บทที่ 35 สามีก็แค่ตีกระต่าย   1/    
已经是第一章了
บทที่ 35 สามีก็แค่ตีกระต่าย
บทที่ 35 สามีก็แค่ตีกระต่าย “หยาบคาย” “ปิ่นหงส์หินตาแมวนี้ ข้าเป็นคนเห็นก่อน” คนที่เดินประจันหน้าเข้ามาคือชายวัยกลางคน พุงโลพุ้ย บนใบหน้าของเขามีไฝขนาดใหญ่เม็ดหนึ่ง ซ้ำยังมีขนสามเส้นงอกออกมาบนไฝ ยามที่มหาเศรษฐีเอ่ยคำ ยังจงใจจีบนิ้วมือตุ่ยเข้าที่ขนงอกบนไฝของตนเอง และยังมีท่าทีอกยืดอย่างภาคภูมิอีกต่างหาก “คุณสามี พวกเราไปเถอะ” หลิ่วหม้านหยุนรู้สึกเอือมระอากับคนที่ทั้งตัวเหม็นกลิ่นทองหึ่งประเภทนี้เสียเต็มประดา “หยุดนะ นี่คือภริยาน้อยของเรือนผู้ใดกัน กล้าหาญอย่างกินดีหมีหัวใจเสือดาว บังอาจแย่งสิ่งของอันเป็นที่รักของข้าคนนี้ไป” สายตาของมหาเศรษฐีหลิวระอุ แทบรอไม่ไหวที่จะขัดรอบเอวอรชรอ้อนแอ้นของหลิ่วหม้านหยุนเอาไว้ ด้วยประการนี้ หลิ่วหม้านหยุนจึงหลบอยู่หลังกายโล่กงยี่โดยสัญชาติญาณ “คนโง่” น้ำเสียงของโล่กงยี่เย็นกังวานแต่กลับมีกลิ่นอายเข่นฆ่าหาใดเทียบ ทั้งๆ ที่ระยะห่างกันเป็นศอก แต่กลับทำให้มหาเศรษฐีหลิวรู้สึกได้ถึงความเย็นชาที่กรีดลึกไปจนถึงไขข้อกระดูกอย่างแท้จริง “มีเรื่องอะไรเจ้าก็เข้ามาเอาไปสิ” โล่กงยี่เอาปิ่นหงส์หินตาแมวเหน็บเอาไว้ระหว่างเอว ริมฝีปากแย้มรอยยิ้มแห่งความเหยียดเยาะมหาเศรษฐีหลิว มหาเศรษฐีหลิวมีนามว่าหลิวเหมี่ยว เขาคือตุลาการที่ใหญ่ที่สุดในเขตอำเภอป๋ายหยุนแห่งนี้ ก็แม้แต่เซี่ยนไท่เย่เองยังต้องเคารพเขาถึงสามส่วน ยามปกติก็คุ้นชินกับการใช้มือข้างเดียวบังคับฟ้า หลิวเหมี่ยวมองเห็นเจ้าเด็กเวรคนหนึ่งเช่นนี้ ก็นึกอยากจะฆ่าให้ตายเเสีย หาโอกาสสังหารเขาทิ้ง และเอาสาวงามข้างกายของเขากลับไปเป็นอนุหกของตนเอง งามหยาดเยิ้มจริงๆ หลิวเหมี่ยววันนี้มาเลือกปิ่นหงส์หินตาแมวให้แก่อนุห้าที่เพิ่งแต่งเข้ามาโดยเฉพาะ ใครจะรู้ กลับถูกเจ้าเด็กเวรตัวเหม็นนี่ซื้อไปก่อน ทำลายความองอาจสง่างามของเขาไปเสียได้ ไม่ได้การ ลมหายใจนี้ เขาหลิวเหมี่ยวจะยอมปล่อยไปไม่ หลิวเหมี่ยวทบทวนความอ้อนของตนเอง จะต้องสามารถฆ่าเด็กน้อยที่ดูแล้วขี้โรคหาใดเปรียบตรงหน้าให้จงได้เป็นแน่ ใครจะรู้ โล่กงยี่ “อะแฮ่ม” สองคำ ก็เปลี่ยนสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย ทำให้หลิวเหมี่ยวพุ่งใส่ความว่างเปล่า ขณะต่อมา หลิวเหมี่ยวก็ฟุบลงบนพื้น ริมฝีปากคาบลงบนมูลแกะได้พอดิบพอดี มีจามรีและแกะจำนวนมากในอำเภอป๋ายหยุน ดังนั้นมูลแกะจามรีจึงมีให้เห็นทุกหนแห่ง “เหม็น...