บทที่278 ไม่ต้องบอกจิดาภา   1/    
已经是第一章了
บทที่278 ไม่ต้องบอกจิดาภา
บทที่278 ไม่ต้องบอกจิดาภา เขาไม่อยากเห็นสิ่งที่ตัวเองทุ่มเทมาทั้งชีวิตต้องมาจบลงในงานศพนี้ด้วย อย่างน้อยหลังจากที่ส่งต่อให้จิรภาสแล้ว ช่องบลูไลท์ก็ยังสามารถจะใช้วิธีการใหม่ๆทำให้ยังคงสามารถอยู่บนโลกใบนี้ได้ “หากในทางธุรกิจ สำหรับผมแล้ว นี่เป็นธุรกิจที่ไม่ได้เป็นการขาดทุนอะไรเลยครับ” จิรภาสกล่าวกับกำชัย แต่บรรดากรรมการของช่องบลูไลท์ที่อยู่ข้างๆเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้วต่างพากันนั่งไม่ติดไปเสียแล้ว “คุณจิรภาส คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ!” “ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ? หรือการค้าขายทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากใครคนใดคนหนึ่งหรอกหรือครับ?” จิรภาสมองพวกเขาอย่างเย็นชา “นี่เป็นธุรกิจระหว่างผมกับประธานของช่องบลูไลท์ ถ้าหากพวกคุณอยาจะขัดขวางล่ะก็ ก่อนอื่น จะต้องมีสิทธิมีอำนาจที่จะพูดออกเสียงในฐานะช่องบลูไลท์ พวกคุณมีไหมครับ?” “หรือว่า พวกคุณสงสัยในความสามารถของผม? รู้สึกว่าหลังจากที่ช่องบลูไลท์โอนมาให้ผมแล้ว จะต้องพังลงอย่างนั้นหรือครับ?” การย้อนถามกลับไปเช่นนั้นของจิรภาสทำให้กรรมการเหล่านั้นพูดไม่ออก พวกเขากลับอยากจะให้ธวัชออกมาอาละวาดเสียมากกว่า ให้เขามาขัดขวางการค้าขายทางธุรกิจในครั้งนี้ แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้เด็กคนนั้นไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนแล้ว “คุณจิรภาส....ช่องบลูไลท์ฝากคุณด้วยนะครับ” “หวังว่าคุณจะไม่ผิดหวังนะครับ” กำชัยไม่ได้รู้สึกกังวลในเรื่องนี้เลย ในฐานะที่เป็นบริษัทคู่แข่งกันมา เขาเคยศึกษาเกี่ยวกับข้อมูลในช่วงห้าปีหลังนี้ของเค.เอฟอย่างละเอียด สามารถพูดได้ว่า นับตั้งแต่จิรภาสสืบต่อกิจการนั้น เค.เอฟก็เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด เขาเชื่อว่าในโลกนี้คงมีเพียงคนนี้เท่านั้นที่จะสามารถทำให้ช่องบลูไลท์ก้าวขึ้นไปสูงอีกขั้นหนึ่งได้ หากแม้กระทั่งจิรภาสยังไม่สามารถทำได้แล้วล่ะก็ ช่องบลูไลท์ก็คงจะมีอายุไม่ยืนเหมือนกับเขานั่นเอง ส่วนลูกชายของเขา..... ในใจของกำชัยนั้นทั้งรู้สึกเป็นทุกข์และเสียใจ เขาคงไม่สามารถดูแลธวัชได้อีกต่อไปแล้ว จิรภาสกำสัญญาฉบับนั้นไว้ เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เพียงแค่พาความหวังของกำชัยออกมาจากห้องผู้ป่วยด้วยเพียงเท่านั้น หลังจากที่คลี่คลายเรื่องรูปถ่ายเหล่านั้นของจิดาภาในงานแถลงข่าวของเค.เอฟแล้วนั้น จิรภาสก็เปิดเผยเรื่องราวความรักของเขาและจิดาภาออกมาอย่างเป็นทางการ และตามมาด้วยข่าวที่ออกมาว่า ข่าววงในมีการแจ้งว่าเค.เอฟจะซื้อช่องบลูไลท์ในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อข่าวนี้หลุดออกไปนั้น ผู้บริหารช่องบลูไลท์ก็มีการชี้แจงอย่างเป็นทางการภายใน ถึงแม้ว่าบริษัทจะโอนขายให้กับเค.เอฟ ก็จะไม่มีใครที่ต้องถูกเลิกจ้างเลยเช่นกัน นี่ก็เป็นอีกข่าวหนึ่งที่ได้รับการยืนยันจากคนรอบข้างว่าช่องบลูไลท์จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเค.