บทที่273 ปากเป็นของคนอื่น

บทที่273 ปากเป็นของคนอื่น “เธอย้ายเข้ามาอยู่บ้านผมแล้วครับ ผมจะดูแลเธอให้ดี”Rickตอบกลับเธอราวกับกำลังให้คำมั่นสัญญาอย่างไรอย่างนั้น จิดาภาเมื่อได้ยินข่าวนี้แล้วเธอดีใจแทนจาริณีจริงๆ ส่วนเรื่องอื่นๆนั้นก็ให้พวกเขาได้เป็นคนจัดการกันเอง เรื่องของความรู้สึก บางครั้งก็มีเพียงแค่เจ้าตัวเท่านั้นที่มีสิทธิแสดงความคิดเห็นได้ “ถ้าอย่างนั้นฉันไม่รบกวนพวกคุณแล้วนะคะ” จาริณีที่อยู่ข้างๆเมื่อเห็นRickวางสายไปแล้วนั้น จึงรีบเอ่ยถามเขา “เธอว่าอย่างไรบ้างคะ?” “บอกว่าไม่รบกวนพวกเราแล้ว” แล้วเขาก็เอากระเป๋าเดินทางที่จัดเสร็จแล้วออกมาวางไว้ “ยังมีอะไรตกหล่นอีกหรือเปล่าครับ?” จาริณีส่ายหน้า หลังจากนั้นจึงมองไปยังRickที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา แล้วหยุดเว้นวรรคไปซักพักแล้วจึงเอ่ยขึ้นว่า “หากจะมีอะไรตกหล่นจริงๆ ก็คงจะเป็นคุณแหล่ะค่ะ” “คืนนี้นอนห้องผมนะ....” เขาหันกลับมาวางกระเป๋าเดินทาง แล้วดึงมือของจาริณีไว้ “ก่อนจะไป ผมจะเป็นหมอนข้างให้คุณกอด คุณจะได้ไม่รู้สึกว่าผมตกหล่นอยู่ที่บ้านไง” ........... หลังจากที่จิดาภาวางโทรศัพท์มือถือลงแล้วนั้น เห็นจิรภาสที่กำลังดูเอกสารอยู่ในห้องหนังสือ เธอเคาะประตูเบาๆ “ยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ?” จิรภาสส่ายหน้า แล้วกวักมือเรียกเธอให้เข้ามาหา เขากอดเธอไว้ “ทำไมคุณยังไม่นอนอีกล่ะครับ?” “ฉันเพิ่งคุยกับคุณจาริณีเสร็จน่ะค่ะ เธอกับคุณRickคบกันแล้วนะคะ” “ดีแล้วนี่ครับ ไม่ใช่ว่าคุณเชียร์พวกเขาสองคนอยู่หรอกหรือ? ตอนนี้ก็วางใจได้แล้วนะ” จิดาภายิ้มรับแล้วพยักหน้า แล้วปิดเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะลง “ดึกเกินไปแล้วค่ะ ถ้าหากเอกสารพวกนี้ไม่ด่วนล่ะก็ พรุ่งนี้ค่อยทำต่อแล้วกันนะคะ?” “โอเคครับ ฟังคุณอยู่แล้ว” แล้วทั้งสองคนก็จูงมือกันเดินเข้าห้องนอนไป..... เพียงแต่ทางด้านธวัชนั้นยังคงไม่ยอมง่ายๆ วันรุ่งขึ้นขณะที่จิดาภากำลังเลือกชุดสูทให้จิรภาสอยู่นั้น ตฤณได้ส่งข่าวล่าสุดมาให้พวกเขา “ทางบัญชีผู้ใช้ของธวัชมีการเคลื่อนไหว โพสต์รูปถ่ายตั๋วภาพยนตร์ ล้วนแต่เป็นที่นั่งคู่รัก ทั้งยังตรงกับวันที่ของคุณจิดาภาพอดีเลยครับ แล้วยังมี...บัตรVIPของโรงแรมสองสามแห่ง ทั้งยังบอกว่าสถานที่เหล่านี้เป็นสถานที่ที่เคยไปด้วยกันมาด้วยครับ” นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงระดับความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกันของจิดาภาและเขาไปถึงขั้นหนึ่งแล้ว หลังจากที่เมื่อวานจิรภาสได้โพสต์รูปเหล่านั้นไปแล้ว ไม่นึกว่าเขาจะใช้วิธีเช่นนี้เพื่อแย่งตัวเธอไป ทั้งหมดนี้เป็นฝ่ายนั้นที่กำลังยั่วยุเขา! จิรภาสวางโทรศัพท์ด้วยสีหน้าอันแสนเย็นชา มองไปยังจิดาภาที่กำลังจัดชุดสูทให้เขาอยู่ “วันนี้ไม่มีงานอะไรนะครับ คุณอยู่พักผ่อนที่บ้านนะ” มือที่กำลังเอาชุดสูทแขวนอยู่นั้นชะงักลงเล็กน้อย “คุณกลัวว่าฉันออกไปแล้วจะถูกคนอื่นวิพากษ์วิจารณ์หรือคะ?” “กลัวว่าคุณได้ยินคำพูดพวกนั้นแล้วจะไม่สบายใจน่ะครับ....