บทที่ 31 สามีเชื่อมั่นในทักษะทางการแพทย์ของเจ้า
1/
บทที่ 31 สามีเชื่อมั่นในทักษะทางการแพทย์ของเจ้า
ข้าเนี่ยนะ!ต้องแต่งงานกับท่านอ๋องไร้สมอง?!
(
)
已经是第一章了
บทที่ 31 สามีเชื่อมั่นในทักษะทางการแพทย์ของเจ้า
บทที่ 31 สามีเชื่อมั่นในทักษะทางการแพทย์ของเจ้า ถัดไป หลิ่วหม้านหยุนเลือกเอานิ้วซ้ายกดตรงเข้าไปยังจุดฝังเข็มยี่นถาง และลากผ่านจุดฝังเข็มจิงถิงไปยังจุดฝังเข็มซ่างซิง จากนั้นสองนิ้วหัวแม่มือก็กดเน้นขึ้นซ้าย ลงขวา ขึ้นขวา ลงซ้ายไปในเวลาเดียวกัน ทักษะอันคมชัด จากช้าไปเร็ว จากเบาไปจนถึงหนัก หลังจากเวลาน้ำชา หลิ่วหม้านหยุนนวดส่วนนั้นจนกระทั่งเกิดความรู้สึกร้อนผะผ่าวเล็กน้อยๆ และจดจ่อกับหัวคิ้ว “อัยยะ มารดาของข้า ช่างผ่อนคลายดีแท้...” “ลูกสะใภ้ ศีรษะของแม่ตอนนี้ไม่มึนเลยสักนิด...” “นี่คือทักษะการนวดใช่กระมัง ใช่หรือไม่...” เฉินซื่อถึงแม้จะไม่ค่อยรู้เรื่องการแพทย์มากนัก ทว่านางไม่เคยกินเนื้อหมู ยังไม่ทันได้เคยเห็นหมูวิ่งเลยเชียวหรือ “ใช่แล้ว ท่านแม่” หลิ่วหม้านหยุนพยักหน้า จากนั้นจึงค่อยกล่าวอธิบาย “เมื่อคืนวานนี้ ข้าเองก็นวดให้คุณสามีเช่นนี้แหละ ฉะนั้นคุณสามีจึงเปล่งเสียงพรรค์นั้นออกมา ไม่ใช่ว่า...” “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ แม่ยังนึกว่าพวกเจ้า...” เมื่อนึกถึงขั้นนี้ กลับกลายเป็นว่าตัวเฉินซื่อเองที่ค่อนข้างละอายใจ ถึงแม้ตอนต้นจะเป็นเพียงการนวดเท่านั้น จนถึงตอนท้ายก็เกิดเรื่องอย่างว่านั้นขึ้นจริงๆ เพียงแต่หลิ่วหม้านหยุนไม่พูด จงใจปกปิด กลัวแต่เฉินซื่อเองก็ไม่รู้นั่นแหละ นึกถึงตนเองผ่านไปอย่างสับสน หลีกเลี่ยงความอับอาย หลิ่วหม่านหยุนก็เบิกบานใจยิ่งนัก “ที่แท้เมื่อคืนวาน เสียงที่ข้าได้ยินนั้น ก็เป็นเสียงที่ลูกสะใภ้นวดให้พี่ใหญ่จนผ่อนคลายถึงขึ้นเปล่งเสียงออกมานี่เอง” โล่ยี่เหลียนโผล่หน้าเข้าในมาห้องครัว ท่าทีใคร่รู้ยิ่งนัก เอ่ยถามเฉนซื่อ “ท่านแม่ ผ่อนคลายเพียงนั้นจริงๆ หรือ ท่านแม่ ลูกเองก็อยากลองดูบ้าง” “เจ้าเองก็อยากลอง?” เฉินซื่อมองทางหลิ่วหม้านหยุน “จุดฝังเข็มมิอาจนวดส่งเดชได้ ถ้าหากท่านไม่มีโรคภัยล่ะก็ อาจจะนวดจนเป็นโรคได้นะ” ประโยคนี้ของหลิ่วหม้านหยุนกลับเป็นความจริงอย่างเลี่ยงไม่ได้ หลายต่อหลายครั้ง ท่านไม่ได้มีโรคแท้ๆ แต่กลับไปนวดซี้ซั้ว ไม่แน่ว่า เวลานี้โรคภัยก็อาจจะถามหาท่านได้ ฐานะแพทย์หญิงแผนจีนในอดีตชาติ สติครองตัวข้อนี้ หลิ่วหม้านหยุนยังคงมีอยู่ “หา? ไม่ได้จริงๆ หรือ...