บทที่277 ประกาศอย่างเป็นทางการ   1/    
已经是第一章了
บทที่277 ประกาศอย่างเป็นทางการ
บทที่277 ประกาศอย่างเป็นทางการ ตัวเลขนี้ทำให้น่าตกใจมากเสียจริง โดยเฉพาะจิรภาสเองก็ไม่ใช่ดารานักแสดง ไม่มีใครที่จะไปสร้างกระแสกับความนิยมของเขาได้ มีหลายคนที่เป็นแฟนคลับของจิดาภา และก็มีอีกส่วนหนึ่งที่เป็นแฟนคลับที่จิ้นพวกเขาทั้งสองคน ทุกคนล้วนแต่สงสัย ว่าจิรภาสที่เป็นคนเย็นชาเช่นนั้นจะเปิดใช้งานบัญชีทางการนี้เพื่ออะไรกัน? และในขณะที่ทุกคนยังคงสังเกตหน้าหลักของเขาอยู่นั้น ก็มีการเคลื่อนไหวล่าสุดปรากฏขึ้น! เขาโพสต์รูปหนึ่งลง เป็นรูปหลังจากที่เสร็จสิ้นคืนวันงานเลี้ยงครบรอบของเค.เอฟ เขาอุ้มจิดาภาออกไปจากงาน ขณะนั้นดวงดาวส่องแสงแวววับบนท้องฟ้ายามค่ำคืน เขาเดินลงบันได และจิดาภาโอบล้อมรอบไหล่และแขนของเขา และพิงอยู่ที่หน้าอกของเขา เขาก้มลงมองจิดาภา แววตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน และข้อความที่โพสต์ลงใต้รูปถ่ายนั้นมีแค่ประโยคเดียว “กันและกัน” นี่นับว่าเป็นการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการหรือเปล่า? จิรภาสใช้คำและรูปนี้ ทำให้บนหน้าอินเตอร์นั้นแทบจะพากันเป็นอัมพาตไปเสียแล้ว ชาวเน็ตต่างพากันตื่นเต้นดีใจกันจนแทบบ้าคลั่ง! “พวกเขาเปิดเผยความสัมพันธ์แล้ว ว่าเป็นคู่กันแบบนี้!” “ว้าวโรแมนติกเกินไปแล้ว ฉันเองก็อยากมีแฟนแบบนี้เหมือนกัน รีบตัดรูปเอามาเป็นรูปพื้นหลังดีกว่า!” “ใครจะโชคดีเท่ากับจิดาภาขนาดนี้ ทำให้ชายหนุ่มที่อยู่ระดับต้นๆของวงการบันเทิงมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวและคนรักแบบนี้ได้ สุดยอดมากจริงๆ!” “ขอโทษทีนะคะ พวกคุณแต่งงานกันเลยได้ไหม?” “คนเขามากันเป็นคู่ขนาดนี้แล้ว ทายาทคนนั้นนี่ช่างตลกเสียจริงๆ” “อา? บอกฉันที ไม่ใช่ฉันคนเดียวใช่ไหมที่รู้สึกว่าพวกเขาช่างเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบเหลือเกิน!” “คอมเม้นท์ด้านบนคะ ไม่ใช่คุณคนเดียวหรอกที่คิดแบบนั้น!” “ตอนที่ถ่ายโฆษณาของWM จะต้องเป็น....ช่างเถอะ ไม่สำคัญแล้ว ขอเพียงแค่พวกคุณอยู่ด้วยกันไปแบบนี้ให้นานๆก็พอ!” ….. ขณะนั้นจิดาภากำลังมาสก์หน้าอยู่บนเตียง เมื่อพี่นัฏเลื่อนมาเห็นข่าวแล้วนั้น จึงรีบโทรศัพท์มาหาเธอทันที “จิดาภา ทำไมเธอไม่เห็นบอกพี่ก่อน ตอนนี้พี่ตื่นเต้นจะตายอยู่แล้วนะ ยังไม่ได้เตรียมใจอะไรเลย” จิดาภาฟังพี่นัฎด้วยความรู้สึกประหลาดใจ เธอดึงเอามาส์กหน้าออกแล้วเอ่ยถาม “บอกอะไรหรือคะ?” “ก็เรื่องที่บอสเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเธอแล้วไง? นี่อย่าบอกนะว่าเธอไม่รู้น่ะ!” พี่นัฎรู้สึกตื่นเต้นจนมือไม้อยู่ไม่สุขไปหมด “อะไรนะคะ.....” จิดาภารู้สึกอึ้ง พี่นัฎจึงรีบตัดรูปไว้แล้วส่งไปยังมือถือของจิดาภา “พี่ส่งไปให้แล้ว เธอดูเอาเองแล้วกัน!” จิดาภายังไม่ได้วางสาย เธอกดดูรูปที่พี่นัฎส่งมาให้ เธอเห็นการเคลื่อนไหวนั้นของจิรภาสอย่างชัดเจน! และนี่ทำให้เธอต้องอยู่ในอาการตกตะลึงอีกครั้ง คืนนี้เขาบอกว่ามีเรื่องด่วน