บทที่ 233 คุณจะออกงานกับฉันไหม   1/    
已经是第一章了
บทที่ 233 คุณจะออกงานกับฉันไหม
บทที่ 233 คุณจะออกงานกับฉันไหม “ทำไมฉันไม่เคยรู้เลยว่าคุณโหดร้ายขนาดนี้......” จิรภาสค้อมหัวลงน้อย ๆ มองไปยังคนที่กอดเอาไว้แล้วพูด “คุณคิดว่าผมจัดการไม่เหมาะสมเหรอ?” จิดาภาส่ายหน้าแล้วจูบลงที่กลีบปากของเขา “ไม่ค่ะ คุณว่าไงฉันก็ว่าตามนั้น” จิรภาสพอใจแล้วก็ปล่อยเอวเธอย้ายไปนั่งพัก จิดาภาตักน้ำซุปพร้อมรอยยิ้มน้อย ๆ บนใบหน้าอยู่ในครัว เธอได้ฟังเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจาก Rick แล้ว จริง ๆ แล้ว Rick บอกว่า “เพราะว่าเบญญาพูดถึงคุณไม่ดีตอนที่อยู่ในห้องทำงาน เลยโดนจัดการแบบนี้ คราวหลังพวกเราก็ต้องระวังด้วยเหมือนกัน!” จิรภาสไม่ได้เล่าให้เธอฟังเพื่อต้องการที่จะปกป้องเธอ เมื่อลองมองจากมุมอื่น นอกจากสนับสนุนเขาก็ไม่มีคำตอบอื่น เพราะหากเป็นเธอ แล้วมีคนมาว่าร้ายจิรภาส เธอจะตอกกลับหนักกว่าที่เขาทำแน่นอน หากแต่ในสายตาของคนอื่น การที่จิรภาสปกป้องเธอออกนอกหน้าอาจจะไม่ใช่เรื่องดีซะทีเดียว เพราะอาจจะทำให้เธอมีปัญหาได้ จิดาภาเข้าใจจุดนี้อย่างชัดเจน แต่เธอก็ชอบความรู้สึกเป็นที่รักและได้รับการปกป้องจากเขา อยู่ ๆ จิดาภาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจ ถ้าหากวันหนึ่งความสัมพันธ์ของเธอและจิรภาสเปลี่ยนไป เธอจะรับกับการโจมตีได้ไหม? “คิดอะไรอยู่?” จิรภาสมองปราดเดียวก็รู้ว่าเธอคิดอะไร เพราะใจของเขาอยู่ที่เธอทุกเวลานาที “ฉันกำลังคิดว่าต่อไปพวกเราแก่ตัวลง คุณจะยังรักฉันเหมือนตอนนี้ไหม ฉันจะยังสามารถพึ่งพาคุณเหมือนตอนนี้ไหม......” เรื่องความรู้สึกพูดยาก วันเวลาเปลี่ยนไปความรู้สึกของพวกเขาจะเปลี่ยนไปแบบไหน? จิรภาสได้ฟังก็นิ่งไป เขาไม่รู้จะตอบออกไปอย่างไร “ผมตอบคำถามสมมุติพวกนี้ไม่ได้หรอก” “กินข้าวเถอะ” จิดาภาที่เพิ่งจะวางชามและตะเกียบลงบนโต๊ะถูกจิรภาสกอดไว้ทันที จิดาภาอุทานออกมา ผู้ชายคนนี้ชอบทำให้ตกใจอยู่เรื่อย...... “ผมไม่สามารถรับรองอะไรกับคุณได้ แต่ถ้าต้องการสักวิธี ผมสามารถอุทิศชีวิตให้คุณได้” จิดาภาที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาน้ำตาไหล สายตาเต็มไปด้วยความมั่นคงหนักแน่น มองไปที่จิรภาสด้วยความจริงจัง “ฉันก็เหมือนกันค่ะ ใช้ชีวิตของฉันเป็นประกัน......” เธอถูกจิรภาสอุ้มเข้าไปในห้องนอน ตามด้วยจูบที่รุ่มร้อนรุนแรง...... โดยไม่มีสัญญาณบอกล่วงหน้า พวกเขาต่างก็อยากเป็นมากกว่าที่รักของอีกฝ่าย