บทที่ 242 เสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 242 เสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ
บทที่ 242 เสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ “เป็นแบบนี้นี่เอง... มิน่า ทุกคนถึงหันมามองท่านประธานจิรภาส คงจะเซอร์ไพรส์กันน่าดู” กล่าวจบ พวกเขาก็หันมายกแก้วทักทายให้กับจิดาภา “หากไม่ใช่เพราะรุ่นน้อง พวกเราคงไม่ได้เจอหน้าท่านประธานจิรภาสไปอีกนานเลย” จิดาภายิ้มรับพร้อมยกแก้วแชมเปญขึ้น พวกเขาต่างเป็นนักแสดงรุ่นใหญ่ที่มีชื่อเสียง แต่กลับเรียกเธอว่ารุ่นน้องอย่างสนิทสนม พวกเขาต่างเป็นต้นแบบในการแสดงของเธอ วันนี้ได้มาใกล้ชิดกับพวกเขาถึงเพียงนี้ นับเป็นโอกาสที่หากได้ยากนักสำหรับจิดาภา ชายหนุ่มใส่แว่นในกลุ่มคนหนึ่งสังเกตเห็นแหวนสุดพิเศษที่นิ้วของพวกเขาทั้งคู่ ก็รับรู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาทันที แต่เมื่อเห็นว่าพวกเขากล้าที่จะใส่ของคู่กันด้วยตาของตัวเอง ก็อดที่จะมองอีกรอบไม่ได้ จิดาภาเมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาของเขา เธอก็ไม่ได้มีทีท่าจะซ่อนมือแต่อย่างใด กลับเผชิญหน้ากับเขาซึ่งๆ หน้า... คนคนนั้นเองก็รับรู้ถึงท่าทีของจิดาภา รีบยิ้มและดึงสายตากลับมา “ภายหลังหากรุ่นน้องต้องการความช่วยเหลืออะไร ก็มาหาพวกเราได้ตลอดเวลา บางครั้งก็มาคุยกับคนในกลุ่มของเราบ้างก็ได้” เครือข่ายมนุษย์ นั่นก็เป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำงานของจิดาภาเช่นกัน เธอพยักหน้ารับอย่างมีมารยาท “เช่นนั้นฉันขอขอบคุณรุ่นพี่ทุกคนล่วงหน้าค่ะ” ไม่มีใครคาดคิดว่าจิดาภาจะปรากฏตัวด้วยวิธีแบบนี้ ตอนที่งานเริ่ม ทุกคนต่างคิดว่าผู้ชนะคือนมิดา เพราะจิรภาสจะมาในฐานะประธานของเค.เอฟ และยังพูดอีกว่าเขาเลือกจะรักษาสมดุลของเค.เอฟ แต่เขากลับพาจิดาภามาด้วยกัน ค่ำคืนนี้ ระยะห่างของพวกเขาไม่มีใครสามารถเข้าไปแทรกได้ ข้างกายเขาถูกล้อมรอบด้วยดาราใหญ่ที่มีชื่อเสียง ในตอนที่พวกเขาทักทายจิรภาส ย่อมต้องให้ความสนใจจิดาภาที่อยู่ข้างกายเขาอย่างแน่นอน จากที่เห็น ผู้ชนะที่แท้จริงคือจิดาภาต่างหาก เพียงแค่เธอยืนอยู่ข้างกายจิรภาส ก็ประสบความสำเร็จในการรู้จักคนในกลุ่มนั้นแล้ว “เห็นแหวนที่นิ้วของพวกเขาไหม ใช้แบรนด์ดังที่รับทำเครื่องประดับของแต่งงานหรือไม่” เริ่มมีคนเปิดบทสนทนาอีกครั้ง “อือ ฉันจำได้แบรนด์นั้นจิดาภาเป็นพรีเซนเตอร์ เธอสวมก็ไม่มีปัญหาหรอก แต่ท่านประธานก็สวมด้วยนี่สิ... แต่รูปลักษณ์ไม่เหมือนของจิดาภานะ แค่บังเอิญมากกว่า” “ท่านประธานของพวกเราสวมแหวนตอนไหนกัน ฉันว่านี่มันไม่ธรรมดาแล้ว” “หากเป็นการสวมคู่จิดาภาจริงๆ ก็แปลว่ารักมากเลยนะ ถึงแม้คืนนี้จิดาภาจะไม่ได้ใส่ชุดราตรี แต่เธออยู่ใกล้ชิดท่านประธานขนาดนั้น ราวกับภาพวาดเลย น่าอิจฉาจัง” “เมื่อยืนอยู่ข้างๆ ท่านประธาน ก็ไม่มีใครละสายตาไปจากเสน่ห์ของจิดาภาได้เลย” นับตั้งแต่ที่พวกเขาเข้ามาในงาน สิ่งที่นมิดาเตรียมมาทั้งหมดก็กลายเป็นสูญเปล่า ไม่ว่าชุดที่เธอเตรียมจะเซ็กซี่ขนาดไหน ไม่ว่าค่ำคืนนี้เธอจะทำให้ผู้คนตื่นตะลึงขนาดไหน แต่เธอก็ไม่สามารถเทียบกับอิทธิพลของพวกเขาทั้งคู่ได้ เพราะในสายตาของทุกคน การได้รับความสนใจจากกลุ่มนักแสดงชั้นนำต่างหากที่เรียกว่าผู้ชนะ นั่นคือเรื่องที่ไม่มีใครสามารถทำได้มาหลายปีแล้ว จิดาภากลับทำได้ทั้งที่เพิ่งกลับมาได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น หลังจากที่ถูกด่าทอจนหายตัวไปตั้งแต่หนังเรื่องนั้น เธอก็ได้ตำแหน่งของตัวเองกลับคืนมาอีกครั้งอย่างช้าๆ บางทีการพัฒนาการของเธอในภายหลังอาจทำให้ผู้คนตกใจมากยิ่งขึ้น เพราะชายที่คุ้มครองเธออยู่คนนั้น แต่ประธานบริษัทเค.เอฟอย่างจิรภาส เขายินดีที่จะเป็นนายหน้าให้กับเธอ ก็เพื่อให้เธอได้สวมมงกุฎอันเลอค่าเป็นแน่ ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะโชคหรือ ไม่ใช่ ทุกย่างก้าวของจิดาภาต่างเป็นที่จับตามอง เธอไม่เคยทอดทิ้งความฝันของเธอ ใช้ความพยายามและพลังในการก้าวไปข้างหน้า ดังนั้นเธอถึงได้เป็นที่คาดหวังเป็นพิเศษของจิรภาส มีผู้หญิงน้อยคนนักที่จะสามารถใช้การพึ่งพาอาศัยนี้โดยที่ไม่ป่าวประกาศออกไป ได้มีดาราหญิงชั้นแนวหน้าสองคนเข้ามาชนแก้วอีกครั้ง พวกเธอยกแก้วขึ้นอย่างไม่ถือตัว แต่คนที่ต้องการชนแก้วด้วยกลับไม่ใช่จิรภาส แต่เป็นจิดาภา “คุณรุ่นน้องภายหลังก็มารวมตัวกันบ่อยๆ ...” จิดาภาที่อยู่ข้างกายของจิรภาส ไม่ว่าใครจะมาชนแก้วย่อมต้องส่งมาถึงเธอด้วยเช่นกัน ดังนั้นตอนนี้เธอเองก็เริ่มจะมึนแล้ว จิรภาสสังเกตเห็นแล้วว่าหน้าของเธอเริ่มแดงระเรื่อ จึงเอ่ยขวางพวกเธอไว้ “ผมขอเป็นอัศวินดำ ขอดื่มแทนเธอนะครับ” พวกเธอหันมาสบตากัน และชนแก้วกับจิรภาส ดูเหมือนจิดาภาจะได้พบความสุขที่หาได้ยากในแวดวงนี้เสียแล้ว เธอได้พบกับอัศวินดำที่พร้อมจะปกป้องเธอในทุกๆที่... แต่อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้ก่อให้เกิดความริษยาหรือความไม่พอใจ ในฐานะนักแสดงหญิงด้วยกัน พวกเธอเข้าใจเป็นอย่างดี