ตอนที่53 ความตำหนิกับความน้อยใจ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่53 ความตำหนิกับความน้อยใจ
ตอนที่53 ความตำหนิกับความน้อยใจ นัชชาตะลึง นภันต์ให้เธอไปช่วยเอาเอกสารเมื่อไหน...... แต่เสี่ยววินาทีต่อมา เธอก็เข้าใจทันที นี่เขากำลังช่วยเธออยู่ นัชชาถอนหายใจ “ขอโทษที่ให้ทุกคนรอนานค่ะ” ในฐานะทนายความระดับทองในเตนัทลอว์เฟิร์ม นภันต์ได้บอกไปแล้ว คนอื่นก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก เวทิดามีแต่แสร้งทำเป็นใจกว้างเร่งให้เธอรีบเข้ามานั่ง นัชชานั่งลงก็หันไปมองนภันต์ด้วยความขอบคุณ แต่เขากลับไม่แสดงสีหน้าอะไร แถมยังเขม็งเธอด้วยสายตาเย็นชา แล้วเริ่มก้มหน้าไปอ่านเอกสารบนโต๊ะ การอินเทอระหว่างสองคนนี้ไม่ได้พ้นสายตาของเตชิต บนหน้าที่มืนครึ้มของเขาราวกับเมฆมืดบนฟ้า แม้ตรัณที่นั่งข้างๆก็ได้รู้สึกถึง แต่ไม่ว่ายังไง การประเมินก็ได้ตำเนินต่อไปได้ราบรื่น พนักงานใหม่ของกลุ่มอื่นไปรายงานตามคิว แต่พอถึงปวิมลกับนัชชา ปวิมลก็เสนอว่าเธอไปเป็นคนแรก บอกว่าจะให้เวลาให้นัชชาไปเตรียมตัว เดิมนัชชายังไม่เข้าใจว่าทำไมเธอจะใจดีขึ้น พอวานของเธอปรากฏในเครื่องฉาย เธอถึงเข้าใจว่าทำไมปวิมลเสนอขึ้นไปเป็นคนแรก นอกจากคดีที่ต่างรับผิดชอบกันไม่เหมือนกัน งานส่วนอื่นเหมือนของเธอหมด แม้ความรู้สึกตอนท้ายก็ไม่ต่างกับของเธอเลย นัชชามองดูเธอค่อยรายงานบนเวธี ตัวของเธอค่อยเย็นลง เธอมองดูใบหน้าที่ยิ้มแย้มของปวิมล เหมือนคนนั้นก็ได้รู้สึกถึง แล้วหันมามองเธอเช่นกัน สายสองคู่ชนกัน นัชชาได้เห็นความท้าทายและความเยาะเย้ยในสายตาของเธอ ปวิมลขโมยPPTของเธอไป การรายงานครึ่งช่มโมงเสร็จสิ้น ในห้องประชมมีเสียงปรบมือดังขึ้น แขนสองข้างของนัชชากับหนักแน่นจนยกไม่ขึ้น การกระทำของเธอในสายตาคนอื่นกลับเป็นการตระหนี่ “คนต่อไป นัชชา” นัชชาได้ยินมีคนเรียกชื่อของเธอ แต่สิ่งรอบๆกลับเหมือนหายไป เธอกำดิสก์ Uในมือแน่ๆ ฝ่ามือมีเหงื่อเย็นออกมาทันที เธอยังคงนั่งบนที่นั่งเธอไม่ได้ขยับ “นัชชา ถึงเธอแล้ว”นภันต์ขมวดคิ้ว แล้วเตือนเธอด้วยเสียงเบาๆ นัชชามองไปยังเขา น้ำเสียงแหบแห้ง“ฉัน.....” เห็นเธอมีท่าทางผิดปกติ นภันต์ได้ปรากฏความผิดปกติของเธอทันที“เป็นอะไร” ไม่รอให้เธอตอบ ผู้ชายที่นั่งอยู่ที่นั่งหลักก็เอ่ยปากขึ้น“ถ้าไม่กล้าขึ้นมาก็ถือว่าสระสิทธิ์” เธอไม่มีทางเลือกแล้ว