บทที่ 257 พวกเราชนะแล้ว   1/    
已经是第一章了
บทที่ 257 พวกเราชนะแล้ว
บทที่ 257 พวกเราชนะแล้ว ท่าทางแบบนี้มัน... พวกเขาอยู่อย่างนี้ตลอดยามอยู่ที่บ้าน แต่ในที่นี้ตอนนี้ จิดาภาไม่สามารถจริงๆ จิรภาสยื่นมือไปกอดเธอไว้ “จะเริ่มแล้ว” “เหอะ ตอนนี้กอดได้ก็กอดไปเถอะ รอผมชนะเสียก่อน ก็จะไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว แพ้ชนะในครั้งเดียว” ธวัชส่งสายตาให้กับดีลเลอร์เพื่อเป็นการบอกให้เธอเริ่มแจกไพ่ เกมนี้คือไพ่เท็กซัส โฮลเอ็ม ไพ่ต้องเรียงด้วยสัญลักษณ์เดียวกันและมีค่ามากที่สุด และหยิบเพิ่มได้สี่ตา ประมาณนี้ ธวัชไม่ใช่ว่าไม่เคยเล่นพนันกับผู้หญิง แต่เขาก็ไม่เคยแพ้ให้กับผู้หญิงมาก่อน แค่นักแสดงตัวจ้อยที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เขาไม่เห็นอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย เมื่อดีลเลอร์แจกไพ่เสร็จ ทั้งสองคนก็หยิบไพ่ขึ้นมาสองใบตามลำดับ จิดาภาได้ A โพธิ์แดง และ Q โพธิ์ดำ ส่วนในมือธวัชมี 10 คู่ ไพ่แต่ละใบมีข้อดีในตัวของมันเอง ธวัชให้ดีลเลอร์แจกไพ่ต่อ เพราะไพ่นั้นได้ถูกจัดไว้แล้ว K โพธิ์แดง 5 ข้าวหลามตัด และ 10 ดอกจิก จิดาภาจะทำให้เรียงได้อย่างนั้นรึ ในเมื่อในมือของธวัชนั้นมีตอง 10 ไว้ในครอบครอง การพนันมีโชคเป็นตัวแปรสำคัญ แต่ก็คงไม่สำคัญเท่าจิตวิทยาอยู่ดี จิรภาสเพียงกอดจิดาภาไว้ มองไพ่และไม่ได้แสดงอาการอะไรอีก เขามองจิดาภาจากด้านข้าง เธอดูคุ้นเคยกับการเล่นไพ่ เป็นเพราะเคยเล่นกับชเยศมาก่อนหรือ เมื่อคิดได้ดังนี้ เขาก็รู้สึกหึงเล็กน้อย แต่เพราะจิดาภาบอกไว้แล้ว ว่าเพื่อชัยชนะของเขาในค่ำคืนนี้ เขาจึงปล่อยวางความหึงหวงนั้นไป เปิดไพ่กองกลางใบที่สี่ A โพธิ์ดำ ธวัชยังคงได้เปรียบ ในมือของจิดาภามี A คู่ แต่หากใบสุดท้ายไม่ใช่ J เธอก็ต้องแพ้อยู่ดี ธวัชแสยะยิ้มพร้อมเอ่ยอย่างอวดดี “ให้โอกาสยอมแพ้นะครับ ยังเหลือไพ่ใบสุดท้ายอยู่” มือของจิรภาสวางลงบนโต๊ะ “ไพ่ใบสุดท้ายให้ผมดูแล้วกัน” “หากชนะขึ้นมา เป็นคุณหรือฉันที่ชนะคะ” “คุณ” จิดาภาพยักหน้า และเมินคำพูดของธวัชไปซะ และให้ดีลเลอร์ทำการแจกไพ่ต่อ ไพ่ใบสุดท้ายคือ 3 ข้าวหลามตัด ไม่ได้มีประโยชน์อะไรต่อพวกเขาทั้งนั้น มือของจิดาภาเริ่มมีเหงื่อซึม เธอเริ่มกังวล หากยังไม่หงายไพ่ เธอก็ยังมีโอกาสที่จะชนะ แต่... ธวัชหัวเราะพร้อมหงายไพ่ขึ้น แทบจะไม่ต้องเดาด้วยซ้ำ ตอง 10 จิดาภาจับไพ่ในมือแน่น ในตอนที่กำลังจะหันไปหาจิรภาส