บทที่285 ผู้หญิงดีๆไปเป็นนักแสดง

บทที่285 ผู้หญิงดีๆไปเป็นนักแสดง ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ไม่คิดว่าเขาจะทิ้งไข่มุกอันมีค่าของตระกูลนุ่นแก้วไว้ แล้วไปปกป้องนักแสดงเพียงคนเดียวแบบนี้ “พ่อ หนูทนไม่ได้แล้วนะ!” เมื่อจันทนีนึกถึงท่าทางที่ดูสบายใจของจิดาภาเช่นนั้น แล้วก็รู้สึกโมโหขึ้นมาอีก “ที่ลูกพูดมาเมื่อครู่นักแสดงคนนั้นชื่ออะไรนะ?” คารมราวกับนึกอะไรบางอย่างออก “ชื่อจิดาภา เพิ่งจะเซ็นสัญญากับทางเค.เอฟ”จันทนีเอ่ยบอกด้วยอารมณ์หงุดหงิด “พ่อจำได้ว่าหลานสาวของตระกูลวีรภัทรเมธีก็ชื่อจิดาภา หลายปีก่อนเธอออกจากบ้านไปแล้วเข้าวงการบันเทิง จะเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า? เดี๋ยวพ่อจะโทรไปหาบ้านหลังนั้น จะต้องให้เธอมาขอโทษลูกให้ได้” “พ่อ ที่พ่อบอกนี่หมายถึงตระกูลวีรภัทรเมธี ตระกูลน้ำหอมใช่ไหม?” “ใช่สิ ตอนลูกเด็กๆ ยังไปเรียนบัลเลต์กับลูกสาวสองคนของบ้านนั้นอยู่เลย ลืมไปแล้วหรือ?” จันทนียิ่งรู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมาอีก เดิมทีเป็นเพราะตัวเองคิดว่าฐานะที่น่าภูมิใจของเธอจะสามารถเหยียบย่ำจิดาภาได้เสียอีก ในเมื่อเธอเป็นเพียงแค่นักแสดงที่ต่ำต้อยอาศัยร่างกายให้ได้มาเพื่อตำแหน่ง แต่ตอนนี้....ไม่คิดเลยว่าจิดาภาจเป็นหญิงสาวผู้สูงส่งเช่นกัน! ความรู้สึกที่ราวกับสูญเสียความโดดเด่นนี้ทำให้จันทนีรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก “เป็นคนในตระกูลดีๆไม่ชอบ ดันจะไปเป็นดารานักแสดง?” “พ่อได้ยินมาว่าถูกไล่ออกจากบ้านมานะ สถานการณ์จริงๆคงจะต้องไปทำความเข้าใจเสียหน่อยถึงจะรู้ได้” ถูกไล่ออกจากบ้านอย่างนั้นหรือ? และทันใดนั้นอารมณ์ของจันทนีก็ดีขึ้นมาไม่น้อย เธอรีบไปเกาะแขนของคารม “พ่อ ถ้าอย่างนั้นพ่อรีบโทรไปถามตระกูลวีรภัทรเมธีเลยนะ!” คนนอกไม่มีใครรู้ว่าทำไมจิดาภาถึงได้ยอมทิ้งชีวิตอันแสนสุขสบายและสูงส่งเช่นนี้ แล้วไปอยู่ในวงการบันเทิงแบบนั้น แต่คนในตระกูลวีรภัทรเมธีกลับเข้าใจดี เพียงแต่ไม่รู้ว่าพ่อลูกตระกูลนุ่นแก้วนั้นจะสามารถซักถามถึงสาเหตุได้หรือไม่.... นั่นเป็นเพราะสาเหตุนั้น เป็นความลับของตระกูลวีรภัทรเมธี ........ พี่นัฎยืนอยู่ตรงหน้าต่าง เธอมองตัวอักษรมงคลที่ประดับอยู่ทั่วอพาร์ทเม้นท์ของตฤณ ในใจรู้สึกวิเศษยิ่งนัก วันนี้เรื่องที่เธอได้รับเอกสารการจัดทะเบียนกับตฤณไม่ได้บอกให้ใครรู้ ทั้งสองคนใช้เวลาในช่วงพักกลางวัน ไปถ่ายรูป แล้วทำตามขั้นตอนทุกอย่างเป็นไปอย่างธรรมชาติ เธอมองไปยังตฤณที่กำลังวุ่นในการทำอาหารมื้อเย็นสำหรับพวกเขาอยู่ในครัว เธอยิ้มออกมาอย่างเขินอาย เนื่องจากคืนนี้เป็นคืนวันแต่งงานคืนแรกของพวกเขา เธอมั่นใจว่าผู้ชายคนนี้ควรค่าแก่การที่เธอจะมอบชีวิตของเธอไว้ให้เขา หากพลาดจากเขาไป เธออาจจะครองโสดไปตลอดชีวิตแล้ว ห้องนี้ให้ความรู้สึกที่เป็นเหมือนความหวานชื่นของเขาทั้งสองคน