บทที่211 ไม่มีทางให้ถอยกลับ

บทที่211 ไม่มีทางให้ถอยกลับ “หากเป็นคนอื่น ในสถานการณ์ที่ร้อนรนเช่นนั้น คงจะสงบนิ่งอยู่ไม่ได้หรอกครับ หรือแม้หากเป็นคุณเอง คงจะต้องรักษาความหยิ่งในตัวเอง แล้วกลับจากฝรั่งเศสไปแล้ว ตอนนั้นผมเตรียมตัวที่จะพาเธอกลับมาได้ทุกเวลา” “แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ทั้งยังอยากจะลองช่วงชิงโอกาสนั้นมาอีกซักครั้ง” “สิ่งที่เธอคุยกับคุณJolsonทางโทรศัพท์นั้น แม้แต่ผมที่ได้ยินแล้วยังรู้สึกประทับใจเลย ถ้าหากผมเป็นผู้รับผิดชอบของUNIC ผมก็คงเลือกเธอเช่นกัน!” จาริณีนิ่งฟังที่Rickพูดมาทั้งหมด ราวกับเธอวางความเจ็บปวดที่วนเวียนอยู่ในใจนั้นลง แล้วกลับลองคิดดู ว่าหากตอนนั้นคนที่ต้องไปช่วงชิงงานBrand ambassador ของUNICเป็นเธอ เธอจะทำอย่างไร? เธอหยิบขวดเหล้าขึ้นมา แล้วยกขึ้นดื่ม “จริงๆแล้วตัวคุณเองเข้าใจในอาชีพของคุณได้ดีกว่าใคร ถ้าเช่นนั้นก็อย่าให้ความรู้สึกที่ไม่ได้มีค่าอะไรแบบนั้นเข้ามาอยู่ในชีวิตคุณสิครับ”Rickไม่ได้ห้ามเธอดื่มเหล้า แต่กลับพูดต่อไปเท่านั้น จาริณีวางขวดเหล้าลงด้วยความห่อเหี่ยว และรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก “ที่คุณอยู่เงียบๆและถอยออกมาของคุณแบบนี้ไม่เพียงแต่จะไม่เป็นการปกป้องคนในครอบครัวของคุณเพียงเท่านั้น แต่กลับยังจะทำให้คนอื่นๆเป็นห่วงคุณด้วย คนเหล่านั้นที่กระหน่ำวิพากษ์วิจารณ์คุณลับหลัง นับตั้งแต่วันนั้นที่เค.เอฟได้พบคุณ ทุกคนที่ทุ่มเทเพื่อคุณ แฟนคลับเหล่านั้นที่พวกเขาชื่นชอบคุณ สนับสนุนคุณ...คุณลืมไปหมดแล้วหรือครับ?” “สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่คุณจิดาภาอยากให้ผมมาบอกคุณ ไม่ว่าด้านนอกจะมีข่าวลือซุบซิบนินทากันมากแค่ไหน แต่ถึงอย่างไรคุณก็คือคุณ คุณจาริณี” “ผู้ชายคนนั้นเขาคิดว่าเขาจับจุดอ่อนของคุณได้ ดังนั้นเขาจึงประณามคุณได้ตามที่เขาต้องการโดยไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวใดๆ แล้วพาให้ทุกๆคนรุมโจมตีคุณ แล้วคุณล่ะ? คุณจะใช้ทั้งชีวิตคุณมาชดใช้ทุกอย่างแทนเขาอย่างนั้นหรือ?” ได้ยินดังนั้น จาริณีจึงร้องไห้ออกมาทันที ที่จิดาภาพูดนั้นก็ไม่ผิด เธออ่อนแอเกินไป ตัดใจไม่ได้...ถึงได้ทำร้ายตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วก็ทำร้ายคนที่เป็นห่วงเธออีกด้วยเช่นกัน! Rickเดินมาข้างๆเธอ ลูบหลังเธออย่างเบามือ เพื่อปลอบโยนเธอ รอจนเธอร้องไห้เสียจนเหนื่อยและหยุดร้องแล้วนั้น เขาจึงเอ่ยบอกกับเธอไป “เพียงแค่คุณยอม เค.เอฟจะไม่มีวันทิ้งคุณแน่นอนครับ” จากที่จาริณีร้องไห้แล้วนั้น เธอจึงค่อยๆยิ้มออกมา รอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นนั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “ตอนนี้ฉันต้องทำอะไรบ้างคะ!” Rickที่เห็นเธอดูมีพลังและมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้างแล้วนั้น เขาจึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมา “ดีเหลือเกิน ในที่สุดก็รอจนพูดคำนี้ออกมาได้ คุณเพียงแค่พักผ่อนให้เต็มที่ แล้ววันแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้คุณพูดความจริงออกมา ส่วนเรื่องอื่น ผมจะเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว” จาริณีพยักหน้าอย่างตั้งใจ “ได้ค่ะ” Rickได้ยินคำนี้แล้วนั้น เขาก็รู้สึกโล่งใจยิ่งนัก เป็นเพราะเขารู้ว่า จาริณีได้ลุกขึ้นยืนได้แล้วท่ามกลางความเจ็บปวดเหล่านั้น เพราะด้านหลังเป็นหน้าผาสูงชันที่ไม่สามารถถอยหลังกลับไปได้ ในเมื่อไม่มีทางออก นอกจากต้องสู้แล้วนั้น คนเราก็มักจะไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ....... จิดาภาที่รู้ข่าวนี้ครั้งแรกนั้น เธอยังอยู่ในการถ่ายทำอยู่ แต่กลับรู้สึกได้ถึงพลังของชีวิตที่ได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ดังนั้นทำให้การถ่ายทำของเธอในช่วงสุดท้ายนั้น แสดงออกมาได้สมบูรณ์แบบเป็นอย่างมาก! บุคลิกและเสน่ห์เช่นนั้นไม่สามารถมีใครเทียบได้ ความโดดเด่นของเธอนั้นกลบนักแสดงคนอื่นๆไปเสียหมด การแสดงออกที่มีแรงโจมตีเป็นพิเศษเช่นนี้ ทำให้เธอเป็นที่น่าจดจำ หลังจากที่การถ่ายทำทุกอย่างเสร็จสิ้นลงแล้วนั้น เธอจึงดึงจิรภาสอย่างดีใจ "เรากลับกันเถอะค่ะ!" "ไม่พักเสียหน่อยหรือครับ?" "ฉันอยากกลับไปให้กำลังใจเธอค่ะ" จิรภาสไม่ขัดใจเธอ จึงรีบจองตั๋วกลับเลยทันที หลังจากที่ร่ำลาJolsonเรียบร้อยแล้วนั้นจึงรีบพาจิดาภากับพี่นัฎไปยังสนามบิน ครั้งนี้ ไม่เหมือนทุกครั้ง พวกเขาปรากฏตัวที่สนามบินอย่างเปิดเผย อีกทั้งยังไม่ต้องปลอมตัวเพื่อหลบเลี่ยงนักข่าว และไม่ต้องแยกเดินทางเป็นสองเที่ยวบินอีกด้วย จิรภาสสังเกตเห็นจิดาภาที่มองไปรอบๆ แล้วจึงเอ่ยพูดกับเธอ "ทำไมดูตื่นเต้นแบบนั้นล่ะครับ ถ้านักข่าวถ่ายรูปไปจะไม่สวยนะ" "เรา...." จิดาภาชะงักไป จ้องมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า "คุณจิดาภาครับ ตอนนี้ผมเป็นผู้จัดการส่วนตัวของคุณ เราเดินอยู่บนหลักการที่ถูกต้องอยู่แล้ว" จิรภาสยื่นมือดึงเธอเข้ามาใกล้เขามากขึ้น โดยไม่ได้กลัวใครถ่ายรูปไว้เลย จิดาภามองนักท่องเที่ยวที่เดินไปเดินมากันอยู่ภายในสนามบิน ไม่สังเกตเห็นว่ามีนักข่าว เธอจึงรู้สึกวางใจลงมาก เธอเดินนำไปก่อนเล็กน้อย ให้จิรภาสและพี่นัฎอยู่ทางด้านหลังเธอ แล้วเดินเข้าไปยังห้องพักผู้โดยสาร พวกเขาไม่กลัวโดนนักข่าวแอบถ่าย! เมื่อมีคนพบว่าเป็นจิดาภาและจิรภาสนั้น บรรดาแฟนคลับก็พากันร้องเรียกพวกเขา แล้ววิ่งเข้าไปหาจิดาภาเพื่อขอลายเซ็นต์เธอ "พี่จิดาภาคะ ทำไมพี่ถึงได้มาอยู่กับคุณจิรภาสได้ล่ะคะ?" จิดาภากระพริบตา แล้วตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้ม "เพราะว่าทำงานด้วยกันตลอดไงคะ" แฟนคลับจึงเอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวัง "ถ้าอย่างนั้นฉันขอลายเซ็นต์ของคุณจิรภาสด้วยได้ไหมคะ?" โอกาสที่จะได้เจอประธานบริษัทเค.