บทที่ 244 ปะทะกันซึ่งๆ หน้า

บทที่ 244 ปะทะกันซึ่งๆ หน้า ร่างของนมิดาแข็งค้าง เธอมองชายที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า เธอไม่เคยคิด ว่าเขาจะหักหน้าเธอเช่นนี้ เธอคิดว่าเธอสำคัญกับเค.เอฟมาโดยตลอด แต่เพิ่งจะได้รู้ในตอนนี้ ว่าทุกอย่างเป็นเธอที่ฝันกลางวัน เธอเป็นเพียงนักแสดงเพียงคนหนึ่งเท่านั้น จิรภาสเมื่อเห็นว่าจิดาภาเริ่มสร่างไปมาก ก็เอ่ยขึ้นกับเธอว่า “เรื่องที่ผมต้องทำในคืนนี้ก็ทำไปมากพอสมควรแล้ว ตอนนี้คงไม่จำเป็นต้องมีผู้ช่วยแล้ว คุณกลับไปเป็นคุณนักแสดงจิดาภาได้แล้วครับ” เขาต้องการให้เธอชนะนมิดาต่อหน้าคนทุกคน “ตอนนี้หรือคะ” จิดาภารู้สึกงุนงง “ครับ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้” สายตาของจิรภาสเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเชื่อมั่น “ผมเชื่อว่าคุณจะทำได้” “ฉันต้องทำอะไรคะ” จิรภาสตอบกลับมาในทันที “เป็นดาราที่มาร่วมงานเลี้ยงครับ เสื้อผ้าถูกเตรียมไว้ที่ห้องแต่งตัวแล้ว” “ท่านประธานวางแผนไว้แล้ว... หรอกหรือนี่ น่ารอคอยมาก” “รูปร่างของนมิดาเซ็กซี่มาก ส่วนรูปร่างของจิดาภาทั้งสูงทั้งมีส่วนเว้าส่วนโค้ง ไม่รู้จริงๆ ว่าใครจะชนะกันแน่” “ท่านประธานมั่นใจได้อย่างไรว่าจิดาภาจะชนะ เขาไม่กลัวเลยหรือว่าเธอจะ...” “ฉันเคยเห็นจิดาภาที่งานแสดงปารีส รูปร่างไม่ใช่เล่นๆ เลยนะ ฉันรู้สึกว่าเธอไม่แพ้หรอก” เพราะข้อเสนอของจิรภาส บรรดานักแสดงจึงเริ่มหันมาให้ความสนใจ ทุกคนต่างก็อยากเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของจิดาภา และจิดาภาก็ตัดสินใจที่จะลงสู้ในคืนนี้ นี่คือโอกาสที่ดีที่เดียว จิดาภาพยักหน้า ท่ามกลางสายตาของทุกคน นมิดาที่เดือดจัดก็เอ่ยขึ้น “รอก่อน” นมิดากำหมัดแน่น ในฐานะนักแสดงรูปร่างคือหนึ่งสิ่งที่เธอภาคภูมิใจ และยังเคยเดินร่วมเวทีกับ Victoria's Secret Supermodels อีกด้วย เธอเชื่อว่าจิดาภาไม่มีทางชนะในด้านนี้ได้ ต่อให้จิรภาสจะยืนข้างเธอ แล้วจะช่วยอะไรได้รึ นมิดาไม่มีเวลามาคิดเรื่องที่จิรภาสประกาศพักงานเธอแล้ว ตอนนี้ทางเดียวที่จะทำให้เธอหายโกรธ มีเพียงเธอจะต้องชนะจิดาภาเท่านั้น เพื่อแสดงให้จิรภาสเห็น เขาพลาดเองที่ไม่เลือกเธอ เหล่านักแสดงไม่เคยมีใครได้เห็นการแข่งขันเช่นนี้ภายในงานเลี้ยงของเค.เอฟมาก่อน เพราะเค.เอฟไม่เคยเกิดความขัดแย้งภายใน ดังนั้นทุกคนต่างก็รอคอย นมิดาได้ทำลายธรรมเนียมของเค.