เดินขึ้นบนเวทีรายงาน แล้วนำดิสก์ Uให้พนักงานฉายข้างๆ แล้วPPTของเธอปรากฏออกมา เธอได้ยินเสียงกระซิบของคนอื่น นัชชามองไปยังปวิมล เธอหัวเราะอยู่ รอยยิ้มที่ไม่ปิดบังและเยอาะเย้ยแบบนั้นทำให้สติที่เหลือเส้นสุดท้ายของเธอหักไป เธอบังคับให้ตนเองสงบลง และเริ่มรายงานด้วยสีหน้าปกติ ยังไม่กล่าวหน้าที่หนึ่งเสร็จก็โดนเรียกให้หยุด “เนื้อหาในPPTของคุณเหมือนของปวิมล ถ้าเนื้อหาข้างหลังก็เหมือนกัน งั้นก็ไม่ต้องพูดซ้ำอีกครั้ง” นัชชาสูบหายใจเข้าลึกๆ สายตามั่นคงและจริงจัง“เนื้อหาในPPTของเราเหมือน แต่ก็ไม่เหมือนกัน” “หมายความว่ายังไง” “เพราะ......”นัชชาชี้ไปยังปวิมล“เขาขโมยเนื้อหาของฉันไป” “นี่คุณพูดเหลวไหลอะไร”ปวิมลยืนขึ้นมา แสร้งท้เป็นไม่กล้าเชื่อ“คุณเองไม่ตั้งใจทำ จะมาโทษฉันได้ไง อีกทั้ง เมื่อกี้ฉันก็พูดเสร็จไปแล้ว ตอนนี้คุณถึงมาพูดแบบนี้ ไม่ใช่ ไม่ใช่ตั้งใจใส่ร้ายหรอ” “คุณรายงานเสร็จแล้วก็จริง แต่คุณพูดไม่ถูก”นัชชาหาหนึ่งหน้าในนั้นออกมา“คุณขโมยเนื้อหาของฉันได้ แต่คุณขโมยความหมายที่ฉันอยากกล่าวออกมาไม่ได้” “นี่..”ปวิมลโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ไม่คิดเลยว่านัชชาจะเปิดเผยตนเองต่อหน้าผู้คน สายตาของเธอมีความหวาดผวาแวบไป“นี่คุณใส่ร้ายฉัน” “ใช่ฉันใส่ร้ายคุณรึเปล่าเดี๋ยวก็รู้” พนักงานใหม่ทำฉากโวยวายแบบนี้ต่อหน้าผู้ใหญ่ มันไม่ดีมาก แต่นัชชายืนยัน เลยต้องให้เธอรายงานต่อ เดิมนัชชาตื่นเต้นมาก แต่พอผ่านฉากนี้ไปเธอกลับหายตื่นเต้นแล้ว ยังไงผลร้ายก็ไม่แย่กว่าตอนนี้หรอก เธอก็รายงานของเธอไป ส่วนคนอื่นจะตัดสินยังไงก็ไม่ใช่เรื่องของเธอ รายงานทั้งหมดลงมา แม้ยังมีบางส่วนแตกต่างกับปวิมล และความเห็นก็เข้าลึกด้วย แต่เนื้อหาส่วนมากยังเหมือนกันอยู่ จะตัดสินว่าใครเป็นผู้ขโมย มันไม่ง่ายเลยจริงๆ ทั้นไดนั้นนัชชาคิดได้ขึ้นมา แล้วหาหน้าหนึ่งออกมา“เมื่อกี้ปวิมลได้พูดถึงการต้อนรับ แต่ฉันเหมือนจำได้ว่า คุณยังไม่ได้ไปทำงานต้อนรับ ใช่ไหม” สีหน้าของปวิมลเปลี่ยนทันที เธอจำไม่ค่อยแม่นว่านัชชาพูดถึงเนื้อหาส่วนไหน“คุณพูดตรงไหน” “คุณไม่รู้หรอ”นัชชายิ้ม“ข้อเสียของสิ่งที่ไม่ใช่ของตนเองแสดงออกมาแล้ว แม้ตรงไหนมีข้อบกพร่องเธอก็ยังไม่รู้เลย