บทที่4 ความเกลียดสามารถเปลี่ยนคนคนนึงได้   1/    
已经是第一章了
บทที่4 ความเกลียดสามารถเปลี่ยนคนคนนึงได้
บทที่4 ความเกลียดสามารถเปลี่ยนคนคนนึงได้ “ตกลงนายจะทำอะไรกันเเน่?” พอรับสาย รินรดาก็ตหวาดใส่คนในสาย “นี่เธอ ผมบอกเเล้วว่าจะช่วยเธอ ก็จะช่วยให้ถึงที่สุด!” เสียงในโทรศัพท์เบามาก เเต่กลับมีความรู้สึกที่เชื่อมั่นโดยไม่สงสัย “ถ้านายจะเอาฉันเป็นมรดกสิ่งของ ฉันคิดว่าคุณเลือกผิดคนเเล้ว ถ้าเกิดว่าคุณมีเเผนกับสศิชา ก็ขอให้คุณใจดียอมปล่อยฉันไป ฉันเเย่มากเเล้ว คงจะเเพ้ต่ออีกไม่ไหวเเล้ว!”รินรดาพูดอย่างเหน็ดเหนื่อย “ผู้หญิง นี่เธอคิดจะยอมเเพ้ง่ายเเบบนี้เลยหรอ?” ถึงเเม้ว่าจะห่างกัน รินรดาก็รับรู้ถึงสิ่งที่เขาเก็บกดไว้ เเล้วตัวเธอเองก็คงไม่ปล่อยคนที่ทำร้ายเธอไป เเต่ว่า เขาบอกจะช่วยเธอ อย่างนั้นก็คงจะไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะไม่ใช่หลุมพรางของเขา? เรื่องเลวร้ายที่เธอเคยเจอมาก็เยอะมากพอเเล้ว ต้องเตรียมตัวรับมือไว้ “สิ่งที่นายทำอยู่ตอนนี้ ทำให้ฉันไม่สามารถเชื่อใจนายได้!” เหมือนรินรดาจะหมดเเรงลงเเล้ว จนยอมพูดคำนั้นออกมา “อย่าพึ่งพูดอย่างเด็ดเดี่ยวขนาดนั้น ในเมื่อเธอก็พูดเเล้ว ว่าเเพ้อย่างราบคาบเเล้ว ทำไมไม่เหลือความหวังสุดท้ายให้ตัวเองด้วย?” คำพูดของเขามันเป็นเเบบนี้ ดูเหมือนจะเรียบนิ่ง เเต่มักจะฉุดใจเธอในเวลาที่ไม่ได้สนใจ “นายเป็นใครกันเเน่?” รินรดาถามขึ้นอีกครั้ง “ผู้หญิง อย่าพึ่งใส่ใจเรื่องพวกนี้ พอถึงเวลาที่ควรให้เธอรู้ ผมก็จะบอกเธอเอง หลายวันมานี้ผมไปจัดการเรื่องต่างๆที่ต่างจังหวัดมานิดหน่อย เธอวางใจไว้ก่อน ดูเเลรักษาสุขภาพให้เเข็งเเรง อย่าให้ผมเป็นห่วง” “นาย” รินดายังอยากพูดอะไรบางอย่าง เเต่ฝ่ายตรงข้ามกลับตัดสายก่อน การกระทำที่เย็นชาของผู้ชาย เเต่กลับมีความห่วงใยอยู่ ทำให้เธอสับสน ถึงเเม้จะไม่เเน่ใจว่าผู้ชายคนนี้จะตั้งใจที่จะช่วยเธอรึเปล่า เเต่ว่าเห็นอาหารเช้าที่เขาจัดให้ รินรดาก็เหมือนจะไม่โมโหเเล้ว รินรดาก็คิดเข้าใจเเล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอเองก็คงต้องดูเเลสุขภาพของตัวเอง เพราะถ้ารักษาสุขภาพดี เธอเองถึงจะมีเเรงสู้กับคนคนอื่น พอกินข้าวเช้าได้ครึ่งนึง ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีก รินรดาลุกไปเปิดประตู พอประตูถูกเปิดออก เห็นหน้าของสศิชา