บทที่289 สายที่ไม่อยากรับ
1/
บทที่289 สายที่ไม่อยากรับ
ประธานาธิบดีไม่ดี
(
)
已经是第一章了
บทที่289 สายที่ไม่อยากรับ
บทที่289 สายที่ไม่อยากรับ ภายในประเทศนั้นได้มีข่าวเรื่องรายชื่อการกำหนดบทบาทภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเค.เอฟเรื่อง《ส่วนความทรงจำ》ออกมา และคืนนี้ณัชชาที่ถูกกำหนดตัวให้เป็นนางเองของเรื่องนี้กำลังนั่งทานอาหารอยู่ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งกับหญิงสาวที่ดูสง่างามมากคนหนึ่ง ช่วงเวลาห้าปีมานี้ ผลงานการแสดงของณัชชานั้นมีไม่น้อย ล้วนแต่ได้รับผลตอบรับที่ไม่เลวเลยทั้งสิ้น บวกกับเธอที่มาจากวงการนักเขียนบทมืออาชีพด้วยแล้วนั้น พื้นฐานความชำนาญในการเขียนบทนั้นแม่นยำยิ่งนัก ผู้กำกับใหญ่หลายๆคนยินยอมร่วมงานกับเธอ ที่ถึงแม้ว่าเธอจะเพิ่งโด่งดังตอนอายุสามสิบแล้วก็ตาม กลับได้รับผลประกอบการภาพยนตร์ระดับนานาชาติได้ไม่เลวเลย ตรงจุดนี้นับว่าเป็นการเพิ่มคะแนนให้เธอได้ไม่น้อยเลย จากแนวโน้มในการพัฒนาเช่นนี้ เพียงไม่กี่ปี เธอก็ได้กลายเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่มีราคาแพงที่สุดในประเทศจีนไปแล้ว เพื่อแย่งตัวเธอมาร่วมแสดงในเรื่อง《ส่วนความทรงจำ》เค.เอฟเองก็ลงแรงไปไม่น้อย เพียงแต่ก่อนการเซ็นสัญญานั้น ผู้หญิงคนนี้จู่ๆกลับมาหาเธอเสียก่อน บนนามบัตรนั้นมีเพียงอักษรที่เป็นชื่อของเธอคือ กานดา ที่ณัชชารู้มานั้น บิดาของกานดาเป็นประธานบริษัทเค.เอฟ เธอมาหาตัวเองเวลาเช่นนี้ทำไมกัน? “เค.เอฟเลือกคนเป็นนะคะ พี่ณัชชาเป็นคนที่มีเสน่ห์มาก” กานดายิ้มแล้วกล่าวชื่นชมเธอ “มีอะไรก็พูดออกมาตรงๆเลยดีกว่าค่ะ” แน่นอนว่าณัชชาไม่ได้โง่ เธอชอบที่จะคุยกันซึ่งๆหน้าให้เคลียร์ชัดเจนเสียมากกว่า อยู่ในวงการนี้มานาน เธอสามารถมองคนออก ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าในมือของกานดามีไพ่ไม้ตายอยู่ในมือหลายใบ ถึงได้กล้าท้าทายจิรภาสเช่นนี้ “ได้ค่ะ ฉันจะพูดเข้าประเด็นเลยแล้วกันนะคะ ฉันอยากจะให้คุณรับบทเป็นนางเองเรื่อง《ส่วนความทรงจำ》” จากรอยยิ้มของกานดาแล้ว ณัชชาสังเกตได้อย่างชัดเจนว่าเธอไม่ได้ตั้งใจอยากที่จะให้เธอแสดงเรื่องนี้ แต่กลับมีแผนการอื่นอยู่นั่นเอง “แล้วยังไงต่อคะ?” “คุณไม่จำเป็นต้องแสดงจนจบ เพียงแค่แสดงไปได้ถึง70%แล้วหลังจากนั้นคุณก็ทำเป็นเกิดอุบัติเหตุ เพียงแค่นั้นเองค่ะ” กานดาถือแก้วไวน์แดงในมือ แล้วส่งยิ้มอ่อนโยนออกมา “ฉันอยากจะรู้ว่าหลังจากการลงทุนกับภาพยนตร์หลายพันล้าน แล้วเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น คุณจิรภาสจะรับมือกับมันอย่างไร” “ถึงตอนนั้นแล้ว พวกกรรมการบริษัทของเค.