บทที่218 คนบงการเบื้องหลัง

บทที่218 คนบงการเบื้องหลัง "จริงๆแล้ว....เมื่อครู่ฉันกับผู้จัดการเห็นจันวิภาของช่องบลูไลท์เดินออกไปยังด้านนอกด้วยนะ" "ออกไปนอกงานอย่างนั้นหรือ?เธอออกไปทำอะไรกัน?" "นั่นก็ไม่รู้เหมือนกัน หากถ้าเธอใช้ช่วงเวลานั้นจ้างให้ใครทำเรื่องอะไรล่ะก็ ใครจะไปรู้กัน?ฉันว่าเรื่องนี้ทางช่องบลูไลท์คงจะเปิดศึกกับเค.เอฟแน่ๆ พวกเรารอดูให้สนุกดีกว่า" ปึง! จาริณีผลักประตูแล้วเดินเข้าไป เดิมทีที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้กันอยู่สองสามคนนั้นเมื่อเห็นจาริณีจึงพากันปิดปากสนิท ต่างหยิบเครื่องสำอางขึ้นมาเพื่อจะเติมหน้าแล้วเตรียมจะออกจากห้องไป ใครจะไม่รู้กันเรื่องความสัมพันธ์ของเธอและจิดาภา? "เมื่อครู่นี้ใครเป็นคนเห็น?" สายตาของพวกเธอนั้นดูลุกลี้ลุกลน ดูแล้วมีท่าทางลำบากใจ พวกเธอเพียงแค่ซุบซิบพูดคุยกันไม่กี่ประโยคเท่านั้น ใครจะคิดว่าจาริณีจะมาได้ยินเข้าแบบนี้ "พวกคุณคงจะรู้ภูมิหลังของเค.เอฟกันใช่ไหม?พูดออกมาให้หมด ไม่อย่างนั้น ใครก็ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!" จาริณีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา เธอจะไม่ยอมปล่อยเบาะแสที่น่าสงสัยใดๆให้หลุดมือไปง่ายๆอย่างแน่นอน "พวกเรา....." พวกเธอไม่กล้าหาเรื่องจาริณี จึงทำได้เพียงเล่าเรื่องที่ได้เห็นมาทั้งหมดให้เธอฟัง หนึ่งในนั้นมองหน้าแล้วเอ่ยกับเธอว่า "ฉันกับผู้จัดการส่วนตัวของฉันเป็นคนเห็นเองค่ะ" จาริณีพยายามบังคับตัวเองให้อดทนไว้แล้วทำราวกับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วจึงเดินไปยังข้างๆที่จิดาภานั่งอยู่ "ฉันรู้ว่าใครเป็นคนทำแล้ว..." จิดาภามองเธอด้วยความประหลาดใจ เพียงแต่เห็นจาริณียกคางขึ้นเล็กน้อย สายตามองไปยังจันวิภาที่อยู่ข้างๆเธอ จิดาภารู้และเข้าใจอย่างแน่ชัดแล้ว จึงเอ่ยถามกลับไป "ใครคะ?" "เมื่อครู่ฉันคุยกับทางคุณจิรภาสแล้ว คุณเพิ่งจะเซ็นสัญญากับทางเค.เอฟ ก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทางบริษัทจะไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆแน่นอน คุณจิรภาสบอกว่า พวกเขาจะต้องมีคำอธิบายสำหรับเรื่องนี้.....มิเช่นนั้น ก็คงจะไม่ได้อยู่ในวงการนี้ต่อไปอีกแน่! การแบนนักแสดงหญิงซักคนสำหรับเค.เอฟแล้วไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย" เมื่อพูดจบ จาริณีจึงหันกลับไปส่งยิ้มให้กับจันวิภา "คุณจันวิภาคะ วันนี้ชุดกระโปรงยาวของคุณทำให้คนจำได้ง่ายมากเลยนะคะ..." "ฉันไม่เข้าใจว่าพวกคุณกำลังพูดอะไรกันอยู่!" จันวิภาไอขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก แววตามีความตื่นกลัวเป็นอย่างมาก "มีคนบอกฉันว่าเห็นคุณออกไปจากงานแล้วไปพบใครคนหนึ่งมา คุณอย่าบอกนะคะว่า คืนนี้จะมีคนที่ใส่ชุดเหมือนคุณแบบนี้ด้วย!" ปลายนิ้วของจันวิภาจับกันไว้ ในใจครุ่นคิดถึงคำพูดของจาริณี แล้วจึงมีรอยยิ้มที่ดูราวกับไม่ได้เอามาใส่ใจอะไรเช่นนั้นปรากฏขึ้น "ใช่หรือคะ? คุณรู้หรือว่าฉันไปเจอใครมา? ฉันจะออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้างไม่ได้เลยหรือ!" ในมือของพวกเธอจะต้องไม่มีหลักฐานอะไรอย่างแน่นอน! หรือถึงจะมี เพียงแค่เธอยืนยันที่จะไม่ยอมรับ พวกนั้นก็ทำอะไรเธอไม่ได้ จาริณีที่อยู่ในวงการนี้มาหลายปี พวกที่มีความคิดแบบจันวิภาเช่นนี้ เธอสามารถมองออกได้เพียงแค่แวบเดียวอยู่แล้ว จึงมองไปยังจันวิภาโดยไร้ร่องรอยใดๆ พอดีกับที่เห็นถ้วยรางวัลวางอยู่ตรงเท้าเธอนั้น จาริณีนี้จึงใช้เท้าเตะไปโดนยังถ้วยรางวัลใบนั้น ถ้วยรางวัลล้มไปโดนหลังเท้าของจันวิภา ถึงแม้ถ้วยรางวัลจะไม่ได้หนักมาก แต่ก็ทำให้รู้สึกเจ็บขึ้นมาได้ จันวิภาลุกขึ้นร้องด้วยเสียงสูง เธอหันกลับมามองจาริณีด้วยความโมโห แล้วจึงตะโกนขึ้น "คุณบ้าไปแล้วรึไง!" ผู้คนในงานต่างก็พากันหันมามองฉากนี้ด้วยความประหลาดใจว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น จันวิภาจากช่องบลูไลท์ทำไมถึงได้กล้ายั่วยุจาริณีนี้ต่อหน้าผู้คนแบบนี้ได้กัน? นักแสดงตัวเล็กๆที่ไม่ได้มีชื่อเสียงแบบเธอกล้าตะโกนใส่นักแสดงระดับนานาชาติอย่างจาริณีเชียวหรือ? ผู้กำกับที่ควบคุมงานนั้นสั่งให้ช่างภาพเปลี่ยนมุมในการถ่ายทำ ทั้งยังตัดเอาช่วงนั้นทิ้งไป เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับการถ่ายทอดสดของการประกาศรางวัล "คุณจาริณี คุณอย่าหาเรื่องฉัน!" จันวิภาที่ตะโกนออกมาเช่นนี้ ยิ่งทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงขึ้นไปอีก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เห็นเพียงแค่จันวิภาลุกขึ้นและหันมาทางจาริณีเพียงเท่านั้น แล้วจาริณีจะมีปฏิกิริยาตอบกลับไปอย่างไรกัน? เธอลุกขึ้นยืน แล้วสะบัดมือไปที่หน้าของจันวิภาหนึ่งที แล้วกลับนั่งลงยังที่ของตัวเองอย่างนิ่งๆเช่นนั้น ทำราวกับว่าจันวิภาเป็นเพียงแค่อากาศเพียงเท่านั้น จาริณีตบหน้าจันวิภาอย่างนั้นหรือ? "คุณ!" จันวิภาจ้องมองจาริณีด้วยความโมโห ราวกับว่าบนใบหน้าของเธอจะมีอุโมงค์อะไรออกมาอย่างไรอย่างนั้น แต่นักแสดงระดับจาริณีเช่นนี้จะจงใจหาเรื่องเธอได้อย่างไร จันวิภาจะต้องหาเรื่องหรือทำอะไรให้จาริณีไม่พอใจอย่างแน่นอน อีกทั้งทุกคนยังเห็นจันวิภาพูดคำพูดที่แสนร้ายกาจกับจาริณีต่อหน้าทุกคนอีกด้วย ราวกับว่าเธอขาดไอคิว จึงทำให้เธอทำเรื่องอะไรที่โง่เขลาเช่นนี้ออกมา ทางทีมงานที่อยู่ข้างๆต่างก็พากันเดินเข้ามา เพื่อต้องการที่จะเกลี้ยกล่อมพูดคุยกับจันวิภา ไม่อยากให้เรื่องราวต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่จันวิภาไม่ได้ไว้หน้าใครเลย กลับผลักทางทีมงานเหล่านั้นออกไป แล้วเอ่ยพูดเสียงดังกับจาริณี "จิดาภาไม่ได้เป็นแค่นักแสดงธรรมดาที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรหรอกหรือ คุ้มกันกับที่คุณต้องมาปกป้องเธอด้วยหรือไง?" "พูดอีกทีซิ!" จาริณีตะโกนออกมาอย่างไม่เกรงใจ จันวิภาถูกบีบเสียจนไม่มีวิธีอื่น ผู้คนที่กำลังมองเธอมากมายขนาดนี้ ถ้าเธอปล่อยไปให้เป็นเช่นนี้ ต่อไปจะอยู่ในวงการนี้ได้อย่างไร หน้าที่แบกไว้ของช่องบลูไลท์จะเอาไปไว้ที่ไหนกัน! “ฉันบอกว่าจิดาภาเป็นแค่นักแสดงธรรมดาๆที่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังอะไร ทำไมคะ? หรือว่าฉันพูดผิดอย่างนั้นหรือ? แม้ว่าเธอจะเซ็นสัญญากับทางเค.