เอฟ และผลลัพธ์ตอนจบที่ถูกพักงานจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร เธอไม่ได้อึดอัด เพราะเธอเชื่อมั่นในชื่อเสียงของเธอที่สั่งสมมาหลายปี ย้ายไปยังบริษัทที่ดีกว่าก็ได้ ถึงแม้จะต้องออกจากเค.เอฟ แต่ไปช่องบลูไลท์ก็ไม่เลว หลายปีมานี้ ช่องบลูไลท์ก็ตามตื๊อเธอมาหลายครั้งแล้วเช่นกัน ในตอนที่จิดาภาไปเปลี่ยนชุด จิรภาสก็เริ่มคุยเรื่องผลิตภัณฑ์และตารางงานใหม่กับบรรดานักแสดงของเค.เอฟอีกครั้ง ทำราวกับไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เขาดูไม่กังวลเลยสักนิดว่าจิดาภาจะทำให้ขายหน้าหรือไม่... เพียงแค่ฐานะของนมิดาในตอนนี้ไม่อาจดูเบาได้ จึงมีคนเริ่มเป็นกังวลแทนจิดาภา ท้ายที่สุดหากความนิยมและความยั่วยวนของนมิดาหักหน้าเค.เอฟได้จริงๆ เรื่องราวทั้งหมดมันกำลังจะกลายเป็นจบได้ยากไป “ท่านประธานจิรภาส นมิดาจะนำแผนงานของบริษัทไปให้กับบริษัทอื่นๆ หรือจะเปิดเผยเรื่องภายในหรือไม่” ทุกคนที่ได้ยินเช่นนั้นต่างก็กังวลใจ แต่จิรภาสยังคงนิ่งสงบ “เช่นนั้นเธอคงต้องเตรียมค่าเสียหายและค่าชดใช้ไว้ครับ แผนกประชาสัมพันธ์ของเค.เอฟไม่ใช่สัตว์กินพืช หากเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริงๆ ผมจะจัดการยุติข่าวลือที่เธอเผยแพร่ภายในหนึ่งชั่วโมงเอง” ค่าชดใช้และค่าเสียหายของเค.เอฟนั้นแพงหูฉีก หากนมิดาลงมือทำจริงๆ คงเป็นการแกว่งเท้าหาเสี้ยน ยามนี้นมิดาไม่ได้เป็นที่จับตามองของทุกคนอีกต่อไป ถึงแม้เธอจะยืนอยู่ตรงกลางกลุ่ม แต่ก็ไม่มีใครแม้แต่คนที่จะยอมคุยกับเธอ เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มเย็น นี่แหละมนุษย์... “พวกคุณกำลังรอดูจิดาภาชนะอย่างนั้นหรือ รอไปเถอะ ให้ตายเธอก็ไม่มีทางนะฉัน” เพราะค่ำคืนนี้คืองานเลี้ยงวันครบรอบของเค.เอฟ และยังมีนมิดาและจิดาภาขึ้นเวทีเดียวกันอีกด้วย สื่อและนักข่าวด้านนอกต่างก็ให้ความสนใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นข้างในเป็นอย่างมาก แต่เค.เอฟไม่ได้มีการเชิญสำนักข่าวใดๆ ดังนั้นบรรดานักข่าวจึงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในงาน มีนักข่าวและปาปารัซซี่บางคนพยายามที่จะปลอมตัวเป็นพนักงานเข้าไปเช่นกัน แต่ก็ถูกบอดี้การ์ดไล่ออกมากันถ้วนหน้า การรักษาความปลอดภัยของเค.