บทที่226 ครั้งแรกที่เธอเอ่ยถึงครอบครัว   1/    
已经是第一章了
บทที่226 ครั้งแรกที่เธอเอ่ยถึงครอบครัว
บทที่226 ครั้งแรกที่เธอเอ่ยถึงครอบครัว ก่อนอื่นจิรภาสจะต้องคำนึงถึงสภาพร่างกายของจิดาภา แต่รายการสัมภาษณ์ไม่จำเป็นต้องใช้การกระทำเคลื่อนไหวอะไรที่ต้องใช้แรงมากนัก เพียงแค่นั่งพูดคุยเป็นเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น จิดาภาจึงสามารถรับมือไหวอยู่แล้ว เพื่อให้ได้รับการสัมภาษณ์ที่ดียิ่งขึ้น จิดาภาจึงค่อยๆฟื้นฟูสมรรถภาพอยู่ที่บ้านโดยตลอด “นักข่าวรายงานข่าวล่าสุด หลังจากรูปถ่ายที่นักแสดงดังจันวิภาที่เคยเอาตัวเข้าแลกกับผู้กำกับคนหนึ่งได้ถูกเผยแพร่ออกไปในวันรุ่งขึ้นเธอก็ได้พยายามฆ่าตัวตายในอพาร์ทเม้นท์ของเธอ แต่ช่วยชีวิตไว้ได้ทัน เธอจึงพ้นขีดอันตรายแล้ว” “แต่ที่มั่นใจก็คือ เธอนั้นมีความสัมพันธ์ลับๆกับผู้กำกับที่มีชื่อเสียงมาหลายคนแล้วจริงๆ” “ขณะนี้เธอกำลังได้รับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ความคืบหน้าทางเราจะติดตามกันต่อไป” พี่นัฎที่กำลังดื่มน้ำอยู่ เมื่อได้เห็นข่าวนี้แล้ว เธอรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก “ต้องแบบนี้สิ ต่อให้ผู้หญิงคนนั้นจะอวดดีอีก ไม่ช้าหรือเร็วก็ต้องได้รับผลกรรมนั้นอยู่ดี ตอนนี้ถึงจะช่วยชีวิตเธอเอาไว้ได้ แต่ชีวิตที่เหลืออยู่ของเธอก็คงจะไม่มีหน้าไปเจอใครได้อีก” จิดาภานั่งพิงอยู่ที่โซฟา มองไปยังหน้าจอโทรทัศน์ไม่ได้ตอบรับอะไร แต่แววตาของเธอกลับแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่พี่นัฎเองก็ไม่เข้าใจ ในเวลานี้พี่นัฎเองก็เห็นคำวิพากษ์วิจารณ์องชาวเน็ตที่พากันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่จันวิภาฆ่าตัวตาย “ฉันมีเพื่อนที่ฝึกงานอยู่ที่ช่องบลูไลท์ ภายในบริษัทพวกเขามีข่าวออกมา ว่าจันวิภาถูกเค.เอฟบีบบังคับ” “งานประกาศรางวัลสองสามวันก่อน จิดาภาถูกจันวิภาทำร้ายจนตกเวที แต่จันวิภายังไม่ทันได้ออกมาขอโทษ ทั้งยังประกาศออกจากวงการ ฉันรู้สึกว่าเธอคงไม่อยากจะแบกรับความรับผิดชอบนี้!” “ไม่มีใครบังคับให้เธอทำเรื่องน่าอายแบบนั้น เธอเองต่างหากที่เป็นคนไม่สะอาด” “ฉันว่านะ ครั้งนี้เป็นเพราะผู้จัดการส่วนตัวของจิดาภาที่คอยปกป้องเธอไว้ ต่อไปใครหน้าไหนในวงการนี้ก็ไม่มีใครกล้ารังแกจิดาภาแล้ว!” พี่นัฎสังเกตอาการของจิดาภา แล้วเอ่ยขึ้น “จิดาภา พี่ว่าคุณจิรภาสทำถูกแล้ว แบบนี้ถึงจะทำให้ทุกคนรู้ว่าเธอไม่ใช่คนที่ใครจะมารังแกได้ง่ายๆ อีกทั้งเรื่องที่จันวิภาทำนั้น ก็ไม่ได้มีใครไปบังคับเธอด้วย” “ฉันเข้าใจค่ะ ฉันเองก็ไม่ได้ใจกว้างขนาดนั้น!” จิดาภากระพริบตา “ฉันก็คิดว่าคุณจิรภาสจะทำเช่นนี้” “อา พี่เกือบลืมไปเลยว่าพวกเธอเป็นคู่สามีภรรยาที่ใจดำนี่นา!”