คุณอย่าเพิ่งเข้าอินเตอร์เน็ตนะ” “ฉันพอจะเดาได้ค่ะว่าคนพวกนั้นจะพูดอะไรกัน จะดูหรือไม่ดูก็คงไม่ต่างอะไรหรอกค่ะ” ธวัชพยายามบีบบังคับจะมีความสัมพันธ์กับเธอ ในวงการนี้ เพศหญิงอย่างไรก็เป็นฝ่ายที่เสียเปรียบอยู่เสมอ ธวัชสร้างกระแสออกมาเช่นนี้ ถึงแม้จิดาภาจะออกมาโต้แย้งด้วยหลักฐาน จะมีซักกี่คนที่เชื่อเธอกัน บางคนก็ชอบที่จะเห็นความวุ่นวาย และทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต เนื่องจากชีวิตของพวกเขาคงจะดูน่าเบื่อจนต้องไปโจมตีคนอื่นแบบนี้ โดยไม่ได้คำนึงถึงความเป็นจริงเลยว่าเป็นอย่างไร พวกเขาเพียงแค่จะสนใจในสิ่งที่พวกเขาอยากจะเห็นเพียงเท่านั้น “ผมจะรีบจัดการให้เร็วที่สุด” วันนี้จิรภาสจะไปร่วมงานแถลงข่าวงานหนึ่ง ซึ่งเขาจะไม่เข้าร่วมงานนี้ไม่ได้ และระหว่างที่ไปร่วมงานนั้น เขากดโทรออกไปยังเบอร์โทรศัพท์ของกำชัย แล้วให้ตัวเลือกเขาเพียงสองทาง “ช่องบลูไลท์กับคุณธวัช คุณเลือกเอา” กำชัยรู้ว่าหลังจากที่ธวัชทำเรื่องเลวๆ เขาก็รอโทรศัพท์จากจิรภาสมาตลอด เขารู้ว่าลูกชายของเขานั้นทำเกินไป ได้สัมผัสโดนเกล็ดมังกรของจิรภาสเข้าอย่างจัง แต่เพื่อลูกชายและบริษัท เขายังคงยอมขอร้องให้จิรภาสรักษาหน้าเขาไว้ “คุณจิรภาส ลูกผมเพิ่งจะกลับมาได้ไม่นาน คงไม่รู้ความอะไรซักเท่าไหร่นัก....” “ถ้าอย่างนั้นก็ให้เขาหุบปากซะ ถ้าเขายังคงใช้วิธีนี้ให้ผมเห็นอยู่อีกล่ะก็ เขาต้องรับผิดชอบกับผลลัพธ์นั้น” ยังไม่ทันได้รอให้กำชัยเปิดปากพูดอะไรออกมา จิรภาสก็วางสายไปเสียแล้ว แล้วหลังจากนั้นจึงแจ้งไปยังRickทันที ว่าจะมีการแถลงการณ์ทางกฎหมาย สืบหาความรับผิดชอบและการร่วมมือกันของสื่อ อีกทั้งยังจะเปิดการแถลงข่าวภายหลังจากนี้อีกสามชั่วโมง เอาหลักฐานทั้งหมดออกมาเปิดเผยให้ทุกคนได้รู้ ที่สำคัญที่สุด คือแสดงทัศนคติของเค.เอฟออกมาให้เห็นถึงการลงโทษที่รุนแรงต่อคนที่ยังคงสร้างข่าวลืออยู่เช่นนี้ หลังจากที่Rickได้รับข่าวแล้วนั้น จึงได้เรียกรวมตัวตัวแทนนักกฎหมายของบริษัท เพื่อเตรียมพร้อมลงมือกับช่องบลูไลท์ได้ทุกเวลา “เค.เอฟเพื่อที่จะปกป้องชื่อเสียงของจิดาภา ได้มีปัญหากับช่องบลูไลท์อย่างเปิดเผยแล้ว” “ดูแล้วทั้งหมดเป็นเพราะคำพูดมั่วๆของธวัชนั่นคนเดียว จิดาภาไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อย คนนั้นเขาป่วยหรือเปล่า เห็นพวกเราเป็นคนโง่ยอมให้โดนหลอกหรือไง!” “ใช่ว่าเค.เอฟกับช่องบลูไลท์กำลังแย่งผู้หญิงกันอยู่หรือเปล่า?” “จิดาภาไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยก็ถูกด่าขนาดนั้น ไม่ว่าจะอธิบายหรือไม่ก็โดนด่าว่าอยู่ดี เป็นดารานี่ช่างยากเหลือเกิน...” “พวกคุณไม่เห็นรูปของจิดาภาและคุณจิรภาสที่ขึ้นติดอันดับการค้นหายอดนิยมหรืออย่างไรกัน? ถ้าหากเธอมีความสัมพันธ์กับธวัชจริง คุณจิรภาสจะคอยประคับประคองเธออยู่แบบนี้ได้อย่างไรกัน พอได้แล้ว นี่คือละครน้ำเน่าที่ธวัชแสดงเองกำกับเองหรือเปล่า” “ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ประธานจิรภาสจะประกาศยอมรับความสัมพันธ์กับจิดาภาอย่างเป็นทางการเสียที!” พี่นัฎที่ติดตามความเคลื่อนไหวทางอินเตอร์เน็ตอยู่ตลอดนั้น