ตอนที่ 237 วุ่นวายจนพังไม่เป็นท่า   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 237 วุ่นวายจนพังไม่เป็นท่า
ตอนที่ 237 วุ่นวายจนพังไม่เป็นท่า ทุกอย่างวุ่นวายไปหมด วุ่นวายจนพังไม่เป็นท่า ใครคนหนึ่งเดินตรงไปยังชายหนุ่มที่ล้มอยู่กับกองเลือด เริ่มรัวพูดอะไรบางอย่าง มีคนยกเครื่องมือสื่อสารขึ้นมารายงานอะไรบางอย่าง ดูท่าน่าจะกำลังพูดกับกรณ์อยู่ เพ็ญนีติ์ตกอยู่ในความหวาดหวั่นอีกครั้ง ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น เสียงปืนด้านนอกเบาลงบ้างแล้ว เบาลงจริงๆ หรือว่า การสู้กันใกล้จะจบลงแล้วงั้นหรอ? แต่ก็ไม่รู้ฝ่ายใดแพ้ฝ่ายใดชนะ ผู้ชายคนนั้นวางโทรศัพท์ลง หันกลับมาและเดินตรงเข้ามาหางเธอและทิพย์ นัยน์ตาว่างเปล่าทั้งคู่จดจ้องเขาเอาไว้ “อย่าแตะต้องพวกฉัน ไม่อย่างนั้น พวกแกได้ตายกันหมดแน่” เธอตวาดออกไป ในใจเอาแต่คิดว่าทำไมปุริมยังไม่มาอีก “เพี๊ยะ” ฝ่ามือของคนนั้นลอยมา แต่เพ็ญนีติ์เอียงหน้าหลบทัน จึงฟาดโดนหัวของเธอแทน รู้สึกขึ้นมาเจ็บแปล๊บๆ ในหูมีเสียงดังตู้มต้ามขึ้นมา เสียงนั้นทำให้เธอนึกถึงอะไรสักอย่างโดยๆไม่ได้คาดคิดมาก่อน ดวงตาเป็นประกาย หรือบางทีอาจจะเป็น..... เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ เห็นเงามืดของร่างที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ตรงมุมกำแพง รูปร่างแบบนั้นทำให้ เธออ้าป้ากว้างขึ้นทันที เป็นจู๋ต ต้องเป็นจู๋ตแน่ๆ “ตึก ตึก” เพ็ญนีติ์เห็นกับตาว่ามือที่จับปืนของจู๋ตยกขึ้นมา ไม่ทันได้กระพริบตา ผู้ชายที่เหลืออยู่ไม่ถึงสิบก็ถูกยิงล้มลงไปกองกับพื้นทั้งหมด ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วขนาดที่เธอไม่ทันได้มีปฏิกิริยาอะไร จู๋ตก็เดินมาถึงตัวเธอแล้ว “เพ็ญนีติ์....” มือของเขาเร่งรีบแกะเชือกที่มัดอยู่บนร่างกายเธอออก ด้านนอกกลับได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมา “จู๋ต นายไปช่วยทิพย์” ขณะที่พูด ปุริมก็มาถึงด้านในแล้ว เดินไปหาเพ็ญนีติ์อย่างรวดเร็ว นำเสื้อมาคลุมบนร่างกายของเธอไว้ ตามด้วยแก้มัดที่มือและเท้าออกให้ เพ็ญนีติ์อยากจะพูดอะไรสักหน่อย แต่เวลานี้กลับพูดอะไรไม่ออก ทั้งตัวอ่อนปวกเปียกราวกับของเหลว เธอปล่อยให้ปุริมอุ้มเธอขึ้นพาดบ่า หันหน้ากลับไปมองจู๋ตที่ก็กำลังอุ้มทิพย์อยู่เหมือนกัน หญิงสาวปล่อยให้จู๋ตพาเธอเดินไปอย่างไม่เปล่งเสียงใดๆออกมา แม้แต่คำเดียวก็ไม่มี “ทิพย์ อย่ากลัว พวกเขามาช่วยเรานะ” ทิพย์ไม่หือไม่อือ ยั งคงไม่เปล่งเสียงใดๆออกมาเหมือนเคย คงจะตกใจกลัวจริงๆ ปุริมเริ่มออกตัว ไม่กี่ก้าวก็เดินมาถึงหน้าต่างที่เป็นทางออก เพ็ญนีติ์ถึงได้เห็นบันไดที่ห้อยลงมาจากเครื่องบินขนาดเล็ก มือจับราวไว้ และค่อยๆเริ่มเดินขึ้นไปบนเครื่อง ข้างหลัง จู๊ตก็กำลังตามมาเหมือนกัน ..... แต่ว่า ยังเดินไม่ถึงทางเข้าเครื่อง