ตอนที่6 จงใจใส่ร้าย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่6 จงใจใส่ร้าย
ตอนที่6 จงใจใส่ร้าย มี่เหอคิดว่านางแกล้งทำเป็นใจเย็นๆ เพราะก่อนหน้านี้ในจวนจิ้งโก๋ว พี่สาวคนนี้โด่งดังด้วยความเอาแต่ใจ จองหอง คาดไม่ถึงเลยว่าหลังเข้ามาในตำหนักอ๋องแล้วได้เรียนรู้ความอดทนไป เธอยิ้มและแอบดึงแขนเสื้อกลับมา พูดว่า“พี่สาวสนใจกับเรื่องการเย็บปักตั้งแต่เมื่อไหร่” ชูเซี่ยหันหัวไปด้านข้าง ใคร่ครวญแล้วพูดว่า“ไม่ใช่สนใจกับเย็บปักถักร้อย ข้าแค่สนใจกับวิธีการเย็บเข็ม”สำหรับศัลยแพทย์ที่มีชื่อเสียง สิ่งที่น่าภาคภูมใจที่สุดคือทำการผ่าตัดที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งรวมถึงขั้นตอนสุดท้าย การเย็บเข็ม มี่เหอยิ้มเบาๆแล้วไปนั่งตรงข้ามชูเซี่ย วิเคราะห์ดูชูเซี่ยและพูดว่า“ตั้งแต่พี่สาวแต่งเข้าตำหนักอ๋องก็ไม่เคยกลับบ้านสักที และป่วยพอดีในวันที่น้องแต่งเข้ามา จึงไม่ได้ดื่มน้ำชาของน้อง ที่จริงในใจน้องหวาดระแวงอยู่เสมอ แม้ว่าท่านอ๋องบอกว่าไม่จำเป็น เพราะว่าพี่สาวอยู่ตำแหน่งพระชายาเอกแต่ไม่มีอำนาจจริง ทุกคนที่อยู่ในตำหนักนี้รู้แค่พระชายาหราวคนเดียวก็พอ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร น้องก็ต้องส่งน้ำชามาให้พี่สาว แต่พอดีพี่สาวไม่สบาย น้องจึงต้มยามาแทนชา ขอให้พี่สาวหายดีไวๆ ”พูดจบก็สั่งให้บ่าวส่งยามาวางบนโต๊ะ และพูดเพิ่มเติมว่า“ลืมบอกให้พี่สาวเรื่องหนึ่ง คือท่านอ๋องช่วยตั้งชื่อหราวมาให้น้อง ไม่ทราบว่าพี่สาวรู้สึกไพเราะดีหรือไม่” ชูเซี่ยมองดูน้ำยาที่อยู่บนโต๊ะ ยานั้นยังมีไอร้อนขึ้นมา กลิ่นดอกคำฝอยทิเบตกระจายอยู่ในห้อง ยานี้มีผลในการส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดและขจัดภาวะปวดท้องของประจำเดือน แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งหายจากอาการณ์ป่วย หลังจากเจ็บป่วยมานาน ความเจ็บป่วยนั้นเข้าไปในร่างกาย ดื่มได้แต่น้ำซุปอุ่นๆเท่านั้น ส่วนดอกคำฝอยทิเบตนั้นเป็นสายเย็นและไม่เหมาะที่จะให้ผู้หญิงกินมาก โดยเฉพาะผู้หญิงที่ไม่เคยคลอดลูกมาก่อน แต่ถ้าไม่ใช่เพื่อการรักษาโรค เธอไม่เห็นด้วยกับผู้หญิงที่ดื่มดอกคำฝอยทิเบต ความทรงจำในสมองบอกกับเธอว่า ร่างกายหลิวหยิงหลงไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็กๆ ป่วยตลอดทั้งปี ถ้าดื่มยานี้ต้องเสียชีวิตแน่นอน “งั้นวางไว้ที่นี่ก่อน เดี๋ยวข้าค่อยดื่มะ”ชูเซี่ยตั้งใจไม่ตอบคำถามสุดท้ายของนาง และพูดอย่างใจเย็น ขณะนี้เธอรู้ชัดว่ามี่เหอเป็นเพื่อนหรือศัตรูแล้ว แต่เรื่องของตนเองนางยังไม่รู้ชัดดี เวลานี้ไม่ควรไปมีปัญหากับนางอีก อดทนไปก่อนจะเป็นอะไรได้ “หากยาเย็นแล้วมันจะไม่สามารถออกฤทธิ์คุณสมบัติได้ พี่สาวรีบดื่มยาเถิด”มี่เหอตอบช้าๆ แม้จะเป็นการเสนอให้เธอดื่มยา แต่ใบหน้าก็ไม่มีความกังวล ราวกับว่าชูเซี่ยดื่มหรือไม่ นางก็ไม่สนใจ ชูเซี่ยตอบรับไป