลับประกาศให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมดได้รู้ หรือว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับเขาด้วยกันแน่? หรือเขาหวังว่าทุกคนจะได้รู้ เพื่อที่จะได้กำจัดเมี่ยวฝูได้อย่างง่ายดาย?” ในเพลานั้น ทุกคนเห็นดวงตาขององค์รัชทายาทแปลกประหลาด ภายนอกพวกเขาไม่กล้าสงสัย แต่ทว่าก็รู้สึกดูถูกเขาในใจ เมื่อองค์รัชทายาทได้ยินดังนั้น ขณะนี้ใบหน้าของเขาก็ดำเข้มราวกับเถ้าถ่าน ดำเสียยิ่งกว่าผ้าลินินที่สวมใส่อยู่ ซ่างกวนเมี่ยวฝูกล้าที่จะดูถูกเขา บอกว่าเขาไร้น้ำยา! ในฐานะที่เป็นชาย โดยเฉพาะเป็นองค์รัชทายาทปกครองแคว้น การถูกคนอื่นเอ่ยว่าไร้น้ำยา นับเป็นการดูถูกเขาอย่างมหันต์ ทุกประโยคที่เมี่ยวฝูเอ่ยออกมานั้นค่อนข้างจริงจังตั้งใจ น้ำเสียงและท่าทีนั้นทำให้เขากลายเป็นคนไร้น้ำยาในชั่วพริบตา เขาค้นพบว่าสายตาของผู้คนจำนวนมากที่จ้องมองเขานั้นมิใช่เลื่อมใสศรัทธาอีกต่อไป แต่เป็นสายตาที่เคลือบแคลงสงสัย แน่นอนว่าการเคลือบแคลงสงสัยเช่นนั้นทำได้เพียงเก็บซ่อนและหายไป พวกเขากล้าแสดงออกมาที่ใดกัน อย่างไรก็เป็นเพียงการสงสัยอยู่ภายในใจ เขาคือองค์รัชทายาทแห่งแคว้น จะเอาใบหน้านี้ไปไว้ที่ใด? เขารังเกียจนางจนแทบจะรอไม่ได้ แล้วจะปกป้องนางทำอันใดกัน แต่ทว่านางเอ่ยอย่างสมเหตุสมผลเช่นนี้ ถ้าหากเขามิเอ่ยอันใดสักสองสามคำ ผู้คนก็จะคิดว่าเขาเป็นชายที่อ่อนแอและมิมีเลือดลูกผู้ชาย อีกทั้งเพลานี้ลู่หลัวถูกเปิดโปง เขาก็มิสามารถปล่อยให้เมี่ยวฝูตรวจสอบต่อไป ถ้าหากลู่หลัวทนมิได้จนประจานเขาออกมา เช่นนั้นชื่อเสียงต่อประเทศและเหล่าประชาชนก็จะมิมีแล้ว ประชาชนจะมองเขาเช่นไร ฮ่องเต้จะคิดกับเขาเช่นไร ชื่อเสียงที่ดีงามที่เขาพยายามสร้างมันขึ้นมาก็จะถูกทำลายลงในพริบตา ถ้ามิใช่เพราะชื่อเสียงของตนเอง เขาจะสังหารเมี่ยวฝูไปเสียนานแล้ว มิยอมให้นางมีชีวิตอยู่จนกระทั่งปัจจุบันดอก การที่เขาใส่ร้ายว่าเมี่ยวฝูลอบมีความสัมพันธ์ก็เพื่อชื่อเสียงที่ตนเองจะสามารถถอนหมั้นอย่างได้เปรียบ แต่ผลลัพธ์กลับถูกหญิงผู้นี้ก่อกวนจนพังไม่เป็นท่า เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ เขาก็เห็นว่าดวงตาของเมี่ยวฝูสามารถยิงเข็มพิษออกมาได้ หลังจากนั้นจึงเหลือบไปมองมู่หยู่ฉินและตะโกนออกมาอย่างโกรธเคือง เจ้าช่างกล้านัก เจ้าบอกข้ามาให้ชัดเจน ลู่หลัวและชายชู้ผู้นี้เป็นอันใดกัน ถ้าหากเจ้ามิเอ่ยความจริงข้า ข้าจักตัดหัวเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!” การฆ่าคนในที่เกิดเหตุ แสดงให้เห็นถึงเลือดในตัวชายพอแล้วหรือยัง? ในเพลานี้ องค์รัชทายาทมีความรู้สึกว่าเมี่ยวฝูกำลังเผาตนเอง เห็นได้ชัดว่าเขาถูกนางใช้เป็นปืน เขาจะต้องคิดหาวิธี มิเช่นนั้นเขาก็จะกลายเป็นชายที่ไร้ความปรานี ที่มิรู้จักปกป้องคู่หมั้นของตน องค์รัชทายาทจะฆ่าคน นี่ไม่ใช่เรื่องเล่น