เหม็นมาก” หัวใจที่อยากตายของหลิวเหมี่ยวนั้นก็มี ด้านหลังกายของเขามีอนุห้าที่หลบอยู่ไกลออกไป ดูแล้ว อนุที่งามขำเหล่านั้นเกรงว่าคงต้องตากับเงินทองของหลิวเหมี่ยวเท่านั้นเอง ข้อนี้ หลิ่วหม้านหยุนรู้สึกถึงความโศกเศร้าแทนมหาเศรษฐีหลิวด้วยใจจริง หลิวเหมี่ยวไม่แยแส ยามนี้ชายร่างผอมปวกเปียกดูท่าแล้วมีลักษณะขี้โรคกะปอดกะแปด แต่ร่างกายกลับคล่องแคล่วจัด เขาคลำหาครึ่งค่อนวัน แม้แต่แขนเสื้อเพียงข้างเดียวของอีกฝ่ายก็ล้วนหาไม่พบ ยิ่งอย่าเอ่ยถึงว่าจะต่อยเขาสักเปรี้ยงเลย “อาใหญ่ อาสอง อาสาม มัวนิ่งทำอะไรอยู่ ยังไม่ตีให้ข้าอีก ตีให้ตายกันไปข้างเลย” ต่อมา หลิวเหมี่ยวออกคำสั่งประหารชีวิตแก่เหล่าบรรดาลูกน้องในจวนหลิว ครั้งล่าสุดก็มีบัณฑิตผู้ไม่รู้ความเป็นตายคนหนึ่ง นึกอยากแย่งชิงผู้หญิงกับหลิวเหมี่ยว ก็ถูกลูกน้องในบ้านของหลิวเหมี่ยวรุมสะกำจนตาย เรื่องนี้ต่อให้ถึงหูทางการก็ไม่อยากจัดการอะไรได้ โล่กงยี่ไม่ใช่บัณฑิตไร้ประโยชนืเสียหน่อย “ภรรยา ไปเถิด” โล่กงยี่ลากเอวของหลิ่วหม้านหยุน เบี่ยงหลบออกไปจากที่ตรงนี้ ถ้าหากรบรากันตัวต่อตัว หลิวเหมี่ยวย่อมไม่ใช่คู่ปะมือของโล่กงยี่อย่างแน่นอน ก็ต่อให้มีหลิวเหมี่ยวร้อยคน โล่กงยี่ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง แต่ว่ามีเหล่าองครักษ์มากมายขนาดนั้น โล่กงยี่จะไม่เปิดเผยทักษะวรยุทธ์ของตนเองหรอก เรื่องโง่เขลาเช่นนี้ โล่กงยี่ทำไม่ลงหรอก สะบัดแส้ม้า รถม้าก็วิ่งเหยาะๆ จรออกไป เหล่าลูกน้องอารักขาของจวนตระกูลหลิวเองก็ยากจะตามมาแล้ว “นายท่าน รถม้าวิ่งเร็วเกินไป พวกเราเท้าเปล้า ตามไม่ทันหรอก...” หัวหน้าอารักขากล่าวเช่นนี้ แต่กลับถูกหลิวเหมี่ยวตบเข้าให้หนึ่งฉาด “สมควรตาย เจ้าเด็กเวรตัวเหม็นนี่ ข้าจำต้องสืบเบาะแสะจุดจบของเจ้าให้จงได้ ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ” อารักขาที่ถูกตบฉาดใหญ่คนนั้นน่าเวทนานัก