ตอนที่9 คนน่าสงสาร   1/    
已经是第一章了
ตอนที่9 คนน่าสงสาร
ตอนที่9 คนน่าสงสาร จริงๆแล้วชูเซี่ยอยากทราบเรื่องฉ่ายเวินจากปากของท่านอ๋อง นางอยากทราบว่าเขาคิดยังไงกับเรื่องฉ่ายเวินตกลงไปในทะเลสาบ คิดสักพักหนึ่งนางจะเอ่ยถามว่า“ท่านอ๋อง ข้าขอคุยเรื่องกับท่านสองต่อสองหน่อยได้หรือไม่” หลี่เฉินเย่นเห็นเธอทำตัวเหมือนแต่ก่อนที่พยายามทำทุกวิธีทางเพื่อหาโอกาสอยู่กับเขาสองต่อสองแล้วตั้งใจล่อลวงเขา จึงยิ้มเย็นชาว่า“ข้ายังคิดว่าเจ้าจะเปลี่ยนแปลงไปหลังจากผ่านเรื่องนี้ คิดไม่ถึงเลยเจ้ายังเหมือนเดิมอยู่ ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับเจ้า เจ้าควรทำตัวให้ดี ไม่งั้นข้าจะไม่ปล่อยเจ้าง่ายๆเหมือนวันนี้”พูดจบก็ออกไป มี่เหอจ้องมองนาง แววตาแฝงไปด้วยความย่ามใจ“พี่อยากจะคุยกับท่านอ๋องหรือ ได้ แต่ต้องรอให้ฉ่ายเวินฟื้นขึ้นมาก่อน” เธอจงใจถามอย่างเบาๆ“เพี่ยงแต่ฉ่ายเวินจะฟื้นขึ้นมาได้หรือไม่” มี่เหอยิ้มอย่างมีเสน่ห์ สายตามีความเยาะเย้ยอยู่“หมอเทพจูเก๋อก็เคยบอกว่าฉ่ายเวินไม่มีวันฟื้นมาได้ แล้วพี่คิดว่านางจะฟื้นมาได้หรือไม่ ถึงแม้พี่จะบอกกับท่านอ๋องเป็นร้อยครั้งว่าพี่ไม่ได้ทำ แต่หลักฐานชัดเจนอยู่ ท่านอ๋องจะเชื่อการสารภาพของพี่คนเดียวหรือไม่ พี่สาวควรรู้ตัวให้ดี อย่ามาก่อเรื่องอีก ไม่เช่นนั้นชีวิตนี้อย่าคิดจะมีความสงบสุขอีก แน่นอน ถ้าฉ่ายเวินมีวันฟื้นมาได้และบอกว่าใครเป็นฆาตกรความสงสัยในตัวพี่ถึงจะได้ล้างออก” คำพูดที่เต็มไปด้วยการประชดและขู่ขวัญไม่ได้ทำให้ชูเซี่ยโกรธ แต่นางกลับดีใจมากที่ได้รับข้อมูลเหล่านี้ นั่นก้แสดงว่า หลังฉ่ายเวินฟื้นขึ้นมา ก็ได้รู้ว่าใครเป็นฆาตกร ถึงตอนนั้นนางก็ไม่ต้องแบกภาระของฆาตกรอีก มี่เหอมองดูสีหน้าที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของชูเซี่ยก็คิดว่าแผนตัวเองได้ผลแล้ว จึงไม่อยากพูดกับนางอีก เลยพูดว่า“วันนี้พี่สาวตบหน้าข้า ข้าจะจำไว้ในใจ และคืนกลับให้เป็นสองเท่าในอนาคตแน่นอน”พูดจบมองไปบ่าวคนนั้นอย่างดุร้ายและสั่งว่า“ใสหัวไป อีนางโง่” บ่าวนั้นตามนางออกไปอย่างหวาดกลัวไม่กี่ก้าว ก็หันกลับเขม็งไปยังชูเซี่ย ชูเซี่ยเหลือบไปยังนางด้วยสายตาเย็นชาที่แหลมคม ทำให้บ่าวนั้นรีบเก็บสายตากลับ ไม่ทันระวังตัวจึงชนกับแผ่นกั้นตรงประตูจนพุ่งล้มออกไปข้างหน้า