ตอนที่ 52 ความห่วงใยที่ไม่ชัดเจน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 52 ความห่วงใยที่ไม่ชัดเจน
ตอนที่ 52 ความห่วงใยที่ไม่ชัดเจน ในตอนนี้ เตชิตอยู่ที่อพาร์เมนต์สุดหรูที่ตั้งอยู่ข้างบริษัท พึ่งจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ได้รับโทรศัทพ์จากธนัท คิ้วของเขาขมวดแปลกใจเล็กน้อย“นายพูดว่าใครนะ?” ธนัทพูดยั่วยวนเขา“ก็นัชชาไง ทำไมฟังแล้วรู้สึกว่าแอบซ่อนสาวไปไม่น้อยนะ” เตชิตไม่มีอารมณ์มาเล่น ถือโทรศัพท์เดินไปที่เครื่องทำน้ำรองแก้วเครื่องรินน้ำฟองออกมา ของเหลวที่กระตุ้นลำคอชั่วขณะ เขาก็พูดว่า “ฉันไม่ไปนายก็จัดการไปแล้วกัน。” “เฮ้อคนของนายฉันจะจัดการได้ยังไงหล่ะฉันเห็นเธอดื่มไปไม่น้อยเลยนะคาดว่าน่าจะตื่มไปแปดถึงเจ็ดเลยนะนายไม่กลัวว่าระหว่างฉันจะคิดไม่ดีไม่ร้ายหรอ”แม้ว่าธนัทจะไม่ได้ชอบนัชชาเป็นพิเศษแต่เรื่องของความรู้สึกเดิมที่แล้วก็เป็นเรื่องของคนสองคนถึงเตซิตจะชอบความคิดของเขาแต่นั่นก็ไม่ได้สำคัญแล้ว ความตั้งใจแต่เดิมแล้ว เขาก็ยังหวังว่าเตชิตจะมา ถึงอย่างไรก็ตามสองวันนี้ที่เขาทะเลาะกับนัชชาคนที่เจอกับความหายนะก็ไม่ใช่เขา ไม่มีอะไรทำก็ให้เขาเข้าประชุมทำงานนอกสถานที่ไปคบค้าสมาคมกับลูกค้าทำให้เหมือนกับคนบ้างาน การมีความรักก็เป็นประโยชน์ต่อเขา ทำให้หันเหความสนใจ เตชิตท่าทางที่กำลังจะวางโทรศัพท์“นายกล้า?” ธนัทก็หัวเราะขึ้น “ในเมื่อนายเป็นห่วงเขาทำไมไม่มาดูเองหล่ะทำแบบนั้นไม่เหนื่อยหรอ……ฮัลโหลฮัลโหล?” ยังพูดไม่ทันจบ โทรศัพท์ก็ถูกวางสายไป ธนัทนำโทรศัพท์ออกจากหูแล้วมองดูจอโทรศัพท์“เยือกเย็น。” นัชชากับเตชิตทั้งสองบ้านนี้อยู่คนคนละทิศทาง เตนัทลอว์เฟิร์มอยู่ที่ตะวันออกสุด อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองมากไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควร ธนัทคำนวณแล้วก็คิดว่าจะไปส่งเธอก่อน มิเช่นนั้นก็ยังต้องขับกลับไปกลับมา “คุณธนัทขอบคุณมากเลยนะคะ。”ในขณะทางอาการเมาของนัชชาก็เริ่มหายไปก็รู้สึกตัวขึ้นมานิดหน่อยรู้สึกเกรงใจก็กล่าวคำขอบคุณธนัท。 “ไม่เป็นไรครับ。”ประจวบเหมาะขับทันไฟแดงทางแยกพอดีธนัทขับรถมาอยู่ใต้ไฟจราจรเขาหันหัวไปทางเธอช่วงนึง“คุณกับเตชิตช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นหรอครับ?” “เอ่อ……”นัชชารู้สึกสับสนและมองไปที่ธนัทไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดีความสัมพันธ์ของเธอและเตชิตเหมือนกับว่าไม่ใช้เรื่องที่สามารถพูดคุยกับพวกเพื่อนสนิทได้。 