ตอนที่ 67 เด็กสาวผู้โง่เขลา(2)   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 67 เด็กสาวผู้โง่เขลา(2)
ตอนที่ 67 เด็กสาวผู้โง่เขลา(2) ทันใดนั้นเหล่าลูกศิษย์ก็กระจายตัวกันไปล้อมซินเหยาไว้ นายท่านโจ๋วพูดอย่างโมโหออกมาว่า “พวกเจ้าทำอะไร? คนอื่นช่วยชีวิตพวกเจ้าไว้พวกเจ้าจะตอบแทนเจ้าด้วยการทำเช่นนี้หรือ?” โจ๋วเส้าฉีตอบกลับไปว่า “นางไม่ได้มาเพื่อยั่วยุหรือ?” นายท่านโจ๋วพูดว่า “เจ้านี่ดูไม่ออกหรือว่าแม่นางท่านนี้กำลังช่วยตระกูลโจ๋วของพวกเราอยู่” โจ๋วเส้าฉียืนนิ่ง “ถอยออกไป” นายท่านโจ๋วตะโกนออกคำสั่ง เหล่าลูกศิษย์ต่างพากันถอยหลังออกไป ซินเหยายิ้มออกมาเล็กน้อยยกมือคารวะ “นายท่านโจ๋วช่างเป็นคนน้ำใจกว้างจริงๆ สมแล้วที่เป็นสุดยอดปรมาจารย์ที่น่านับถือข้าน้อยขอชื่นชม!” นายท่านโจ๋วถามคำถามด้วยจิตใจพะวง “แม่นาง ทำไมถึงยอมเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของท่านให้ตาแก่หานดูแต่กลับไม่ให้พวกข้าได้เห็น? แล้วทำไมถึงยอมบอกวิชาที่ท่านฝึกฝานให้แก่เขาแต่กับพวกเราท่านไม่ยอมเปิดเผย?” ซินเหยาตอบกลับไปว่า “นายท่านกำลังอิจฉา” แท้จริงแล้วใจของนายท่านโจ๋วนั้นชัดเจนเลยว่ากำลังรู้สึกพะว้าพะวังและเป็นห่วง ในฐานะนักบู๊อันยิ่งใหญ่ชื่อเสียงนักกระบี่ระดับหนึ่งอันจอมปลอมนั้นสำหรับนายท่านโจ๋วแล้วมันเป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน การแสวงหาไต่สู่จุดสูงสุดของวิชาศิลปะการต่อสู้ต่างหากที่เขานั้นให้ความสำคัญ ในวันนี้ได้เห็นวิชาทักษะกระบวนท่ากระบี่อันเลิศล้ำด้วยตาตัวเองแล้ว แต่กลับไม่สามารถรู้ได้ว่าคือวิชาอะไร ใจของเขาก็รู้สึกผิดหวังและค้างคา ซินเหยาคิดอยู่สักครู่นึง “นายท่านโจ๋ว พวกเราคุยกันส่วนตัวได้หรือไม่?” นายท่านโจ๋วพยักหน้าและโบกมือออกคำสั่ง “พวกเจ้าออกไปให้หมด!” “ท่านพ่อ...” “ออกไป!” “ขอรับ!” โจ๋วเส้ากวางพยุงร่างที่บาดเจ็บของโจ๋วเส้าฉีออกไปและสั่งให้ลูกศิษย์คนอื่นออกจากห้องโถง “นายท่านโจ๋ว ข้าน้อยถอดหน้ากากออก นายท่านได้โปรดอย่าตกใจ” ซินเหยาถอดหน้ากากของตัวเองออกช้าๆ เผยให้เห็นใบหน้าอันสวยงาม นายท่านโจ๋วตกตะลึง “เจ้า...เจ้า...ซินเหยา เป็นเจ้าได้อย่างไร?” ซินเหยาพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน “ท่านปู่! ข้าขอโทษจริงๆ วันนี้ที่ฉองเทียนโหลว หลานไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายท่านปู่” นายท่านโจ๋วโบกไม้โบกมือ “ตอนนั้นเจ้าก็ยังออมมืออยู่ ปู่ไม่ว่าเจ้าหรอก แต่ว่า...