เพิ่งจะเดินขึ้นมาได้แค่ครึ่งทาง เสียงปืนจากด้านล่างก็ดังขึ้นจนบาดแก้วหู “ปล่อยทิพย์มาให้ฉัน” ตอนที่เสียงของณภัทรดังขึ้นมา หัวของทิพย์สั่นขึ้นมาเล็กน้อย แต่กลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอื่นใดๆ “ปัง” เป็นเสียงปืนที่ดังขึ้นอีกหน เพ็ญนีติ์มองจากเครื่งบินลงไปมองภาพนั้นด้วยสีหน้าตกใจ ณภัทรจะฆ่าจะแกงกันเลยหรอ “ปุริม ถ้าไม่งั้นเรา.....” “อย่าไปสนใจมัน ปล่อยให้ยิงไป พวกเราก็เดินต่อ” ปุริมกลับไม่สะทกสะท้านอะไร ไม่ได้สนใจณภัทรที่กำลังข่มขู่เขาอยู่เลยด้วยซ้ำ “ปังๆๆ” เสียงปืนดังขึ้นสามนัดติด แต่ละนัดก็ยิงเฉียดอยู่รอบๆตัวจู๋ต แบบนั้นยิ่งอันตรายเข้าไปใหญ่ ยิ่งจู๋ตเพิ่มความเร็วขึ้น กระสุนเหล่านั้นยิ่งยิงเฉียดจู๊ตไปมา นัดแล้วนัดเล่า ทำให้เกิดความตื่นกลัวอยู่ข้างใน แต่ว่ากลับไม่มีนัดไหนยิงถูกจู๋ตและทิพย์เลย “ขวัญทิพย์ ลงมาหาฉัน ฉันไม่อนุญาตให้เธอไป” จู๋ตหยุดเดินชั่วขณะ เหมือนกับกำลังสอบถามอะไรบางอย่าง บนทางขึ้นบันได จู่ๆหญิงสาวก็ตะโกนพูดตอบกลับผู้ชายที่อยู่ข้างล่างเสียงดังว่า “ นอกเสียจากว่าฉันตาย หรือไม่ก็ให้คุณบดฉันให้กลายเป็นก้อนถ่านก่อน ถ้าไม่อย่างนั้น ก็อย่าคิดที่จะให้ฉันลงไปหาคุณ” เธอตะโกนเสียงดังจนแสบหู เพ็ญนีติ์ก็ไม่รู้ต้องพูดอะไรดี ในที่สุดเสียงปืนก็หยุดลง เสียงที่หยุดเงียบกะทันหันทำให้รู้สึกเหมือนไม่ชินอย่างไรอย่างนั้น จู๋ตแบกทิพย์เดินขึ้นไปยังทางเข้าเครื่องต่อ พื้นด้านล่าง ปรากฏร่างณภัทรกำลังวิ่งตามเครื่องบิน ทันทีที่ทิพย์และจู๋ตนั่งลงดีๆ เครื่องก็เริ่มออกบินไปยังทิศทางของบ้านเกิด สายตาของเพ็ญนีติ์เหลือบมองด้านล่าง มองตรงไปยังณภัทรที่กำลังวิ่ง เธอเข้าใจในที่สุดว่าณภัทรจะทำอะไร ยังมีเครื่องบินอีกลำ มองเห็นณภัทรกระโดดขึ้นไปบนนั้น เพ็ญนีติ์หันกลับไปพูดกับทิพย์ว่า “ ทิพย์ เขาขึ้นอีกลำตามมาแล้ว” ภายใต้สถานการณ์อันขุ่นมัว ทิพย์นั่งอยู่เงียบๆ เธอกำลังร้องไห้ ร้องแบบไร้เสียงสะอึกสะอื้น เหมือนจะไม่ได้ยินคำที่เพ็ญนีติ์พูด ปุริมดึงไหล่ของเพ็ญนีติ์ไว้แล้วก็ทำปากบอกให้เงียบๆให้นั่งลง เพ็ญนีติ์ทำได้เพียงนั่งตามคำสั่ง “ถ้าเขาตามมาทันจะทำยังไง?” “นั่งลงดีๆ” ปุริมไม่ตอบคำถามเธอ แต่กลับคาดเข็มขัดให้เธอแทน กดไหล่ของเธอไว้ไม่ให้ขยับไปมาอีก สีหน้าของเขาซีเรียสมาก จนทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยชินสักเท่าไหร่ ทันทีที่คาดเข็มขัดให้เธอเสร็จ เขาก็เดินไปนั่งที่นั่งข้างคนขับ บนท้องฟ้า มีดาวเต็มไปหมด ช่างเป็นกลางคืนที่สวยงาม ทำให้เธอคิดถึงทุกฉากในนิทานสมัยเด็ก ทันใดนั้น คนขับเครื่องบินก็พูดขึ้นมาว่า “ข้างหลังระยะห้าร้อยเมตร มีอีกลำกำลังขับตามมา” “เร่งความเร็ว” ปุริมออกคำสั่งเสียงเข้ม ราวกับเคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว “รับทราบ” คนขับตอบรับ และเร่งความเร็วในการขับทันที
已经是最新一章了
加载中