ภายในห้องนอนเต็มไปด้วยความอ่อนหวาน จนเมื่ออ่อนแรงต่างก็กอดอีกฝ่ายเอาไว้ “คุณไม่ต้องไปจัดการเอกสารเหรอ? นี่ก็ดึกแล้ว......” “ไม่ต้อง ได้กอดคุณสักครั้ง ค่อยไปจัดการพรุ่งนี้ก็ทัน” จิดาภาผลักไหล่เขาด้วยความเขินอาย “แต่ก็ต้องกินข้าวอยู่ดี” ทั้งสองอาบน้ำลวก ๆ แล้วกลับไปกินข้าวมื้อค่ำด้วยกันในห้องอาหาร ระหว่างทานข้าว เมื่อไม่ได้คุยเรื่องงานบรรยากาศก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง กลางดึกจิรภาสนั่งอ่านเอกสารอยู่บนโซฟา จิดาภาก็ซุกอยู่ข้าง ๆ อ่านนิตยสาร “ช่วงนี้ตารางงานอาจจะแน่นหน่อย กิจกรรมทั่วไปผมเลื่อนออกให้แล้ว เพราะอีกไม่กี่วันจะมีงานฉลองวันครบรอบของเค.เอฟ คุณต้องออกงาน” “......ฉันไม่มีปัญหา แล้วคุณล่ะ?” จิดาภาลูบไปที่ไหล่ของเขา “ผมเหรอ?” “คุณออกงานร่วมกับฉันในฐานะผู้จัดการ หรือออกงานในฐานะประธานเค.เอฟล่ะ?” กะพริบตากล่าวเสียงเบา “ยังไม่ได้คิดเลย” จิรภาสลูบผมเธอ เขาเข้าใจจิดาภาดี รู้ว่าเธอไม่ชอบงานแบบนั้นจึงบอกว่า “ถ้าคุณไม่ชอบ จะกลับเมื่อไรก็ได้” “ฉันไม่กลับ” จิดาภาเอียงคอยิ้ม “เพราะว่านั่นคือเขตของคุณ” ไม่เกี่ยวกับชอบไม่ชอบ “เพราะว่าคุณไปฉันก็จะไป ฉันชอบที่จะได้มองผู้ชายที่ฉันรักที่สุดในที่ ๆ เขาเปล่งประกาย” จิรภาสที่พอได้ฟังสิ่งที่จิดาภาพูด ดวงตาก็เปล่งประกายสดใส รับรู้ได้ถึงความเทิดทูนที่เธอมีต่อเขา สิ่งที่ผู้ชายหวังเป็นที่สุดก็คือสามารถเป็นที่พึ่งพิงให้หญิงสาวที่เขารักได้ นี่คือหลักประกันที่ดีที่สุดที่เขาจะให้ได้ ในคืนนั้นสิ่งที่เขาและจิดาภาเห็นพ้องต้องกันก็คือผู้คนจะให้ความสนใจอย่างมากกับการแข่งขันระหว่างจิดาภาและนมิดา จิดาภาที่เข้าร่วมกับเค.เอฟ นมิดาที่เพิ่งกลับประเทศ ทั้งสองคนออกงานพร้อมกันเป็นครั้งแรก เทียบกับนมิดาในเรื่องบุคคลิกท่าทาง จิดาภาค่อนข้างทางที่จะสงบเสงี่ยมเจียมตัว เธอมักจะหลีกเลี่ยง หลีกหนีจากการแสดงความสามารถ ตั้งแต่นมิดากลับประเทศ ตารางงานของเธอก็มักจะหลบเลี่ยงนมิดาให้มากที่สุด แต่ก็มักจะมีแต่คนอยากเห็นเรื่องสนุก บนอินเตอร์เน็ทเริ่มจับทั้งสองคนมาเปรียบเทียบ เช่นเขียนบทความ เปรียบเทียบคะแนนโหวต ไหนจะขุดเรื่องร้อยแปดพันเก้าขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เบญญาแต่งขึ้น มาจากชาวเน็ตทั้งหลายเองทั้งนั้น คนนึงเป็นศิลปินที่เพิ่งเซ็นสัญญากับเค.เอฟที่ได้รับการสนับสนุนอย่างสุดกำลังจากท่านประธานเค.