บทที่ 248 คุณจิรภาสเต้นรำเป็นไหมคะ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 248 คุณจิรภาสเต้นรำเป็นไหมคะ
บทที่ 248 คุณจิรภาสเต้นรำเป็นไหมคะ สถานการณ์ในตอนนี้ เบญญาเองก็ไร้หนทางแล้ว “เมื่อเรื่องจบลง ฉันจะได้อะไรจากเรื่องนี้หรือคะ” “หากต้องการเงิน ผมก็จะให้เงิน หากไม่ต้องการเงิน ผมก็จะให้หุ้นสตูดิโอซื่อสัตย์กับคุณ คุณก็รู้ พอเราเปิดเผยตัวตนของจิดาภาไป ราคาของมัน...” ตนุภัทรได้กำหนดหนทางไว้หมดแล้ว เพียงรอแค่โอกาสที่ดีเท่านั้น เบญญาคาดเดาถึงเหตุการณ์หลังจากที่เรื่องจบลงอย่างประสบผลสำเร็จ จิดาภาอาจจะทุกข์ระทมต้องมาขอร้องกับเธอ เธอไม่เอาเงินก็ได้ เพราะการเหยียบจิดาภาให้จมดินนั้น เป็นสิ่งที่น่าสนใจกว่ากันเยอะ ดังนั้นเบญญาต้องกลับไปที่เค.เอฟโดยเร็วที่สุด เธอต้องนำหลักฐานแบล็กเมล์ของจิดาภามาให้ได้ และต้องไม่ให้จิรภาสจับได้ ไม่อย่างนั้นมันคงจะกลายเป็นจุดจบทันที ..... เมื่องานเลี้ยงจบลง จิรภาสและจิดาภาก็กลับบ้านไปด้วยกัน เมื่อออกมาจากห้องโถงของงานเลี้ยง จิดาภาก็ดึงจิรภาสมาเต้นรำด้วยตลอด หมุนไปมาได้ไม่หยุด ขนาดเข้าบ้านมาแล้วก็ยังไม่หยุด จนจิรภาสโอบกอดเอวของเธอ และล้มลงไปบนโซฟาด้วยกัน “จิรภาสคะ วันนี้ฉันมีความสุขมากๆ ...” “อือ ผมดูออก” จิรภาสปล่อยให้เธอก่อกวน ถอดรองเท้าให้เธอพลางเอ่ยเอาใจเธอ “เพียงแค่คุณมีความสุข ไม่ว่าคุณจะทำอะไรผมพร้อมอยู่เคียงข้างคุณ” “...คุณจิรภาสคะ คุณเต้นรำเป็นไหมคะ” จิรภาสเพิ่งจะถอดรองเท้าให้เธอเสร็จเท่านั้น เธอก็ลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง ราวกับมาร์ชเมลโล่ที่มาติดกับร่างของจิรภาส ณ ตอนนี้ ร่างกายของชายหนุ่มคับตึงและร้อนรุ่ม แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้รับรู้เลย... หากจิรภาสไม่เต้นกับเธอ เธอคงจะป่วนจนไม่ได้พักผ่อนกันเป็นแน่ ดังนั้นจิรภาสจึงทำได้แค่อุ้มเธอขึ้นมา และหมุนเธอไปมาบนพรมของห้องรับแขก แน่นอนว่าเป็นการเต้นรำแบบง่ายที่สุด เธอในตอนนี้เมาจนไม่รู้แล้วว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ จิดาภาเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศแห่งความสุขที่เงียบสงบนี้ เธอไม่ได้กล่าวอะไร เพียงแค่เชื่อใจในตัวผู้ชายคนนี้หมดใจ ผ่านไม่ชั่วครู่ จิดาภาก็ก้มหน้าซบไหล่ของเขา และบ่นพึมพำ “คุณไม่กังวลเลยหรือคะ หากฉันแพ้นมิดา หากคนของเค.