บทที่ 36 นึกอยากจะฆ่าสามีตัวเองก็เอาเถิด   1/    
已经是第一章了
บทที่ 36 นึกอยากจะฆ่าสามีตัวเองก็เอาเถิด
บทที่ 36 นึกอยากจะฆ่าสามีตัวเองก็เอาเถิด ยังดีที่คลังยาสมุนไพรหลายแห่งอยู่ห่างจากที่พำนักของมหาเศรษฐีหลิวค่อนข้างไกล เพื่อหลีกเลี่ยงข้อพิพาทนี้ อีกอย่าง โล่กงยี่ยังสามารถบัญชาให้องครักษ์ลับเฉียนหลงดำเนินการสังหารหลิวเหมี่ยวได้ เพียงแต่มันดึงดูดความสนใจของผู้คนมากเกินไป ทุกสิ่งอย่างคือโล่กงยี่ซ่อนเร้นความลับในครานี้ได้อย่างสงบ ในที่สุดโล่กงยี่ก็จัดเก็บยาสมุนไพรได้อย่างครบถ้วน ก่อนหน้านี้โล่กงยี่ไม่เคยมารับเลย แต่ขอเพียงโล่กงยี่แสดงหนังสือเกี่ยวกับวัสดุยา เหล่าพ่อค้ายาสมุนไพรนั้นก็เข้าใจได้ในไม่ช้า ว่านี่คือนายน้อยของบ้านตระกูลโล่ ส่วนคนที่อยู่ข้างกายนั้น ย่อมคือนายหญิงน้อยโล่กงยี่นั่นเอง ได้ยินเหล่าบรรดาพ่อค้า เรียกนางแต่ละคำแต่ละประโยคว่า “นายหญิงน้อย” หลิ่วหม้านหยุนก็ค่อนข้างขวยเขิน หลิ่วหม้านหยุนพึมพำอยู่ในใจ ทำไมคนเหล่านี้จึงไม่เรียกนางว่าคุณนายของตระกูลโล่กันนะ เพียงแต่ต่อหน้าธารกำนัล โล่กงยี่ยังคงเสแสร้งแกล้งทำเป็นคนขี้โรค เพื่อหลีกเลี่ยงถูกคนมองออกถึงสิ่งกีดกั้น “นายน้อย ฮูหยิน ท้องฟ้าก็มืดแล้ว เดินทางกลับครั้งนี้ไม่ปลอดภัยนัก อย่างไรก็พำนักอ้างแรมอยู่เรือนของข้าชั่วคราว วันพรุ่งค่อยออกเดินทางก็ไม่สาย” ผู้เฒ่าเบื้องหน้ามีนามว่าลุงเหอ เป็นเกษตรกรชาวนาที่ได้รับการว่าจ้างจากตระกูลโล่มาเป็นเวลาครึ่งค่อนชีวิต ทางโล่กงยี่มองฟากฟ้า ก็เป็นดังว่า ค่ำมืดป่านนี้แล้ว จากนั้นก็เหลียวมองไปทางหญิงสาวอย่างรวดเร็ว “ภรรยา เจ้าว่าอย่างไร” “เช่นนั้นก็พักอยู่สักคืนเถิด” หลิ่วหม้านหยุนรู้ดีว่าเหล่าเสือร้ายและสัตว์ป่าในยุคโบราณส่วนใหญ่มักออกล่าอาหารในเวลากลางคืน บังเอิญพบกับโจรภูเขาก็ล่ะ ค่อยว่ากันอีกเรื่อง “เอาเถิด อย่างนั้นก็รบกวนลุงเหอหนึ่งคืนแล้ว” โล่กงยี่กระแอมไอสองครั้ง “ไม่รบกวน ไม่รบกวน หากไม่ใช่เพราะนายน้อยมอบเครื่องกินเล็กน้อยแก่ครอบครัวข้าทั้งบ้าน ข้าเองก็ยังไม่รู้เลยว่าวันเวลานี้จะผ่านไปอย่างไร ดีที่ปีนี้สมุนไพรในแปลงล้วนงอกงามไม่เลว ยิ่งคือความเจริญงอกงามของครอบครัวนายน้อยแล้ว” ลุงเหอแกเป็นคนช่างพูด อาหารเย็นคือข้าวต้มมันเทศ มันเทศที่หอมนุ่มคลุกเคล้าเข้ากับข้าวต้มที่เคี่ยวออกมา ทั้งหอมทั้งหวาน ในส่วนสำรับกับข้าว เป็นหลิ่วหม้านหยุนช่วยภรรยาของลุงเหอทำด้วยกัน หลิ่วหม้านหยุนไปเก็บมะเขือสดสองสามลูกภายในสวนกับลุงเหอ จากนั้นหลิ่วหม้านหยุนก็ทำออกมาในฉบับที่ทำในบ้านก่อนหน้านี้ ทำมะเขือยาวปลาหอมที่ไม่มีปลาอยู่ด้านในนั้นแท้ แต่กลับได้กลิ่นของเนื้อปลาอันสดใหม่ นี่คืออาหารเลิศรสที่หาได้ไม่ง่ายในบ้านนาท้องไร่แน่นอน “ข้าแม่บ้านแก่ที่อายุปูนนี้แล้ว