บทที่ 9 สื่อมวลชนกุข่าวเท็จ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 9 สื่อมวลชนกุข่าวเท็จ
บทที่ 9 สื่อมวลชนกุข่าวเท็จ “ฉัน...” ริมฝีปากเธอสั่นริกๆ ในสมองเหมือนกำลังถูกควบคุมด้วยบางอย่าง “ฉันอยากจะขอโทษคุณเรื่องเมื่อวาน” เธออยากจะอธิบายบางสิ่งบางให้เขาเข้าใจ แต่กลับถูกขัดจังหวะจากใครบางคน “รีบหาเร็วเข้า กมิดาอยู่ไหน” เสียงดังที่ไกลออกไปไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมาอย่างรีบร้อน ฝูงนักข่าวที่ต่างก็ถือกล้องและไมโครโฟนแห่เข้ามาจากทั่วสารทิศ กมิดาตกใจกลัว รีบคว้าแขนชายที่ยืนอยู่ข้างๆเข้ามาบัง เธอยืนนิ่งเพื่อหลบฝูงนักข่าวที่วิ่งวนอยู่รอบๆ ปริพลขมวดคิ้วคล้ายตัวอักษร (川) ทำให้ดวงตาของเขาดูลึกขึ้นไปอีก ทั้งสองคนถูกล้อมอย่างรวดเร็วตรงหน้าประตูร้านกาแฟแห่งนี้ ทั้งคนที่ผ่านไปมาที่เข้ามุงดูด้วยความสนใจ “คุณจิ้น ได้ยินมาว่าเมื่อวานตอนดึกคุณกับผู้ชายคนหนึ่งโอบกอดกันอยู่แถวร้านขายยา ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่คะ?” “พนักงานในร้านขายยาบอกว่าคุณซื้อที่ตรวจครรภ์ ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณกำลังท้องหรือเปล่าคะ ?” แสงแฟรชกล้องถ่ายรูปจากทุกสารทิศกำลังถ่ายเธออย่างไม่มีท่าทีจะหยุด แสงไฟที่สาดเข้าที่ตาทำให้กมิดาไม่สามารถลืมตาได้ อีกทั้งมีคำถามที่ใช้ถ้อยคำคอยทิ่มแทงแก้วหูของเธออย่างนับไม่ถ้วน “ได้ยินมาว่าทางบีไวส์ต้องการจะให้คุณเล่นเรื่องเจ้าสำนักชิงฉุน....ต่อจากญาดา แต่เวลานี้คุณกลับจับมือออกเดทกับผู้ชาย ตอนนี้ไม่ทราบว่าคุณกำลังมีเรื่องหมางใจกับทางบริษัทหรือไม่” ...... คำถามจากผู้สื่อข่าวหลายสำนักทั้งรุนแรงและตรงไปตรงมา กระทบจิตใจกมิดาอย่างรุนแรง เธอกะพริบตาไม่หยุดเพราะแสงแฟรช ทำให้ใบหน้าของเธอซีดเผือดและขาอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรง “เอ่อ ฉัน...” เธอควรจะพูดอย่างไรดี เธอไม่คิดว่าพวกนักข่าวจะไล่ล่าเธอขนาดนี้ เหมือนกับงูที่คอยไล่กัดเธอไม่ปล่อย นักข่าวกลุ่มนี้ใช้เวลาเพียงสั้นๆไม่กี่สิบวิในการใช้คำถามไต่สวนเธอ มือของลูปริพลยังคงวางบนเอวของกมิดา เขาสังเกตถึงความผิดปกติบางอย่างจึงรีบกระชับตัวเธอแน่น ริมฝีปากเริ่มเกร็ง ในช่วงเวลาแบบนี้เขาสามารถเลือกที่จะปล่อยผู้หญิงคนแล้วเดินจากไป แต่นี่ไม่ใช่วิถีของสุภาพบุรุษ ดวงตาภายใต้แว่นกันแดดมองไปรอบๆ แล้วพูดอย่างเยือกเย็น “พอได้แล้ว” แม้ใบหน้าโค้งอันสมบูรณ์แบบของเขาถูกบดบังด้วยแว่นกันแดดแต่ก็ไม่อาจปกปิดความเย็นชา และอารมณ์ครุกครุ่นที่ทำให้คนไม่สามารถเพิกเฉยต่อเขาได้ เสียงทุ้มลึกดังขึ้นมา ทำให้นักข่าวเปลี่ยนความสนใจ ทันใดนั้นเลนส์ก็หันไปทางปริพล “คุณคือแฟนหนุ่มของกมิดาหรือเปล่าคะ? ไม่ทราบว่าพวกคุณสองคนเริ่มคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” “ตอนนี้กมิดากำลังตั้งท้องจริงหรือไม่ครับ รบกวนช่วยตอบหน่อยครับ” “คุณเคยเห็นกมิดาแสดงละครหรือเปล่าคะ เธอเป็นอย่างไรบ้างตอนอยู่บนเตียง” ...... คำถามที่หยาบคายและเปิดเผยอย่างนี้ทำให้ปริพลไม่พอใจอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อคนที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาตัวสั่นและใบหน้าของเธธซีดลงเรื่อย ๆ “แม้จะเป็นนักข่าวกอสซิบ แต่ก็ช่วยมีสติสักหน่อย ผมไม่มีทางที่จะตอบคำถามน่าเบื่อเหล่านี้ ในขณะเดียวกันก็มีรถแลนด์โรเวอร์สีดำกำลังจอดอยู่ถนนฝั่งตรงข้าม คุณหญิงแก่ตระกูลพิชารัตน์ที่กำลังลงมาจากรถด้วยความช่วยเหลือของคุณแม่บ้าน เธอมองไปที่ตัวอักษรบนแผ่นโลหะสีทอง “Diffuse Coffee Cafe” เธอพยักหน้าอย่างพอใจ ไม่ผิดแน่ ที่นี่สินะ “เอ๋ ทำไมคนถึงได้เยอะขนาดนี้” ขณะที่กำลังเดินเข้าไป คุณหญิงแก่ตระกูลพิชารัตน์ขมวดคิ้วพลางขยับกรอบแว่นตาราวกำลังคิดอะไรบางอย่าง เธอกำลังคิดว่านักข่าวกลุ่มนั้นกำลังรุมล้อมใครอยู่ อีกทั้งยังคงถ่ายรูปไม่หยุด หรือคนที่กำลังถูกนักข่าวล้อมคือ... คุณหญิงแก่ตระกูลพิชารัตน์เบิกตากว้างอย่างลืมตัว ท่ามกลางนักข่าว ความสูงราวๆร้อยเจ็ดสิบกว่า ซึ่งน่าจะสูงพอๆกับปริพลที่สูง 176 ซม. ดังนั้นเธอจึงมองหาคนที่เธอคุ้นเคยในฝูงนักข่าว ใช่แล้วนั่นคือหลานชายสุดที่รักของเธอ เธอพยายามกระโดดและชะโงกหัวดูอย่างยากลำบาก และพบว่าภายในอ้อมแขนของปริพลกำลังโอบร่างเล็กกะทัดรัดอมชมพู ทันใดนั้นเธอรู้สึกเหมือนเป็นผู้ค้นพบทวีปใหม่ เธอเดาว่าผู้หญิงคนนั้นคือหลานสะใภ้ของเธอ เพราะไม่อย่างงั้นเธอจะได้รับการปกป้องจากปริพลงั้นหรอ เธอไม่เคยลืมว่าหลานชายสุดที่รักของเธอรักความสะอาดขนาดไหน เขามักจะหลีกเลี่ยงสัมผัสตัวกับพวกผู้หญิง คุณหญิงแก่ตระกูลพิชารัตน์จึงรีบเขย่ามือคุณแม่บ้านที่คอยยืนอยู่ข้างๆเธอถามด้วยความแปลกใจ “ทำไมคนสมัยนี้มีความรักถึงต้องโดนแอบถ่ายกันด้วยนะ” ลุงแวดครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอให้ความเห็นว่า “ฉันคิดว่าอาจจะเป็นเพราะเป็นชายหนุ่มที่มีชื่อเสียงคบหากับหญิงสาวคนไหน ก็เป็นที่สนใจของผู้คนยากที่จะเลี่ยงได้” คุณหญิงแก่ตระกูลพิชารัตน์เริ่มเข้าใจสถานการณ์ “อ้อ ช่างยุ่งยากอะไรขนาดนี้ รีบไปดูก่อนดีกว่า” เธอพูดแล้วรีบเดินพุ่งตัวไปทางปริพลยืนอยู่
已经是最新一章了
加载中