เอฟไม่ยอมรับให้เราอยู่ด้วยกัน... ตอนที่ฉันเปลี่ยนชุดเมื่อบ่าย ฉันกังวลมากเลย” เธอไม่สามารถบังคับสายตาของทุกคนได้ เธอไม่สนใจก็ได้ แต่เมื่อจับมือกับจิรภาส เธอก็ไม่สามารถบังคับใจของตัวเองได้ “ฉันกลัวว่าเรื่องนี้มันจะยังไม่จบค่ะ หากยังมีคนอื่นที่สงสัยในตัวฉัน คุณจะจัดการอย่างไรคะ” จิรภาสทัดผมไว้หลังหูของเธอ “ค่ำนี้ตอนที่ปะทะกับนมิดา ดูมั่นใจมากเลยนะครับ” “นั่นฉันยอมให้ใครมาว่าคุณไม่ได้” จิดาภาเบะปาก และกอดเขาไว้แน่น “นอกจากฉัน ใครหน้าไหนก็ห้ามว่าคุณแม้แต่ครึ่งคำ” ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่สู้อย่างสุดพลังเช่นนั้นหรอก เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทันใดนั้นจิรภาสก็รู้สึกว่าค่ำคืนนี้มันช่างดีจริงๆ เขารู้สึกลุ่มหลงกับความรักของเธอ คำพูดของเธอทำให้ใจของเขาร้อนรุ่ม หวานละมุนไปทั้งใจ เป็นความฝันที่ทำให้ตื่นพร้อมกับรอยยิ้ม “หากให้ฉันต้องพบเจอกับเรื่องแบบนี้อีก ฉันก็ยังขอทำเช่นเดิม” เพื่อเขาที่ไม่สนใจตัวเอง จิรภาสไม่อาจอดกลั้นได้อีกต่อไป เขากดจิดาภาลงกับพรม พรมจูบลงไป เขาไม่สนว่าเธอจะขัดขืนหรือไม่ ขอเพียงแค่ร่างกายเธอโอนอ่อนตามก็พอ ค่ำคืนนี้ พวกเธอจูบกับอย่างร้อนแรง จนร่างกายทาบกันแนบแน่น... เมื่อเผชิญหน้ากับอ้อมกอดและจูบของจิรภาส จิดาภาก็เริ่มคว้าคอของเขา เพื่อมอบริมฝีปากของตัวเอง ที่มีรสสัมผัสของความมึนเมาเล็กน้อย ทั้งสองคนต่างหมดแรง “ฉันในตอนนี้ไม่อาจแยกจากคุณได้อีกแล้วค่ะ” จิรภาสเมื่อได้ฟังคำพูดของหญิงสาวในอ้อมแขน ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “แยกจากไม่ได้อย่างนั้นรึ” “รักจนยากจะหลุดพ้น...” จิดาภาซบหัวไปกับหน้าอกของเขา กัดผิวของเขาอย่างแผ่วเบา “ฉันอยากจะทิ้งร่องรอยของฉันเอาไว้” ..... งานเลี้ยงที่ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีของเค.เอฟกลับมีเรื่องนอกเหนือความคาดหมาย เช้าวันที่สองข่าวที่นมิดาโดนเค.เอฟพักงานและแบนก็ดังขึ้น แผนกประชาสัมพันธ์ของเค.เอฟไม่ได้ปฏิเสธการไถ่ถามของนักข่าว เพราะเรื่องนี้ได้ทำการตรวจสอบความถูกต้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวนี้ คนภายในเค.เอฟย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ หากเบื้องบนไม่ใช่คนสั่งการ ใครจะกล้าทำกัน หลายปีที่ผ่านมาเค.เอฟไม่เคยมีความขัดแย้งภายในมาก่อน ตอนนี้เป็นนมิดา แน่นอนว่าเพื่อที่จะตัดตัวปัญหา จึงต้องรีบกำจัดเธออย่างโดยเร็ว คนที่ควบคุมไม่ได้ท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นหายนะ สำหรับด้านนี้ เค.เอฟมักจะจัดการได้อย่างรวดเร็วเสมอ มองจากภายนอก เค.