บทที่ 250 คุณจิรภาส คุณได้คะแนนเต็ม

บทที่ 250 คุณจิรภาส คุณได้คะแนนเต็ม เบญญารู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกจับตามอง จึงเดินเข้าไปในออฟฟิศของRickด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก “นี่มันหมายความว่าอะไร ฉันยังเป็นพนักงานของเค.เอฟอยู่นะคะ คุณให้คนมาจับตามองฉันทำไม” “ผมทำเพื่อปกป้องบริษัท กับคนที่กำลังเป็นบุคคลต้องสงสัย ผมก็ต้องระมัดระวังไว้ก่อน” “คุณอย่าเยอะเกินไปนะคะ” “อพาร์ตเมนต์ของนมิดาเกิดอะไรขึ้น คุณน่าจะเข้าใจมากกว่าผมนะ” Rickกล่าวออกไปตรงๆ เขาขี้เกียจจะฟังเบญญาแถแล้ว ทันใดนั้น เบญญาก็ตะลึงงัน เธอไม่คิดว่าRickจะเดาได้ แต่เธอจะยอมรับมันทั้งอย่างนี้ไม่ได้ จึงโต้กลับไป “ฉันไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดอะไร หากคุณกำลังหาคนที่ทำร้ายนมิดา เช่นนั้นฉันก็คุยกับคุณได้ เพราะฉันก็โดนเช่นกันค่ะ” Rickนิ่งฟัง พร้อมจดจ้องไปที่เบญญา ดูเหมือนว่าที่นมิดามาถึงในจุดจุดนี้ คงเพราะโดนเป่าหูจากคนข้างกายมาโดนตลอด ไม่สนว่าเบญญาจะพูดอะไร ในสายตาของRick เธอก็แค่ตัวตลกที่หน้าไม่อายเท่านั้น “ช่วยออกไปด้วย ผมจะรีบส่งสัญญาการเลิกจ้างให้คุณโดยเร็ว ตอนนี้คุณไม่ใช่พนักงานของเค.เอฟแล้ว” เบญญาสบถด้วยความโมโห เธอรู้ว่าเรื่องนี้เป็นการตัดสินใจของจิรภาส ต่อให้เธอก่อกวนอยู่ที่นี่ ผลลัพธ์ก็คงยังเป็นแบบเดิม เธอลอบด่าในใจอยู่หลายคำ ก่อนจะออกมาจากออฟฟิศของRickโดยความไม่สบอารมณ์ เพียงแค่เธอยังไม่ได้ตรงออกจากเค.เอฟไป แต่กลับเดินไปเดินมาอยู่ตรงทางเดินของห้องพัก มองเหล่าศิลปินที่กำลังพูดคุยกันอยู่ แกล้งล้มลงและขโมยโทรศัพท์ของศิลปินมาหนึ่งคน ศิลปินคนนั้นจ้องเธอโดยความเกลียดชัง “เธอทำอะไร” “ฉัน... ฉันไม่ได้ระวังจนล้มเองค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ” เบญญายิ้มเจื่อนๆ “นี่มันนายหน้าของนมิดาไม่ใช่รึ ทำไมถึงยังอยู่ที่บริษัทกัน” “อย่าไปสนใจเธอ ฉันว่าเธอกำลังจะบ้า ได้เวลาซ้อมเต้นแล้ว ไปกันเถอะ” เหล่าศิลปินในเวลาซ้อมไม่สามารถนำโทรศัพท์เข้าไปได้ และไม่มีใครรับรู้ถึงโทรศัพท์ที่หายไป ณ ตอนนั้นเอง เบญญาจึงได้ลอบออกมาจากบริษัทอย่างรวดเร็ว และนำโทรศัพท์ไปให้ตนุภัทร “สุดแล้วแต่ความสามารถของพวกคุณแล้ว” ตนุภัทรมองเธออย่างสงสัย “คุณมั่นใจใช่ไหมว่าในนี้จะมีสิ่งที่ผมต้องการ” “อย่างไรก็นักแสดงของเค.