เอาเถิด” ก่อนหน้านี้โล่ยี่เหลียนเคยเห็นพี่สะใภ้ช่วยชิวซิ่งเอาไว้ แล้วยังขาของท่านพ่ออีก ก็เป็นพี่สะใภ้ให้การรักษาจนหายดีเชียวนะ เรื่องคำพูดของพี่สะใภ้ โล่ยี่เหลียนจะไม่ฟังได้อย่างไรกัน “แม่ของข้า เปิดสำรับได้แล้วหรือยัง ข้าต้องทานให้เร็วสักหน่อย ทานแล้ว จะได้ไปเก็บตัวยาสมุนไพรที่หมูบ้านใกล้เคียง ปีนี้การเก็บเกี่ยวดี น่าจะสามารถได้รับเพิ่มอีกสักรถหลายคันใหญ่ ถึงเวลานั้น จะได้เรียบเรียงจัดส่งไปยังอำเภอหลิงเย่า” โล่เหวินเฟิงตัวตัวคนกำลังให้อาหารม้าอยู่นอกลาน แต่กลับตะโกนกล่าวกับเฉินซื่อเสียงสนั่น “เข้าใจแล้ว พ่อของข้า จะเปิดสำรับเดี๋ยวนี้” เฉินซื่อใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “พ่อของข้า ลูกสะใภ้หยุนเอ๋อรักษาอาการปวดหัวนอนไม่หลับขอฃข้า ช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก ฮี่ๆ บ้านตระกูลโล่ของพวกเราเก็บของล้ำค้าได้แล้วจริงๆ แต่งลูกสะใภ้ที่กตัญญูรู้คุณเพียงนี้มาได้” “เป็นเช่นนั้นจริงๆ ขาของข้า ก็เป็นลูกสะใภ้ที่รักษาจนหายดี” โล่เหวินเฟิงหัวเราะฮ่าๆ อย่างสดชื่นตาบาน เมื่อเห็นพ่อตาแม่ยายผลัดกันรับผลัดกันส่งชื่นชมตัวเองในทุกรูปแบบ หลิ่วหม้านหยุนได้ยินมามากแล้ว ใบหูหลีกเลี่ยงจะได้ยินจนมีตัวไหมออกมาไม่ได้ เพียงแต่ในทุกๆ ครั้ง หลังจากที่หลิ่วหม้านหยุนได้ยินแล้ว อารมณ์ของนางก็ล้วนดีเอาเสียมากๆ หลิ่วหม้ายหยุนหวังเพียงว่าครอบครัวสามีจะเป็นระเบียบราบเรียบ ชั่วชีวิตนี้ไร้ภยันตราย มีความสงบสุขดังเช่นนี้ตลอดชีวิต ก็เป็นสิ่งที่ไม่เลวเหมือนกันนะ “กินข้าวเร็ว กินข้าวเร็ว อาหารเช้าวันนี้ เจียนปิ่งที่ท่านแม่ทำหอมเป็นพิเศษเชียวล่ะ” โล่ยี่เหลียนเทตะเกียบทั้งหมดออกมาด้วยความปรีดา “แล้วก็ สมาชิกในครอบครัวของเรามีพี่สะใภ้เพิ่มขึ้นมา หลายวันมานี้ท่านแม่ล้วนเพิ่มแป้งเข้าไปอีกหนึ่งถ้วยตวงเชียว น้ำมันงาก็เพิ่มเข้าไปอีกหลายหยด หอมอย่าบอกใครเชียวล่ะ” โล่ยี่เหลียนดูเหมือนแมวตัวเมียที่น้ำลายไหลตัวเขื่อง แต่ทว่าหมิงถางน้อยก็คือลูกแมว เขานั่งออดอ้อนอยู่บนลำขาของหลิ่วหม้านหยุน