ธนัทมองหน้าเธอที่เต็มไปด้วยความสับสนก็สายหัวไปมาอย่างจนปัญญา “ถ้ารู้สึกว่าไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไรถึงเตชิตเขาจะดูเป็นคนที่เย็นชาแต่แท้ที่จริงแล้วเขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญต่อความรู้สึกเมื่อคุณเข้าใจมากขึ้นเดี๋ยวคุณก็รู้เอง。” นัชชาไม่เข้าใจว่าทำไมธนัทต้องพูดกับเธอเรื่องนี้ เธอทำได้เพียงคล้อยตามและพยักหัว“โอเคค่ะ。” รถขับถึงเตนัทลอว์เฟิร์มก็เกินเวลาเที่ยงคืนไปแล้ว นัชชาลงจากรถก็ไม่ลืมที่จะกำชับธนัทให้ส่งจินต์ถึงบ้าน “คุณธนัทคะจริงๆแล้วเพื่อนของฉันเป็นแฟนคลับน้อยๆของคุณนะคะเขารู้สึกเคารพนับถือคุณมากเลยนะคะ。”คำพูดพวกนี้นัชชาไม่ได้พูดโกหกก่อนหน้านี้จินต์เลื่อมใสศรัทธ าเขาจริงๆ。 ธนัทนึกถึงตอนที่จินต์ตะโกนเรียกตัวเองว่า อ่อนแอ แบบนั้นก็ไม่ได้จริงใจ แวบมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นที่กำลังนอนอย่างสบายอยู่ที่เบาะหลัง“ไม่ต้องเป็นห่วงครับผมไม่ทิ้งเธอไว้กลางทางแน่นอนคุณรีบเข้าไปเถอะครับ。” นัชชากล่าวขอบคุณอีกครั้ง ครั้งนี้ก็ได้หันตัวเดินไปทางประตูทางเข้า。 แสงในยามราตรีไฟข้างทางที่มืดสลัวลมเย็นพัดผ่าน กิ่งของต้นไม้ที่แกว่งไปมา นัชชาอดไม่ได้ที่จะเอาเสื้อผ้าห่อปิดคลุมตัวไว้ ยืนแอบอยู่ที่ประตูแล้วใช้เท้าเปิดประตูหัวไม่หันกลับแล้วแอบย่องเข้าไป และใต้ต้นไม้หนึ่งที่ไม่ไกลจากประตูมากนัก มีรถเบนซ์จอดอยู่อย่างเงียบๆ ไฟของรถก็ปิดหมด นี่ถ้าไม่ได้ลดกระจกลง คงคิดว่าในรถนั้นไม่มีใครอยู่ ที่พื้นช้างล่างนอกรถก็ยังคงหลงเหลือเศษหัวของบุหรี่ตกไว้และก็ไม่รู้ว่าบุคคลนี้มานานแค่ไหนและรอนานแค่ไหนแล้วมองดูไฟที่คฤหาสน์ทั้งเปิดและจนดับไปจากนั้นรถก็ค่อยขับออกไป …… นัชชาเมาหนักมาก เมาค้างจนส่งผลทำให้วันที่สองก็ยังคงไม่ตื่น ลืมตาตื่นก็ปาเข้าไปแปดโมงเช้าแล้ว ตอนแปดโมงครึ่งเธอก็ต้องไปทำงานแล้ว …… กินข้าวไม่ทัน ทั้งเสื้อผ้าก็ไม่มีเวลาที่จะเปลี่ยน ล้างหน้าล้างตาอย่างรีบร้อนออกไป แต่ถึงยังไงเรียกรถไปบริษัทกว่าจะถึงก็เกือบๆเก้าโมงเข้าไปแล้ว ตนเองคิดว่าต้องโดนด่าแน่ๆ แต่คิดไม่ถึงว่าเวทิดาจะไม่อยู่ห้องทำงาน นัชชากำลังโล่งใจ แก๋ก็เกินเข้ามาอย่างร้อนรน“เธฮหยุด ได้แล้วรีบไปที่ห้องประชุมA3สิ。” นัชชาไม่เข้าใจ“ห๊ะ?” แก๋จ้องเธอตาโต“อย่าบอกนะว่าเธอลืมว่าวันนี้มีประเมินผลตรวจสอบคนทำงานใหม่……” “ตายแล้ว!”นัชชาหน้าซีดลง“ฉันลืมจริงๆ!” “เร็วๆนำพวกไฟล์เอกสารที่เธอใช้ประจำกับสมุดจดไปทำเวลาหน่อยก็ยังทันนี่พึ่งผ่านไปยี่สิบนาทีเองได้ยินมาว่าคุณเตชิตมาด้วยตนเองเลยนะเธอก็ดูๆแล้วกัน่าแอบย่องเข้าไปได้ไหม。” นัชชาเดิมทีก็กลัวๆอยู่แล้วนี่ยิ่งได้ยินว่าเตชิตมาด้วยตนเองเธอยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ มากจนกระทั่งเธออยากยกเลิกมัน“ฉันคือฉัน ถ้าตอนนี้นี้จะขอลาหยุดยังทันไหม?” แก๋พยักหน้า“ฉันคิดว่าถ้าเธอลาออกซะตั้งแต่ตอนนี้ก็ยังทัน。” “……” “เอาเถอะเธอรีบไปซะไม่ต้องมานั่งคิดอะไรเยอะแยะแล้ว。” นัชชาไม่มีทางเลือกเก็บของเสร็จในใจตึงเครียดเป็นกังวลอย่างมากในขณะที่เดินไปห้องประชุมA3。 