เอฟนั้นเข้มงวดอยู่เสมอ คนนอกไม่สามารถเข้าไปได้แม้แต่คนเดียว และในโลกโซเชียลตอนนี้ ก็เริ่มมีการโพสต์สนับสนุนไอดอลของตัวเองกันแล้ว แฟนคลับของทั้งสองคนที่มีความคิดในแบบของตนเอง ก็เริ่มเปิดศึกตีกัน และก็ยังคงตีกันไปตีกันมาอย่างไม่รู้จบ... “ตอนอยู่ที่ต่างประเทศนมิดาทำเงินอยู่ตั้งหลายปี จะแพ้ให้กับคนที่เพิ่งกลับเข้าวงการมาได้อย่างไร ไม่มีทาง” “อย่างไรจิดาภาก็เป็นที่นิยม เธอเพียงแค่หายไปพักตัวระยะสั้นๆ เท่านั้น พวกคุณนั่นแหละ พาคนไปพักหน่อยไหม ทำเงินที่ต่างประเทศแล้วอย่างไร งานแสดงแฟชั่นวีคที่ต่างประเทศก่อนหน้านี้จิดาภาก็ทำไว้ได้ดีเช่นกัน” “จิดาภาของพวกเธอก็มีแต่ข่าวลือหนาหู สงสัยนะว่าเป็นเพราะคนอื่นปรักปรำนางกันทุกรอบเลยหรือ ฉันมองว่านางไม่เหมาะกับการเป็นไอดอลสักนิด” “จะเหมาะไม่เหมาะมันไม่ใช่เรื่องที่พวกคุณจะเป็นคนตัดสิน ไม่ว่าอย่างไร เป็นนมิดาที่อิจฉาจิดาภา เพราะประธานจิรภาสเป็นนายหน้าให้เธอต่างหาก” การโต้เถียงของแฟนคลับเริ่มร้อนแรงกันมากขึ้นเรื่อยๆ และทุกคนที่อยู่ในงานที่กำลังรอคอยจิดาภาเองก็อยากรู้ ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น นมิดามองไปที่ทางเข้าก็ยังไม่เห็นแม้แต่แผ่นเงาของจิดาภา ริมฝีปากสีแดงเหยียดยิ้ม เธอหนีไปแล้วใช่หรือไม่ แสงไฟดับไป ดวงไฟสปอตไลต์ทั้งสามส่องไปที่ประตูทางเข้า จิดาภาที่สวมชุดราตรีราคาแพงที่เปล่งประกายอย่างเงางาม กำลังเดินเวทีอย่างช้าๆ ผมของเธอถูกรวบม้วนขึ้น ประดับด้วยไข่มุกเล็กน้อย สวมใส่ต่างหูยาว เผยให้เห็นลำคอขาวและไหปลาร้าที่เด่นชัด เมื่อเทียบกับการแต่งหน้าที่จัดจ้านของนมิดา การแต่งหน้าของจิดาภาช่างสง่างามยิ่ง แต่เพราะเช่นนี้ เธอถึงแสดงให้เห็นถึงความสง่างามและความหรูหราได้อย่างหมดจด ช่างน่าทึ่งจริงๆ ... บนโลกนี้มีคนที่สวยถึงขนาดนี้ด้วยหรือ ชุดที่งดงามเช่นนี้... เดรสยาวราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืนลากยาวอยู่ข้างหลังของเธอ ทุกย่างก้าว เพชรบนกระโปรงยาวนั้นราวกับดวงดาวที่เปล่งประกาย ช่างงดงามยิ่งนัก ความงามของจิดาภาทำให้ทุกคนต่างตกตะลึง นมิดาเมื่ออยู่เบื้องหน้าของเธอนั้นกลายเป็นธรรมดาไปทันที การแต่งกายที่อลังการเช่นนี้ต่างทำให้ผู้คนไม่กล้ามองเป็นรอบสอง เพราะกลัวจะเสียมารยาท และมันไม่ได้สวยเพียงเพราะชุดราตรีของจิดาภา มันพอดีพอเหมาะรับกับเอวคอดของจิดาภา เมื่อรวมเข้ากับรูปร่างที่สูงเพรียว ราวกับนางฟ้าก็ไม่ปาน ทุกคนต่างตื่นตะลึงกับความงามของจิดาภา และอดชื่นชมประธานของพวกเขาไม่ได้ว่ามีวิสัยทัศน์กว้างไกลนัก “พระเจ้า ฉันอยากมีขาที่สวยแบบนั้น เอวและหน้าอกที่เซ็กซี่นั่นด้วย...” “เดรสนี้เป็นเอกสิทธิ์ของจิดาภา นอกจากเธอแล้ว ก็คงไม่มีใครใส่ได้ดูดีอีกแล้ว เพราะมีรูปร่างแบบนั้น มันถึงได้งดงามยิ่งขึ้นไปอีก”