พี่นัฎรู้สึกว่าตัวเองกังวลมากเกินไป ยังกลัวว่าจิดาภาจะรู้สึกว่าจิรภาสจะลงมือโหดร้ายเกินไปเสียด้วยซ้ำ ที่จันวิภาเดินมาถึงจุดนี้ได้ นั่นเป็นสิ่งที่เธอเลือกเอง ไม่มีใครบีบบังคับเธอ จิรภาสเพียงแค่เอาข้อมูลออกมาเปิดเผยในเวลาที่เหมาะสมเพียงเท่านั้น จิดาภาไม่สงสารคนที่หลงในผลประโยชน์แบบนี้อยู่แล้ว! ในตอนที่จันวิภาทำเรื่องแบบนั้น ก็จะต้องเตรียมตัวยอมรับกับผลที่จะตามมาอยู่แล้ว ในวงการนี้ ไม่มีเรื่องที่สามารถปิดบังไว้ได้ตลอด “ช่างเถอะ เรื่องของจันวิภาผ่านไปแล้ว เธอจะเป็นอย่างไร ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา เธอรักษาตัวเองให้หายเร็วๆดีกว่า พี่รอดูเธอไปร่วมรายการนั้นอยู่!” “ค่ะ....คืนนี้พี่นัดคุณตฤณไว้แล้วหรือ?” ช่วงนี้ พวกเขาทั้งสองคนแทบจะอยู่ด้วยกันทุกวัน จนจิดาภารู้สึกชินไปเสียแล้ว “เธออยู่คนเดียวได้ ไม่มีปัญหาอะไรแน่นะ?” “ไม่ต้องห่วงค่ะ เดี๋ยวคุณจิรภาสก็กลับมาแล้ว” จิดาภายิ้มพลางบอกเธอ เธอรู้สึกดีใจกับพี่นัฎจริงๆ หวังว่าพวกเขาจะพยายามจนสมหวังได้ในเร็ววัน ตอนที่จิรภาสกลับมาแล้วนั้น ทั้งยังเอาอาหารว่างที่จิดาภาชอบมาให้เธอด้วย เมื่อเขาเข้ามาด้านใน เห็นจิดาภาที่คลุมผ้าผืนบางนั่งพิงอยู่ตรงโซฟานั้น จึงค่อยๆเดินเข้าไปหาเธอ แล้วเรียกชื่อเธอเสียงเบาๆ “คุณกลับมาแล้วหรือคะ?” จิดาภาลูบตาตัวเองอย่างงัวเงีย แล้วพิงไปยังโซฟามองเขา “ผมซื้ออาหารว่างมาให้คุณด้วยครับ ทานเสียหน่อยก่อนแล้วค่อยนอนนะ” “ค่ะ....” จิดาภายิ้มรับตอบกลับไป เขามองจิดาภาที่ทานไปพลาง จัดการเรื่องเอกสารไปพลาง และรอจนเธอทานจนใกล้จะเสร็จแล้ว จึงเอารายการคำถามของรายการดารามาแล้วให้กับเธอดู “ลองดูนะครับว่ามีต้องแก้ไขอีกหรือเปล่า!” ตอนนี้เขาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอแล้ว แน่นอนว่าเขาจะต้องคอยปกป้องเธออย่างดี หลังจากที่จิดาภารับเอาคำถามมาดูแล้วนั้น จึงขมวดคิ้วขึ้น เนื่องจากว่าคำถามในแผ่นกระดาษใบนั้นไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของเธอและจิรภาสเพียงเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของครอบครัวเธอด้วย..... จิรภาสมองแวบเดียวก็รู้ความคิดของเธอแล้ว จึงรีบพูดขึ้นมา “ผมจะให้พวกเขาไปแก้ให้นะครับ!” จิดาภาคิดดูแล้วจึงจับมือเขาไว้ แล้วเงยหน้าสบตากับเขา “ฉันไม่เป็นไรค่ะ เพียงแต่ครอบครัวของฉันไม่ค่อยจะชอบวงการบันเทิงนี้ซักเท่าไหร่ พวกเขารู้สึกว่าเป็นนักแสดงนั้นดูต่ำต้อย ใฝ่ต่ำ...” “ผมให้พวกเขาแก้ให้นะ!” “คุณจิรภาสคะ ฉันอยากจะเล่าให้คุณฟัง” จิดาภาดึงมือเขาไว้ ให้เขานั่งลงข้างๆเธอ พวกเขาเป็นสามีภรรยากันแล้ว เรื่องบางเรื่อง จิดาภาเองก็อยากจะบอกเขา อย่างเช่นเรื่องครอบครัวของเธอ จิรภาสไม่เคยเห็นสีหน้าที่ดูลังเลเช่นนี้ของเธอมาก่อนเลย