ทั้งๆรายงานเสร็จแล้วยังจำไม่ได้แม่นกว่าฉันซะอีก” ปวิมลพูดไม่ออกอีก สีหน้าของเธอมีทั้งเขียวทั้งแดงสลับกัน ฉากนั้นดูอึดอักมาก สุกท้ายทายความแนะแนวของเธอทนดูต่อไปไม่ได้อีก จึงออกมาช่วยเธอบรรเทา แต่ในในคำพูดของเขาไม่มีความปกป้องเหมือนเมื่อกี้แล้ว ยังไงตอนนี้กำลังประเมินผลอยู่ ผู้ใหญ่ทุกคนล้วนอยู่ที่นี่ ไม่มีใครมีเวลาไปสืบหาว่าใครถูกใครผิด สำหรับพนักงานใหม่สองคนนี้ ต้องลบคะแนนแน่ๆ ใคร่ครวญไปสักพัก เตชิตที่นั่งเงียบอยู่ก็เอ่ยปาก แต่กลับพูดกับนัชชา“เธอบอกว่าเนื้อหาของเธอโดนขโมย” นัชชาคิดไม่ถึงว่าเขาจะถามเธอ เลยพยักหน้า“ใช่” “ฉะนั้นเธอคิดว่าเธอไม่ผิดช่ไหม”ไม่รอให้นัชชาติบกลับ เขาก็พูดต่อ“การเป็นทนาย แม้เอกสารสำคัญของตนเองก็ไม่ปกปิดให้ดี ผมจะเชื่อได้ยังไงว่าเธอจะไปปกปิดความเป็นส่วนตัวของลูกค้า” จู่ๆเขาตั้งคำถามขึ้นมา นัชชาจะรับมือกับเขาได้สักที่ไหน นอกจากอึ้งไป คำโต้ตอบคำเดียวก็พูดไม่ออก “เรื่องเนื้อหาโดนขโมยเอาไว้ก่อน แล้วเนื้อหาที่เอามารายงานของเธอไม่ได้ยอดเยี่ยมมาก และทุกเรื่องเธอก็ควรทำPlanBไว้ ไม่ใช่ให้การรายงานครั้งนี้กลายเป็นฉากเล่นละคร”เสียงของผู้ชายนั้นเย็นช้า แล้วก็ให้คำตัดสินของเรื่องเมื่อกี้ไป ฉากเล่นละคร เดิมนัชชาคิดว่าในสถานการณ์แบบนี้ เธอยังสามารถมีกานตอบสนองและอธิบายมันก็ดีพอแล้ว แต่ในสายตาพวกเขา นี่แค่เป็นละครฉากหนึ่ง ความพยายามทั้งหมดไม่ได้รับความยืยยัน นี่ทำให้ดวงตาของนัชชาเริ่มร้อนขึ้นมา เธอรีบหลับตา แล้วกลั้นความร้อนนั้นเอาไว้ “การประเมินครั้งนี้ เธอสองคนไม่มีคะแนน คราวหน้าถ้ายังมีเหตุการแบบนี้ ก็ใส่หัวไปหมดเลย”เตชิตยืนขึ้นมา เมื่อผ่านข้างกายนภันต์ เขาหยุดฝีเท้า“อีกทั้ง เตนัทไม่ต้องการหัวหน้าที่ปกปิดลูกน้อง เลิกประชม” ผู้ชายคนนั้นก้าวเท้าออกไป คนในห้องประชมก็เดินตามออกมา นัชชาใจลอยนั่งบนที่นั่งของเธอ เห็นนภันต์เดินมา เธอรีบเอ่ยปาก“ขอโทษค่ะคุณนภันต์ ฉันอยากอยู่คนเดียว” พูดจบ เธอก็เก็บเอกสารหันตัวออกไป แล้วเจอตรัณที่ไปแล้วกลับมาอีกที่หน้าประตู เธอพยักหน้าเล็กๆแล้ววิ่งหนีไป ตรัณเอาแบบรายงานผลกลับไปสำนักงานประธาน มองดูบอสใหญ่ที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก ใคร่ครวณไปพักใหม่ เขายังคงพูดด้วยเสียงเบาๆ“ท่นประธาน เมื่อกี้ผมเจอคุณนัชชา เธอเหมือนร้องไห้แล้ว......”
已经是最新一章了
加载中