ว่ากว่าจะมาถึงวันนี้จิดาภาต้องใช้ความพยายามมามากขนาดไหน เมื่อเทียบกับคนใหม่ๆ ในวงการบันเทิงแล้ว จิดาภาไม่ได้เปรียบในเรื่องของอายุเลย แต่ในระดับชั้นแนวหน้านั้น จิดาภาถือว่ายังเป็นวัยรุ่น และยังมีศักยภาพที่ไม่จำกัดอีกด้วย จิดาภาคิ้วขมวดและดึงชายเสื้อของจิรภาสไว้ “ฉันยังไม่ต้องการใช้อัศวินดำค่ะ ฉัน... ฉันยังดื่มไหว” หลังจากที่เมาเธอเริ่มมีอาการออดอ้อนและเอาแต่ใจ เธอกอดแขนของจิรภาส และพิงหัวกับไหล่ของเขากลางงานเลี้ยง จิรภาสอาศัยจังหวะนี้พาจิดาภาไปพักผ่อนอีกที่หนึ่ง ทุกคนต่างเห็นฉากนี้กันถ้วนหน้า นอกจากเสียงชื่นชมก็คือเสียงอวยพร ถึงแม้ความสัมพันธ์ของพวกเขาในตอนนี้จะยังไม่ประกาศออกไป แต่ท่าทางเช่นนี้ มันก็ชัดเจนในใจของทุกคนแล้ว... ไม่มีข้อสงสัยแล้วว่านี่คือของเล่นของจิรภาส เพราะจิดาภาคือผู้หญิงคนแรกที่ได้อยู่ข้างกายเขา เป็นที่รักเพียงหนึ่งเดียว ตำแหน่งนี้ไม่ว่าใครก็แทนที่ไม่ได้ “เมื่อครู่ฉันหันไปมอง นมิดากำลังจะระเบิดแล้ว” “ฉันเป็นเธอ ฉันกลับแล้ว สวมมาซะเลิศหรู แต่สุดท้าย...” “ในเค.เอฟ ทุกคนมักจะต้องระวังหลังกัน มันจะมีการบีบคั้นศิลปินให้ออกจากบริษัทอยู่เสมอ ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่นเลย ฉันว่าเรื่องของจาริณีก็เป็นฝีมือของนมิดานั่นแหละ” “ทำกันถึงขนาดนั้น ฉันก็หวังว่าเธอจะออกไปจากเค.เอฟในเร็ววัน เห็นได้ชัดว่าต้องการแข่งขัน แต่ก็ไม่เห็นจะทำกันรุนแรงขนาดนั้นนี่” นมิดาได้ยินไม่ชัดหรอกว่าพวกเขากำลังคุยเรื่องอะไรกัน แต่เข้าใจสายตาสมเพชและรอยยิ้มเยาะที่กำลังมองมาที่เธอได้เป็นอย่างดี เพราะมันต่างจับจ้องมาที่เธอแต่เพียงผู้เดียว เธอเองก็เคยเป็นดาราชั้นนำของเค.เอฟ เธอเสียไปตั้งเท่าไหร่เพื่อผลักดันเค.เอฟให้เป็นที่จับตามองในวงการบันเทิง จะเอาการปรากฏตัวของจิดาภามาตัดสินให้เธอกลายเป็นคนเลวได้อย่างไรกัน นมิดากัดปากแน่น จ้องมองทางที่พวกเขาสองคนเดินไป ราวกับกำลังตัดสินใจบางอย่าง เดินผ่านกลุ่มคนไปยังเบื้องหน้าของจิรภาสและจิดาภา “ท่านประธานจิรภาสคะ ฉันขอถามค่ะ ฉันอยู่ที่เค.เอฟมาหลายปีไม่เคยเปลี่ยนใจเป็นอื่น ไม่เคยทำเรื่องที่ไม่ดีแก่บริษัทเลยด้วยซ้ำ... คนที่เปลี่ยนไปไม่ใช่ฉัน แต่เป็นเค.เอฟ” “ในเค.เอฟมักจะพูดว่าต้องพึ่งพาพลัง หากแพ้ให้กับคนมีความสามารถ ก็คงไม่มีใครบ่นได้ทั้งนั้น เพราะคุณไม่เคยมีข้อยกเว้นให้แก่ใครแม้แต่ฉันด้วย” นมิดายิ้มเย็นก่อนจะชี้ไปทางจิดาภา “แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรกัน”
已经是最新一章了
加载中