กล่าวอย่างขี้อ้อน “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านมาป้อนหมิงถางดีหรือไม่” “ดี ดี ดี พี่สะใภ้ใหญ่จะป้อนเจ้าเอง” หลิ่วหม้านหยุนก็เริ่มหยิบขนมอบไปป้อนเข้าให้ในริมฝีปากของเสี่ยวหมิงถาง ฉากนี้ โล่กงยี่มองเห็นกับตา ราวกับว่ากำลังหึงหวงเด็กน้อยที่อายุไม่กี่ขวบอย่างเสี่ยวหมิงถาง ผลักชามไปทางหลิ่วหม้านหยุน “ภรรยา แล้วของสามีเล่า” “แน่นอนว่าของคุณสามีย่อมมีอยู่แล้ว” หลิ่วหม้านหยุนเอาขนมอบที่ขนาดใหญ่เป็นพิเศษให้แก่คุณสามี จากนั้นในชามของแต่ละคนก็แบ่งให้ไป เหล่าคนในครอบครัวไม่มีวันว่างเปล่า หลังจากที่หลิ่วหม้านหยุนจัดแจงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในมือของทุกคน ต่างก็ทำเจียนปิ่งให่แก่หลิ่วหม้านหยุนหนึ่งม้วน ช่วงเวลาชั่วพริบตา เจียนปิ่งในชามเบื้องหน้าของหลิ่วหม้ายหยุนก็กองพะเนินสูงขึ้นมา ซ้อนกันอย่างละลิ่ว เกือบจะทะลักไปจนถึงปลายคางของหลิ่วหม้านหยุน เฉินซื่อหัวเราะฮ่าๆ พลางกล่าว “ลูกสะใภ้ รีบกินเร็ว กินเสร็จแล้ว ให้โล่กงยี่นำเจ้าไปดูคลังยาเสียหน่อย” ตระกูลโล่ยังเป็นครอบครัวใหญ่ที่รวบรวมยาสมุนไพรรักษาโรคเอาไว้ หลิ่วหม้านหยุนกำลังนึกสงสัยอยู่พอดีเชียว ตนเองแต่งเข้ามาได้ตั้งหลายวันแล้วยังไม่เคยค้นพบว่าคลังยาสมุนไพรแห่งนี้อยู่สถานที่ใดกันแน่ การแสดงออกของหลิ่วหม้านหยุนในไม่กี่วันนี้ ประจวบกับเข้าตาของเฉินซื่อพอดี เฉินซื่อผู้นี้เองกฌเริ่มตระเตรียมให้หลิ่วหม้านหยุนจัดการดูแลคลังยา ก็ถือว่าให้ดูแลเรือนชานแล้ว “ดูแล้วท่านแม่ไว้วางใจเจ้ายิ่งนัก” โล่กงยี่นำพาหลิ่วหม้านหยุนเดินไปด้านหน้า “ทั้งบ้านนี้ ก็คงมีท่านคนเดียวที่ไม่ไว้ใจข้ากระมัง” ถ้อยคำของหลิ่วหม้านหยุนนั้นชัดเจนว่ากำลังประชันโล่กงยี่อยู่ โล่กงยี่รู้ว่านางหมายความว่าเช่นไร ทว่ายามนี้ โล่กงยี่จะไม่บอกตัวตนที่แท้จริงของนางเองโดยเด็ดขาด เปิดเผยตัวตน มันอันตรายมากเกินไป มันจะนำความวิบัติมาสู่โล่กงยี่ได้ทุกเมื่อ เขาเป็นคนสุขุมลุ่มลึก มิอาจทำเช่นนี้ได้เป็นอันขาด! “ไม่พูดดีกว่า” หลิ่วหม้านหยุนไหวไหล่ เดินตามโล่กงยี่มาจนถึงห้องท้ายสุดห้องหนึ่ง “เจ้าใช้กุญแจในมือไขออกก็ได้แล้ว” โล่กงยี่เอ่ย หลิ่วหม้านหยุนหยิบกุญแจออกมาเสียบเข้าไปในลูกกลอน สะเดาะเปิด