มือหนึ่งของจิรภาสก็แตะเข้าที่แขนของเธอ “เชื่อผม หงายไพ่เถอะ” จิดาภารู้ดีว่าในมือของเธอมีแค่ A คู่ จะต้องแพ้อย่างแน่นอน แต่เธอไม่ได้เอ่ยสิ่งที่กำลังหวาดกลัวอยู่ออกไป “ลูกผู้ชายหน่อย รู้แพ้รู้ชนะ ท่านประธานจิรภาสคงไม่ใช่ว่าไม่รู้หรอกนะ” ธวัชตัดสินเอาจากท่าทางของพวกเขา คาดคิดไปว่าตัวเองนั้นชนะอย่างแน่นอน พร้อมโบกมือไปมา “ดูแล้ว คืนนี้ผมคงได้เปิดห้องสวีทเป็นแน่” “อย่าได้ฝัน...” จิรภาสส่งสัญญาณให้จิดาภาเปิดไพ่ มือซ้ายของจิดาภาจึงหงายไพ่ขึ้น แต่ไพ่กลับกลายเป็น J และ Q ทำไมไพ่ A ของเธอถึงเปลี่ยนเป็น J ไปได้กัน นอกจากจิรภาสแล้ว ยังจะเป็นใครอื่นได้อีกหรือ “เรียงค่ะ ชนะ” ธวัชมองพวกเขาด้วยความเหลือเชื่อ ตื่นตระหนกจนถึงขีดสุด สีหน้าย่ำแย่ เขาทุบโต๊ะด้วยความโกรธ ไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง “ขอให้คุณธวัชรักษาคำพูดด้วย ไปให้สัมภาษณ์กับนักข่าวด้วยค่ะ ว่าเพราะสู้เขาไม่ได้ เลยต้องทำร้ายคนอื่นแบบนี้” ธวัชโกรธจัดจนลุกขึ้น และเดินออกไปพร้อมกับพ่อทันที ดีลเลอร์ที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะพนันเอ่ยขึ้น “ทุกครั้งที่คุณชายธวัชเล่นไพ่ เขาโกงทุกครั้งเลยค่ะ” “พอมองออกอยู่ ดูท่าจะเซียนเลยด้วย” จิรภาสตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “แล้วคุณล่ะคะ” จิดาภาหันมามองเขา “ท่านประธานจิรภาสเพียงต้องการสั่งสอนเขาเท่านั้นค่ะ หากท่านต้องการชนะจริงๆ ก็ย่อมได้ไพ่ตามที่ต้องการอยู่แล้วค่ะ” ดีลเลอร์เอ่ยเสริมขึ้นอีก “พวกคุณรู้จักกันหรือคะ” จิดาภาเอ่ยถามด้วยความตกใจ จิรภาสพยักหน้า และพาจิดาภายืนขึ้น “บางครั้งการทำธุรกิจก็ต้องมีความบันเทิงกันบ้าง จึงต้องเรียนรู้ทุกอย่างเอาไว้ เพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง” เมื่อได้ยินเขาอธิบายเช่นนั้น จิดาภาก็ถอนหายใจ ค่ำคืนนี้เธอได้รู้จักสิ่งที่จิรภาสทำได้มากขึ้น แถมเขายังมีความสามารถอีกมากมายที่รอให้เธอค้นหาอีกด้วย “แต่อย่างไร การเล่นไพ่ของคุณก็ดีกว่าของเขานะ นี่เป็นชัยชนะของคุณ” จิดาภาเอียงศีรษะ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองได้เจอกับภูเขาน้ำแข็งอย่างจิรภาส เขาต้องเก่งกาจกว่าที่ตาเธอเห็นแน่ และแล้วจำรูญก็ได้กลับเข้ามาข้างใน หาวหนึ่งครั้งก่อนจะเอ่ยขึ้น “จบเร็วอะไรขนาดนี้” จิรภาสเหลือบมองจิดาภา ก่อนจะดึงมือเธอ แล้วเดินไปยังเบื้องหน้าของจำรูญด้วยกัน และแนะนำจิดาภาให้กับเขาอย่างเป็นธรรมชาติ “นี่คือคุณลุงใหญ่ของผม เมื่อครู่ไม่ทันแนะนำอย่างเป็นทางการ” จำรูญไม่ได้ให้โอกาสจิดาภาเอ่ยขึ้น ทั้งยังกระชากจิรภาสไปอีกด้วย “รู้ใช่ไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่ นักแสดงหญิงรึ พ่อแม่แกจะว่า...” “ลุงว่าไม่ดีหรือ” “ดีสิ ดีแน่นอน ฉันว่าเธอไม่เลวเลย เพียงแต่ทางพ่อกับแม่แกนั่นแหละ รีบไปบอกไว้เสียแต่เนิ่นๆ จะดีกว่า” “ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ดังนั้น ขอให้ลุงช่วยปิดเป็นความลับไว้ก่อนด้วย” จิรภาสนั้นมีแผนในใจอยู่แล้ว “แกนะ สมกับเป็นคนของตระกูลปรีดาอัครกุลจริง ความลับเยอะแยะเหลือเกิน” จำรูญโบกมือไปมา “ฉันก็อายุมากแล้ว ขี้เกียจจะใส่ใจเรื่องของเด็กๆ แบบพวกแกแล้ว แต่วันนี้บอกแล้วนะว่าเป็นงานเลี้ยงปรองดอง แกลงมือหนักไป ภายหลังตระกูลพุกรัตน์จะยังมองหน้าพวกเราติดอยู่อีกรึ” “ลุง แต่เมื่อครู่ลุงดูชอบใจมากเลย...” “ฉันแค่ไม่อยากขวางแกต่างหาก” จำรูญยิ้มตาหยีและปัดเรื่องนี้ออกจากตัว “เมื่อครู่พวกเขาโวยวายกันเหลือเกิน ยังไม่ทันจะอิ่มเลย ไปกันเถอะ เปลี่ยนที่ทานข้าวกัน” แต่ก่อนที่จะออกไป จำรูญก็พลันนึกขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง “เรื่องของพวกแก ฉันเป็นคนแรกที่รู้รึ” “ปู่รู้แค่ว่าผมแต่งงานแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าแต่งกับใคร” “แต่ง... แต่งงานรึ” จำรูญมองพวกเขาด้วยความตื่นตระหนก และกล่าวตามอารมณ์ “เด็กคนนี้ ทำอะไรเร่งรีบไปหมด” เขาคิดว่าทั้งสองแค่ทดลองอยู่ด้วยกันเท่านั้น “ฉันตัดสินใจแล้ว วันนี้ฉันจะเลี้ยงข้าวพวกเธอชุดใหญ่ไปเลย” จิรภาสโอบไหล่ของจิดาภา “วันนี้คุณลุงจะเลี้ยงอาหารพวกเรา อยากทานอะไรไหม” “ได้หมดค่ะ คนที่ทานด้วยต่างหากที่สำคัญที่สุด” จำรูญค่อนข้างพอใจกับคำตอบที่ชาญฉลาดและอบอุ่นของจิดาภา จึงอยากกระตุ้นให้จิรภาสรีบพาเธอเข้าตระกูลปรีดาอัครกุลโดยเร็ว ตลอดทางจำรูญเอาแต่มองจิรภาสที่มีท่าทางที่รักใคร่ต่อจิดาภาอย่างเหลือล้น “แกนะ ในบรรดาผู้ชายที่รักภรรยาหัวปักหัวปำของตระกูลปรีดาอัครกุล แกคือจุดสุดยอดเลย” “เรียนรู้มาจากลุงทั้งนั้น” จิรภาสตอบกลับทันควัน “เช่นนั้นแสดงว่ายังเรียนไม่จบ ตอนฉันอายุเท่าแก ฉันก็ลูกสามแล้ว แล้วแกล่ะ” “กำลังวางแผนอยู่” จิรภาสตอบกลับเพียงเท่านี้ จิดาภาที่คอยมองพวกเขาคุยกันอยู่ข้างๆ ในใจพลันรู้สึกพิเศษขึ้นมา นี่คือคนของตระกูลปรีดาอัครกุลหรือ ไม่ได้น่ากังวลเหมือนที่เธอคิดเอาไว้เลยแม้แต่น้อย
已经是最新一章了
加载中