เอฟแล้ว ก็เปลี่ยนแปลงเรื่องที่เธอเคยถูกช่องบลูไลท์แบนในตอนนั้นไม่ได้หรอก!” “ตอนนี้ที่เธอประจบคุณขนาดนี้ ก็เพื่อจะสร้างกระแสเท่านั้นเอง” ผู้คนมากมายที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ จันวิภากำลังเหน็บแนมจิดาภาออกมาอย่างเปิดเผย “วันนี้ที่จิดาภาเข้าไปยังเค.เอฟได้เพราะอาศัยกลอุบาย พรุ่งนี้ก็อาจจะใช้มีดแทงข้างหลังคุณก็ได้!ท่านประธานจิรภาสของเค.เอฟเกลียดที่สุดคือศิลปินที่ใช้วิธีการลับหลังแบบนี้ ฉันจะรอดูว่าต่อไปจิดาภาจะตายอย่างไร” ช่างตลกเสียจริงๆ.... จิดาภาไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยซักประโยคเดียว เธอเพียงแค่มองไปยังจันวิภาด้วยความเย็นชาของเธอ แล้วจำคำพูดเหล่านั้นเอาไว้ และขณะที่จันวิภากำลังเหน็บแนมจิดาภาต่อหน้าผู้คนอยู่นั้น ทางฝั่งเค.เอฟก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวแล้ว เนื่องจากว่าพวกเธอทะเลาะกันเสียงดัง ผู้กำกับของงานนี้จึงต้องสั่งประกาศให้พักเบรกชั่วคราวเอาไว้เสียก่อน ส่วนศิลปินคนอื่นๆที่กำลังรู้สึกเบื่อๆกันอยู่ก็ได้รับข่าวล่าสุดของวงการบันเทิง! คนที่ได้เห็นข่าวนี้แล้วต่างก็พากันตกตะลึงกันเป็นอย่างมาก! “คือ...”ในขณะที่จันวิภากำลังแสดงความอวดเก่งของตัวเองอยู่นั้น นักแสดงจากช่องบลูไลท์ที่อยู่ข้างๆเธอจึงดึงเธอไว้ “อย่าพูดอีกเลย!ผู้จัดการส่วนตัวของจิดาภาปรากฏตัวออกมาแล้ว!” จันวิภาหันกลับมามองเธอด้วยสายตาที่มีความโมโห “แล้วยังไงล่ะ!” นักแสดงคนนั้นที่ถูกเธอจ้องแบบนั้น จึงทำได้เพียงกลืนคำพูดเหล่านั้นลงไป ผ่านไปซักพักจันวิภาถึงจะพบว่าคนอื่นๆราวกับดูเงียบกันเกินไปเสียแล้ว บรรยากาศเช่นนี้ ช่างแปลกประหลาดเหลือเกิน... เป็นเพราะไม่มีใครคิดว่าจะมีข่าวแบบนี้ออกมา อีกทั้งยังเชื่อถือได้อย่างแน่นอน! “นี่เป็นคำแถลงข่าวจากทางฝ่ายเลขาของเค.เอฟ ไม่มีการปลอมแปลงอย่างแน่นอน” “เข้าใจผิดอะไรกันหรือเปล่า จิดาภาทำไมโชคดีอะไรขนาดนี้?” “ทำให้ประธานบริษัทเค.เอฟกลายมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอได้ พระเจ้า....ในวงการนี้ใครจะสามารถทำได้บ้าง!” จันวิภาฟังไม่ชัดว่าพวกเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่จากสายตาของพวกเขาแล้วนั้น เธอจึงค่อยๆพบถึงความผิดปกตินี้ แล้วหันกลับมารีบคว้าโทรศัพท์มือถือของศิลปินคนที่อยู่ข้างๆไปดู เมื่อเห็นหัวข้อข่าวนั้นแล้ว ราวกับตัวเธอทั้งคนได้พังทลายลงไปแล้ว จันวิภาแทบจะยืนได้ไม่มั่นคง เธอทรุดตัวลงไปนั่งบนเก้าอี้ จาริณีก็ได้เห็นข่าวนี้แล้วเช่นกัน เธอยิ้มออกมาอย่างเย็นชาแล้วมองท่าทางใบหน้าอันซีดขาวนั่นของจันวิภา “ทำไมไม่พูดอะไรต่อแล้วล่ะคะ? บทสรุปทำให้คุณตกใจขนาดนี้เลยหรือ? นักแสดงที่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างที่คุณว่ามีผู้จัดการส่วนตัวอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดแบบนี้ คุณจิรภาสเชียวนะคะ!” “ฉันจะเตือนคุณให้ ทำใจดีๆไว้หน่อยนะคะ”