บทที่227ถ่ายรูปผู้จัดการส่วนตัวของจิดาภาให้เยอะหน่อยได้หรือเปล่า

บทที่227ถ่ายรูปผู้จัดการส่วนตัวของจิดาภาให้เยอะหน่อยได้หรือเปล่า จิรภาสค่อยๆคลายอ้อมกอดนี้ หลังจากนั้นบรรจงจูบลงบนริมฝีปากของเธอ ใช้วิธีที่ใกล้ชิดแบบนี้ปลอบประโลมจิดาภา “รอให้คุณพร้อม ผมจะพาคุณไปพบคนในตระกูลปรีดาอัครกุล” จิรภาสที่ได้ยินเรื่องราวเหล่านี้ของเธอแล้วถึงได้รู้ว่ากับคำว่าครอบครัวนี้จิดาภามีความไม่สบายใจอยู่มากเพียงใด เธอต้องการความรู้สึกปลอดภัยเพื่อมาชดเชยกับความสัมพันธ์ของครอบครัวที่เธอได้สูญเสียมันไป เป็นเพราะความสัมพันธ์ในครอบครัวของเธอนั้นซับซ้อนเช่นนี้.... “ค่ะ” จิดาภาที่ซุกอยู่ในอ้อมกอดของเขาพยักหน้า จิรภาสจึงรีบเจรจากับทางผู้รับผิดชอบรายการของสถานีโทรทัศน์นี้โดยทันที โดยขอให้เปลี่ยนแปลงเนื้อหาทั้งหมดที่เกี่ยวกับตระกูลวีรภัทรเมธีของเธอ จริงๆแล้วทางสถานีโทรทัศน์ต้องการที่จะเจาะลึกลงไปในตระกูลกิจการน้ำหอมนี้ของจิดาภา แต่ในเมื่อจิรภาสแสดงออกมาอย่างชัดเจนเช่นนี้แล้ว พวกเขาเองก็คิดว่ามีเพียงแค่เรื่องของจิรภาสและจิดาภา ก็เป็นการรับประกันถึงเรตติ้งการเข้ารับชมได้มากแล้ว ถึงแม้จะไม่มีในส่วนของครอบครัวจิดาภา ก็เพียงพอที่จะรองรับเนื้อหาการสนทนาเหล่านั้นได้มากพอแล้ว เวลาที่เหลือ จิดาภาก็สามารถฟังการจัดตารางของหมอได้อย่างสบายใจ เพื่อทำการรักษาฟื้นฟูร่างกาย มีจิรภาสอยู่ดูแลเธอตลอดแบบนี้ เธอเองก็ดีขึ้นมากแล้วพวกเขาก็มีความมั่นใจในตารางงานในอนาคตด้วยเช่นกัน “พรุ่งนี้จะต้องเข้าร่วมรายการแล้ว แผลของคุณหายดีแล้วหรือยัง?” จาริณีจากปลายสายเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “วางใจเถอะค่ะ ฉันเตรียมรับมือรายการนี้ไว้ดีแล้ว” จิดาภากระพริบตา ส่งสัญญาณบอกกับจิรภาสว่าเธอต้องการพักเสียหน่อย เธอนั่งลงบนแผ่นเบาะ หน้าผากของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ เมื่อครู่เธอเล่นโยคะอยู่บนเบาะนั้น บาดแผลที่ช่วงเอวของเธอนั้นยังไม่ฟื้นฟูจนหายดีเท่าไหร่นัก “จริงๆแล้ว....ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ คุณรู้จักนมิดาใช่ไหมคะ? เธอจะกลับมาแล้ว เธอเป็นถึงดาราภาพยนตร์ตำแหน่งสูงสุดของเค.เอฟ ช่วงสองสามปีนี้เธอไปพัฒนาตัวเองอยู่ที่ต่างประเทศมาโดยตลอด เธอนับว่ามีอิทธิพลมากในวงการภาพยนตร์ระดับนานาชาติ ทั้งยังเป็นทูตตัวแทนภาพลักษณ์ทั่วโลกมาสามปีซ้อน ตอนนั้นคุณจิรภาสเพื่อที่จะให้บริษัทเทียบเท่ากับช่องบลูไลท์ หมดไปกับเธอไม่น้อยเพื่อที่จะได้ฝึกฝนเธอ” “คุณจะบอกให้ฉันควรระวังเธอหรือคะ? หรือจะเตือนให้ฉันต้องอบรมคนในครอบครัวของฉันกัน?” จิดาภาเงยหน้าขึ้นมา มองไปยังจิรภาสที่กำลังเทนมให้เธออยู่ “ตั้งแต่ที่ฉันรู้จักกับคุณจิรภาสมาจนถึงตอนนี้ ข้างกายเขามีเพียงคุณคนเดียวที่สามารถปรากฏตัวอยู่ข้างๆเขาได้” จาริณีเว้นวรรคไปเล็กน้อย “ฉันเพียงคิดว่าตำแหน่งของนมิดาในบริษัทนั้นสูงมาก ถึงแม้ว่าช่วงนี้เธออยู่ที่ต่างประเทศ เข้าร่วมกิจกรรมภายในประเทศน้อยมาก แต่บริษัทได้กำไรจากเธอนั้นไม่น้อย ดังนั้น ทรัพยากรที่มีคุณภาพมากมายนั้นก็คงจะถูกเธอเลือกไปก่อน ตอนนี้คุณจิรภาสประกาศตัวว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวของคุณแล้ว ฉันรู้สึกว่าเธอคงจะให้ความสนใจกับเรื่องนี้อยู่บ้าง” จาริณีคิดแทนจิดาภาด้วยความจริงใจ และเธอก็ไม่รู้ด้วยว่าที่นมิดามีเจนตาจะกลับมาแบบนี้เธอมีจุดประสงค์อะไรหรือเปล่า เพียงแต่ต้องการจะเตือนจิดาภาไว้ให้เธอดูแลตัวเองดีๆ และต้องเตรียมรับมือกับความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในภายหลังนี้ หลังจากที่จิดาภาปลอบใจให้จาริณีวางใจได้แล้วนั้น เธอจึงวางสายไป แล้วยื่นมือออกไปกอดผู้ชายตรงหน้าเธอไว้ จิรภาสจึงอุ้มเธอขึ้นมา แล้ววางตัวเธอลงบนโซฟาอย่างอ่อนโยน หลังจากนั้นจึงยื่นผลไม้และนมส่งให้เธอแต่จิดาภากลับจับคางของเขาไว้ “ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าคุณจะช่วยคนๆหนึ่งให้ขึ้นไปอยู่บนบัลลังก์ภาพยนตร์ระดับนานาชาติแบบนั้นนะคะ คุณผู้จัดการส่วนตัว!” จิรภาสขมวดคิ้วมองเธอ “ผมจะเป็นแค่ผู้จัดการส่วนตัวให้กับคนๆนึงได้เท่านั้นแหล่ะครับ โดยมีเงื่อนไขว่าคนๆนี้จะต้องเป็นภรรยาผมเพียงเท่านั้น” “ใช่หรือคะ....” “แน่นอนครับ คุณลองดูก็ได้นะ!”จิรภาสเขยิบเข้าใกล้เธอมากขึ้น ร่างของทั้งสองคนนั้นอยู่ใกล้กันมาก เนื่องจากอุณหภูมิที่แสนเร่าร้อนในร่างกายของเขาและลมหายใจนี้ทำให้เธอรู้สึกลุ่มหลงเป็นอย่างมาก “เอวของฉันอาจจะต้องพักอีกซักสองสามวันนะคะ” จิดาภากล่าว และวินาทีต่อมา ถึงแม้ว่าจิรภาสไม่ได้ปล่อยตัวเธอ แต่ความปรารถนาในแววตาของเขาถอดออกไปอย่างเห็นได้ชัด ในตอนที่เขากำลังจะเอ่ยอะไรออกมานั้น จึงถูกริมฝีปากบางของจิดาภานั้นหยุดไว้เสียก่อน “เพียงแค่คุณช้าหน่อย คงจะไม่เป็นไรหรอกค่ะ!” จิรภาสสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วลุกขึ้นอุ้มเธอตรงไปยังห้องนอน แล้ววางร่างบางนั้นลงบนเตียง.... การกระทำของจิรภาสนั้นช่างอ่อนโยน และเชื่องช้ายิ่งนัก.... แต่เขาอดทนมาแล้วสองสามวัน ทรมานมากจริงๆ เพียงแค่ได้สัมผัสผิวของเธอเท่านั้นราวกับจุดไฟในตัวเขาอย่างไรอย่างนั้น.... ในที่สุดจิดาภาก็ตามแรงของเขาไม่ทันอยู่ดี เป็นครั้งแรกที่ถึงกับสลบไสลไปในเวลาแบบนี้ ...... เค.เอฟไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์อะไรที่จิดาภาไปถ่ายรายการในครั้งนี้ แต่เนื่องจากครั้งนี้หลังจากที่จิรภาสกลายมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของจิดาภาแล้วนั้น เป็นงานแรกที่เธอได้ถ่ายทำอย่างเป็นทางการ แล้วก็เป็นครั้งแรกที่เธอกลับมาหลังจากที่เธอได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นจึงดึงดูดความสนใจจากคนภายนอกได้มาก หกโมงเย็นวันนั้น จิดาภาเปลี่ยนชุดและแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอเป็นคนตรงต่อเวลาเสมอ จิรภาสสั่งให้มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ไม่ให้นักข่าวคนไหนได้ยินข่าวของจิดาภาก่อนล่วงหน้าได้แม้แต่คนเดียว ทางด้านนอกห้องแต่งหน้า นักข่าวทั้งกังวลและหวาดกลัว กล้าแค่เพียงเคาะประตูทางด้านหน้าเพียงเท่านั้น “พวกเราขอสัมภาษณ์ก่อนคุณจิดาภาจะอัดรายการได้ไหมคะ? พวกเราเป็นห่วงสุขภาพของคุณจิดาภาจริงๆ พวกเรารับปากค่ะว่าจะไม่ถามเกินไปจากนี้เลย” “ไม่ได้” จิรภาสตอบออกมาอย่างเย็นชาเพียงแค่สองคำเท่านั้น เพียงแค่ประโยคนี้ของเขา แน่นอนว่าพวกนักข่าวก็ไม่กล้าเซ้าซี้ถามอะไรอีก ทั้งหมดจึงปล่อยความคิดที่จะสัมภาษณ์จิดาภานั้นทิ้งไป แล้วรอถ่ายรูปเธอขึ้นเวทีอยู่ตรงบริเวณหน้าประตูแทน ใกล้ถึงเวลาอัดรายการ จิรภาสเดินออกมาจากห้องแต่งหน้าพร้อมเธอ มีเขาอยู่ พวกนักข่าวจึงกล้าถ่ายแค่เพียงรูปจากด้านหลังของพวกเขาที่เดินไปด้วยกันแบบนั้น จิดาภาในชุดกระโปรงเดรสสีเหลืองอ่อน กับเสื้อคลุมหนัง ส่วนจิรภาสใส่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงขายาว ช่างเหมาะสมกันจริงๆ.... มีนักข่าวที่อัพรูปนี้ขึ้นทันทีหลังจากที่ได้รูปนี้มา ชาวเน็ตรู้ว่าคืนนี้จิดาภามีงาน หลังจากที่ได้เห็นรูปนี้แล้วนั้น ต่างก็พากันใช้รูปนี้เป็นภาพพื้นหลัง! “พระเจ้า ผู้จัดการส่วนตัวคนนี้หล่อเกินไปแล้ว!” “ไม่ได้เห็นจิดาภาตั้งนาน เธอก็ยังคงสวยแบบนี้อยู่ดี ขอรูปด้านหน้าบ้างนะคะ!” “พวกเขาไม่ได้คบกันอยู่จริงๆใช่ไหม?” “รอรายการออกอากาศอยู่ค่ะ!” “รบกวนพี่ตากล้องถ่ายรูปคุณจิรภาสให้เยอะๆหน่อยนะคะ พวกเราจะขอให้ผู้กำกับให้รางวัลพี่นะคะ!” “ฉันชอบละครของจิดาภามาก ฉันสมัครเข้าเรียนสถาบันการละครแล้ว หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เป็นเหมือนกับเธอ กลายเป็นนักแสดงที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน แล้วก็ได้มาพบกับผู้จัดการส่วนตัวที่ทั้งหล่อและเก่งอย่างคุณจิรภาสแบบนี้!” “คนข้างบนตาถึงมาก!ฉันขอเป็นตัวแทนของแฟนคลับขอให้ความฝันของคุณเป็นจริงนะ!” พิธีกร นีร เป็นพิธีกรที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่ง เธอหยิบไมโครโฟนขึ้นมาอย่างตรงเวลา แล้วหลังจากสัญญาณมือของผู้กำกับ เธอจึงเอ่ยพูดขึ้น “ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่รายการดารามาแล้วค่ะ! ขอเสียงปรบมือต้อนรับแขกรับเชิญพิเศษในสัปดาห์นี้ คุณจิดาภา!” และตามการเปิดรายการและเสียงดนตรีนั้น จิดาภาจึงปรากฏตัวออกมาและเดินขึ้นไปบนเวที เนื่องจากแผลที่เอวและขาของเธอนั้นยังไม่หายดี จิรภาสจึงไม่ยอมให้เธอใส่รองเท้าส้นสูง ไม่ยอมให้เธอยืนเป็นเวลานานๆ และยิ่งไม่ยอมให้เธอเข้าร่วมเล่นเกมใดๆอีกด้วย.... ราวกับคนที่ทำให้เธอสลบไปบนเตียงนั้นไม่ใช่เขาอย่างไรอย่างนั้น! ทางด้านหลังเวที สายตาของจิรภาสจับจ้องอยู่ที่เธอตลอดเวลา เขาเชื่อว่าจิดาภาจะต้องสามารถแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาได้อย่างดีที่สุด