บนหน้าของเขาเองก็มีมูลแกะด้วยเช่นกัน บนรถม้า โล่กงยี่ปลอบประโลมสตรี “ภรรยา กลัวหรือ” กลัว? หลิ่วหม้านหยุนยิ้ม ไม่ได้เอ่ยโกหกเขา “ไม่กลัวหรอก ขอเพียงคุณสามีอยู่ข้างกายข้า ข้าก็ไม่กลัวแล้ว” เป็นที่รู้กันว่า องครักษ์ลับชุดดำมิดชิดคนนั้นจะต้องตามปกป้องโล่กงยี่ดุจเงาตามตัว เป็นไปได้ยากที่โล่กงยี่จะได้รับบาดเจ็บแม้เพียงเล็กน้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าตัวโล่กงยี่เองยังมีวรยุทธ์เสียด้วยสิ “ถ้าหากข้าจำไม่ผิด นี่คือของขวัญชิ้นแรกที่คุณสามีมอบแก่ข้ากระมัง” หลิ่วหม้านหยุนสยายกระหม่อมออกไปอย่างเต็มรัก “คุณสามีกรุณาปักเข้าไปให้ข้าด้วยตนเองด้วยเถิด ข้าเชื่อมั่นว่าคุณสามีจะต้องปักได้สวยงามมากแน่ๆ” “เจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าข้าจะต้องปักให้เจ้าได้อย่างสวยงามมาก” กล่าวมาเช่นนี้ ภรรยาเองก็เชื่อมั่นในตนเองมากเกินไปกระมัง กล่าวพลางยิ้มร่า โล่กงยี่เอาปิ่นหงส์หินตาแมวเสียบเข้าไปกลางมวยผมของอรอนงค์ เกษาของนวลนางดุจผ้าทอดำขลับ สดสวยและเงางาม ก็รวบกับน้ำตกสีใสไหลทอดยาวก็ไม่ปาน มองเห็นในสายตาแล้ว โล่กงยี่อดไม่ได้ที่จะฉวยโอกาสนี้ลูบไล้สองครา ช่างนุ่มลื่นยิ่งนักเสียจริงๆ และสูดดมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์บนเรือนผมของนางอย่างพินิจแล้ว กลับพบว่าเกษาของนางนั้นช่างหอมเสียยิ่งนัก กลิ่นหอมสดชื่นเบิกบานอารมณ์ หลิ่วหม้านหยุนรู้ว่าเขาฉวยโอกาสลวนลาม เพียงแต่มองอีกที เขาอุตส่าห์ซื้อปิ่นหงส์มอบให้แก่ตนเองแล้ว ก็ให้อภัยเขาทันใด “คุณสามี ท่านว่ามหาเศรษฐีคนนั้นจะตามมาอีกหรือไม่” แม้นว่าเขาตามมาจริงๆ แล้วล่ะก็ หลิ่วหม้านหยุนยังไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะทำเช่นไร “ไม่หรอก เขาตามมา จะต้องตายอย่างไร้ข้อกังขา” เขาชักแส้ม้าตามอารมณ์ เอ่ยคำอย่างผ่อนคลายสบายใจขนาดนั้น แต่สิ่งที่เขาพูดนั้น เป็นเรื่องจริง องครักษ์เฉียนหลงขอเพียงรู้สึกได้ถึงคนที่บังอาจจพทำร้ายเจ้านาย คนผู้นั้นจำต้องตายอย่างไร้ข้อกังขา เมื่อพิจาราณาอย่างถี่ถ้วนที่เมื่อครู่โล่กงยี่ปกป้องตนเองสุดชีวิต