และล้มบนหลังมี่เหอพอดี แม้ว่าบ่าวที่อยู่ข้างตะโกนให้ไปช่วย แต่มี่เหอก็ยังถูกชนออกไปสองเมตร ล้มลงบนพื้นท่าทางเหมือนหมากินขี้ ชูเซี่ยรีบเดินออกไป ยื่นมือให้บ่าวนั้นพร้อมบ่นว่า“หล่อนจะผลักพระชายารองได้อย่างไรกัน ทั้งๆที่เรื่องในวันนี้หล่อนช่วยนางอยู่ แต่นางกลับทำอย่างนี้กับหล่อน ข้ารู้ว่าหล่อนต้องไม่พอใจ แต่ยังไงนางก็เป็นแม่นายของหล่อน หล่อนแก้แค้นนางในวันนี้ ทีหลังจะอยู่ต่อได้อย่างไร” มี่เหอลุกขึ้นโดยความช่วยเหลือของบ่าว ทรงผมเพี้ยนไปด้านหนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยฝุ่นและขี้โคลน นางหันตัวกลับและตบหน้าบ่าวคนนั้น พูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า“อีโง่ เอาหล่อนไว้ยังมีประโยชน์อะไรอีก ไปให้พ้น” บ่าวรีบขอร้องว่า“พระชายารอง บ่าวไม่ได้ตั้งใจเจ้าค่ะ อย่าไล่บ่าวออกไป บ่าวสาบานจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีกเจ้าค่ะ บ่าวขอร้อง” มี่เหอจะยอมเก็บหล่อนต่อไปได้ไง เพราะว่าท่านอ๋องไม่พอใจกับนางอยู่แล้ว ถ้ายังเก็บบ่าวคนนี้อยู่ ท่านอ๋องอาจจะสงสัยและไม่พอใจกับนางได้ ยังไงนางก็ไม่ยอมให้ท่านอ๋องมีความรู้สึกไม่พอใจกับนางแม้แต่นิดเดียว ฉนั้นบ่าวคนนี้นางจะไม่เก็บไว้อยู่ข้างกายอีกต่อไป นางส่งสายตาให่กับบ่าวที่มีอายุมากกว่าคนหนึ่ง และให้บ่าวคนอื่นประคองนางกลับไป ห้องนี้เริ่มสงบขึ้นเมื่อพวกเขาออกไป มามาถอนหายใจว่า“เสี่ยวฉิงน่าจะโดนไล่ออกไปแล้วเจ้าค่ะ” เสี่ยวจี๋พูดอย่างโมโห“หล่อนสมน้ำหน้า ” มามาคิดแล้วพูดว่า“หล่อนก็ไม่มีทางเลือก แม่หล่อนป่วยหนัก ถ้าไม่ร่วมมือกับพระชายารองเพื่อขอเงินเพิ่ม เงินเดือนเท่านั้นของหล่อนไม่พอที่จะไปหาหมอหรอก” ชูเซี่ยนึกว่าเสี่ยวฉิงน่าจะเป็นบ่าวเมื่อกี้ที่โดนตบ คนที่น่าเกลียดชังจะต้องมีจุดที่น่าสงสารด้วย แม่หล่อนป่วยหนัก หล่อนจึงทำเรื่องร้ายกาจเพื่อหาเงินรักษาแม่ ถึงแม้ว่ายกโทษไม่ได้ แต่ความรักที่หล่อนมีต่อแม่ก็น่าสงสาร ทำให้ชูเซี่ยคิดถึงพ่อแม่ตัวเองขึ้นมา ในใจก็อดเศร้าใจไม่ได้ สำหรับผู้ที่เป็นลูก ไม่สามารถดูแลพ่อแม่เป็นบาปหนัก และเสียชีวิตก่อนพ่อแม่ ยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้พ่อแม่รับไม่ไหว เธอแค่คิดเท่านี้ก็รู้สึดเจ็บใจอย่างมาก
已经是最新一章了
加载中