บทที่ 237 ฉันอยากสู้เพื่อศักดิ์ศรี   1/    
已经是第一章了
บทที่ 237 ฉันอยากสู้เพื่อศักดิ์ศรี
บทที่ 237 ฉันอยากสู้เพื่อศักดิ์ศรี นักข่าวที่อยู่ด้านล่างตึกทยอยแยกย้ายกลับไป ไม่กล้าขึ้นไปทำให้จิรภาสไม่พอใจในเวลานี้ จิดาภาเคาะประตู ได้ยินผู้จัดการของจาริณีถามก็ตอบ “จิดาภาเอง” ผู้จัดการรีบเปิดประตูเห็นว่าจิรภาสอยู่ด้วยก็มีท่าทางเย็นชา พี่นัฎเห็นขอบตาของเธอแดงแสดงว่าเพิ่งร้องไห้มาก็ส่งสายตาบอกจิดาภาว่าจะพาเธอไปห้องน้ำก่อน จาริณีอยู่ในห้องนอน จิรภาสและตฤณจึงรออยู่ที่ห้องรับแขกปล่อยให้จิดาภาเข้าไปคนเดียว เมื่อดันประตูเข้าไปจิดาภาก็เห็นรอยแผลบนหน้าของเธอ จากหน้าผากไล่มาทั้งด้านซ้ายของใบหน้า ไม่เพียงแค่มีรอยฟกช้ำยังมีรอยเลือดออก......พวกเขาต้องการทำให้เธอเสียโฉม! ในสถานการณ์แบบนี้จาริณีก็ยังมีรอยยิ้มได้อย่างไม่น่าเชื่อ “เธอ......” จิดาภาขอบตาร้อนผ่าว รีบวิ่งเข้าไปแล้วมองเธออย่างกระวนกระวาย เสียงก็สั่นไปหมด “ฉันเคยบอกเธอแล้วว่าอย่าใจร้อน เธอก็ไม่เคยฟัง!” “ฉันยังไม่ตายน่า จะร้องไห้ทำไม!” จาริณียกมืออย่างอ่อนแรงกอดจิดาภาไว้ ได้ยินเสียงร้องไห้ออกมาจากในห้อง จิรภาสและตฤณก็เดินไปยืนอยู่หน้าประตูแล้วพูดกับจิดาภาว่า “คุณใจเย็น ๆ ก่อน ผมมีเรื่องจะคุยกับจาริณี” จิดาภาไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดแต่เมื่อหมุนตัวกลับมาเห็นสายตาอันอ่อนโยนของจิรภาสก็ลุกขึ้นแล้วออกจากห้องนอนไป จาริณีเห็นจิรภาสเดินเข้ามาก็ประหม่าจนอยากหนีไปซ่อน พอจะลุกขึ้นยืนก็ถูกจิรภาสจับไว้ “ผมแค่จะพูดอะไรนิดหน่อย คุณอย่าเพิ่งไป” “พูดอะไร?” ร่างกายของจิรภาสราวกับมีรังสีอันเย็นเยียบแผ่ออกมา “จิดาภาเป็นห่วงคุณมาก แต่ผมอยากให้คุณรู้ไว้ว่านี่คือครั้งสุดท้าย” “ผมไม่อยากให้คุณเสียสละทำอะไรที่ทำให้จิดาภาเป็นกังวล” จาริณีก้มหัวลง “ความขัดแย้งของพวกเธอดุเดือดแล้ว ถ้าท่านประธานไม่ทำอะไรสักอย่าง......” “นั่นเป็นเรื่องของผม” จิรภาสขัดขึ้น “ผมไม่สามารถทำร้ายจิดาภาเพื่อความสงบสุขของบริษัท ระหว่างเธอกับนมิดาไม่ต้องมีการเลือกอยู่แล้ว ดังนั้นคุณดูแลตัวเองให้ดี ไม่ต้องทำอะไรไร้ประโยชน์ ผมไม่อยากเห็นจิดาภาร้องไห้เพราะใครอีก” “จาริณีนิ่งงันไป “จิดาภาเห็นคุณเป็นเพื่อน เพราะงั้นคุณควรดูแลตัวเองให้ดีถึงจะนับว่าทำดีกับเธอจริง ๆ” จิรภาสลุกขึ้นเดินไปที่ห้องรับแขกเห็นขอบตาของจิดาภาแดงน้อย