เขามีอำนาจในการตัดสินใจ นี้อีกทั้งยังปฏิบัติเช่นนี้บ่อยๆ เมื่อเห็นว่าองค์รัชทายาทหันปืนมาที่ตนเอง ในใจของมู่หยู่ฉินก็รู้สึกตื่นตระหนก นางตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของเหตุการณ์นี้ นี่องค์รัชทายาทเตรียมที่จะผลักนางออกไปรับความตายหรือ นางมิกล้าที่จะระบุถึงองค์รัชทายาทแล้ว นางทำได้เพียงแค่ยอมรับความผิดนี้ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ร่างกายของนางก็เริ่มสั่นเทา ฝ่ามือเปียกชุ่ม แต่ไหนแต่ไรมานางไม่เคยรู้สึกหวาดกลัวเช่นนี้มาก่อน นางรู้สึกว่าศีรษะของนางชาไปชั่วขณะ นางมิเคยรู้สึกอิจฉาริษยาเมี่ยวฝูเช่นนี้มาก่อน นางหมุนศีรษะไปจ้องมองลู่หลัวอย่างโกรธเกรี้ยว เดิมทีตนเองเชื่อใจลู่หลัวอย่างยิ่ง แต่ทว่าเพลานี้นางกลับยิ่งสงสัยว่าลู่หลัวคือคนของซ่างกวนเมี่ยวฝู สัญลักษณ์พรหมจรรย์ของเมี่ยวฝูเห็นได้ชัดว่ายังมีอยู่ ภายในเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ เดิมทีมิสามารถปลอมขึ้นมาได้ หัวสมองนั้นของนางก็คงคิดวิธีนี้มิออก นี่แสดงให้เห็นว่าลู่หลัวโกหกและหลอกลวงนาง เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ นางยิ่งจ้องมองลู่หลัวก็ยิ่งรู้สึกโกรธแค้น ลู่หลัวได้รับความไม่เป็นธรรม ช่างเป็นอันใดที่ทุกข์ยากเสียจริง นางรู้ว่าที่นายหญิงจ้องมองนางนั้นหมายความว่าเช่นไร ต้องการให้นางออกมารับความผิด นางกัดริมฝีปากล่างอย่างทุกข์ทรมาน เมื่อปิดตาดวงใจก็เต้นแรง ทันใดนั้นจึงคุกเข่าลงพลางเอ่ย “ฝ่าบาทเพคะ เป็นความผิดของข้าน้อยเองเพคะ ทุกอย่างนี้มิได้เกี่ยวข้องอันใดกับนายหญิง แต่ทว่าพวกข้าน้อยมิได้ต้องการทำให้นายหญิงซ่างกวนเสื่อมเสีย ที่ข้าน้อยเอ่ยเรื่องสัญลักษณ์พรหมจรรย์ขึ้นมา เป็นเพราะว่าเมื่อครู่นี้ข้าน้อยผ่านมาทางนี้พอดี” “เมื่อครู่ข้าน้อยเดินผ่านมาที่นี่ พบว่าชายชู้ผู้นี้อุ้มนายหญิงซ่างกวนที่สลบไสลไม่ได้สติเข้าไปในห้อง ข้าน้อยรู้สึกกังวลใจจึงแอบฟังอยู่ที่ด้านนอก เมื่อได้ยินเสียงนายหญิงจึงร้องออกมา ที่ด้านหลังก็มิมีแล้ว ข้าน้อยจึงรู้สึกเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก รีบพุ่งเข้าไปช่วยนาง แต่ผลลัพธ์ก็คือพบว่ามิมีชายชู้แล้ว เขาคงจะได้ยินเสียงของข้าน้อยจึงกระโดดหนีไปทางหน้าต่าง เพลานั้นนายหญิงซ่างกวนก็สลบไป ข้าน้อยจึงถือโอกาสมองดูที่ข้อมือของนาง และพบว่ามิมีสัญลักษณ์พรหมจรรย์แล้ว ข้าน้อยจึงออกมาและบอกกับนายหญิงของข้าน้อย นายหญิงของข้าน้อยมีความรีบร้อนที่จะปกป้องฝ่าบาท นางจริงลงมือกับนายหญิงซ่างกวนเพคะ” วาจานี้ของนางเอ่ยอย่างอารัมภบท ผู้ที่ฟังเริ่มต้นหัวเราะเยาะ โดยธรรมชาติเมี่ยวฝูเหลือบตามองที่ด้านบนอย่างจนปัญญา การโกหกที่ยุ่งเหยิงนี้ ผู้ใดก็ตามที่มีสมองจะต้องมิเชื่อแม้แต่น้อย นางสบถในลำคอก่อนจะเอ่ยโต้ตอบอย่างเยือกเย็น “เจ้าอยากจะช่วยข้าจริงหรือ? แล้วเหตุใดจึงมีรีบเข้าไปตั้งแต่แรก