ยังไม่เคยกินมะเขือยาวที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ” ภรรยาลุงเหออดสรรเสริญเยินยอหลิ่วหม้านหยุนไม่ได้ “ลูกสะใภ้ของครอบครัวโล่นี้ไม่เพียงแต่รูปลักษณ์ชวนพิศ ฝีมือทำอาหาร ก็ยังเป็นที่หนึ่งอีก ช่างดีจริงๆ ไฉนจึงไม่ใช่บุตรีของบ้านข้ากันหนอ แม้นข้าสามารถคลอดลูกสาวเช่นนี้ออกมาได้ อายุสั้นลงสิบปี ข้าเองก็ยินดีแล้ว” “แม่บ้านแก่พล่ามอย่างเจ้านี้ อย่างได้พูดเรื่อยเปื่อยเลย นางเป็นนายหญิงน้อยที่มีเกียรตินะ” ลุงเหอดุภรรยาของตนเองหนึ่งประโยค “ไม่เป็นไรหรอก” หลิ่วหม้านหยุนยิ้มพราย “ป้าเหอ เมื่อครู่ที่ข้าบอกวิธีทำมะเขือยาวปลาหอมแก่ท่าน ท่านจำได้แล้วหรือไม่” “ข้าจำได้แล้ว จำได้แล้ว รอรอบหน้าตอนที่ตาเฒ่าอยากกิน ข้าก็จะทำให้เขากิน” “ยายเฒ่าหนอ เจ้าจะให้ข้าพูดอะไรกับข้าดีหนอ อัย...เจ้ามักจะลุ่มๆ ดอนๆ ยังให้นายหญิงน้อยสอนเจ้าทำอาหารอีก อัยยะ มันช่างน่าหยาบคายเสียงจริงๆ” “ตาเฒ่าเจ้าจะไปเข้าใจอะไร นายหญิงน้อยเต็มใจยิ่ง และไม่ได้ดูถูกข้าแม้แต่ครึ่งเลย” สองเฒ่า เจ้าหนึ่งประโยค ข้าหนึ่งประโยค ก็ได้มีปากเสียงกันจนรับประทานอาหารเย็นเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว หลิ่วหม้านหยุนพยุงโล่กงยี่ย่างเข้าสู่ห้องครัวแขก ด้านซ้ายมือเป็นเตาอบ ด้านบนคลุมด้วยผ้าห่มไหมอันใหม่เอี่ยม ยแล้วก็ผนังกำแพงที่เตาอบพิงอยู่นั้นล้วนทาสีด้วยสีขาวขุ่นใหม่ๆ ดูแล้วสะอาดหมดจดอย่างยิ่ง ปิดประตูเข้า โล่กงยี่ไม่ต้องแสร้งทำอีกต่อไป เรือนร่างแข็งแรงหย่อนบั้นท้ายนั่งลงบนเก้าอี้ หงายแก้วขึ้นและเทน้ำลงไป กล่าวอย่างราบเรียบ “ดูท่า ชีวิตของเกษตรกรชาวนาเหล่านี้จะนับวันยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ ข้าจำได้ว่าเมื่อก่อนท่านพ่อกล่าว ลุงเหอแห่งหมู่บ้านป๋ายหยุนครอบครัวแร้นแค้นจนไม่มีหม้อทำกิน พักอาศัยอยู่ห้องโกโรโกโสเชียว” “ห้องโกโรโกโส? ตอนนี้ไม่ใช่กระมัง ตอนนี้ข้าดูแล้วเป็นถึงห้องกระเบื้องเชียวนะ” หลิ่วหม้านหยุนเอ่ยโพล่งออกมา “ใช่แล้ว สามารถเทียบชั้นกับบ้านตระกูลหลิ่วของเจ้าแล้ว” โล่กงยี่พูดอย่างเกียจคร้าน บางที คนพูดอยาจไม่ได้ใส่ใจ แต่คนฟังกลับเอาใจใส่ หลิ่วหม้านหยุนโพล่ง “ทำไม โล่กงยี่ สู่ขอข้า ท่านเสียใจภายหลังแล้วกระมัง ถึงขั้นรังเกียจที่ครอบครัวข้ายากจนแล้ว?” “เจ้ารู้ทั้งรู้ว่าข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น” โล่กงยี่เหลือบมองหญิงสาวอย่างปราศจากคำพูดแวบหนึ่ง ความหมายที่โล่กงยี่พูดนั้นคือ รากเหง้าครอบครัวตระกูลหลิ่วเองก็สามารถทำได้ บางทีอาจจะมีสักวันที่สามารถกลายเป็นตระกูลที่ร่ำรวยรองจากตระกูลโล่ก็เป็นได้ต่างหาก ทว่าเหล่าหลิ่วก่อนหน้าก็มาด่วนจากไปก่อน นายหญิงแก่ก็ปันใจเป็นสองห้อง ปล่อยให้บ้านเล็กใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ใครจะรู้ ลูกคนรองของบ้านเล็ก ก็คือลุงสองของหลิ่วหม้านหยุน หลิ่วเป่ยหานนั่นเอง หลิ่วเป่ยหานชื่นชอบการพนัน พนันสิบครั้งแพ้ไปเก้า แต่ก็ยังสามารถหลบหนีจากสายตาของนายหญิงแก่และนายท่านไปได้อย่างประสบความสำเร็จ ข้อนี้นอกจากคนตระกูลหลิ่วรบมถึงหลิ่วหม้านหยุนถูกกักอยู่ในกะลาแล้ว แต่โล่กงยี่ซึ่งเป็นคนนอกคนนี้กลับตาสว่างเชียวล่ะ “ถ้าหากไม่เชื่อ เจ้าก็ลองไปถามลุงสองของเจ้า หลิ่วเป่ยหานดูสิ” โล่กงยี่กล่าวเสร็จ ก็นอนราบบนเตาอบ หันหลังให้นาง หลิ่วเป่ยหาน ดูท่าแล้ว ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่หนึ่งในนั้น โล่กงยี่ก็รับรู้ด้วย ส่วนตนเองและตระกูลหลิ่วที่เป็นพี่น้องท้องเดียวกันกลับถูกหลอกอยู่ในกะลาอย่างนั้นหรอกกระมัง นึกถึงขั้นนี้แล้ว หลิ่วหม้านหยุนก็เดินไปยังข้างเตาอบอย่างไม่เชื่องไม่ช้า ออกแรงผลักแผ่นหลังของโล่กงยี่ “โล่กงยี่ คืนนิ้ ข้าไม่สนว่าท่านจะเป็นอย่างไร ถึงอ่างไรท่านก็ต้องพูดให้ข้าฟังอย่างแจ่มแจ้ง ลุงสองหลิ่วเป่ยหานของข้าเป็นอะไรไป” “อยากให้ข้าพูด?” ทันทีทันใดนั้น สายตาของโล่กงยี่ก็จับจ้องที่หลิ่วหม้านหยุนเขม็ง ทนสบสายตากับนางอย่างจริงใจแทบจะไม่ไหว “แน่นอน” คืนนี้หลิ่วหม้านหยุนจำต้องให้เขากล่าวออกมาให้ได้ ไม่เช่นนั้น นางอาจจะนอนไม่หลับทั้งคืนก็เป็นไปได้แล้วจริงๆ โล่กงยี่พยักหน้า มือหนาของเขาตบบนขอบเตา “ง่ายมาก เจ้าขึ้นมา โผเข้าสู่อ้อมแขนสามี จากนั้นเปลื้องอาภรณ์ของเจ้าเสีย สามีก็จะตอบตกลงเจ้า...” คนขี้โกงหน้าตาย... หลิ่วหม้านหยุนกัดฟันจนเกือบจะมีของเหลวสีแดงไหลออกมา ชายหนุ่มน่ารังเกียจเบื้องหน้ากำลังหยอกล้อกับนางอยู่แท้ๆ ทว่านางกลับไม่มีเรี่ยวแรงไปต่อกรสักนิด ทำได้เพียงทำตามที่เขาบอก “รีบพูดเร็วเข้า ท่านจะพูดหรือไม่” ในเวลาเพียงพริบตา หลิ่วหม้านหยุนก็ขึ้นคร่อมบนส่วนเอวของชายหนุ่ม สองมือกุมคอของเขาอย่างดุดัน พลางเอ่ยถาม “ไม่พูดล่ะก็ ข้าจะตัดรากถอนโคกชีวิตท่านเสีย” มือของหญิงสาวขยับช้าๆ การกรำทเช่นนี้ ทำให้โล่กงยี่สูญเสียความอดทนแล้วจริงๆ “ผู้หญิงใจอำมหิตอย่างเจ้า นึกอยากจะฆ่าสามีตัวเองก็เอาเถิด อยากใช้ชีวิตเป็นม่ายก็เอาเสีย ชะตาสามีขาดแล้ว มีข้อดีอะไรกับเจ้า...” ประโยคนี้ เพียงพอจะทำให้พวงแก้มของหลิ่วหม้านหยุนร้อนระอุ บางที โล่กงยี่รู้ดีว่าหญิงสาวจะเป็นอีหรอบนี้ เขาจับแขนทั้งสองข้างของหญิงสาวเอาไว้ จากนั้นก็พลิกกายขึ้นคร่อม กดหญิงสาวเอาไว้ใต้อาณัติ โชคดีที่ความหนาของเตาอบนั้นยังได้อยู่ พอที่จะรับน้ำหนักของคสองคน แน่นอน หลิ่วหม้านหยุนเองก็จะล้วงความลับของลุงสองหลิ่วเป่ยหานจากปากของโล่กงยี่ให้จงได้ ความลับนี้ พูดอย่างกวดขันสักหน่อย ก็ไม่ใช่ล้วงออกมา แต่เป็นโล่กงยี่ตั้งใจจะบอกหลิ่วหม้านหยุนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
已经是最新一章了
加载中