ที่ว่านี่คือเรื่องนี้อย่างนั้นหรือ? “แบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ คุณจิรภาสได้ประทับตราไว้บนตัวเธอแล้วนะ ใครๆจะได้ไม่มาพูดถึงเธอได้อีก” “พี่ดีใจมากๆเลยล่ะ เดี๋ยวจะต้องไปฉลองกับคุณตฤณเสียหน่อยแล้ว!” จิดาภายิ้ม ทุกครั้งที่เธอเจอเรื่องดีๆ พี่นัฎก็มักจะตื่นเต้นดีใจมากกว่าตัวเธอเองเสียอีก มีเพื่อนแบบพี่นัฎที่คอยอยู่ข้างๆเธอแบบนี้ดีเสียจริงๆ “บอสยังไม่กลับหรือ?” จิดาภามองเวลา “ยังค่ะ” แต่ตอนนี้เขาน่าจะเลิกงานแล้ว จิดาภาจึงเก็บของ เพื่อเตรียมจะไปหาจิรภาสที่บริษัท เวลานี้ เธออยากเจอเขามากเหลือเกิน แต่เมื่อเธอเพิ่งจะเดินลงมา ก็ได้รับโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาจากจิรภาส “ผมอาจจะอยู่ดึกอีกซักหน่อยนะครับ คุณง่วงแล้วก็นอนก่อนได้เลยนะ ไม่ต้องรอผม” เสียงของเขานั้นดูเงียบเป็นอย่างมาก จิดาภารู้สึกมีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก “คุณออกมาจากบริษัทแล้วหรือยังคะ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ?” “ตอนนี้ผมอยู่โรงพยาบาลในเมืองครับ คุณกำชัยเข้าโรงพยาบาล” จิรภาสหาที่เงียบๆเพื่อคุยกับเธอ “สถานการณ์ไม่ค่อยดีนักครับ เขาให้คนของช่องบลูไลท์ไปหาผมที่บริษัทเพื่อให้ผมมาหาเขา” “แล้ว...คงไม่มีเรื่องอะไรใช่ไหมคะ?” จิดาภารู้สึกกังวลเล็กน้อย ในเมื่อจิรภาสเองก็ไม่ใช่คนของช่องบลูไลท์ สถานการณ์แบบนี้ ฐานะของเขาแบบนี้ก็คงจะดูเก้ๆกังๆไปบ้าง “ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณวางใจได้” “ฉันเห็นที่คุณโพสต์ลง ฉันอยากไปหาคุณ....อยากจะไปบอกคุณว่า ฉันดีใจ และซึ้งใจมากค่ะ” “ดีแล้วครับ สิ่งที่ผมทำก็เพื่ออยากจะให้คุณมีความสุข” “ฉันไปหาคุณตอนนี้คงจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ ฉันรอคุณอยู่ที่บ้านนะคะ กลับมาเร็วๆนะ” จิดาภายิ้ม แล้วกดวางสายไป แต่ในใจของเธอนั้นกลับยังรู้สึกไม่สบายใจเท่าไหร่นัก หลังจากที่กำชัยถูกพ่อบ้านคนสนิทส่งตัวเข้าไปยังโรงพยาบาลแล้วนั้น ก็ตรวจพบอาการของโรคหัวใจ หลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมาแล้วนั้นสิ่งแรกที่ทำนั้นก็คือเรียกให้ทนายมาที่โรงพยาบาล และหลังจากนั้นส่งคนให้ไปเชิญจิรภาสมาพบเขา คนของช่องบลูไลท์ทราบข่าวแล้วนั้น ทั้งหมดจึงมากันมาดักรออยู่ด้านนอกห้องพักผู้ป่วย แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาไม่ได้มาเพราะเป็นห่วงสุขภาพของกำชัย แต่กลับต้องการมาแย่งส่วนแบ่งหุ้นส่วนของบริษัท ให้กำชัยถอนอำนาจทั้งหมดของบริษัทก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไป เนื่องจากตอนนี้กำชัยยังคงรู้สึกโกรธและโมโหอยู่ไม่น้อย พ่อบ้านคนสนิทจึงเสนอแนะขึ้นว่าให้เรียกธวัชกลับมา? กำชัยรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที เขาไม่ต้องการให้ลูกชายมาเห็นสภาพตัวเองในตอนนี้ เวลานี้ผู้ถือหุ้นร่วมมือกันออกเสียงหวังอยากจะให้กำชัยปล่อยหุ้นในมือ ไม่ต้องการให้เก็บไว้ให้บุคคลที่ไม่มีความสามารถอย่างลูกชายของเขา แต่กำชัยก็ยังไม่ยอมปล่อยง่ายๆ สายตาของเขาปรากฏถึงความเสียใจออกมา..... ที่ธวัชเดินมาแต่ละก้าวจนถึงทุกวันนี้นั้น เขาในฐานะที่เป็นบิดาก็จะต้องรับผิดชอบในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน หากเขาใส่ใจธวัชมากกว่านี้ ก็คงจะไม่กลายเป็นแบบนี้ “คุณกำชัย ไม่ใช่ว่าพวกเราจะบีบบังคับคุณ...