ความโกรธในใจก็เริ่มปะทุขึ้นมาอีก เผชิญหน้ากับรินรดา สศิชาก็ทำเป็นพูดอย่างตกใจ “นี่พี่คะ เมื่อคืนคงร้องไห้ทั้งคืนสินะ?” “สศิชา เธอมาหาฉันเพราะอยากมีปัญหาหรอ?” รินรดาดักเธอไว้ที่หน้าประตู สศิชาไม่ได้รีบตอบอะไร เเต่กลับหันไปมองสังเกตห้องอันเเคบเเละเล็กของรินรดา เเสดงใบหน้าที่สมเพช ถึงเเม้จะเป็นลูกสาวของตระกูลบวรพลทั้งสองคน เเต่ถ้าเทียบกับสถานการณ์ของรินรดาในตอนนี้เเล้ว สำหรับพวกเธอสามารถพูดได้ว่าคนนึงคือบนฟ้า อีกคนคือบนดิน เเต่นี้ก็ไม่พอ เเค่เธอยังอยู่ ก็คือสิ่งที่คอยกดขี่เเม่ของเธอมากที่สุด “พี่คะ งั้นพวกเราก็อย่าพูดอะไรที่ไร้สาระ ที่ฉันมาหาพี่ ก็เพื่อมาจัดการเอกสารใบหย่าของพี่กับชฎายุ!” รินรดาค่อยนึกขึ้นได้ ก่อนที่เธอจะเเต่งงานกับชฎายุก่อนหน้านั้นหลายวันเธอไปจดทะเบียนสมรสกับเขามาเเล้ว พอถึงตอนนี้ ทะเบียนสมรสนี้ก็เป็นพิธีการเท่านั้น เเต่ว่า ถ้าเธอตอบตกลงหย่าให้ง่ายขนาดนี้ ก็คงจะใจดีกับสองคนนี้เกินไป? “รินรดา นี่เธอขอร้องฉันเเบบนี้หรอ?” สศิชาตั้งใจพูดช้าลง “พี่คะ ฉันว่าในเมื่อชฎายุก็ประกาศยกเลิกงานเเต่งต่อหน้าทุกคนเเล้ว เขาไม่ได้รักพี่เเล้ว พี่ก็ไม่ควรต้องพยายามต่อเเล้ว?” ในตาของสศิชาฉายเเววของความร้ายออกมา “จะพยายามหรือไม่พยายามต่อมันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอ เเค่ฉันไม่หย่า เธอก็จะเป็นได้เเค่นังเมียน้อยเท่านั้น!” รินรดารู้ดีว่าเธอกับชฎายุควรหย่ากันอยู่เเล้ว เเต่ว่าต้องไม่ใช่วิธีนี้ “รินรดา เธออย่ามาพูดดีด้วยเเล้วไม่เห็นค่านะ ตอนนี้ฉันคุยกับเธอดีๆ เธอไม่รับปาก พอฉันสุดจะทน เธอก็มีจุดจบเหมือนกับเเม่ของเธอ!” สศิชากัดฟันพูด เพี๊ย-----. สศิชายังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ถูกรินรดาตบ บนหน้าของเธอเเดงเเละเเสบร้อน ไม่พูดถึงเเม่ของตัวเองค่อยดีหน่อย เวลานี้สศิชาพูดถึงเเม่ของเธอ ก็ทำให้เธอโมโหเลย นึกถึงเเม่ของตัวเอง เพราะพูดง่ายเกินไป อ่อนเเอเกินไป เเต่ก็เเลกกับความเห็นใจของสองเเม่ลูกนั้นไม่ได้ เพราะว่ามีประวัติเก่า เธอเลยไม่ยอมเดินเส้นทางเก่าของเเม่เธอเเน่นอน ยังไงสุดท้ายเเล้วเธอก็จะเอาคืนเเก้เเค้นสองเเม่ลูกนั้นเเน่นอน “รินรดา เธอนี่กล้าจริงๆ! ถึงกับกล้าตบฉัน?!” รินรดาคนเก่าที่นิสัยอ่อนหวาน เเต่ทันใดนั้นก็เปลี่ยนมาเเข็งเเรงขึ้น ทำให้สศิชาถึงกับตกใจไปเลย
已经是最新一章了
加载中