ทำไมกาต่อสู้ของเจ้าถึง...” ซินเหยาหัวเราะออกมาเล็กน้อย “ท่านปู่ไม่ได้อยากรู้วิชากระบี่ที่ซินเหยาฝึกหรอกหรือคะ” นายท่านโจ๋วตอบว่า “ใช่ ใช่ วิชาที่ปู่ฝึกมาทั้งชีวิต นอกจากกระบี่หลีฮัว ทุกอย่างที่ข้ารู้เกี่ยวกับกระบี่ก็ไม่เคยเห็นแบบวันนี้...” “ท่านปู่ ที่ซินเหยาก็กระบี่หลีฮัวเนี่ยแหละค่ะ” “ห๊ะ!!” นายท่านโจ๋วตกตะลึงจากนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “ฮ่าฮ่า มิน่าละ ตอนนั้นที่ฉองเทียนโหลวข้าถึงรู้สึกแปลกๆ หนึ่งดาบได้ถึงสองแผลเป็นทักษะขั้นสูง ข้าก็เคยได้ยินท่านพ่อพูดว่านั่นคือศิลปะที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโจ๋วอี้เฉิน! ซินเหยา คาดไม่ถึงเจ้าจะฝึกกระบี่หลีฮัวจริงหรือ พูดอย่างไรดีละ ตอนแรกคือเจ้าใช่ไหมที่ขโมยคัมภีร์ไป?” ไม่กี่เดือนก่อนหน้า.... ซินเหยาและโจ๋วหยุ่นถิงฝึกถางเปิ่นเป้าที่บ่อนอึงทงหลังจากนั้นก็ถูกทำโทษด้วยกฎของตระกูล ในตอนนั้นนายท่านโจ๋วได้ให้ซินเหยาแสดงฝีมือการต่อสู้แต่ซินเหยาไม่อยากที่จะแสดงความเป็นสายลับของตัวเองออกมา จึงทำได้แค่แสดงฝีมือออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แอบขโมยถุงเงินของลุงสามรอค่อยให้คนซานายท่านโจ๋วถึงเพิ่งจะรู้ว่ากระบี่หลีฮัวนั้นถูกขโมยไป ตอนนั้นเขาสงสัยว่าเป็นซินเหยาแต่ก็ไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์ได้ และกระบี่หลีฮัวยังไม่เคยมีใครสามารถจับต้องได้มาเป็นร้อยปี นายท่านโจ๋วจึงเพียงแค่หวัง หวังว่าจะมีใครสักคนในตระกูล โจ๋วสามารถฝึกกระบี่หลีฮัวได้สำเร็จ ดังนั้นตอนนั้นเลยไม่คิดจะตามหาและเปิดเผยให้คนอื่นรู้ คาดไม่ถึงว่าวันนี้จะมีอัจฉริยะยอดเยี่ยมแห่งยุคปรากฏตัวออกมา เป็นผู้ที่ฝึกกระบี่หลี่ฮัวไร้เทียมทาน! “ที่จริงซินเหยาเพียงแค่จะแอบหยิบออกมาเล่นๆก็เท่านั้น ตอนหลังถึงมารู้ว่าตัวอักษรในคัมภีร์เป็นแบบเดียวกับที่ซินเหยาเคยใช้ตอนที่เคยอยู่ในหมู่บ้านในเขตภูเขา” “ด้วยความอยากรู้อยากเห็นซินเหยาก็เลยเปิดคัมภีร์และเริ่มฝึกกระบี่” “พอดีกับเรือนลั่วหวี่นั้นช่างเงียบสงบและสวยงามปกติแล้วจะไม่มีใครมาแวะเวียน” “ไม่กี่เดือนที่ได้ฝึกกระบี่เงียบๆตามลำพัง ซินเหยาก็ฝึกกระบี่หลี่ฮัวได้สำเร็จ หลังจากนั้นก็จะนำคัมภีร์กลับมาคืนท่านปู่ค่ะ” ซินเหยานั้นพูดความจริงแปดจากสิบที่เหลือคือปั้นแต่งเรื่องขึ้นมาเองนางระมัดระวังในการเล่าเรื่องเป็นอย่างมาก “เด็กน้อย แขนของเจ้าเลือดไหล” นายท่านโจ๋วจับมือน้อยๆของซินเหยามองไปที่เลือดตรงบาดแผลที่แขนของนาง “ไม่เป็นอะไรมาก