บทที่ 19 ทำไมจะต้องทำบริษัทวาโรเจ๊ง   1/    
已经是第一章了
บทที่ 19 ทำไมจะต้องทำบริษัทวาโรเจ๊ง
บทที่ 19 ทำไมจะต้องทำบริษัทวาโรเจ๊ง " ผู้จัดการอธิชาพูดได้ถูกมากครับ" ติณห์ได้ยื่นมือ เอานิ้วเคาะเบาๆตรงโต๊ะ " แต่ว่าผมมีข้อเสนอ 1 ข้อ" อธิชาเห็นว่าเขายื่นข้อเสนอเป็น จึงกังวลใจขึ้นมา เธอกลัวว่าเขาจะยื่นข้อเสนอที่ล้ำเส้นเกิน " ก็คือให้ลูกน้องที่อยู่ในมือผมทั้งหมด ไม่ย้ายไปไหน และก็ไม่สามารถเอาผม" พูดไปเขาก็ได้ชี้มาที่ตัวเอง "เปลี่ยนทิ้ง" เพราะฟังมาถึงตรงนี้อธิชาก็โล่งอกไปที เธอมารับซื้อเปลือกหอยทากนี้ไม่ได้อยากจะดูแลมันจริงๆ เพียงแค่อยากจะสร้างภาพให้กับผู้คนข้างนอกและ บริษัทสัวเทียน สำหรับจะเปลี่ยนคนหรือไม่เปลี่ยน ตัวเองไม่ได้มีข้อคัดค้านอะไร "ได้" ดังนั้นเธอจึงตอบตกลงยังรวดเร็ว " ผู้จัดการอธิชาเนี่ยเป็นคนไวจริงๆนะครับ แล้วเราจะเซ็นเอกสารเมื่อไหร่กัน?" อธิชาก็กลัวว่านานเข้าจะมีเรื่องไม่ดี ดังนั้นเธอจึง เอาเอกสารไว้ที่ตัวเองตลอด พอได้ยินติณห์พูดแบบนี้แล้ว เธอจึงได้รีบเอาเอกสารออกมา และวางไว้ตรงหน้าติณห์ " คุณลองดู" ติณห์ได้เพิ่มข้อเสนอเมื่อกี้เข้าไป แล้วเพิ่มมาอีกข้อ " หากว่าบริษัทวาโรเจ๋ง บริษัทเราจะไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆทั้งนั้น" พออธิชาได้เห็นข้อเสนอนี้แล้ว ในใจเธอก็มีความรู้สึกไม่อย่างงั้นแหละ คนตรงหน้านี้ไม่เหมือนกับคนที่ออกมาจากบริษัทสัวเทียนเลย สายตารับรู้สั้นมาก ดังนั้นเธอจึงไม่มีข้อสงสัยอะไรแล้วก็ได้เซ็นชื่อตัวเองลงไป และตอนนี้ เอกสารได้เกิดผลขึ้นมา " แล้วคุณผู้จัดการอธิชาครับ เราควรเลือกวันใดวันหนึ่งที่จะเปลี่ยนวิธีการของเราไหม? หรือว่า บริษัทเราจะอยู่ในภายใต้ของบริษัทสัวเทียนและอยู่ในนามของบริษัทคุณ" ติณห์รู้อยู่แก่ใจ แต่ก็ยังถาม เขารู้ว่าอธิชามาเพื่อแค่หาเกาะป้องกัน แน่นอนว่าเธอจะไม่ เปลืองแรงเปลืองใจไปพัฒนาบริษัทนี้ ก็แค่อยากจะให้มันอยู่ในนามของบริษัทก็พอ แล้วไอ้พวกหนี้อะไรพวกนี้ ตัวเองก็ไม่ได้รับผิดชอบอะไรมาก อธิชาติคิดว่าตัวเองทำได้ดีมาก ดังนั้นเวลาได้ยินคำพูดนี้ เธอก็แค่ยิ้มอ่อนๆ "ไม่ต้องแล้ว ในเมื่อคุณผู้จัดการขอร้องให้เก็บที่ทำงานไว้ ยังงั้นชื่อของบริษัทต้องเก็บไว้ด้วยละกัน" ติณห์ส่ายหัว " ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ" อธิชาได้จับมือกับเขา และได้นำเอาเอกสารที่สดร้อนใหม่นั้นจะเข้าไปในกระเป๋าตัวเอง แล้วเดินจากไป ติณห์ได้สายตาเย็นชาลงเมื่ออธิชาหันหลังไป โค้งตรงมุมปากก็ไม่ได้ปรากฏขึ้นมาอีก และรินรดาที่อยู่ในห้องกล้องวงจรปิดก็ดูไม่ออกกับการทำแบบนี้ และบังเอิญว่าตอนที่ประชุมตัวเองเหมือนลอยอยู่ และไม่รู้ว่าติณห์จะทำยังไงกับบริษัทที่พ่อเก็บไว้ วาโรจะเกิดเรื่องอะไรมั้ยเนี่ย แต่ไม่นานเธอก็รู้สึกตัวขึ้นมาว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องกังวลกับปัญหานี้เลย พ่อจากไปแล้ว ตอนนี้ในหนังสือเอกสารบริษัท เธอที่ถูกเขียนไว้คืออธิชา ถ้าหากเป็นอธิชา แล้วตัวเองจะสงสารเธอทำไมกัน ถึงแม้ว่าไม่มีบริษัทแล้ว ก็แค่ไปสอดคล้องกับคำว่า เวรกรรมตามสนอง พอนึกถึงตรงนี้ ความรู้สึกรินรดาก็หลงขึ้นมา เธอมีหลายคำถามมากที่อยากจะไปถามติณห์ ดังนั้นเธอก็ไม่มีเวลามาดูวิดีโอนั้นต่อไปแล้ว เธอรีบวิ่งออกไป พอหลังจากที่ติณห์ได้กลับไปยังห้องทำงาน ก็ได้นวดวนไปมาตรงศีรษะ อธิชาฉลาดกว่าที่เขาคิด เธอรู้ว่าจะต้องต่อรองบริษัทสัวเทียน แต่สัวเทียนจะให้เธอโดยง่ายได้ยังไง? พอนึกถึงตรงนี้ ติณห์ก็หัวเราะ ดูแล้วเหมือนกับว่าเธอกำลังช่วยตัวเองให้แผนการราบรื่น ฉันจะตาจ้องวาโรตั้งนานแล้ว แต่ว่าวินาทีต่อมา รอยยิ้มเขาก็ได้เก็บ เพราะว่ารินรดาเพิ่งเข้ามาโดยไม่เคาะประตู "ติณห์! ฉันรู้ว่านายอยากจะทำอะไร!" เวลาพูดหน้าเหมือนกับตั้งหน้าตั้งตา ทำให้ติณห์เกิดความสนุกขึ้นมานิดหน่อย "อ๋อ? ไหนเธอลองพูดดู ว่าผมอยากจะทำอะไร?" ก่อนอื่นรินรดาได้เป็นล็อคประตูไว้ แล้วก็มองดูรอบๆ หลังจากที่มั่นใจว่าไม่มีใครอยู่ เธอจึงได้เตรียมตัว ลงไปพูดเสียงเบาๆที่ข้างหูติณห์ " ไหนอ่ะจะยืมโอกาสนี้ ทำให้วาโรเจ๊ง" จากตอนแรกเวลาที่รินรดาพูดยังมีความรู้สึกว่าเดา แต่ตอนนี้เมื่อเธอเห็นสายตาที่แน่วแน่ของติณห์แล้วเธอจึงมั่นใจ " นายอยากจะทำให้วาโรจริงๆหรอ!" เธอได้พูดเสียงดังขึ้นมา แต่ไม่นานเธอก็รู้สึกตัวขึ้นมาว่าที่นี่คือห้องทำงาน คนสอดรู้สอดเห็นเยอะ ดังนั้นเธอจึงรีบเอามือปิดปากตัวเอง แล้วถามติณห์เบาๆ "ทำๆม ทำไมนายถึงจะต้องทำวาโรเจ๊งด้วย?" นั่นเป็นสิ่งเดียวที่พ่อฉันเก็บไว้น่ะ "การจะเกิดใหม่ได้ก็ต้องตายก่อน" แต่ว่าติณห์ได้พูดอะไรไม่รู้ออกมา ฟังไม่รู้เรื่องเลย และหลังจากที่พูดจบก็ไม่สนใจเรื่องรดาอีกเลย เพราะว่าเขามีเรื่องอีกมากมายที่จะต้องไปทำ " แล้วนายเรียกฉันมาทำอะไร ฉันเป็นแค่เลขา ไม่ว่าจะงานอะไรก็ทำอะไรไม่ได้" รินรดารู้สึกอึดอัดไม่มีความสุข ตอนแรกคิดว่าตัวเองจะสามารถตบตีและลงโทษสองแม่ลูกนั้นได้ แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าตัวเองจะฝันเยอะเกินไป " ใครบอกว่าใช้งานไม่ได้?" ติณห์ที่ไม่พูดอะไรได้โต้กลับเธอ และเมื่อในตารินรดาเกิดมีความหวังขึ้นมา ตอนนั้น เขาได้ยื่นแก้วออกไป " นี่ไงตักน้ำให้ผมได้ไม่ใช่ไง?" รินรดารับแก้วน้ำมาอย่างไม่พอใจ และเดินหน้าตรงไปอย่างที่ตักน้ำ และในเวลานี้ เธอได้ยินคำพูดที่ไม่ชัดว่า "เชื่อฉัน" และเมื่อตอนเธอหันไปมองติณห์อย่างประหลาดใจ แต่เห็นว่าเขากำลังดูเอกสารอยู่ เหมือนกับเสียงพูดเมื่อกี้นั้นไม่ใช่เขา รินรดาถูกมารยาของเขาหลอก " มีตัวเองอายุมากเกินไปแล้วหรอ หูก็เริ่มหนวกแล้ว" หลังจากที่เธอได้แอบบ่นในใจไปสักพัก เธอจึงได้เอาแก้วน้ำวางลงบนโต๊ะของติณห์ " วางไว้ตรงนี้นะ นายหยิบเอาเอง" ติณห์มองแก้วน้ำที่อยู่ไกลจากตัวเองหนึ่งหมื่นแปดพันไมล์ ในใจมั่นใจแล้วว่ารินรดาต้องโกรธตัวเองแน่นอน แต่ปกติแล้วเขาเป็นคนที่เน้นกับผลลัพธ์ที่ได้เป็นคนที่ไม่ชอบอธิบาย ดังนั้นเขาจ้องแก้วน้ำนั้นตั้งนานแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำอย่างที่รินรดาต้องการฟัง ดังนั้นผลลัพธ์สุดท้ายแน่นอนว่ารินรดาโกรธเดินออกไปนั่งโต๊ะทำงาน แต่ในเวลาที่เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เธออดใจไม่ไหวถามตัวเอง เชื่อฉัน เสียงเมื่อกี้นั้นไอ้บ้านั้นเป็นคนพูด หรอ หรือว่าตัวเธอเองที่ฟังผิด? เขาเคยแคร์ความคิดเห็นของตัวเองด้วยหรอ? แต่ไม่นานเธอก็ได้ปฏิเสธ มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน! ตัวเองวางแก้วนั้นแบบนั้นเขายังไม่พูดอะไรสักคำ แถมยังไม่โกรธเธอ นี่ก็สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้เล่าว่า ไม่ว่าตัวเองจะทำอะไร เขาก็ไม่สนใจแน่นอน พอนึกถึงตรงนี้ จากตอนแรกรินรดาที่ไม่สนใจติณห์กลับไม่พอใจเล็กน้อย มีความรู้สึกเกิดขึ้นนิดนึง เพียงแต่ว่าตอนนี้ ตัวเธอยังไม่รู้ ไหนๆก็ไม่มีอะไรให้ทำ ติณห์ก็ไม่ได้มอบหมายงานอะไรให้เธอ ดังนั้นรินรดา จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นคนเดียว แต่ว่าเธอเล่นไปเล่นมา รอยยิ้มที่อยู่บนหน้าก็อึ้ง หลังจากนั้นก็ค่อยๆจางหายไป ในฟีดข่าวบนมือถือเขียนไว้ว่า" ลูกชายคนโตตระกูลสวันนีย์ได้จัดงานแต่งขึ้นอีกครั้ง เจ้าสาวคือสศิชา!" มองดูข่าวนี้แล้ว เพื่อนในฟิตข่าวก็ต่างแชร์และอวยพรกัน รินรดารู้สึกความโกรธแค้นของตัวเองหักห้ามไว้ไม่อยู่แล้ว "พ่าม!" เสียงกระแทกที่ดังขึ้นมาในห้องทำงานติณห์ได้ยินอย่างชัดแจ๋ว แต่ว่าเขาแค่ยักคิ้ว แม้กระทั่งสายตาท่าทางอะไรก็ไม่มีและก็อ่านเอกสารต่อ ติณห์คิดในใจ ดูเหมือนว่านางนี่จะรู้แล้ว วินาทีต่อมา รินรดาได้เปิดประตูเข้ามา "ติณห์! นายรู้ตั้งนานแล้วใช่หรือไม่!" แต่ติณห์แกล้งทำโง่ใส่เธอ " ผมควรรู้อะไรหรอ?" รินรดาจับมือถือที่หน้าจอแตกของเธอขึ้นมา "อันนี้!" ติณห์มองผ่านหน้าจอที่แตกของเธอไป