บทที่ 260 หากกล้ามาแตะต้องคนของเค.เอฟ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 260 หากกล้ามาแตะต้องคนของเค.เอฟ
บทที่ 260 หากกล้ามาแตะต้องคนของเค.เอฟ ในตอนที่จาริณีโดนใส่ร้าย มีคนมากมายที่อยู่ตรงนั้นเช่นกัน แต่เพราะผู้ลงทุนที่อยู่เบื้องหลังนั้นมีอิทธิพลมาก มีธุรกิจทั้งสะอาดและผิดกฎหมาย ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ายืนยันความบริสุทธิ์ให้แก่จาริณีแม้แต่คน เมื่อข่าวคราวดังมาถึงเค.เอฟ Rickก็รีบจัดการในขั้นต้นทันที แล้วจึงไปรายงานจิรภาส “ผมคาดว่าช่องบลูไลท์น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย และน่าจะเกี่ยวข้องกับคนที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศอย่างธวัชด้วย” Rickวางข้อมูลที่เพิ่งค้นหามาได้วางลงบนโต๊ะ “นักลงทุนของสินค้าชิ้นนั้นคือผู้ก่อตั้งกลุ่มโสทรครับ เนื่องจากละครและภาพยนตร์ที่บริษัทของพวกเขาได้ลงทุน ในหลายครั้งคือการร่วมมือกับธวัช” Rickไม่ได้ปิดบังความกังวลใจของเขา ไม่ใช่เพื่อบริษัท แต่เพื่อจาริณีด้วย คำพูดของRickทำให้จิรภาสเริ่มขบคิด เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และโทรออกหากำชัยผู้เป็นพ่อของธวัช โทรศัพท์ถูกรับสายโดยเร็ว เสียงของกำชัยที่ดังขึ้นมาดูสดใส “ประธานจิรภาสหรือ... มีธุระอะไรกัน” “ครั้งนี้ธวัชเป็นคนเริ่มก่อน หวังว่าเขาจะยอมรับผลที่ตามมาด้วย” จิรภาสหยิบโทรศัพท์แล้วเดินไปยังหน้าต่าง กล่าวเสียงเย็นชา “ผมเคยให้โอกาสเขาไปแล้ว” “ครับ นี่พูดเรื่องอะไรหรือครับ ครั้งที่แล้วคนชนะก็ประธานจิรภาสนี่...” กำชัยยังคงแย้มยิ้มสดใส แต่ที่จิรภาสโทรมาหาเขาครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อบอกให้เขาหนี “ผมไม่ได้ล้อเล่น” หนึ่งประโยคที่เย็นชาราวกับน้ำแข็ง กำชัยที่ได้ยินน้ำเสียงของจิรภาส จับโทรศัพท์ไว้โดยไม่สามารถออกมาได้แม้แต่คำ จนกระทั่งสายตัดไป เขาถึงได้รู้ว่าจิรภาสกำลังเตือนเขาอย่างแท้จริง ในมุมของกำชัย การโดนเด็กนี่คุกคาม ย่อมรู้สึกเสียหน้าอยู่บ้าง แต่ที่เค.เอฟเติบโตได้ถึงเพียงนี้ก็เป็นเพราะจิรภาส จะไม่ให้เขากลัวได้อย่างไร... “ท่านประธานครับ ตระกูลพุกรัตน์ยอมโอนอ่อนหรือไม่” “ไม่ต้องสนว่าเขาทำอะไร มันไม่เกี่ยวกับฉัน ธวัชได้แตะจุดอดทนขั้นสุดของฉันแล้ว ก่อนที่ฉันจะลงมือ จึงต้องเอ่ยแจ้งเขาเสียหน่อย” เขาหันกลับมามองตั๋วเครื่องบินที่วางอยู่บนโต๊ะ “ค่ำนี้ฉันกับจิดาภาจะบินไปร่วมกับกองถ่ายแล้ว จัดการเรื่องของทางนี้ให้เรียบร้อยซะ” Rickพยักหน้า “ผมจะรีบหาข่าวอื่นมากลบรูปภาพนี้ให้เร็วที่สุด เพราะพวกคุณยังไม่สะดวกเปิดเผยความสัมพันธ์ในตอนนี้ใช่ไหมครับ” ความจริงเรื่องนี้มีวิธีจัดการที่ได้ผลดีอยู่ นั่นคือการให้จิรภาสออกหน้าซะ แค่ยอมรับว่าคนในภาพนั่นคือเขา ไม่เพียงแต่จะปัดอันตรายให้กับจิดาภา แต่ยังเป็นการประกาศให้ทั้งโลกได้รับรู้ ว่าจิดาภาคือภรรยาของเขา “ยังไม่ถึงเวลา ฉันสัญญากับเธอไปแล้ว ผ่านไปไม่อีกกี่เดือนก็จะประกาศออกไป หากเป็นไปได้ ฉันก็อยากจะรักษาสัญญากับเธอให้ถึงที่สุด” “นอกจากนี้จับตาดูเรื่องทางโสทรด้วย ไม่สนว่าเขาจะใหญ่คับฟ้าเช่นไร เมื่อกล้ามาแตะต้องคนของเค.เอฟก็ต้องชดใช้มา” เนื่องจากมีคนอยากเล่นเกม เขาก็จะรับไว้ด้วยความยินดี “ครับ ผมรู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร” Rickใช้คนและเครือข่ายทั้งหมดเพื่อเร่งหาในทันที ผ่านไปสองชั่วโมงในที่สุดก็หาอพาร์ตเมนต์ที่สตูดิโอซื่อสัตย์เช่าอยู่เจอ แต่ในตอนที่พวกเขาไปถึง ผู้คนในสตูดิโอได้หายไป ดูท่าจะหนีไปอย่างร้อนรน “พวกเขาต้องมีอะไรแน่ ไม่เช่นนั้นจะหนีไปทำไม” ผู้ช่วยของRickเตะถังขยะที่อยู่ข้างๆ เท้า “ไปดูกล้องวงจรปิดของอพาร์ตเมนต์ หาคนของสตูดิโอที่เข้าออกที่นี่หากได้มาทุกคนจะดีที่สุด” Rickเอ่ยเตือนทุกคนที่กำลังทำการตรวจสอบอยู่ในทันที มองดูว่ามีหลักฐานตรงไหนที่หายไป หรือมีข้อมูลใดที่เป็นประโยชน์หรือไม่ ตอนนั้นเองผู้ช่วยของจาริณีก็โทรมาหาเขา บอกว่าคนของโสทรกำลังหาเรื่อง และยากที่จะรับมือนัก Rickรีบวางสาย และตรงไปทันที ไม่กี่ปีมานี้ จาริณีพัฒนาในวงการบันเทิงได้ไม่เลว มีผู้กำกับที่มีชื่อเสียงหลายคนที่ต้องการให้เธอแสดงบทนำหรือบทตัวละครสำคัญๆ มันก็นานมากแล้วที่เธอไม่ได้โดนกลั่นแกล้งเช่นนี้ พวกเขาถึงขั้นปิดลานจอดรถเพื่อล้อมจาริณี และบอกให้เธอขอโทษผู้กำกับสำหรับเรื่องในวันนั้นซะ พวกเขาต่างโยนความผิดมาให้กับเธอ นายหน้าโกรธจนพูดตะกุกตะกัก กอดจาริณีไว้แน่น เพราะกลัวว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บ พวกนักข่าวเองก็ไม่รู้ว่าถูกใครซื้อมา ต่างถ่ายจาริณีกันไม่หยุด ผู้ช่วยจึงทำได้แค่โทรไปขอความช่วยเหลือกับRickเท่านั้น คนของโสทรที่อยู่ด้านข้างต่างหัวเราะเยาะ และรอดูเรื่องน่าขบขันของจาริณีและเค.เอฟ “จาริณี แค่เธอขอโทษเท่านั้น พวกเรายังให้เธอเล่นบทนางรองคนที่สามได้ เป็นนักร้องที่ร้องเพลงอยู่ในห้องบอลรูม และยังได้ใส่เสื้อผ้าเซ็กซี่อีกมากมายด้วย เป็นอย่างไร เหมาะกับเธอหรือไม่” คำพูดของเขามันหยาบคายและน่ารังเกียจ “ฉันไม่เล่นค่ะ ได้โปรดหลีกทางค่ะ” จาริณีหน้านิ่วคิ้วขมวด จ้องพวกเขาเขม็ง ข้างกายเธอมีเพียงนายหน้าและผู้ช่วยเท่านั้น แต่ฝ่ายตรงข้ามมีทั้งพนักงานและนักข่าวอีกมากมาย... “เฮ้ย ยังกล้าอารมณ์เสียอีกหรือ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ของเค.