เอฟ ต้องมีมันอยู่แล้ว” “ได้ ผมจะไปหาคนปลดล็อกมัน” ..... ณ เวลานั้นเอง วงการบันเทิงจึงได้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ เริ่มฝึกนักร้องและนักแสดงที่ข้ามพรมแดนมา โดยเฉพาะศิลปินทางMV ทั้งนี้โอเลและบริษัทsuperเองก็ได้มีการเติบโตขึ้น และญาณินีที่เสียผู้ช่วยฝีมือดีไปมากมาย ก็เริ่มหาผู้สมัครใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้ช่องบลูไลท์และเค.เอฟต่างเสียหายกันไม่น้อย บุคคลภายนอกกำลังจับตามองว่า หลังจากที่ถอดถอนนมิดาไป จะเริ่มทำการผลักดันจิดาภาหรือไม่ หลังจากรองประธานของช่องบลูไลท์กลับมาจากการชุบตัวที่ต่างประเทศ ในเวลาไม่นาน ช่องบลูไลท์ก็กลับมาต่อสู้อย่างดุเดือดกับเค.เอฟอีกครั้ง เพราะในตอนที่ให้การสัมภาษณ์จิดาภาจงใจเลี่ยงหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับจิรภาส เธออยากให้ทุกคนชอบที่ตัวตนของเธอเอง ไม่ใช่เพราะการเป็นคู่จิ้น และเธอไม่ต้องการหากินกับจิรภาสอีก ดังนั้นนักข่าวจึงได้ข้อมูลมาได้เพียงน้อยนิด ในตอนที่นมิดาเพิ่งจะถูกถอดถอนไปได้ไม่นาน รองประธานของช่องบลูไลท์อย่างธวัชก็เซ็นสัญญากับนักแสดงสาวลูกครึ่งคนหนึ่ง ด้วยรูปร่างที่เซ็กซี่และภาพลักษณ์ที่โดดเด่นทำให้เธอกลายเป็นที่จับตามองได้ไม่น้อย บุคคลภายนอกต่างคาดเดาว่านี่อาจจะเป็นคลื่นลูกใหม่ที่ช่องบลูไลท์เตรียมนำมาประชันกับเค.เอฟก็เป็นได้ และจิดาภาจะสามารถกลายเป็นคนที่สองต่อจากนมิดาที่กดความหยิ่งยโสของช่องบลูไลท์ได้หรือไม่ หากมองจากตรงนี้ ฐานะรองประธานธวัชของช่องบลูไลท์นั้นถือว่าเป็นเรื่องลึกลับมาก เขามีรูปร่างที่หล่อเหลาและโรแมนติก เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่เย็นชาต่อนักแสดงสาวทุกคนอย่างจิรภาส จากจุดจุดนี้เขาจึงได้รับความนิยมจากนักแสดงหญิงไปไม่น้อยเลยทีเดียว การกลับมาจากต่างประเทศของเขาในครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่ามาประกาศความแข็งแกร่งให้เค.เอฟได้เห็น กลางดึก จิดาภาอ่านข่าวใหม่ในหมวดบันเทิงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเห็นว่ามีคนทำการเปรียบเทียบระหว่างจิรภาสและธวัช ตั้งแต่ส่วนสูง กรุ๊ปเลือด ไปจนถึงการวิเคราะห์กล้ามเนื้อ... ธวัชมักจะแต่งตัวเปิดเผยอยู่แล้ว จนมีนักข่าวหลายคนที่จับภาพกล้ามเนื้อของเขาได้ แต่จิรภาสไม่ได้ให้ความสนใจกับทางนี้ และขยับตัวน้อยมาก คนภายนอกจึงมีข้อมูลของเขาในด้านเพียงเบาบาง และบางคนก็ไม่รู้เลย แต่ในสายตาของจิดาภา รูปร่างของจิรภาสนั้นใครก็สู้ไม่ได้ รูปลักษณ์ภายนอกของธวัชถือว่าไม่เลวทีเดียว แต่หากเทียบกับจิรภาส ก็ยังคงมีความต่างอย่างมาก