ๆ “เอาล่ะ ไม่มีอะไรแล้ว......” “จิรภาส ฉันอยากสู้เพื่อศักดิ์ศรีบ้าง” จิดาภาเดาได้ว่าเขาพูดอะไรกับจาริณี เธอไม่อยากขัดขวาง สิ่งที่เธออยากทำที่สุดไม่ใช่การสัญญาอะไรกับใครแค่เพียงต้องการอยู่ในที่ทางของตัวเอง “ตกลง” จิรภาสพูดออกมาเบา ๆ คำหนึ่งแล้วพาจิดาภาออกจากห้องชุดของจาริณี ระหว่างทางกลับจิดาภามองออกไปยังทิวทัศน์ข้างทางแล้วถาม “Rick แต่งงานตั้งแต่เมื่อไร?” จิรภาสโอบเธอไว้ด้วยแขนข้างเดียวแล้วตอบ “เขาไม่ได้แต่งงาน ในเอกสารประวัติพนักงานของบริษัทเขียนว่าโสด ส่วนเรื่องลูกของเขาผมก็ไม่แน่ใจ คุณอยากจับคู่เขากับจาริณีเหรอ?” จิดาภาส่ายหน้า เธอแค่นึกขึ้นมาได้ก็ถามเท่านั้น “คุณเนี่ย ควรเอาเวลามาใส่ใจตัวเองให้มาก อย่าไปใส่ใจเรื่องคนอื่นมากเกิน!” จิรภาสไม่รู้จะทำยังไงกับเธอจริง ๆ “ฉันใส่ใจไม่เยอะเท่าคุณหรอก” จิดาภาขยับเข้าหาอ้อมกอดเขา ตั้งแต่เป็นผู้จัดการให้เธอเรื่องทั้งหมดของเธอไม่เคยหลุดรอดสายตาจิรภาสไปได้ ขนาดที่ในวันหนึ่งดื่มน้ำกี่แก้วก็ต้องให้ผู้จัดการอนุมัติ เธอไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายทั้งยังซึ้งใจในสิ่งดี ๆ ที่ผู้ชายคนนี้ทำให้เธอ ผู้ชายที่โดดเด่นขนาดนี้ยอมทำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ เป็นโชคดีของเธอแล้ว “พรุ่งนี้บ่ายพี่นัฎจะไปเป็นเพื่อนคุณแต่งหน้าทำผม ชุดไปงานใหม่น่าจะได้มาส่งที่บ้านทันเวลา” จิรภาสเห็นชุดที่พี่นัฎเลือกให้จิดาภาแล้วก็สั่งเปลี่ยนทันทีแล้วให้คนตัดชุดให้ใหม่ เขามองพี่นัฎด้วยสายตาดูถูก แต่พี่นัฎก็ไม่ได้ใส่ใจ ยิ่งจิรภาสใส่ใจจิดาภาเธอยิ่งมีความสุข จะมีศิลปินสักกี่คนที่จิรภาสให้ความสำคัญ? ไม่ว่านมิดาจะทำอะไร แค่จิรภาสเข้าข้างใครคนนั้นก็คือผู้ชนะ …… ค่ำวันนี้จาริณีได้รับสายโทรศัพท์จากนมิดา “ได้ยินว่าคุณมีปัญหานิดหน่อย อยากให้ช่วยอะไรไหม?” “นมิดา อย่ามาเล่นละคร” จาริณีหัวเราะ ความเจ็บจากแก้มลามไปทั่ว “ฉันยังไม่ตาย ไม่ต้องรีบส่งพวงหรีดมาหรอก” “อา เธอมองออกแล้วเหรอ ฉันก็ขี้เกียจจะหลบ ๆ ซ่อน ๆ เหมือนกัน ใช่ ฉันหาคนไปลงมือเอง หวังว่าเธอจะซาบซื้งกับบทเรียนครั้งนี้ ตั้งใจเป็นดาราไป อย่ายุ่งวุ่นวายมากเกินจะโดนทำให้เสียโฉม” จาริณีสูดหายใจลึก “อะไรทำให้เธอกล้านัก หยิ่งผยองได้ขนาดนี้!” “ฉันมีไพ่ตายอยู่ในมือ สถานะของเธอกับฉันในเค.