เอฟ ยังมีใครมาช่วยเธอได้อีกหรือ ไม่อย่างนั้น คืนนี้มาอยู่กับพวกเราสักคืน...” “หุบปาก” Rickพาคนปรี่เข้ามา และคว้าคอเสื้อของผู้ชายคนนั้นไว้มั่น จาริณีตกใจจนชะงักไป เธอไม่คิดว่าRickจะมาถึงไวขนาดนี้ และไม่คิดว่าเขาที่เก่งด้านประชาสัมพันธ์ จะใช้วิธีที่เรียบง่ายและรุนแรงเพื่อหยุดยั้งอีกฝ่ายแบบนี้ “ปล่อยนะเว้ย แกเป็นใครกัน” ชายคนนั้นไม่อาจสู้แรงของRickได้ เมื่อโดนกระทำเช่นนี้ต่อหน้าผู้คน เขาก็รู้สึกขายหน้า จนตะโกนเสียงดังลั่น “ฉันเป็นรองประธานของโสทร เป็นนักลงทุนของละครเรื่องนี้ แกกล้ามีเรื่องกับฉันรึ” Rickยิ้มเย็นก่อนจะผลักเขาออก เหลือบมองจาริณี เมื่อมั่นใจว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บ ก็หันไปมองทางนักข่าวทันที “เขาไม่รู้ว่าผมคือใคร แต่พวกคุณน่าจะรู้ดี ผมในฐานะหัวหน้าศิลปินของเค.เอฟขอเตือนพวกคุณ หากยังไม่หยุดล่วงเกินศิลปินในสังกัดของพวกเรา ผมจะฟ้องพวกคุณทันที” บรรดานักข่าวต่างได้รับเงินมาจากโสทร จึงมากันด้วยหน้าตาชื่นมื่น แต่เมื่อเห็นท่าทางที่แข็งกร้าวของRick ก็พากันถอยห่างกันไป เมื่อรู้ถึงฐานะของเขา คนของโสทรเริ่มมีท่าทีผิดแปลกไป ท่าทีเย่อหยิ่งเมื่อครู่ต่างลดหายไปเสียครึ่ง “หัวหน้าศิลปินแล้วอย่างไร ตอนนี้เป็นจาริณีที่ไร้ยางอาย ยั่วเย้าผู้กำกับ แถมยัง...” “ส่งหมายฟ้องไปยังกลุ่มบริษัทของโสทร ไม่เพียงฟ้องบริษัทของเขา แต่ฟ้องพวกเขาเหล่านี้ด้วย” “ฟ้องพวกเรารึ” ชายคนนั้นเดือดจนขบกรามแน่น “แกถือดีอะไร ในมือฉันมีหลักฐาน เป็นศิลปินของบริษัทพวกแกนั่นแหละที่ผิด” สายตาของRickคมปลาบ ยกมือขึ้น บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลังเขาก็เข้าล้อมคนพวกนี้ทันที “หลักฐานรึ เอาออกมาสิ หากเอาออกมาไม่ได้ ก็ขอโทษจาริณีซะ ไม่อย่างนั้น วันนี้ก็ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น” “แก... แกอย่ากร่างให้มาก พวกเราคือผู้ลงทุน ภายหลังเธอยังอยากจะเล่นละครอยู่หรือไม่” “ไม่ใช่ว่าเธอจะเล่นไม่เล่น แต่พวกคุณเหมาะสมควรอย่างนั้นรึ” Rickสั่งบอดี้การ์ดให้ปรี่ไปจับกุมพวกเขาทั้งหมด “จะลงทุนในวงการบันเทิงทั้งที ก็ช่วยลงให้ถูกข้างหน่อย ไปรวมหัวกับช่องบลูไลท์ ระวังจะเสียเงินลงท่อไปอย่างเสียเปล่า”
已经是最新一章了
加载中