บทที่271 เพียงแค่สามีภรรยามีใจเป็นหนึ่งเดียว

บทที่271 เพียงแค่สามีภรรยามีใจเป็นหนึ่งเดียว “แล้วบอสล่ะ? เขาคงจะไม่เชื่อข่าวพวกนั้นใช่ไหม!” พี่นัฎกังวลที่สุดก็คือเรื่องนี้ ถ้าหากเป็นเพราะผู้ชายเลวๆอย่างธวัชแบบนั้นแล้วทำให้เกิดปัญหาส่งผลกระทบระหว่างจิดาภาและจิรภาสล่ะก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่นัก “ไม่หรอกค่ะ” สำหรับเรื่องนี้ จิดาภามั่นใจเป็นอย่างมาก จิรภาสที่อยู่ข้างๆเธอตลอดนั้น เขาไม่ได้รบกวนการคุยโทรศัพท์ของเธอกับพี่นัฎ เวลาเช่นนี้ เขามักจะเว้นช่องว่างความเป็นส่วนตัวไว้ให้เธออยู่เสมอ “ตอนที่พี่เห็นข่าวแล้ว ตกใจจริงๆนะ โชคดีที่ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเค.เอฟจัดการเรื่องได้เร็ว เพียงแต่คงจะต้องใช้เวลาอีกซักพักหนึ่งเรื่องถึงจะสงบลง...” หลังจากที่พี่นัฎเอาข้อมูลที่ตัวเองได้รวบรวมมานั้นเล่าให้กับจิดาภาฟังแล้ว แล้วจึงย้ำกับเธออีก ว่าไม่ให้เธอทะเลาะกับจิรภาส จิดาภาหัวเราะออกมาพลางรับปากเธอ และหลังจากที่วางสายไปแล้วนั้น เธอจึงเอ่ยถามจิรภาส “ก่อนจะเกิดเรื่องขึ้นคุณรู้ใช่ไหมคะว่าเขาจะทำแบบนี้?” จิรภาสขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณคิดว่า ผมรู้หรือครับ?”น้ำเสียงของเขาดูเข้มขึ้นมาเล็กน้อย “ไม่รู้ค่ะ” จิดาภาเองก็รู้ว่าบางทีเธอไม่ควรถามออกมาตรงๆแบบนี้ แต่ในความสัมพันธ์ของพวกเธอนั้น เธอไม่เคยปิดบัง ดังนั้นหากมีเรื่องอะไร เธอก็จะพูดออกมาตรงๆกับเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว “คุณจิดาภา ผมเองก็อยากจะให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมคาดเดาไว้ แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ” “ฉันเข้าใจค่ะว่าคุณมักจะคิดแทนฉันอยู่เสมอ แต่ช่วงนี้เรื่องราวเหล่านี้มันเดินหน้าไปเร็วมาก ฉันจำเป็นต้องถามให้ชัดเจน ถึงจะเดินตามคุณได้ทัน....คุณจิรภาสคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” จิดาภาอธิบาย ทันทีที่สิ้นสุดคำพูดนั้น มือของเธอก็ถูกมืออันแสนอบอุ่นของจิรภาสคว้ามากุมเอาไว้ “ไม่เป็นไรครับ...เพียงแค่เราสามีภรรยามีหัวใจดวงเดียวกัน ก็ไม่มีใครสามารถทำให้เราสั่นคลอนได้หรอกครับ” “ฉันไม่สนใจหรอกค่ะว่าคนอื่นจะมองอย่างไร แต่อย่างน้อย ฉันก็อยากจะบอกคุณเหมือนเดิม ว่าฉันอยากจะเดินตามคุณให้ทัน” ความหงุดหงิดภายในใจของจิรภาสหายไปทันที เนื่องจากคำอธิบายเหล่านั้นของเธอ เขาอดไม่ได้ที่จะรั้งตัวเธอเข้ามากอดไว้ “เป็นเพราะผมที่ปกป้องคุณไม่ดีพอ ถ้าหากผมรู้ว่าเขาจะทำแบบนี้ตั้งแต่แรก ผมจะไม่ให้เขามีโอกาสได้ลงมาจากเครื่องบินเลยเสียด้วยซ้ำ” “ฉันไม่คิดอย่างนี้สิคะ...” จิดาภายิ้มแล้วซุกเข้าไปในอ้อมกอดของเขา “เราสองสามีภรรยาอยู่ในที่ที่คนนอกมองไม่เห็นมาตลอด อีกอย่างวันนั้นคุณก็จัดบอร์ดี้การ์ดไว้ให้ฉันด้วยนี่คะ ไม่ใช่เพื่อจะปกป้องฉันหรอกหรือ? ถึงแม้ว่าจะถูกพวกเขาจับได้เสียก่อนที่จะมีโอกาสสร้างข่าวลือ แต่ฉันเชื่อว่าคุณจะสามารถแก้ไขมันได้โดยเร็วค่ะ” เป็นเพราะคำพูดของจิดาภา ทำให้รอยยิ้มของเขาปรากฏออกมาให้เห็น นิ้วเรียวของเขาลูบไปที่ผมของเธอเบาๆ “เวลที่ผมต้องเผชิญกับเรื่องพวกนี้ ผมรู้สึกจนใจจริงๆครับ ผมแทบอยากจะทำให้คนพวกนั้นที่สร้างข่าวลือเกี่ยวกับคุณหายไปจากโลกนี้เลยเสียด้วยซ้ำ” เมื่อก่อนเขายังพอจะสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ แต่ตอนนี้ เพียงแค่นิดเดียวเขาก็ไม่อยากจะทนเสียแล้ว “คุณจิรภาส เรายังต้องเดินไปด้วยกันอีกนาน เพราะฉะนั้น ต่อไปถ้าคุณตัดสินใจจะทำอะไร บอกฉันก่อนได้ไหมคะ ให้ฉันรู้ฉันจะได้ช่วยคุณได้” “ถ้าหากผมบอกคุณว่าผมรู้ว่าธวัชจะทำแบบนี้ คุณจะทะเลาะกับผมไหมครับ?” “มีโอกาสที่จะเป็นแบบนั้นค่ะ” จิดาภาตอบไปตามความจริง “คนสองคนอยู่ด้วยกัน มักจะมีความเห็นไม่ตรงกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่เนื่องจากเป็นเช่นนี้ ถึงจะต้องใช้เวลาอยู่ร่วมกันให้มากขึ้นในชีวิตการแต่งงานอย่างไรล่ะคะ” “หลังจากที่ผมถามคำถามนั้นออกไปแล้ว รู้สึกเสียใจหน่อยๆนะครับ บางครั้งรู้คำตอบที่แน่ชัดแล้ว กลับทำให้ตัวเองรู้สึกเจ็บปวดเองเสียอีก” จิรภาสมองหน้าเธอ คำพูดเหล่านี้ก็เป็นเสียงจากหัวใจของเขาเช่นกัน จิดาภาตรงหน้าเขาตอนนี้ทำให้เขารู้สึกว่าเป็นเธอจริงๆ ไม่ใช่นักแสดงในหน้าจอทีวี แต่เป็นภรรยาที่เขารัก “วันนั้นบอร์ดี้การ์ดที่ส่งไปกับคุณพวกเขาพกกล้องเข็มติดตัวกันไว้น่ะครับ พอพวกเขารู้ว่ามีคนตามคุณอยู่ ก็รายงานให้ผมทราบทันที แต่ว่าคนพวกนั้นไม่ได้ตามติดคุณตลอด เพียงแค่ถ่ายรูปไว้แล้วก็จากไปเท่านั้น อีกอย่างก็ไม่ได้มีพฤติกรรมที่ทำอะไรเกินเลย พวกเขาก็เลยไม่ได้ลงมือทำอะไร” “ผมคิดว่าธวัชคงจะส่งคนติดตามคุณ แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะใช้มาสร้างข่าวลือ...” “แล้วคลิปได้ทุกบันทึกไว้หรือเปล่าคะ?” จิดาภาเอ่ยถาม “คงจะต้องกลับไปเช็คก่อนครับ คลิปนั้นได้ถูกดึงกลับมาในอีเมล์เรียบร้อยแล้ว” จิดาภาได้ยินคำอธิบายของเขาแล้วนั้น ก็รู้สึกยกก้อนหินออกจากภายในใจออกไปได้ “เราจะใช้โอกาสนี้ เปิดความสัมพันธ์ของเราเลยดีไหมคะ...” “จากวิธีการของธวัช ยังไม่ถึงกำหนดตามแผนของเราครับ” จิรภาสรู้สึกว่าคนที่ควรจะระวังไว้ให้มากที่สุดคือคนจากสตูดิโอซื่อสัตย์ เขาให้โอกาสพวกนั้นมามากพอแล้ว หวังว่าข่าวที่ออกมาของพวกเขาจะไม่สายเกินไปเสียก่อน “ถ้าอย่างนั้นฉันจะรอดูคุณจัดการไอ้คนงี่เง่าคนนั้นได้อย่างสบายใจแล้วสิคะ” “จะต้องทำให้คุณพอใจอย่างแน่นอนครับ” ไม่นึกเลยว่าจะกล้ามาหาเรื่องผู้หญิงของเขา! ปมที่อยู่ในใจของจิดาภานั้นได้คลี่คลายลงแล้ว เพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เธอยังคงรู้สึกไม่สบายใจอยู่นั้นนั่นก็คือการได้เห็นชื่อของเธอยังคงติดอยู่กับชื่อของธวัชเช่นนั้น ถ้าหากจะใช้หนึ่งคำมาบรรยายความรู้สึกล่ะก็ นั่นก็คือ เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนนั่นเอง เรื่องนี้ จิรภาสเองก็มีความรู้สึกเดียวกัน หลังจากที่เขาพาจิดาภากลับบ้านแล้วนั้น ได้ส่งตัวเลือกที่จะช่วยสนับสนุนที่จะพอทำให้Rickได้ลงมือจัดการกับเรื่องได้อีกมากมาย เช่น รูปถ่ายร่วมกันระหว่างเขากับจิดาภาที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน หลังจากที่เค.