บางเรื่องก็น่าจะต้องตัดสินใจเอาไว้เสียก่อน หากมอบช่องบลูไลท์ให้กับรองประธานอย่างคุณธวัช เกรงว่าสิ่งที่คุณสร้างมาทั้งชีวิตจะต้องสูญสิ้นลงทั้งหมดเลยนะครับ” “พวกคุณคิดว่าผมจะตายแล้ว จะไม่มีชีวิตอยู่ในวันพรุ่งนี้อีกแล้วหรือ?” “พวกเราไม่ได้หมายความแบบนั้นครับ...” พูดยังไม่ทันจบ จิรภาสที่ตามมาด้วยบอร์ดี้การ์ดของเขาก็เดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วย และการปรากฏตัวของเขานี้สร้างความประหลาดใจให้กับบรรดาผู้ถือหุ้นกันเป็นอย่างมาก “คุณจิรภาส?” “คุณมาได้อย่างไรครับ?” “ผมเชิญให้คุณจิรภาสมาเอง” กำชัยพยายามประคับประคองตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง แล้วใช้น้ำเสียงอันแหบพร่าตะโกนเรียกทนายให้เข้ามา กำชัยทุบหน้าอกตัวเองแล้วกล่าวออกมาว่า “ช่องบลูไลท์เป็นทั้งกำลังและความคิดของผมทั้งชีวิต ผมรู้ดีว่าเวลาของผมเหลือไม่มากแล้ว แล้วก็รู้ว่าลูกชายของผมชอบเยาะเย้ยถากถางสังคมไปทั่ว ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะมารับตำแหน่งต่อ แต่ผมก็จะไม่ยอมให้สิ่งที่ผมสร้างขึ้นมานี้ต้องตกไปอยู่ในมือของคนโลภอย่างพวกคุณ” “เพราะฉะนั้น ผมจึงตัดสินใจใช้วิธีขายหุ้นในมือของผมให้กับคุณจิรภาส นั่นก็หมายความว่า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ช่องบลูไลท์เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเค.เอฟ” กำชัยกลัวว่าจิรภาสจะปฏิเสธ จึงให้ทนายหยิบเอาสัญญาโอนอำนาจผู้ถือหุ้นที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ออกมาให้เขาในทันที “ผมเซ็นชื่อเรียบร้อยแล้วครับ ยอมที่จะใช้ราคาที่ต่ำสุดในตลาดตอนนี้ ขายหุ้นส่วนทั้งหมดนี้ให้กับคุณ หวังว่าคุณจะตกลง” “ผมเชื่อว่า มีเพียงแค่คุณคนเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ช่องบลูไลท์ดีขึ้นได้” “ผมมีเพียงแค่เงื่อนไขเดียว นั่นก็คือหวังว่าคุณจะไม่เลิกจ้างใครในช่องบลูไลท์ออก นอกเสียจากพวกเขาทำความผิดร้ายแรง.....” จิรภาสรับสัญญาฉบับนั้นมา แล้วอ่านผ่านตาอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีปัญหาอะไร ดูแล้ว กำชัยมีความคาดหวังกับช่องบลูไลท์นี้มากจริงๆ ไม่เช่นนั้นคงจะไม่ยอมส่งต่อมาให้คนนอกอย่างเขา โดยไม่ยอมให้ลูกชายของตัวเองหรือผู้ถือหุ้นของช่องบลูไลท์คนอื่นๆแบบนี้ “ไม่เก็บหุ้นส่วนไว้ให้คุณธวัชเสียหน่อยหรือครับ?” กำชัยส่ายหน้า “ทางต่อไปในวันข้างหน้าจะเดินไปอย่างไร ให้เขาเป็นคนเลือกเอง!” แววตาของเขานั้นมีน้ำตาปนอยู่ด้วย เขารู้ว่าการพัฒนาของเค.เอฟนั้น ไม่ช้าหรือเร็วก็จะต้องยึดครองช่องบลูไลท์อยู่แล้ว ที่เขาทำเช่นนี้ เพียงแค่อยากจะให้ช่องบลูไลท์ได้คงสภาพไว้อย่างครบถ้วนเพียงเท่านั้น
已经是最新一章了
加载中