เธอไม่ได้อยู่เพียงลำพังอีกต่อไปแล้ว พวกเขาได้กลายมาเป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญที่สุดของอีกฝ่ายหนึ่งไปแล้ว หลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น ตฤณจูงมือเธอเข้ามาในห้องอาบน้ำ “เราเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้วนะครับ ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้นก็ได้....” “ฉัน....ฉันไม่ได้ตื่นเต้นซักหน่อย!” พี่นัฎอธิบาย แต่อาการของเธอนั้นบ่งบอกเสียหมดแล้ว ตฤณเปิดฝักบัว แล้วทั้งสองคนก็อาบน้ำพร้อมกัน.... ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ ตฤณมองคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา แล้วยิ้มออกมา “ต่อไปคุณหนีผมไปไหนไม่ได้แล้วนะ” จริงๆแล้วเขาชอบรูปร่างอวบๆนี้ของพี่นัฎ ถ้าหากพี่นัฎผอมไปกว่านี้ ก็คงจะดูไม่ดี เธอก็เป็นเธอ ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองเพื่อให้ตัวเองต้องดูสวยแบบนั้น นั่นเป็นเพราะในโลกนี้ เธอมีเพียงแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น ยิ่งเธอต่อต้านเขา ตฤณก็ยิ่งเข้าใกล้เธอมากขึ้น.... “คุณ.....” “มองผมสิครับ....” ทั้งสองคนค่อยๆเข้าใกล้กัน มีกันและกันเช่นนี้ คืนนี้สำหรับพวกเขาแล้วถือว่าเป็นคืนที่สำคัญมากเป็นพิเศษ ปกติแล้วพี่นัฎมักจะตื่นขึ้นมากลางดึกสองถึงสามครั้ง แต่คืนนี้เธอนอนหลับสบายและสงบสุขยิ่งนัก ฤดูหนาวแบบนี้เธอไม่ต้องรู้สึกหนาวเหน็บอีกต่อไปแล้ว นั่นเป็นเพราะข้างกายของเธอนั้นมีเตาอุ่นๆที่คอยกอดเธอเอาไว้ และให้ความอบอุ่นกับเธอตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง หลังจากที่การออกกำลังการเสร็จสิ้นลงแล้วนั้น ตฤณมองพี่นัฎที่กำลังนอนหลับอยู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันแสนหวานเยิ้ม วันนี้เขาเริ่มเลี้ยงแม่หมูอย่างเป็นทางการแล้ว ........ หลังจากที่งานแฟชั่นครั้งนี้ที่ได้รับความสนใจสิ้นสุดลงแล้วนั้น สื่อต่างๆก็รายงานเหตุการณ์สำคัญๆในค่ำคืนนั้น และเปิดเผยรูปถ่ายของเหล่าศิลปินดังๆมากมาย สำหรับนักแสดงหญิงแล้วการแข่งขันในเรื่องของความงามเป็นประเด็นที่ยังคงมีอยู่ตลอด จิดาภาในฐานะนักแสดงที่มาร่วมงานเลี้ยงนั้น ก็ถูกนักข่าวจัดลำดับว่าเป็นหนึ่งในสาวงามที่เปล่งประกายโดดเด่นภายในงานด้วยเช่นกัน แน่นอนว่า ที่เธอเป็นที่สนใจของนักข่าวนั้น ยังคงมีอีกหนึ่งเรื่องนั่นก็คือความสัมพันธ์ของเธอกับจิรภาส ผู้ชายคนที่อยู่ในระดับสูงในวงการบันเทิงคนนั้นไม่เพียงแค่เป็นแฟนของเธอเพียงเท่านั้น และเขาก็เป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอด้วยเช่นกัน รูปถ่ายของจิดาภาทุกรูป จะมีรูปคู่ของพวกเขาทั้งสองคนตามมาด้วย มีจิรภาสเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเช่นนี้ ช่วยทำให้ความนิยมและอัตราการเปิดเผยนี้สูงยิ่งขึ้น