หนึ่งก้าวสองก้าวยิ่งเดินเข้าใกล้เท่าไหร่ในใจของเธอก็ยิ่งดิ่งลงไป。 มันไม่ง่ายเลยกว่าที่เธอจะเดินถึงหน้าประตูเธอถอนหายใจเฮือกหนึ่งเคาะบานประตูที่ปิดอยู่อย่างแน่นได้ยินเสียงขานรับอนุญาตเธอก็ผลักประตูเข้าไป。 ข้างในห้องประชุมขนาดใหญ่มีการจัดที่การนั่งอย่างเป็นระเบียบอยู่สองแถวที่ตรงกลางสุดในตอนนี้เป็นบุคคลที่เธอไม่พบมาหลายวันแล้ว ใช่ นั้นคือเตชิต。 นิ้วของเธอขดตัวขึ้นมานี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้รับควากดดันจากทางสายตาของผู้นำบริษัทหลายๆคน เธอรู้สึกใจฝ่อนิดหน่อย “เธอมาหาใคร?” นัชชากระไอกระแอม“ดิฉันดิฉันมาเข้ารับประเมินผลคนทำงานใหม่ค่ะ……” เสียงพูดหยุดลง ทุกคนขมวดคิ้วขึ้นมาเวทิดาซึ่งเป็นคนผู้นำของเธอก็รู้สึกเสียหน้าบวกกับความรู้สึกส่วนตัวก็วิจารณ์อย่างไร้ความปราณี“รู้ไหมว่าการประเมินผลเริ่มตอนกี่โมง?” นัชชาสะอึก“แปดโมงครึ่งค่ะ。” “แล้วตอนนี้กี่โมงแล้ว?” “……”ที่ถูกถามมานัชชาทำให้นัชชาพูดไม่ออกรู้สึกโกรธตัวเองเสียดายว่าทำไมเมื่อคืนเธอต้องไปดื่มเหล้าด้วยนะ。 “การที่จะเป็นพนักงานมีคุณภาพ พื้นฐานที่สุดคือการ ปฏิบัติตามกฎ และข้อบังคับ การมีแนวคิดของเวลา ถ้าพื้นฐานสุดคุณยังทำไม่ได้งั้นคุณก็ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการประเมิน”เวดิดาพูดได้โหดร้ายมากเธอไม่ได้ทำเหมือนกับว่าเห็นว่านัชชาเป็นพนักงานของตัวเองเลยด้วยซ้ำ。 อย่าว่าแต่การปกป้องหรือเข้าข้างเลย คนที่ซ้ำเติมก็เป็นคนนั้นที่โหดร้ายที่สุด ถูกด่าต่อหน้าคนมากมาย เธอที่หน้าหนาที่ถูกต่อว่าก็ยังหน้าแดงเป็นเลือดฝาด เธอโค้งก้มหัวลงเล็กน้อย เพราะเหตุนี้เธอจึงพลาดสายตาของคนที่นั่งอยู่ที่นั่งหลัก บรรยากาศในห้องประชุมมีความเย็นเล็กน้อยปวิมลมองดูฉากตรงหน้าดูเหมือนเธอไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงเยอะก็ชนะนัชชาแล้ว。 คิดแบบนี้ เธอก็มีความรู้สึกดีใจ เตชิตมองดูร่างของผ็หญิงที่ยืนอยู่ตรงประตูแทบจะนิ่งแข็งไม่ไหวติง หลายอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะหลบเลี่ยงเธอวันนี้ที่ได้เห็นเธอรู้สึกว่าผอมลงไปหน่อย หน้าก็ดูผอมลง คางก็ดูเรียวขึ้นมาก เขาไม่อยู่ ชีวิตเธอก็ผ่านไปอย่างไม่ค่อยดีนัก พอเขารู้อย่างนี้ทำให้ความทุกข์ปรากฏรอยอยู่ภายในใจเขาเล็กน้อย เขามองที่เวทิดาแวบหนึ่งหลังจากนั้นก็ยังคงโจมตีเธอ หน้านิ่วคิ้วขมวด นิ้วที่วางอยู่บนโต๊ะก็ขยับเล็กน้อย เตรียมพร้อมที่จะพูดแต่ก็มีเสียงผู้ชายดังแทรกขึ้นมา “เมื่อเช้าวันนี้ผมให้นัชชากลับไปเอาเอกสารมาให้ผม อาจจะทำให้เธอเสียเวลาไปหน่อยในฐานะที่ผมเป็นผู้นำของทนายต้องแสดงความรับผิดชอบครั้งนี้อนุญาตให้คุณเข้าร่วมการทดสอบได้ครั้งหน้าอย่าเป็นแบบนี้อีกรู้ไหม?”
已经是最新一章了
加载中