จิรภาสที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จกลับเข้ามาในห้องนอน ก็เห็นจิดาภาไถโทรศัพท์ด้วยความสนอกสนใจ เขาที่เข้าไปดูก็เห็นรูปภาพบนนั้น คิ้วขมวดเล็กน้อย หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกครั้ง ก่อนจะถาม “ผมกับเขา...” “คุณชนะค่ะ” “ชนะที่ตรงไหนกัน” จิรภาสนั่งลงที่ขอบเตียง ก่อนจะอุ้มจิดาภาขึ้นมากอดบนตัก กระซิบที่ข้างหูของเธออย่างแผ่วเบา “หน้าตา รูปร่าง หรือฐานะ” “ทั้งหมดค่ะ ในใจของฉัน ไม่มีใครสู้กับคุณได้ หากคะแนนเต็มหนึ่งหมื่น คุณก็ได้คะแนนเต็ม พวกเขาได้คะแนนแค่สามหลักเท่านั้นแหละค่ะ” จิรภาสเมื่อฟังจิดาภาพูดจนจบ ใบหน้าก็เผยให้เห็นรอยยิ้มที่ดูรักใคร่ พลิกตัวจับจิดาภากดลงกับเตียง ใช้มือกำสองมือของเธอไว้และจูบอย่างแผ่วเบา “รางวัลของคุณ...” เขายื่นมือไป เพื่อปิดไฟในห้อง ในความมืดมิด ใบหน้าของจิดาภาแดงระเรื่อ “ฉันยังไม่ได้อาบน้ำเลย...” “ไม่จำเป็น...” ..... หลังจากที่ธวัชกลับมาถึงประเทศ เขามักจะได้รับการสัมภาษณ์จากนักข่าวตามโอกาสต่างๆ อยู่แล้ว เขามักจะเป็นกันเอง บางครั้งหากเดินเล่นอยู่ข้างถนน และอารมณ์ดี ก็จะอนุญาตให้นักข่าวถ่ายรูปได้ เขาถูกนักข่าวจับภาพได้ ในตอนที่เขากำลังขับรถสปอร์ตพานักแสดงสาวลูกครึ่งไปยังช่องบลูไลท์ จึงโบกมือและกล่าวว่า “หน้าประตูช่องบลูไลท์ ผมจะรอพวกคุณสิบนาที หากตามมาทัน ผมจะให้พวกคุณสัมภาษณ์” บรรดานักข่าวต่างก็ขับตามไปติดๆ ตามมาจนถึงหน้าประตูใหญ่ของช่องบลูไลท์ ธวัชถอดแว่นตาดำออก แค่นเสียงในลำคอด้วยความไม่สบอารมณ์ และกวักมือเรียกให้นักข่าวเข้ามา “คุณธวัช เพียงคุณกลับประเทศมาคุณก็เซ็นสัญญากับนักแสดงสาวลูกครึ่งที่มีความสามารถทันที หรือว่าในเวลาอันใกล้นี้ช่องบลูไลท์จะเกิดการเคลื่อนไหวกัน จะรุนแรงพอๆ กับเรื่องที่เค.เอฟถอดถอนนมิดาหรือไม่” “คุณธวัช ตอนนี้บนโซเชียลเกิดการเปรียบเทียบระหว่างคุณและคุณจิรภาสกันอย่างบ้าคลั่ง คุณมีความคิดเห็นว่าอย่างไรคะ คุณคิดว่าระหว่างพวกคุณมีความแตกต่างที่ตรงไหนกัน” ราวกับธวัชได้เดาแนวทางคำถามของนักข่าวไว้ก่อนแล้ว เขาจึงตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “เพื่อนบนโซเชียลคอยใส่ใจผมเช่นนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะครับ” “ช่องบลูไลท์และเค.เอฟต่างก็เป็นคู่แข่งกันมาตลอด การแข่งขันในวงการบันเทิงจะยิ่งรุนแรงขึ้น บรรดาศิลปินเองก็พยายามมากขึ้นเช่นกัน” “เรามีบางสิ่งที่ไม่เหมือนกันอยู่...เช่นสายตาในการมองผู้หญิง”