แต่ในคืนนั้นยังมีเพลงประกอบละครอีกเสียด้วย..... ลูกสาวตระกูลนุ่นแก้วที่เข้าหาตีสนิทกับจิรภาส แต่กลับถูกเขาเมินใส่ ทั้งยังเอ่ยปากเตือนให้เธอรู้จักเคารพตัวเองอีกด้วย และมีคนวงในกล่าวว่าในคืนนั้นจันทนียังยั่วยุจิดาภา กล่าวหาว่าจิดาภาอาศัยร่างกายเพื่อแลกกับตำแหน่ง ดังนั้นจิรภาสถึงได้ตอบกลับไปอย่างเย็นชาในตอนช่วงหลัง เดิมทีแล้วจิรภาสอยู่ในวงการนี้เขารักษาระยะห่างจากทุกคนอยู่ตลอดเวลา จันทนีเองก็ยังคงไม่เลี่ยงที่จะใช้อิทธิพลจากทางครอบครัวของเธอ คิดว่าตัวเองสำคัญ อีกทั้งจิรภาสปฏิบัติกับเธอเช่นนั้นต่อหน้าผู้คน ก็เป็นเพราะเธอที่เริ่มทำไม่ดีกับจิดาภาก่อน “มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ? อยากจะได้ความรักที่เขาโชว์หวานกันแบบนั้นบ้างหรืออย่างไรกัน!” “เมื่อไหร่จะได้ข่าวเรื่องที่พวกเขาจะแต่งงานกันเสียทีนะ? จะรอต่อไปไม่ไหวแล้ว” “พวกผู้หญิงที่จงใจจะก่อกวนรบกวนอยู่ให้ห่างจากบอสหน่อยนะคะ!” “ได้ข่าวว่าผู้หญิงสูงส่งคนหนึ่งพูดออกมาว่านักแสดงหญิงนั้นต่ำต้อย ไม่รู้ว่าทำให้คนตั้งมากมายเท่าไหร่ที่รู้สึกไม่พอใจ เหอๆ ดูเหมือนจะติดหนี้ไอคิวไว้แล้วล่ะ!” ถ้าหากไม่ใช่เพราะจิรภาสไปรับจิดาภาตรงประตูในคืนนั้น บรรดานักข่าวอาจจะต้องตามไปสัมภาษณ์จิดาภากันอย่างแน่นอน แต่เนื่องจากการปรากฏตัวของผู้จัดการส่วนตัวของเธอนั้น จึงไม่มีใครกล้าที่จะไปรบกวนพวกเขา หากมองจากอีกด้านหนึ่ง จิรภาสปกป้องจิดาภาเป็นอย่างดี แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งมากกับเรื่องของช่องบลูไลท์ แต่ก็ไม่ลืมหน้าที่ความรับผิดชอบในฐานะผู้จัดการส่วนตัวของเธอ จิดาภาอยู่เป็นเพื่อจิรภาสจัดการงานของช่องบลูไลท์จนเสร็จ เวลาเดียวกันนั้น อีเมล์ของจิรภาสก็ได้รับจดหมายจากshellyneo ว่าฐานภาพยนตร์ต่างประเทศทางนั้นเตรียมพร้อมแล้ว จิดาภาสามารถไปเริ่มถ่ายทำได้แล้ว จิรภาสเองก็ตัดสินใจเลือกรายชื่อนักแสดงเรื่อง 《ส่วนความทรงจำ》ได้ในเวลานี้เอง ตอนที่เขาเอาให้จิดาภาดูนั้น เธอพบว่ารายชื่อนักแสดงที่เขาเลือกมานั้นล้วนแต่มีพรสวรรค์ในด้านวงการนี้ด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งยังสอดคล้องกับพล็อตเรื่องเป็นอย่างมาก เพียงแต่.....รู้สึกเหมือนกับมีส่วนไหนที่ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นัก จิรภาสมองดูจิดาภาที่อยู่ข้างๆขมวดคิ้วเล็กน้อย ริมฝีปากบางของเขาจึงยกขึ้นเอ่ยถาม “มีตรงไหนไม่ถูกต้องหรือเปล่าครับ?” จิดาภาพยักหน้า “อืม บางครั้งบทของตัวละครนี้ค่อนข้างรุนแรง อาจจะไม่เข้ากันกับชีวิตคนจริงๆ ถ้าหากไม่เข้าใจขอบเขต อาจจะทำให้คนดูรู้สึกสับสนได้นะคะ” จิรภาสพยักหน้า แสดงออกว่าเห็นด้วย เขาเองก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน “โอเคครับ เดี๋ยวเรื่องนี้ให้ผมจัดการต่อนะ คุณจะต้องเข้าร่วมการถ่ายทำแล้ว ปรับสภาพตัวเองให้ดีนะ” จิรภาสออกคำสั่ง