เอฟ อีกคนเป็นนักแสดงหญิงผู้มีอิทธิพลในวงการภาพยนตร์นานาชาติ ใครจะได้ครองความเป็นหนึ่งกันแน่? ไม่กี่วันมานี้จิดาภายุ่งอยู่กับการเปิดกล้อง ไม่มีเวลาสนใจกับข่าวไร้สาระเหล่านี้ยกเว้นถ้าได้เจอจาริณีโดยบังเอิญไม่อย่างนั้นเธอก็จะมุ่งทำแต่งาน ค่ำวันนี้จาริณีมาเยี่ยมที่กองถ่าย ทั้งสองคนจึงหาร้านกาแฟเล็ก ๆ นั่งคุยกัน จิดาภาให้พี่นัฎจัดห้องส่วนตัวเพื่อไม่ให้มีใครมารบกวนพวกเธอ หน้าต่างฝรั่งเศสสะท้อนแสงจากโคมไฟริมถนนทำให้เกิดแสงเงาที่ไม่เหมือนใคร จิดาภามองทัศนียภาพนั้น ยิ้มน้อย ๆ แล้วผ่อนลมหายใจ “ดีจังเลย......” “จิดาภา ฉันอยากแต่งงานแล้ว” มือของจาริณีลูบวนที่หูแก้วกาแฟ กล่าวออกมาเสียงเบา “ทำไมกะทันหันจัง?” จิดาภามึนงงไปพักหนึ่ง ไม่คิดว่าจาริณีจะพูดเรื่องนี้ “ฉันคิดดีแล้ว สุดท้ายผู้หญิงก็ต้องลงหลักปักฐาน ให้ตำแหน่งสูงใหญ่ มีเงินมากมาย แล้วยังไงล่ะ? ยังไงก็เทียบไม่ได้กับการมีอ้อมกอดที่อบอุ่น” เธอยิ้มเยาะตัวเอง “ตอนนี้ฉันคิดดีแล้ว หวังว่าจะไม่สายเกินไปนะ?” จิดาภาส่ายหน้า “ไม่สายไปหรอก” หลังจากผ่านพวกนั้นมา จิดาภาคิดไว้แล้วว่าจาริณีน่ามีความคิดเช่นนี้ “แต่ตอนนี้ ถึงจะมีผู้ชายที่ดูไม่เลวมาตามจีบ ฉันก็ยังอยากจะอยู่กับเธออีกสักพัก ไม่อย่างนั้นหลังจากฉันไป นมิดาน่าจะทำอะไรที่มากกว่านี้” จิดาภารู้สึกว่าช่างดีเหลือเกินที่ในเวลานี้ มีเพื่อนที่จริงใจอย่างจาริณีคอยอยู่ข้าง ๆ “ไม่ต้องกังวล ฉันไม่กลัว” “เธอนี่ เธอไม่กลัวไม่ได้หมายความว่าท่านประธานจิรภาสจะไม่กลัว เขารักเธอออกขนาดนี้ ถ้าเธอได้เป็นอะไรขึ้นมาเขาได้ล้มวงการบันเทิงคว่ำแน่” จาริณีใช้มือจับโต๊ะดันตัวขึ้น มองไปที่จิดาภาอย่างจริงจังแล้วพูด “จิดาภา รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงดีกับเธอขนาดนี้? เพราะเธอเป็นเพื่อนแท้ของฉันที่ตลอดหลายปีมานี้ เป็นคนเดียวที่เมื่ออยู่ในสถานการณ์แบบนั้นแล้วช่วยฉัน” “ถึงแม้ฉันจะเป็นพวกเต้นกินรำกิน แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีอะไรมีค่าเทียบเท่ากับความจริงใจ เพราะงั้น......จากนี้ไปไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน ฉันก็จะอยู่ที่นั่น แค่โทรหาฉันก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อเธอได้ทุกเมื่อ” ฟังจบ จิดาภาก็โผเข้ากอดเธอ “พูดอย่างกับจะสารภาพรักแน่ะ! ฉันเข้าใจสิ่งที่เธอจะสื่อ เช่นเดียวกัน ฉันขออวยพรให้เธอ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนขอให้ทุกอย่างเป็นดังใจหวัง”
已经是最新一章了
加载中