ประตูด้านในห้องนั้นคั่นกันไปหลายๆ บาน “ผลัดอาภรณ์เสีย ก็สามารถเข้าไปได้แล้ว” โล่กงยี่ออกคำสั่งกับหลิ่วหม้านหยุน หลังจากรวบรวมวัตถุดิบยาจากหมู่บ้านและตำบลใกล้เคียงมาแล้ว ตระกูลโล่จำต้องกำจัดขยะออกจากตัวยา เพียงแต่สิ่งที่ทำให้หลิ่วหม้านหยุนนึกไม่ถึงเลยก็คือ ตระกูลโล่เองก็ยังรู้วิธีรักษาวัสดุยาเหล่านั้นในสภาพแวดล้อมที่ปลอดเชื้อ มืด และอากาศถ่ายเทได้สะดวก หลังจากเปลี่ยนเป็นชุดพิเศษแล้ว หลิ่วหม้านหยุนก็เดินตามโล่กงยี่เข้าไป คลังวัสดุยาดูเหมือนว่าจะอยู่ภายในประตูบานหนักอึ้ง ไม่แปลกเลยที่ก่อนหน้านี้หลิ่วหม้านหยุนไม่อาจค้นพบเจอ ก็อยู่แค่ในประตูบานหนึ่งท้ายห้อง เพียงแต่ปิดตายด้วยกุญแจ คนทั่วไปเข้าไม่ได้ ก็ต่อให้เจ้าเข้าไปได้ ด้านในยังมีประตูหลายๆ ชั้นจับจ้องเจ้าอยู่ ชั้นหนึ่งเชื่อมไปอีกชั้นหนึ่งเชียว โล่กงยี่เปิดประตูบานสุดท้ายออก เป็นตามคาด มีกลิ่นวัสดุยาที่หลิ่วหม้านหยุนคุ้นเคยและแสนเข้มข้นลอยออกมาจากด้านใน “โสมนารี เหอโส่วอู โสมป่า มันเทศ เก๋ากี้ ชะมดเชียง มาฮวง เม่งซุ่ง หญ้าแพะหงี่ ห้าสีห้าชาด...” อดีตชาติในฐานะแพทย์แผนจีน หลิ่วหม้านหยุนคุ้นเคยกับยาสมุนไพรเหล่านี้ดุจสมาชิกในครอบครัว “เช่นนั้นก็ดี สามีจะทดสอบเจ้า ประโยชน์ของว่านเกยคืออะไร” นี่ถือว่าง่ายที่สุดแล้ว โล่กงยี่ไม่กลัวว่าภรรยาจะไม่รู้ แถมยังมีท่าทีหยอกล้อเสียด้วย ของเคยๆ ยังไม่ต้องรอให้โล่กงยี่ทดสอบนางหรอก หลิ่วหม้านหยุนได้เอ่ยอย่างคล่องปากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “โสมนารีรู้จักกันในนามโสมคน ราก ขม อุ่น ไร้พิษ สรรพคุณรักษาอาการขาดเลือด สูญเสียเลือดมากเกินไป อุจจาระไม่คล่อง รอบเดือนมาไม่ปกติ...ห้าสีห้าชาดเชี่ยวชาญในการรักษาความเย็นในลำไส้ใหญ่ เลือดออกปนปัสสาวะ เลือดออกในลำไส้ อาการปวดแสบลำไส้ใหญ่” ถ้อยคำรำพันดุจหลายพันตัวอักษร โล่กงยี่ไม่มีความอดกลั้นที่จะฟังต่อไป “เอาล่ะ เอาล่ะ ภรรยาอย่าได้บ่นยืดยาว สามีเชื่อมั่นในทักษะการแพทย์ของเจ้าแล้ว” ไม่รู้ว่าเหตุใด ตั้งแต่เล็กโล่กงยี่ได้ฟังยาวิเศษก็หวั่นกลัวขึ้นมา
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 31 สามีเชื่อมั่นในทักษะทางการแพทย์ของเจ้า
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A