ตอนที่10 สาวน่ารักขี้อาย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่10 สาวน่ารักขี้อาย
ตอนที่10 สาวน่ารักขี้อาย เวลาผ่านไปครึ่งเดือน ช่วงนี้อยู่ได้สงบสุขมาก เพราะว่าช่วงนี้หลิวมี่เหอไม่ได้มาหาเรื่องนาง ชูเซี่ยก็ไม่ได้เจอหน้าหลี่เฉินเย่นมานาน เพราะตั้งแต่วันที่โยนชามนั้นแล้วเขาก็ไม่เคยปรากฏตัวที่เรือนรูหยี้ หลี่เฉินเย่นกับหลิวมี่เหอไม่ได้มาหาเรื่อง ชูเซี่ยเลยอยู่ได้สบายมาก วันนี้เพิ่งกินอาหารเช้าเสร็จ ก็มีบ่าวมาแจ้งว่าให้ชูเซี่ยแต่งตัวเรียบร้อย เพราะว่าท่านอ๋องจะพานางไปเข้าเฝ้าไทเฮา ชูเซี่ยตื่นตระหนกเล็กน้อย ไทเฮานะ ผู้เป็นคุณแม่ของฮ่องเต้ นางไม่รู้เรื่องมารยาทในพราราชวังของยุคนี้ กลัวเข้าไปแล้วจะต้องสร้างเรื่องน่าขันแน่ แต่นี่ไม่ใช่จุดสำคัญ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือถ้าทำให้ไทเฮาไม่พอใจขึ้นมา นางตายแน่ มามาเห็นนางสีหน้ามีความตื่นเต้น จึงยิ้มว่า“ท่านหญิงไม่ใช่เข้าเฝ้าไทเฮาเป็นครั้งแรก จะกลัวอะไรเจ้าค่ะ” ชูเซี่ยตอบอย่างสงสาร“ก่อนหน้านี้ยังมีฮองเฮาช่วยอยู่ แต่ตอนนี้ท่านออกไปทำบุญที่วัดแล้ว ในใจข้าจึงหวาดกลัวมาก” มามาตอบว่า“ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ มามาคอยอยู่ข้างๆเตือนท่านหญิง อีกอย่าง แม้ว่าไทเฮาทรงเข้มงวด แต่ท่านก็ไม่ด่าคนไดยไม่มีสาเหตุ อาจจะแค่สอบถามเรื่องสามีภรรยากันก็เท่านั้นเองเจ้าค่ะ เพราะว่าท่านกับท่านอ๋องแต่งงานมาหนึ่งปีแล้ว ท่านหญิงยังไม่ได้ตั้งครรย์ ไทเฮาทรงรีบร้อนอยู่เจ้าค่ะ” ชูเซี่ยถอนหายใจ หลี่เฉินเย่นเกลียดนางขนาดนี้ อย่าว่าแต่งงานไปหนึ่งปี ต่อให้เป็นสิบปีก็ไม่มีลูกหรอก เพราะเขาไม่เคยมาหานาง ที่จริงนางก็ไม่อยากให้เขามาที่นี่ เพราะว่านางมีหลักการในเรื่องทางเพศ ซึ่งคนสองคนต้องรักกันถึงจะนอนด้วยกันได้ นางไม่ยอมเข้านอนกับผู้ชายที่ไม่มีความรัก แต่นึกถึงคืนที่เพิ่งข้ามภพมานั้น หัวใจของนางยังคงเต้นเร็วอยู่ ช่างเถอะ เรื่องนั้นก็ถือเป็นว่าจ่ายเงินหา‘คุณชาย’มานอนแล้วกัน ไหนๆก็ไม่ใช่ครั้งแรกแล้ว ไม่ว่านางจะไม่เต็มใจเพียงใด แต่นางก็ยังคงต้องไปแต่งตัว นางสวมชุดพระชายาเอกสีแดง เมื่อเห็นชุดนั้น นางก็อดชื่นชมการเย็บปักถักร้อยบนเสื้อผ้าของสมัยนี้ไม่ได้ ในโลกนี้จะมีมืออันชาญฉลาดแบบนี้ได้อย่างไร นางมองดูคนที่อยู่ในกระจกทองแดง สาวคนนี้อายุสิบเจ็ด ผิวขาวจนมองไม่เห็นรูขน ดวงตาดำมืดและแจ่มใสเหมือนหินออพซีเดียน จมูกสูงโด่งและกลม ริมฝีปากเป็นสีแดงมีประกาย เวลายิ้มฟันขาวๆก็ปรากฏออกมา ช่างเป็นสาวสวยจริงๆ ส่วนชูเซี่ยที่อยู่ยุคใหม่ ก็เป็นสาวสวยเหมือนกัน แต่นางไม่สนใจเรื่องการแต่งกายสักเท่าไหร่ ชอบใส่ชุดสีเข้ม ใส่แว่นตาขอบดำเสมอ จนดูเหมือนอายุแก่ๆ ที่จริงแล้วไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่ชอบแต่งตัวหรอก แต่หลังจากอกหักกับผู้ชายแล้ว นางจึงซ่อมตัวเองไว้ในขอบเขตที่คุ้มครองของตน ไม่อยากยุ่งกับผู้ชายอีก “ท่านหญิงสวยจังเลย”มามากับเสี่ยวจี๋ชื่นชมว่า บ่าวที่ชื่อเสี่ยวซีเอาเสื้อคลุมมาให้ชูเซี่ย และมัดสายด้วย ยิ้มว่า“แน่นอนอยู่แล้ว ในตำหนักอ๋องนี้มีแต่หน้าตาแม่หญิงฉ่ายเวินถึงจะเทียบกับพระชายาเอกได้” ฉ่ายเวินอีกแล้ว ช่วงนี้ชูเซี่ยคิดหาข้ออ้างเป็นร้อยครั้งเพื่อไปเยี่ยมฉ่ายเวิน แต่นางรู้ว่าฉ่ายเวินอยู่ที่ลานซี ซึ่งมีคนเฉพาะควบคุมดูแลอยู่ คนอื่นไม่สามารถเข้าได้ นอกจากหลี่เฉินเย่น กับหมอเทพจูเก๋อ ถ้าไม่ได้รับการอนุญาตจากหลี่เฉินเย่น นางเข้าไม่ได้แน่นอน เสี่ยวจี๋เหลือบเสี่ยวซีไปตาเดียว“ม่หญิงฉ่ายเวินก็สวยอยู่ แต่บ่าวว่ายังสู้ท่านหญิงของบ่าวไม่ได้เจ้าค่ะ” เสี่ยวซีเข้าใจว่าตัวเองพูดผิด รีบยิ้มขอโทษว่า“บ่าวพูดผิด แม่หญิงฉ่ายเวินยังไงก็สู้ท่านหญิงไม่ได้เจ้าค่ะ” ชูเซี่ยยิ้มขึ้น หน้าตาเพียงแค่เป็นภายนอกของคนเท่านั้น นางไม่ได้ใส่ใจมาก พวกนางยังพูดคุยกันอยู่ มีบ่าวเข้ามาแจ้งว่าท่านอ๋องมาถึงแล้ว ชูเซี่ยสูดหายใจเข้าลึกๆ ไปเถอะ ยังไงก็หนีไม่พ้น ไทเฮาไม่ใช่หมาป่า จะกินเนื้อตนเองไม่ได้หรอก ตอนที่หลี่เฉินเย่นเปิดผ้าม่านและเดินเข้ามา ชูเซี่ยรู้สึกม่านตาสดใสขึ้น หลี่เฉินเย่นใส่ชุดสีขาว ใบหน้าที่ดูสง่างามและหล่อเหลามีความใจร้อนเล็กน้อย ริมฝีปากเม้มแน่น ดวงตาอันแคบยาวมีแววตาตกใจเมื่อเห็นหน้าชูเซี่ย แต่ถ้าดู่อย่างละเอียด ก็รู้ว่านางยังคงเป็นผู้หญิงที่น่าเกลียดเหมือนเดิม “ไปได้หรือยัง”เขาถามอย่างไม่พอใจ ถ้าไม่ใช่ท่านย่าสั่งให้พานางเข้าวัง ยังไงเขาก็ไม่ยอกมาหานางที่นี่หรอก ชูเซี่ยตอบว่า“อืม ไปได้แล้ว”นางดึงเสื้อคลุมให้เรียบ และจับไปยังเย็บปักถักร้อยที่สวยงามบนเสื้อคลุม ใบหน้าของนางก็แสยะรอยยิ้มที่พึงพอใจออกมา เดิมที่หลี่เฉินเย่นพร้อมจะหันตัว แต่ตอนหันก็มองเห็นนางมีร้อยยิ้มสดใสเหมือนดอกใม้บนใบหน้า จึงสงสัยในใจว่า แกล้งทำอะไรอยู่อีก สุดท้ายนางยังคงเป็นผู้หญิงที่รู้แต่หมุนเวียนในรอบตัวเองเท่านั้น ช่วงก่อนแกล้งทำเป็นไม่สนใจ แต่ตอนนี้แค่พานางเข้าวังก็ดีใจและตื่นเต้นถึงขนาดนี้ ที่จริงตัวนางไม่มได้เปลี่ยน เปลี่ยนแค่วิธีการเท่านั้น แต่ไม่ว่านางจะใช้วิธีแบบไหน เขาก็ไม่มีวันจะมองนาง
已经是最新一章了
加载中