เอฟปล่อยรูปถ่ายเหล่านี้ออกไปแล้วนั้น ก็เท่ากับว่าเป็นการประกาศความสัมพันธ์ของเขาและจิดาภาออกไปให้ได้รู้ว่าระหว่างพวกเขาไม่ใช่ความสัมพันธ์ธรรมดาๆเพียงเท่านั้น และไม่นาน ชื่อของเขาและจิดาภาก็ขึ้นเป็นประเด็นการค้นหายอดนิยม ดันเรื่องของธวัชให้ตกลงไปเสียแล้ว คนที่ไม่เคยจะเอาชนะจิรภาสได้อย่างเขานั้น ไม่คู่ควรที่ชื่อของเขาจะมาปรากฏอยู่ก่อนหน้าจิรภาสเช่นนี้ หลังจากที่เห็นเรื่องราวคืบหน้าไปด้วยความราบรื่นแล้วนั้น จิรภาสจึงรีบบอกกับRickทันที “รักษาระดับชื่อของผมกับเธอไว้ในระดับต้นๆ แบบนี้คุณจิดาภาจะได้รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง” ขณะนั้นเองRickก็รู้สึกอึ้งไปบ้างเล็กน้อย.... ท่านประธานของพวกเขาเปิดเผยรูปถ่ายคู่ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน หรือแม้กระทั่งรูปตอนงานเลี้ยงครบรอบนั่น เพียงเพื่อที่จะทำให้จิดาภารู้สึกสบายใจอย่างนั้นหรือ? แบบนี้ไม่ใช่แค่หลงรักภรรยาตัวเองธรรมดาๆแล้ว นี่คือการกระทำของคนที่ตกเป็นทาสภรรยาเลยต่างหาก! “ทางธวัชอาจจะมีความเคลื่อนไหวอะไรใหม่ๆ ครั้งนี้เขาลงแรงไปมากกับการสร้างกระแส คงจะไม่น่ายอมง่ายๆ”Rickแสดงความคิดเห็นออกมา “เขาอยากจะเล่นอะไร พวกเราก็เล่นไปตามนั้น รอจนหลังจากให้เรื่องแพร่ออกไปเสียก่อน แล้วค่อยให้เขามาที่เค.เอฟ แล้วจัดงานแถลงข่าว ให้ทุกคนได้เห็นว่า จริงๆแล้วเขากับจิดาภามีความสัมพันธ์กันอย่างไร!” เขาไม่คิดจะไว้หน้าช่องบลูไลท์มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เป็นธวัชเองที่มายั่วยุพวกเขาก่อน ถ้าเช่นนั้นก็ดึงช่องบลูไลท์ให้ตกลงไปในน้ำด้วยกันทั้งหมดเลยแล้วกัน “ผมได้ยินมานานแล้วว่าคณะกรรมการของช่องบลูไลท์มีหลายคนที่มีความเห็นเกี่ยวกับผู้เป็นบิดาของตระกูลพุกรัตน์.....” การพูดคุยกันทางโทรศัพท์นี้สิ้นสุดภายในเวลาเพียงสามนาที หลังจากที่จิรภาสวางสายไปแล้วนั้น ดวงตาเย็นชาของเขาส่องแสงเป็นประกายออกมาอย่างชัดเจน ภายในของช่องบลูไลท์จะมีคนโลภอยู่หรือเปล่า เขาไม่สนใจ แต่เค.เอฟ..... เขาจะไม่มีทางให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเป็นอันขาด ........ ในขณะที่ทุกคนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์รูปเหล่านั้นที่ถูกเผยแพร่ออกมานั้น จิดาภาก็ได้ใช้บัญชีผู้ใช้ของพี่นัฎ เพื่ออยากจะดูความคิดเห็นของบรรดาแฟนคลับที่มีต่อเรื่องนี้ เธอเคยรับปากจิรภาส ว่าจะหาช่องทางติดต่อกับบรรดาแฟนคลับเอาไว้ เพื่อจะได้เข้าถึงพวกเขา ซึ่งจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด “จิดาภาที่รักของพวกเราถูกคนแฮกอีกแล้ว!” “พวกเขาคอยแต่สร้างกระแสครั้งแล้วครั้งเล่า เกลียดจริงๆ”