เจ้าเอ่ยว่าชายชู้หลบหนีไปทางหน้าต่าง แล้วเหตุใดเขายังอยู่ในห้อง เจ้าเอ่ยว่าชายชู้ตีข้าจนสลบ แต่ทว่าก่อนหน้านี้เห็นได้ชัดว่าข้าถูกมู่หยู่ฉินฝังเข็ม ถ้าหากพวกเจ้าหวังดีต่อข้าจริง แล้วเหตุใดจึงต้องยืนยันว่าข้าเสียตัวแล้ว? แทบจะรอไม่ไหวที่จะให้ข้าไปแช่ในกรงหมู เห็นได้ชัดว่าพวกเจ้ารวมหัวกันทำให้ข้าเสื่อมเสีย ข้าคิดว่าต่อให้พวกเจ้ามีความกล้าหาญเพียงใดก็คงมิกล้าทำร้ายบุตรของท่านแม่ทัพใหญ่ พวกเจ้าจะต้องมีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง เจ้ายังมิเอ่ยข้อเท็จจริงออกมาอีก!” เพลานี้ นางรู้ดีว่าเมื่อครู่นี้เกิดเรื่องราวอันใดขึ้น เจ้าของร่างเดิมถูกฝังเข็มเมื่อ 1 ชั่วโมงก่อนหน้า เพลานั้นเจ้าของร่างเดิมกำลังยืนอยู่กลางสวนหลิวหลีเพื่อลอบมององค์รัชทายาท นางถูกมู่หยู่ฉินพบตัวเข้าจึงพาคนมาหัวเราะเยาะนาง หลังจากนั้นจึงเรียกเหล่าคนรับใช้หญิงนำตัวนางไปที่หน้าประตูห้องที่เงียบสงบ และฝังเข็มแก่นางด้วยมือตนเอง นางจึงมิสามารถขยับหรือเอ่ยออกมาได้ รอจนมู่หยู่ฉินไปแล้ว ลู่หลัวจึงไปนัดแนะกับหวางหมาจื่อและให้มาอุ้มตัวนางเข้าไปในห้อง และพยายามข่มขืนนาง ผู้ใดจะรู้ว่ายังมิทันได้ข่มขืนก็ทำให้เจ้าของร่างเดิมตกใจจนสิ้นชีวิต ในเพลานั้น ชายผู้ที่สวมหน้ากากที่เรียกตัวเองว่า”ราชา”เข้ามา เขาตีหวางหมาจื่อจนสลบไป ก่อนจะยัดตัวเขาไปไว้ที่ใต้เตียง หลังจากนั้นก็คือเรื่องราวที่นางเสียตัว เมื่อได้ยินเมี่ยวฝูเอ่ยถึงผู้บงการ คิ้วขององค์รัชทายาทก็ขมวดเข้าหากัน ถ้าหากปล่อยให้นางตรวจสอบต่อไป มันจะต้องมิเป็นประโยชน์แก่ตนเอง ผู้ที่เป็นตัวการเล็กเช่นลู่หลัว จะต้องให้นางรับโทษแทนตนเอง ต้องให้นางยอมจำนนทั้งชีวิต เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หน้าอกของเขาจึงระบายความโกรธแค้นออกมา ดวงตาที่เย็นชาราวกับซิวหลัวในความมืด เขาจ้องมองไปยังลู่หลัวด้วยคำเตือน “เจ้าทาสช่างกล้าหาญนัก เจ้ากล้าทำตัวเจ้าเล่ห์เพทุบายหรือ จักต้องเป็นเจ้าและชายชู้ที่ร่วมมือกันทำให้ซ่างกวนเมี่ยวฝูเสื่อมเสียเป็นแน่! ส่งคนเข้ามา นำตัวนางและชายชู้ลากไปสังหาร!” เมื่อได้ยินว่าจะถูกสังหาร ใบหน้าของหวางหมาจื่อก็ซีดเผือด สองขาอ่อนลงในทันที ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกถึงความร้อนในช่องท้อง กางเกงของเขาเปียกชื้นภายในชั่วพริบตา กลิ่นของปัสสาวะโชยออกมา ฝูงชนจำนวนมากปิดจมูกของตนเอง เป็นเพราะหวางหมาจื่อตกใจกลัวจนปัสสาวะรดกางเกงแล้ว องค์รัชทายาทโกรธอย่างสุดขีด หวางหมาจื่อคิดว่าองค์รัชทายาทคงจะโกรธที่เขาหลีกเลี่ยงความจริง ดังนั้นเขาก็มิกล้าเอ่ยความเท็จแล้ว เขาแทบทนมิไหวที่จะเปิดเผยความจริงในหัวสมองของตนออกมา
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 6 ล้างความผิดจากการประทุษร้าย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A