ได้ทราบซึ้งถึงความโกรธของรินรดา " เรื่องนี้ผมพึ่งรู้ แต่ว่าความโกรธแค้นของเธอ ผมรู้มานานแล้วล่ะ" รินรดาเห็นว่าเขานั่งอยู่ตรงนั้นอย่างกับไม่มีอะไร ไม่เหมือนกับคนที่จะแก้แค้นแทนเธอเลยสักนิด ดังนั้นจึงได้ โมโหขึ้นมา เรื่อยๆ " ไหนบอกไม่ใช่หรอว่าจะช่วยฉันแก้แค้น! นายก็จะดูฉันโมโหดูฉันทุกรังแกแบบนี้หรอ? คำนี้เหมือนกับติณห์ถูกกล่าวหา " ผมเห็นตรงไหนว่าคุณถูกรังแก?" "นายดูเอง!" รินรดาออกไปจากฟีดข่าว แล้วเปิดข้อความขึ้นมา สศีชาเป็นคนส่งมา " ช่วงนี้สบายดีไหมคะพี่สาว? หนูกับชฎายุกำลังจะแต่งงานแล้ว ฮาๆ หากว่าพี่ว่าง ก็มาดูเองได้นะ ผู้ชายของตัวเอง เอาผู้หญิงคนอื่นแต่งงาน" ตามมาอีก 1 ข้อความ เป็นข้อความที่เมื่อกี้รินรดาได้พิมพ์ออกไปตอนโกรธ " คนที่เธอจะแต่งด้วย เป็นแค่หมาที่ฉันไม่ต้องการแล้ว ได้ใจอะไรกัน?" ติณห์ได้ขมวดคิ้วหลังจากดูจบ เหมือนกับกำลังถามว่า นี่มันเหมือนกับคนถูกรังแกที่ไหนกัน เหมือนว่าเธอรังแกสศีชามากกว่า "ไม่สนๆ! ฉันไม่สน! นายจะต้องช่วยฉัน!" ณ เวลานี้รินลดาก็ไม่สนว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอเป็นติณห์หรือไม่ใช่ติณห์ ตอนนี้ในสมองเธอเต็มไปด้วยจะลงโทษสองคนนี้ " มันก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธี" ติณห์พูดออกมาเสียงเบาๆ " นางท้องไม่ใช่หรอ?" พอได้ยินถึงตรงนี้ รินรดาก็เหมือนกับนึกอะไรได้ ในตาเปล่งประกายออกมา แสงประกายนี้ทำให้ติณห์ไม่กล้าที่จะมอง ใจผู้หญิงโหดเหี้ยมมากจริงๆ คำนี้พูดไม่ผิดสะจริง วินาทีต่อมา ทั้งสองมือของรินรดาได้จับมือติณห์ไว้ "ลูกพี่ พ่อ ฉันขอร้องล่ะน่ะ" ติณต์ได้เอามือกลับ เหมือนกับกลัวว่าตัวเองจะถูกกัด หลังจากนั้นไม่เป็นอะไรถูมือไปมา หลังจากนั้นถึงจะพูดขึ้นมา กับรินรดาที่อยู่ตรงหน้า " เป็นเธอตัวจริงหรือเปล่าเนี่ย?" ไม่ได้ถูกอะไรเข้าสิงใช่ป่ะ "ใช่ๆๆ ฉันคือรินรดา" รินรดารีบใส่หัว ในสายตาเต็มไปด้วยรีบร้อน " ถึงเวลานั้นดูผมก็พอแล้ว คุณแค่ ให้ความร่วมมือเยอะๆก็พอ" รินรดามองไว้ นี่พูดแล้วมันก็เท่ากับไม่ได้พูดอะไรเลย ทันใดนั้นโกรธมากไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี หลังจากนั้นเธอก็ได้กลับไปยังโต๊ะทำงานของเธออย่างสงบ ดูข่าวนานแล้วโกรธตามลำพัง และในอีกทาง รับซื้อก็ได้เป็นไปตามขั้นตอน อธิชาวางแผนได้ดีจริง เธอคิดเองว่าบริษัทสัวเทียนจะไม่ยอมให้บริษัทภายใต้ถูกซื้อไปแบบนี้ และอีกอย่างเธอยังแกล้งปล่อยเขาออกไป เขาลืมไปว่า ตัวเองเซ็นสัญญากับบริษัท เปลือกหอยทาสนี้แล้ว อีกไม่นานก็สามารถเป็นเจ้าของบริษัทนี้ได้แล้ว
已经是最新一章了
加载中