เอฟถือเป็นบริษัทที่เปิดเผยข้อมูลไว้อย่างชัดเจน เค.เอฟถือเป็นบริษัทที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ใครหน้าไหนที่พยายามทำลายบรรยากาศภายในของเค.เอฟก็ไม่สมควรได้อยู่ต่อ จุดจบของนมิดานั้นเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะพัฒนาไปไกลขนาดไหน แต่หากไปขวางทางเค.เอฟ ผลลัพธ์มักจะร้ายแรงเสมอ แม้แต่ดาราดังของเค.เอฟอย่างนมิดาก็ตาม เมื่อบอกว่าจะตัดก็คือตัด ใครหน้าไหนก็ไม่กล้าก่อเรื่องอีก นมิดาในอยู่บนเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาล เมื่อได้ยินข่าวนี้ นิ้วของเธอก็สั่นอย่างห้ามไม่อยู่ ใครสามารถบอกเธอได้บ้างว่าทำไมโลกถึงเปลี่ยนไปได้ภายในหนึ่งคืน เธอสัมผัสใบหน้าที่ฟกช้ำของเธอ เธอยังคิดไปว่าตัวเองเก่งกาจนักที่สามารถไปข่มขู่จิรภาสได้ ในท้ายที่สุด ตัวเธอนั้นไม่มีค่าในสายตาของเขาเลย เธอไปขู่จิรภาสทำไมกัน เธอบ้าไปแล้วจริงๆ เธอทำลายชีวิตและเส้นทางบันเทิงด้วยมือของตัวเอง นมิดาโยนของทุกอย่างที่อยู่ข้างเตียง พร้อมร่ำไห้ก้องไปทั้งห้องพักผู้ป่วย เธอยังคงไม่รู้ว่าตอนนี้บ้านของตัวเองได้โดนเบญญายกเค้าไปจนหมดแล้ว... หลังจากนั้นไม่กี่นาที Rickก็โผล่ตัวขึ้นที่ห้องของนมิดา มองสภาพห้องที่ยุ่งเหยิงและผู้หญิงที่มีสายตาว่างเปล่าบนเตียง เขาหยิบหนังสือสัญญาขึ้นมาหนึ่งฉบับ “นี่คือการดูแลครั้งสุดท้ายจากเค.เอฟ ขอมอบตำแหน่งพรีเซนเตอร์แบรนด์YOUYOUให้คุณ” นี่คือการยอม หรือการชดเชยกัน นมิดายิ้มเย็น “ฉันไม่ต้องการความสงสารจากพวกคุณ” Rickยืนห่างจากเตียงของเธอมาหนึ่งเมตร และมองเธออย่างเงียบๆ “ไม่มีคนสงสารคุณ คุณมาถึงจุดจุดนี้ได้เพราะตัวคุณเองทั้งนั้น เป็นคุณที่เลือกเดินทางผิด คุณก็แค่อิจฉาจิดาภา ต่อให้ตอนนี้คนที่เซ็นสัญญากับเค.เอฟไม่ใช่เธอ ในไม่ช้าไม่เร็วคุณก็จะทำเช่นนี้อยู่ดี” “และคุณไม่ควรจะออกไปหาเรื่องใครอีก” เขากำลังหมายถึงเรื่องที่หาคนไปโจมตีจาริณี นมิดาหมดคำพูด เธอส่ายหัวอย่างช้าๆ ลังเลอยู่นาน ก่อนจะถามRick “ฉันในตอนนี้ดูย่ำแย่กว่าจาริณีที่ถูกแฟนทิ้งอีกรึ” “ใจคุณรู้คำตอบดี ผมไม่จำเป็นต้องตอบหรอก” เขาวางสิ่งที่เขาควรจะนำไป และพร้อมจากไป “อย่าได้ก่อเรื่องในเค.เอฟอีก คุณก็รู้จักนิสัยของท่านประธานดี” นมิดาหัวเราะเยาะตัวเอง “ฉันจะไปรู้จักนิสัยของเขาได้อย่างไร หากรู้ ฉันก็คงจะไม่น่าสมเพชขนาดนี้ แต่ต่อให้ตอนนี้จิดาภาชนะฉันแล้วมันอย่างไร พวกเขาจะได้ไปต่อกันอย่างราบรื่นอย่างนั้นรึ”
已经是最新一章了
加载中