เอฟนั้นมีไม่มาก! ดวงตาที่ลึกซึ้งของชายหนุ่มมองมายังจิดาภา เธอสวมแว่นตากันแดดอย่างนิ่งๆ โดยไม่ได้ตอบรับอะไรออกมา จิรภาสรับรู้ จึงรับปากกามาอย่างเลี่ยงไม่ได้ แล้วเซ็นชื่อของตัวเองลงไปด้วยท่าทางสง่างาม หลังจากนั้นจึงใช้สายตามองไปยังจิดาภา เขาเพียงทำตามความต้องการของเธอเพียงเท่านั้น เหล่าแฟนคลับจึงเดินกลับไปด้วยความดีใจ เหลือเพียงแค่จิดาภาที่อยู่ข้างหน้าแล้วจึงเอ่ยพูดกับจิรภาสว่า “หรือว่าสวมหมวก แว่นตาไว้น่าจะดีกว่านะคะ..” ถึงแม้ว่าความหล่อเหลาของสามีเธอนั้นจะไม่สามารถมีอะไรมาปิดบังได้ แต่ปลอมตัวเสียหน่อยก็คงจะดีกว่านี้ จิรภาสมองรอยยิ้มทะเล้นนั่นของเธอ จึงตอบรับกลับไป ทั้งสองคนเดินขึ้นเครื่องไป จิดาภานั่งลงแล้วส่งยิ้มให้กับจิรภาส การมาปรากฏตัวที่สนามบินพร้อมกันและได้มานั่งเครื่องด้วยกันเช่นนี้สำหรับเธอแล้วนั้น เป็นความสุขที่แสนจะธรรมดาที่สุดและหายากที่สุดด้วยเช่นกัน “งานต่อไปคืออะไรหรือคะ คุณผู้จัดการ?” “งานมอบรางวัลAngelStar ไปร่วมงานเป็นแขกรับเชิญพิเศษครับ” จิดาภากระพริบตา งานมอบรางวัลAngelStarเป็นงานที่จัดขึ้นปีละหนึ่งครั้ง ศิลปินที่มีอิทธิพลมากมายจะเข้าร่วมในงานนี้ หากก่อนเรื่องวุ่นวายเหล่านี้จะเกิดขึ้น จาริณีคงจะเป็นจุดสนใจที่โดดเด่นที่สุดของงานในค่ำคืนนั้นอย่างแน่นอน แต่สถานการณ์ของเธอในตอนนี้ คงจะเกิดปัญหาได้อย่างง่ายดาย จิรภาสที่จัดงานให้จิดาภาเข้าร่วมงาน สิ่งแรกเลยก็เพื่อให้เธอได้ไปสัมผัสกับงานที่มีดารานักแสดงมากมายมารวมตัวกัน และสองก็เพื่อให้เธอได้เป็นกำลังใจให้กับจาริณีนั่นเอง นอกจากนี้ เขาจะประกาศเรื่องที่เขาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอในค่ำคืนนั้นด้วย ให้ความนิยมของเธอนั้นพุ่งขึ้นได้อย่างรวดเร็ว การคิดและการพิจารณาของเขานั้นมักจะครอบคลุมอยู่เสมอ จิดาภากอดแขนของเขาไว้ แล้วพิงลงไปเบาๆ “โอเคค่ะ ฉันฟังคุณทุกอย่างอยู่แล้ว” จิรภาสสัมผัสได้ถึงความเหนื่อยเพลียในน้ำเสียงของเธอ จึงนำผ้าคลุมให้เธอไว้อย่างระวัง “ไม่ต้องคิดอะไรแล้วล่ะครับ พักผ่อนก่อนนะ มีผมอยู่ตรงนี้ทั้งคน” เขาจะพยายามให้เต็มที่ที่สุด เพื่อเป็นเกราะป้องกันให้เธอ สื่อภายในประเทศยังคงเกาะติดข่าวของจาริณีกันอย่างไม่ยอมปล่อยง่ายๆ ในขณะที่เค.เอฟจัดงานแถลงข่าวขึ้น ทุกคนต่างก็พากันพุ่งความสนใจไปยังเรื่องนั้น โดยไม่มีใครสนใจเรื่องของจิดาภาและจิรภาสที่กลับมาพร้อมกัน จิดาภาเห็นและได้ยินข่าวเรื่องของจาริณีนั้นเป็นคำวิพากษ์วิจารณ์ที่บิดเบือนไปแล้วทั้งหมด “เธอเลี้ยงดูผู้ชายคนนานมานานขนาดนี้ ไม่แน่หรอกพวกเขาอาจจะไปติดหนี้หรือเสพยาด้วยกันก็ได้!” “ดาราดังที่ไหนกัน ผู้หญิงสารเลว!” “เอาตัวเข้าแลกเพื่อเข้ามาอยู่ตรงนี้ได้ก็เกินพอแล้ว นี่ยังทำแท้งเพราะผู้ชายคนนั้นอีก สกปรกจริงๆ”