เงยหน้ามองไปยังแสงแดดนอกหน้าต่าง เธอไม่ทราบว่าตอนนี้เป็นเดือนไหน แค่ก็ดาวได้ว่าน่าจะหลังวันไหว้พระจันทร์ ซึ่งเป็นฤดูเย็นสบาย เธอหันหัวสอบถามมี่เหอว่า“ยาที่น้องส่งมาวันนี้เป็นยาอะไรเ เหมาะกับการรักษาอาการข้าหรือไม่” มี่เหอยิ้มเล็กน้อยและตอบว่า“คำถามพี่ช่างน่าขันจริงๆ หรือพี่สาวคิดว่าน้องจะใส่ยาพิษฆ่าพี่ตนเองหรือ อันนี้เป็นยาซูกำลัง พี่เพิ่งหายป่วย ยังไงก็ต้องกินยาซูกำลังเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น” ชูเซี่ย‘โอ่’ไปคำเดียว แล้วพูดว่า“งั้นขอบใจน้องนะ”เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ อยากออกไปเดินเล่นข้างนอก จึงหันมาพูดกับมี่เหออย่างเย็นชา“ในเมื่อเป็นยาซูกำลัง งั้นก็ส่งให้น้องดื่มเลย” มี่เหอตกใจ สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่น่าดูอย่างกระทันหัน น้ำเสียงก็แหลมขึ้น“พี่สาวทำอย่างนี้หมายความว่ายังไง หรือคิดว่าน้องจะใส่ยาพิษฆ่าพี่จริงหรือ” ชูเซี่ยตกตะลึงไปเล็กน้อย ดูเหมือนไม่เข้าใจว่านางโกรธทำไม มองดูมี่เหอและพูดว่า“พี่ไม่ได้คิดอะไร น้องบอกว่านี่เป็นยาซูกำลัง งั้นแสดงว่าดื่มแล้วร่างกายจะแข็งแรงขึ้น แล้วจะเป็นยาพิษฆ่าคนได้อย่างไรกัน อีกทั้งน้องบอกแล้วว่าพี่ร่างกายอ่อนแอ จึงส่งยามาให้ แต่พี่คิดว่าช่วงนี้น้องต้องดูแลท่านอ๋อง ก็สมควรที่จะดื่มยานี้มากกว่าพี่ จึงส่งกลับให้น้อง น้องต้องขอบใจพี่ที่เห็นใจน้อง ไม่ใช่มาสงสัยพี่อย่างไม่มีสาเหตุ” มี่เหอเงยหน้าจ้องมองชูเซี่ยด้วยสายตาเย็นชาอย่างไม่ละสายตา จู่ๆก็ยิ้มขึ้นมา“พี่สาวยังคิดที่นี่เป็นที่บ้านหรือ แม้ว่าตอนนี้พี่เป็นพระชายาเอก แต่ก็ควรทราบว่าพี่เป็นคนตายหรือคนเป็นขึ้นอยู่กับน้อง ทั้งนี้ ยาชามนี้พี่ดื่มแล้วเรื่องนี้ก็จบ แต่ถ้าไม่ดื่ม ก็อย่าโทษว่าน้องโหดร้าย” พอนางพูดจบ มามากับเสี่ยวจี๋รีบก้าวไปข้างหน้า มามาพูดด้วยเสียงโกรธว่า“พระชายารองพูดแบบนี้ ไม่กลัวจะส่งเข้าหูของฮองเฮาหรือเจ้าค่ะ” มี่เหอดวงตาเป็นประกาย เหลือบมองมามา แล้วก็ยิ้มให้ชูเซี่ย พูดว่า“พี่สาวใกล้สนิทกับฮองเฮา ยังไม่ทราบว่าฮองเฮาออกไปทำบุญที่วัดหู้โก๋ว สิ้นปีถึงจะกลับหรือ” เสี่ยวจี๋กับมามาหน้าซีดเผือดทันที เธอสองคนรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่แรก เพราะฮองเฮาออกพระราชวังไปแล้ว ท่านอ่องถึงจะมีโอกาสแต่งงานกับแท่หญิงมี่เหอ ถึงตอนนั้นฮองเฮาจะกลับมาแล้วก็เปลี่นอะไรไม่ได้อีก ชูเซี่ยมองดูมี่เหอ ถอนหายใจเบาๆ“ที่น้องพูดหมายความว่า น้องต้องการให้พี่ดื่มยาชามนี้ใช่หรือไม่” มี่เหอสีหน้าไม่เปลี่ยน แค่ลืมตาขึ้นและพูดว่า“พี่สาวเป็นพระชายาเอกและยังรู้ตัวดีด้วย ยาชามนี้ดื่มหรือไม่พี่รู้อยู่แก่ใจ ไม่ต้องถามถึงน้อง” ชูเซี่ยยกยาชามนั้นขึ้นมา ยิ้มอย่างโล่งใจแล้วปล่อยนิ้ว ชามนั้นก็กระแทกลงบนพื้น แตกลายเป็นหลายชิ้น น้ำยาสาดไปสีรอบ รองเท้าของชูเซี่ยก็โดนไปนิดหน่อย
已经是最新一章了
加载中