เขารับรู้ได้ว่าสิ่งที่เธอจะพูดต่อไปนี้อาจจะเป็นเรื่องหนักหน่วงสำหรับเธอ ดังนั้นเขาจึงนั่งลงเงียบๆ แล้วรอให้เธอเล่าออกมา “ประธานบริษัทLGD คุณทารวะเขาเป็นคุณปู่ของฉันเองค่ะ ตอนนี้ผู้สืบทอดทางกฎหมายก็คือคุณนิทธันต์คุณพ่อของฉัน เพียงแต่แม่ของฉันเป็นภรรยาคนที่สองของเขา ทั้งยังตอนที่พวกเขารู้จักกันนั้น ภรรยาคนแรกของเขายังไม่ได้จากโลกนี้ไป...หรือจะว่าไปแม่ของฉันก็เป็นมือที่สามนั่นเองค่ะ ตั้งแต่ที่แม่แต่งงานเข้าไปยังตระกูลของพ่อนั้น ลูกของพ่อฉันทั้งสองคนก็เห็นฉันเป็นเหมือนกับปีศาจร้าย” “พวกเขาคิดว่าฉันจะมาแย่งทุกอย่างไปจากพวกเขา ที่บ้านหลังนั้น นอกจากคุณปู่แล้ว ก็ไม่มีใครที่เห็นความสำคัญของฉันเลย” “ฉันเองก็ไม่ได้คาดหวังที่จะเป็นครอบครัวเดียวกันกับพวกเขา หนึ่งเดียวที่ทำให้ฉันรู้สึกละอายใจนั่นก็คือคุณปู่ ท่านอยากให้ฉันสืบทอดกิจการต่อ แต่ฉันรู้ว่าฉันไม่สามารถทำแบบนั้นได้ จึงเลือกที่จะมาเป็นนักแสดง” “นับตั้งแต่นั้นมาคุณปู่ก็เริ่มเกลียดฉัน หลังจากที่ฉันคบกับชเยศ เขาก็ประกาศตัดความสัมพันธ์ทุกอย่างกับฉัน ไม่อยากให้ฉันต้องมาทำให้ตระกูลของเขาต้องอับอายขายหน้า” จิรภาสที่ได้ยินเรื่องเหล่านี้จากปากเธอ เขาโอบกอดเธอไว้แน่น คิดไม่ถึงว่าตระกูลวีรภัทรเมธีจะมีเรื่องราวการต่อสู้กันภายในครอบครัวเช่นนี้ “เพราะฉะนั้น ฉันจึงไม่มีครอบครัว...พวกเขาทิ้งฉัน ไม่ยอมรับในตัวฉัน” “ไม่ครับ ทำไมคุณจะไม่มีครอบครัว? คุณมีผม! ผมไม่มีวันไปจากคุณอยู่แล้ว” จิรภาสมองดูจิดาภาที่น้ำตาไหลออกมา เขาเห็นใจในความพยายามและความมุ่งมั่นของเธอ ต่อสู้ในวงการบันเทิงแบบนี้เพียงลำพัง ทั้งยังต้องมาเจอผู้ชายเลวๆอย่างชเยศอีก “ทุกอย่างที่เกี่ยวกับตระกูลวีรภัทรเมธีได้เปลี่ยนไปทั้งหมด ไม่มีเหลือแม้กระทั่งตัวอักษรเดียว” “บางครั้งฉันเองก็คิดว่า ฉันกับแม่ช่างน่าสงสารเหลือเกิน...” จิดาภาพิงอยู่ในอ้อมกอดของเขา “แต่บางครั้งฉันก็รู้สึกเกลียดแม่ ถ้าหากไม่เป็นเพราะแม่รักความสบาย ชีวิตของฉันก็คงจะไม่เป็นแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ ฉันก็คงจะไม่ทำอะไรร้ายๆกับชนิศาแบบนั้น” “ทำไมไม่หาผู้ชายดีๆที่เต็มใจจะอยู่ด้วยกันซักคน ทำไมจะต้องไปทำลายความสัมพันธ์ของคนอื่น!” หลังจากแต่งงานกันมานี่เป็นครั้งแรก ที่จิดาภาพูดถึงครอบครัวของเธอ มิน่าล่ะตอนที่เธอเกิดเรื่อง ครอบครัวของเธอไม่เคยมาปรากฏตัวให้เห็นเลยซักครั้ง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จะมาช่วยเหลือเธอ เพราะแม้แต่คำพูดถามไถ่สารทุกข์สุขดิบก็ยังไม่มีเลย “อย่าคิดถึงมันอีกเลยนะครับ ในเมื่อคุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณก็เป็นคนในตระกูลปรีดาอัครกุล ผมก็คือครอบครัวของคุณ”
已经是最新一章了
加载中