ท่านปู่” “ในที่สุดตระกูลเราก็มีคนสืบทอดแล้ว!” นายท่านโจ๋วปลอบอย่างอ่อนโยน ฝ่ามือหนาถูกซ่อนไว้ข้างหลังอย่างรวดเร็ว เลือดของซินเหยาหยดลงบนฝ่ามือ... โจ๋วปี้หลัวกล่าวหาว่าซินเหยานั้นโกหกเพราะเลือดหยดเดียวที่จะพิสูจน์สายเลือดบริสุทธิ์นั้นได้เปิดเผยตัวตนของนาง ที่จริงแล้วนางนั้นไม่ใช่สายเลือดแท้ๆของตระกูลโจ๋ว นายท่านโจ๋วนั้นไม่เชื่อในคำพูดของโจ๋วปี้หลัว ถ้าไม่ได้ยืนยันด้วยตนเองเขาก็ไม่วางใจ ซินเหยานั้นเป็นลูกสาวตระกูลโจ๋วจริงหรือไม่? เพียงแค่หยดเลือดหนึ่งหยดอีกครั้งก็จะได้รู้ความจริงแล้ว! ถ้าหากว่านางเป็นลูกหลานของตระกูลโจ๋วจริงๆก็นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง ตระกูลโจ๋วก็จะมีผู้มีพรสวรรค์เพิ่มขึ้นมาอีกคน แต่หากว่านางไม่ใช่.... วิชากระบี่หลี่ฮัวที่หายสาบสูญไปนานของตระกูลโจ๋วก็จะตกไปอยู่กับคนนอกตระกูล! ซินเหยาจะกลายเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดของจวนอ๋องโจ๋วนับแต่นี้ไป จวนอ๋องโจ๋วไม่เสียดายที่จะพลีชีพเพื่อยทุกคนและปกป้องกระบี่หลีฮัวไว้ให้ได้! ในเมื่อครั้งที่แล้วการพิสูจน์เลือดบริสุทธิ์จะเป็นปัญหาขัดแย้งกัน แต่ในคราวนี้นายท่านโจ๋ววางแผนที่จะพิสูจน์สายเลือดบริสุทธิ์เพียงคนเดียว จะไม่มีอะไรมาขัดขวางการพิสูจน์ว่าซินเหยานั้นเป็นลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลโจ๋วหรือไม่! ซินเหยาพูดว่า “ท่านปู่ ซินเหยาไม่ได้ตั้งใจที่จะปิดบัง แค่ไม่ร็จะพูดมันออกไปยังไง ตั้งแต่ที่ท่านพี่สี่ถูกขับไล่ออกจากจวนอ๋องโจ๋วจากนั้นซินเหยาก็ไม่กล้าที่จะทำผิด” “เจ้าเด็กโง่เอ๋ย เจ้าคือความภาคภูมิใจของตระกูลโจ๋ว!” นายท่านโจ๋วฟังจบก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “ฮ่าฮ่า! ฮ่าฮ่าฮ่า! ในที่สุดตระกูลโจ๋วของเราก็มีผู้มีพรสวรรค์มาอีกคนแล้ว!” “ท่านปู่ไม่โกรธข้าก็ดีใจ หวังว่าตัวตนของซินเหยาท่านปู่จะเก็บมันไว้เป็นความลับ ซินเหยาพิสูจน์กำลังของตัวเองจึงต้องใช้กุหลาบดำปกปิดตัวตน ลงโทษคนชั่ว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาให้กับจวนอ๋องโจ๋ว ซินเหยาไม่ควรอยู่ที่นี่นานเกินไป ถ้าหากท่านปู่มีเรื่องอะไรก็จงส่งคนไปหาซินเหยาที่ร้านพักป่ายเหอนะคะ” “ซินเหยา เจ้าอยู๋ข้างนอกคนเดียวก็จงระวังตัว” “ค่ะ” “ถ้าหากไม่มีเรื่องให้ต้องกลับจวน ปู่จะคอยเจ้าอยู่ที่เรือนลั่วหวี่” “ขอบเจ้าท่านปู่” ซินเหยาสวมหน้ากากเข้าอีกครั้ง และเหาะออกไปทางหลังคาฉับพลันหายไปท่ามกลางความมืดมิด....
已经是最新一章了
加载中