หัวใจของหลิ่วหม้านหยุนในบัดนี้ก็มีกลิ่นอายแห่งความหอมหวานเล็กน้อย ถ้าหากไม่ได้เดาผิด นี่คือความรู้สึกใจเต้นต่อบุรุษเพศครั้งแรกของตนเองในอดีตชาติ ไม่ถูก ข้าจะใจเต้นต่อโล่กงยี่ได้อย่างไรกัน ล้อเล่นกระมัง ช่างน่าสยดสยองเสียเหลือเกิน... หลิ่วหม้านหยุนส่ายหน้าเต็มแรง ร่างกายสั่นระริกอยู่ครู่หนึ่ง นางไม่ใช่อย่างนั้นเสียหน่อย “เจ้าหนาว?” ริมฝีปากเรียวบางของชายหนุ่มกระตุกเล็กน้อยก่อนจะเปลื้องเสื้อคลุมบนเรือนกายของตนเองลง และห่มบนเรือนร่าวของหญิงสาว “แบบนี้เล่า ยังหนาวไหม” องครักษ์ลับเฉียนหลงที่หลบซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดเห็นฉากนี้เข้า ก็รู้สึกตกตะลึงสุดฤทธิ์ แต่ไรมานายน้อยไม่เคยใจสั่นกับหญิงสาวแม้เพียงคนเดียว หลิ่วหม้านหยุนในตอนนี้จะเป็นข้อยกเว้นเชียวหรือ เป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาด นายน้อยไม่อาจเพียงเพราะสตรีตัวเล็กๆ คนหนึ่งจนพลาดรากฐานเก่าแก่ของราชวงศ์ต้าแล่ได้เป็นอันขาด ความแค้นอันยิ่งใหญ่ของรัชทายาทเล่าจะทำอย่างไร องครักษ์ลับเฉียนหลงจะไม่อนุญาตให้อุปสรรคเช่นนี้ลอยนวลอยู่เป็นอันขาด เขาจ้องหาโอกาสสักครั้ง สังหารหลิ่วหม้านหยุนทิ้งเสีย เสียง “ปึ้ก” หน้าผากขององครักษ์เฉียนหลงถูกก้อนหินเล็กๆ กระแทกใส่จนเป็นปื้นแดง องครักษ์ลับเฉียนหลงจ้องตาเป็นมัน หมุนกายอย่างสงสัย ที่แท้ก็ถูกนายน้อยรู้สึกถึงแล้ว จำต้องถอนตัวแล้ว “คุณสามี ท่านขว้างก้อนหินใส่หญ้าข้างทางไปเพื่ออะไร” หลิ่วหม้านหยุนที่ไม่เข้าใจเหตุผลนึกอยากได้คำตอบจากปากชายหนุ่ม “ท่านอย่าได้พูดว่าตีกระต่ายเชียว ข้าไม่อาจเชื่อได้หรอกนะ” “สามีก็ตีกระต่ายจริงๆ เจ้าจะเชื่อหรือไม่” โล่กงยี่แต่ไรมาไม่เคยแยแสความคิดอ่านของบุคคลใดๆ แม้แต่หลิ่วหม้านหยุนในยามนี้ก็ตาม ไม่ถูกต้อง เมื่อครู่หลิ่วหม้านหยุนเห็นเขาโยนก้อนหินใส่โพรงหญ้าด้านในนั้นแท้ๆ จากนั้นโพรงหญ้านั่นก็โคลงอยู่ครู่หนึ่ง และกลับไปเงียบสงบอีกครั้ง ใช่แล้ว จะต้องเป็นลูกน้องผู้ลึกลับคนนั้นแน่ๆ แล้วกระมัง เขาแนบชิดติดตัวของโล่กงยี่ปานฉะนั้นเชียวแหละ หลิ่วหม้านหยุนเองก็ไม่ใช่คนโง่บริสุทธิ์เสียทีเดียวหรอก
已经是最新一章了
加载中