เอฟจริงๆ และเมื่อรอจนธวัชได้ทราบข่าวนี้แล้วนั้น เขาจึงรีบมายังโรงพยาบาลในทันที แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ทนายของเค.เอฟกำลังดำเนินการตามขั้นตอนอยู่กับกำชัย ในห้องพักผู้ป่วย ธวัชที่จะเข้าไปแย่งสัญญาฉบับนั้นมาราวคนบ้า แต่ถูกบอร์ดี้การ์ดขวางไว้เสียก่อน สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความเคียดแค้น แล้วพุ่งมายังจิรภาสตะโกนใส่เขา “จิรภาส ผมเตือนคุณไว้ก่อน ถ้าหากคุณกล้าแตะต้องช่องบลูไลท์ล่ะก็ ผมจะไม่ปล่อยคุณไปแน่ มีอะไรก็มาเคลียร์กับผม!” เรื่องราวกลายมาเป็นเช่นนี้ ธวัชเองก็ไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าทำไมเรื่องทั้งหมดถึงได้กลายมาเป็นอย่างที่เขาเห็น จิรภาสมองเขากลับไปอย่างเย็นชาแล้วเอ่ยกับเขาว่า “มาพูดเอาตอนนี้ คุณไม่คิดว่ามันสายไปแล้วหรือครับ? ถ้าหากไม่ใช่เป็นเพราะคุณเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนไม่สนใจอะไรแบบนี้ พ่อของคุณก็คงจะไม่ทำแบบนี้หรอก” “เขาไม่อยากจะเห็นสิ่งที่เขาทุ่มเทมาทั้งชีวิต ต้องมาพังลงในมือของคุณ....” “ตั้งแต่นี้ไป คุณไม่ใช่คนที่จะมาสืบทอดตำแหน่งของช่องบลูไลท์แล้ว” ธวัชในขณะนั้น แววตาที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟนั้นค่อยๆหายไป ราวกับเขาสูญเสียพละกำลังทั้งหมดไป ล้มลงไปนั่งที่พื้นด้วยแววตาเหม่อลอย.... เขามองไปยังกำชัยที่นั่งพิงเตียงของผู้ป่วย กำลังเซ็นชื่อลงในสัญญา แล้วส่งให้กับทนายของเค.เอฟ “พ่อ!” ธวัชตะโกนออกมา “ทำไมพ่อยอมเอาช่องบลูไลท์ให้เขา ทำไมไม่ยอมส่งมาให้ผม!” กำชัยกัดฟัน มองลูกชายที่อยู่ตรงหน้า “พ่อไม่ได้ทำให้แกประสบความสำเร็จ นั่นเป็นความผิดพลาดของพ่อเอง พ่อไม่สามารถจะทำผิดอีกเป็นครั้งที่สองได้ ถ้าหากเอาช่องบลูไลท์ให้กับแก ทุกคนจะต้องเดือดร้อนเพราะแก” จากการใช้จ่ายของธวัชที่ไร้ขีดจำกัดเช่นนี้ เวลาไม่ถึงปี ช่องบลูไลท์คงจะต้องปิดฉากลงอย่างแน่นอน “นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวพวกคุณ ผมขอตัวนะครับ” จิรภาสหันหลังกลับเพื่อจะพาทนายกลับออกไป ธวัชที่กำลังโกรธแค้นถึงที่สุดแล้วนั้น เขาจึงพุ่งเข้าไปหาจิรภาสในจังหวะที่เขาหันกลับไป ซึ่งทางด้านหลังของจิรภาสนั้นมีตู้ปลาวางไว้อยู่.... ทนายของจิรภาสยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาอะไรออกมา ส่วนบอร์ดิ้การ์ดนั้นที่จะเข้าไปขวางก็ไม่ทันด้วยเช่นกัน ทุกคนไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น โชคดีที่จิรภาสมีไหวพริบ จึงเอี้ยวตัวหลบไปก้าวหนึ่ง แต่ก็ยังคงหลบไม่พ้นตู้ปลา จึงทำให้กระจกที่แตกเป็นเสี่ยงๆนั้นบาดเข้าที่แขนของเขา บอร์ดี้การ์ดของจิรภาสจึงรีบเข้าไปควบคุมตัวของธวัชไว้ กำชัยที่เห็นฉากตรงหน้านั้น เนื่องจากได้รับการกระตุ้นอารมณ์นี้อีกครั้งจึงทำให้เขาหมดสติไปทันที ทางด้านธวัชเขากลับไม่รู้สึกว่าตัวเองทำผิด ทั้งยังตะโกนขึ้นมาอีก “ปล่อยฉัน! เก่งจริงก็ฆ่าฉันเลยสิ!” จิรภาสมองธวัชตั้งแต่หัวจรดเท้า แผลที่แขนของเขายังคงมีเลือดไหลออกมา “คนอย่างคุณไม่คู่ควรให้กับผมต้องลงมือเองหรอกครับ คุณสูญเสียสิทธิที่จะได้รับตำแหน่งสืบทอดต่อแล้ว คงไม่ต้องพูดถึงคุณชายของช่องบลูไลท์แล้วล่ะครับ ผมจะรอดูว่าคุณจะมีจุดจบอย่างไร” ตฤณรีบเรียกหมอให้มาหาเขาในทันที “ท่านประธานครับ ทำแผลก่อนดีกว่าครับ” “เรื่องนี้ไม่ต้องบอกคุณจิดาภานะ” เมื่อได้ยินคำสั่งนี้ ใบหน้าของตฤณปรากฏความลำบากใจออกมา “ท่านประธานครับ เมื่อซักครู่ผมบอกเรื่องนี้กับคุณผู้หญิงไปแล้วครับ ตอนนี้เธอกำลังเดินทางมาที่นี่ ดังนั้น....รีบทำแผลก่อนดีกว่านะครับ” คิดไปถึงตอนนั้นที่ตัวเองปวดหัว จิดาภาที่ดูกังวลมากขนาดนั้นแล้ว จิรภาสจึงขมวดคิ้วมองไปยังตฤณ “ต่อไปทำอะไรก็ไม่ต้องให้มันรวดเร็วขนาดนี้ก็ได้นะ” ตฤณพยักหน้า แล้วเดินตามจิรภาสออกจากห้องพักผู้ป่วยไป โดยไม่ได้สนใจธวัชที่คุกเข่าลงอยู่ที่พื้นเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่หมอตรวจเช็คจิรภาสเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น จึงใส่ยาฆ่าเชื้อและทำแผลให้เขา โชคดีที่บาดแผลไม่ได้ลึกมาก ไม่ได้รับบาดเจ็บไปถึงกระดูก และเวลานี้เองที่จิดาภารีบมาจนถึงโรงพยาบาล เธอรีบวิ่งเข้ามายังด้านใน ทั้งโทรถามชั้นที่จิรภาสอยู่จากตฤณ และพลางกดลิฟท์ขึ้นไปด้วย คนที่อยู่รอบๆข้างพากันจำเธอได้ “นั่นใช่จิดาภาหรือเปล่า?” “น่าจะใช่นะ...ดูเหมือนว่าเธอจะมาหาคุณจิรภาส!” จิดาภาวิ่งเข้ามายังในห้องพักผู้ป่วย เมื่อเห็นจิรภาสแล้วนั้นเธอจึงรีบมองสำรวจเขาทันที “บาดเจ็บตรงไหนคะ?” “เป็นแผลถลอกนิดหน่อยน่ะครับ” เพื่อให้ทำแผลได้สะดวก เมื่อครู่จิรภาสจึงถอดเสื้อเชิ้ตออก และตอนนี้เขาเพิ่งจะสวมกลับเข้ามา.... “ให้ฉันดูหน่อยนะคะ!” จิรภาสส่งสายตาให้กับตฤณ เขาจึงรีบเดินออกไปตรงหน้าประตู แล้วปิดประตูลงในทันที จิรภาสค่อยๆถอดเสื้อเชิ้ตออกมา ไหล่ด้านซ้ายมีผ้าพันแผลปิดไว้อยู่ทั้งยังมีเลือดซึมออกมาอีกด้วย เมื่อแน่ใจว่าแผลของเขาโอเคแล้วนั้น จิดาภาจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วช่วยจิรภาสสวมเสื้อเชิ้ตกลับ “ฉันตกใจมากจริงๆค่ะ!” “ไม่มีอะไรหรอกครับ...ไม่ต้องกังวลนะ” จิรภาสปลอบใจเธอเบาๆ แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งโอบไหล่เธอไว้ จิดาภาเพียงแค่ได้ยินที่ตฤณบอกทางโทรศัพท์เพียงแค่ไม่กี่ประโยคเท่านั้น ยังไม่ได้เข้าใจเบื้องลึกเบื้องหลังเรื่องนี้ และเมื่อตอนนี้ที่เห็นจิรภาสได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ เธอคงจะไม่ถามไม่ได้เสียแล้ว “ทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นคะ?” จิรภาสที่กำลังจะเอ่ยปากเล่าเรื่อง ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะค่อนข้างซับซ้อน แต่เขาเองก็จะไม่ปิดบังจิดาภา เพียงแต่ตฤณผลักประตูเข้ามาด้วยสีหน้ารีบร้อนขัดจังหวะเข้าเสียก่อน “ท่านประธานครับ คุณกำชัยเสียชีวิตแล้วนะครับเมื่อซักครู่นี้” จิรภาสยืนขึ้น ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถาม “สาเหตุที่เขาเสียชีวิตคืออะไร?” “หัวใจวายเฉียบพลันครับ หมอรีบมาดูอาการแต่พอถึงห้องพักผู้ป่วยก็ไม่ทันแล้วครับ”
已经是最新一章了
加载中