เอฟใครสูงกว่ากัน เธอก็รู้อยู่แก่ใจ......ขอแค่ฉันไปพบกับคนของบลูไลท์ไม่กี่ครั้ง จริภาสก็จะต้องรีบมาอยู่แทบเท้าฉัน” จาริณีพ่นลมออกทางจมูก “อย่าฝันไปเลย” “ฉันหรือว่าเธอกับจิดาภากันแน่ที่กำลังฝัน! รอดูไปแล้วกัน ในงานเลี้ยงฉลองฉันจะทำให้เธอพ่ายแพ้ย่อยยับ!” จาริณีวางสายใส่ เรื่องบานปลายมาจนตอนนี้ เธอกับนมิดาพูดอะไรไปก็มีแต่เปลืองน้ำลาย เทียบกับคนอื่นแล้วเธอรู้จักเค.เอฟว่าเป็นบริษัทแบบไหนดีกว่าใคร ทุกคนต่างให้ค่าครอบครัวที่ยิ่งใหญ่นี้ แต่ก็มีคนคอยตักตวง...... โทรศัพท์ดังขึ้นในขณะที่เธอเตรียมเอนตัวลงพักผ่อน Rick โทรมาหาเธอ จาริณีจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ตั้งแต่มีข่าวออกมาน่าจะทำให้ Rick เดือดร้อนไปด้วยมากทีเดียว เขามีลูกแล้วไม่ควรทำให้ชีวิตส่วนตัวของเขาได้รับผลกระทบ จาริณีคิดไปไม่ได้ตั้งใจฟังโทรศัพท์ แล้วก็มีเสียงดังขึ้นมา “ร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง?” หลังจากมองดูหนึ่งครั้งจิตใจก็ยิ่งสับสนจึงบังคับตัวเองให้หลับตา มีคนตามจีบเธอมากมายสุดท้ายต้องมีคนที่เหมาะสมสักคนสิ...... …… งานเลี้ยงฉลองครบรอบของเค.เอฟถูกกำหนดไว้เป็นค่ำวันนี้เวลาสิบนาฬิกา แต่ก่อนงานเลี้ยงเริ่มจะมีพิธีมอบรางวัลที่รู้จักกันในชื่อฟีนิกซ์ทอง นี่ก็นับเป็นพิธีมอบรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี แม้ว่าจิดาภาจะไม่ได้เป็นแขกรับเชิญขึ้นรับรางวัลแต่เพราะต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองเธอจึงต้องเตรียมตัวค่อนข้างเป็นทางการ ตามกำหนดการของจิรภาส พี่นัฎจะส่งเธอที่สไตลิสท์สตูดิโอ ElegantSalon ซึ่งเป็นที่รู้จักมากในการแต่งหน้าแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้กับศิลปินที่มีชื่อเสียงหลายท่าน เมื่อจิดาภาและพี่นัฎเดินผ่านประตูเข้ามาก็เห็นว่าในร้านเต็มไปด้วยผู้คน หากลูกค้าไม่ได้จองมาล่วงหน้าก็จะไม่มีคนมารับรอง “ทั้งสองท่านได้จองสไตลิสท์คนไหนไว้ไหม?” พี่นัฎมองไปทางจิดาภาซึ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อค่ำวานจิรภาสให้การ์ดเธอมาหนึ่งใบก็หยิบออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งให้พนักงานที่มารับรองพวกเธอ เมื่อเห็นการ์ดใบนั้นแล้วพนักงานร้านก็กระตือรือร้นขึ้นมาทันที “ทั้งสองท่านเชิญนั่งรอที่โซนวีไอพี ลินดา เตรียมกาแฟ!”
已经是最新一章了
加载中