เมื่อเห็นแฟนคลับที่ถามคำถามเหล่านี้ออกมาแล้ว เธอก็ระงับอารมณ์ไว้ไม่ไหวอีกต่อไปเช่นกัน “จิดาภา บอสล่ะ?” “ไปทำงานแล้วค่ะ” จิดาภารู้ว่าพี่นัฎคิดจะทำอะไร เธอจึงเดินเข้าไปดึงเธอเอาไว้เสียก่อน “วางใจเถอะค่ะ ฉันเข้าใจคุณจิรภาสดี และก็เชื่อใจเขาด้วย เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว หากไม่ใช่เพราะเขาที่ปกป้องฉัน คำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้นไม่รู้ว่าจะบานปลายไปถึงขนาดไหนแล้ว” ในส่วนที่ว่าจะพูดหรือไม่พูดออกไปนั้น เธอเองก็มอบอำนาจการตัดสินใจนี้ให้กับจิรภาสเช่นกัน เพราะเธอรักเขา ดังนั้นจึงเชื่อเขาทั้งหมดใจ “ถ้าหากตอนนี้ฉันออกไปอธิบาย ดีไม่ดีอาจจะส่งผลกระทบต่อการตอบโต้ของเค.เอฟ และยังจะเป็นการลดคุณค่าในตัวเองของฉันกับของคุณจิรภาสลงไปด้วยอีกนะคะ พวกเราไม่คู่ควรกับการจะไปร่วมเล่นละครน่าเบื่อแบบนั้นกับคนอย่างธวัชหรอกค่ะ” ดูแล้ว นอกจากเชื่อมั่นในความสามารถของบอสแล้ว พวกเธอคงจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย จู่ๆพี่นัฎก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “สองสามวันก่อนนี้พี่ได้ยินคุณตฤณบอกว่า คนภายในช่องบลูไลท์ไม่ค่อยพอใจพ่อลูกตระกูลพุกรัตน์มาตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนี้ช่องบลูไลท์และเค.เอฟมีเรื่องกันแบบนี้ มีคนที่กำลังคิดที่จะใช้อำนาจจากผู้ถือหุ้นเพื่อบีบให้เขาลงจากตำแหน่ง” “ผู้ถือหุ้น?” คำพูดของพี่นัฎทำให้จิดาพาตื่นขึ้นมา “ลองไปหาสถานการณ์ในการขายหุ้นของช่องบลูไลท์ให้หน่อยสิคะ” “เธอคิดจะซื้อหุ้นของช่องบลูไลท์หรือ?” พี่นัฎครุ่นคิดพลางเอ่ยถาม “ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะมีเงินสะสมอยู่ แต่คิดจะซื้อหุ้นส่วนของช่องบลูไลท์ ดูจะเหนื่อยเปล่าๆนะ” “พี่ลองไปทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้หน่อยแล้วกันนะคะ บางทีอาจจะมีส่วนช่วยสถานการณ์นี้ได้บาง แม้ว่าคุณจิรภาสอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ข่าวเรื่องเล็กๆแบบนี้อย่างพวกเราก็ตาม” พี่นัฎอุทานขึ้นมาเล็กน้อย แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอขึ้นมา “บางครั้งข่าวแบบนี้อาจจะมีประโยชน์ก็ได้นะ พี่หาข้อมูลให้ตอนนี้เลยแล้วกัน” ........ จิรภาสมาร่วมงานแถลงข่าวในวันนี้ เป็นงานภาพยนตร์สมัยใหม่ละครบัลเลต์ที่นำมาทำใหม่เรื่อง 《อ่าวสวอน》 ภาพยนตร์เรื่องนี้นับตั้งแต่วันที่เปิดกล้องก็ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมาก เนื่องจากกองทัพนักแสดงนั้นมีจำนวนมาก บวกกับผู้กำกับภายในประเทศที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีอย่างผู้กำกับธาวัน เป็นที่รอติดตามของผู้ชมเป็นอย่างมาก จิรภาสที่มาร่วมงานแถลงข่าวเข้าฉายของภาพยนตร์ในครั้งนี้ ก็เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของวันนี้ด้วยเช่นกัน