เอฟก็คงจะมีความคิดเห็นอะไรกับเขาบ้างสิ” ณัชชาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “พวกเขาจะโง่ขนาดโทษว่าเป็นความผิดของคุณจิรภาสเลยหรือคะ?” “ฉันจะทำให้พวกเขาทำแบบนั้นเอง” น้ำเสียงของกานดาฟังดูหนักขึ้น หลังจากนั้นจึงหยิบรูปถ่ายรูปหนึ่งขึ้นมา แล้วยื่นส่งไปตรงหน้าณัชชา “นี่คือรูปถ่ายเข้าออกวิลล่าซันไชน์ของคุณในเดือนที่แล้ว เท่าที่ฉันรู้มา คุณเป็นชู้กับท่านประธานจุมพลมาได้ซักระยะนึงแล้วนี่คะ....” “คุณขู่ฉัน!” ณัชชาเบิกตากว้าง ถ้าหากเรื่องความรักนี้ของเธอถูกเปิดเผยออกมา อาชีพนี้ของเธอจะต้องจบลงอย่างแน่นอน! “นี่มันเป็นกฎเกณฑ์ของเกมในวงการนี้ค่ะ คุณคิดดูให้ดี ร่วมมือกับฉัน หรือจะรอให้ชื่อเสียงของคุณป่นปี้?” ณัชชากำหมัดแน่น เธอเงียบอยู่นาน ถึงมองไปกลับไปยังกานดาแล้วพูดว่า “ถึงแม้ว่าหลังจากรับงานแล้วฉันทำให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น ก็คงจะไม่ส่งผลกระทบอะไรกับตำแหน่งของคุณจิรภาสอยู่แล้ว คุณสู้เขาไม่ได้หรอกค่ะ เส้นทางนี้เขาเป็นเหมือนปิศาจ เขาไม่เคยที่จะไม่ชนะ” “คนที่คิดจะสู้กับเขา สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครสามารถจะลงสนามเพื่ออยู่ในวงการนี้ได้อีก” “คุณเข้าใจเขาดีขนาดนั้นเลยหรือคะ?” “ฉันเข้าใจเขามากกว่าที่คุณคิดอีกค่ะ ฉันเคยเป็นเพื่อนสมัยเรียนกับเขา” ณัชชาว่า พลางลุกขึ้นยืน “เรื่องนี้ฉันจะเก็บไปพิจารณานะคะ” กานดามองเธอจากไป โดยไม่ได้พูดอะไรอีก ชีวิตในอาชีพนี้ล้วนแต่ทำเพื่อชื่อเสียงของตัวเอง จิรภาสดูแลบริหารเค.เอฟมาหลายปี ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนคนแล้ว กานดาเขย่าแก้วไวน์ด้วยท่าทางที่น่าดึงดูด เธอมาถึงตรงนี้แล้ว ไม่มีทางให้ถอยกลับแล้ว ต่อให้จิรภาสจะยิ่งใหญ่อีกเพียงใด เธอก็ต้องลองเสี่ยงดู ........ หนึ่งสัปดาห์ต่อมา จิดาภาอยู่ถ่ายละครที่กองถ่ายติดต่อกันหลายวัน เวลาส่วนใหญ่ของจิรภาสจึงอยู่ที่กองถ่ายเป็นเพื่อนเธอ และก็ถือเป็นการได้พักผ่อนอีกด้วยเช่นกัน หากไม่ได้กลัวว่าจิดาภาถ่ายละครเสียจนเหนื่อยนั้น เขาคงจะไม่ให้เธออกมาเดินนอกห้องของโรงแรมอย่างแน่นอน เขาพยายามควบคุมตัวเองแทบบ้า.... ทางด้านการถ่ายทำของจิดาภานั้นเป็นไปอย่างราบรื่น ภารกิจเสร็จเร็วกว่ากำหนดในตอนแรกเป็นระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ shellyneo เชิญให้พวกเขาสามีภรรยาอยู่ต่ออีกซักสองสามวัน รอจนภาพยนตร์ตัดต่อเสร็จแล้ว อยู่ร่วมฉลองความสำเร็จด้วยกันเสียก่อนแล้วค่อยกลับ แต่เนื่องจากทางเค.เอฟยังมีเรื่องที่รอให้จิรภาสกลับไปจัดการอยู่ พวกเขาจึงตัดสินใจกลับประเทศกันในวันรุ่งขึ้น คืนก่อนวันกลับ จิดาภาได้รับโทรศัพท์จากสายที่เธอไม่ค่อยอยากจะรับเท่าไรนัก “ฉันเองนะญาณิดา เธอจะกลับมาเมื่อไหร่ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” ตระกูลวีรภัทรเมธี? น้ำเสียงที่ไม่คุ้นเคยเช่นนี้ได้ดึงจิดาภากลับไปยังความรู้สึกเมื่อนานมาแล้ว ในใจของเธอราวกับได้รับความรู้สึกเหมือนกับอยู่อีกโลกหนึ่ง ทั้งๆที่เรื่องราวก็ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว เธอเคยชินกับสภาพที่เธอไม่มีญาติไปตั้งนานแล้ว จู่ๆก็ได้รับโทรศัพท์สายนี้ ในใจของเธอนั้นรู้สึกระแวงเป็นอย่างมาก ญาณิดาที่เห็นปลายสายที่เงียบไปไม่มีปฏิกิริยาตอบอะไรกลับอยู่พักใหญ่ จึงเอ่ยถามขึ้นอีก “เธอไม่ยอมจะมาเจอฉันหรือ?” “ใช่ค่ะ ฉันไม่อยากเจอคุณ” จิดาภาเอ่ยตอบกลับไปตรงๆ ตั้งแต่วันที่เธอเข้าไปอยู่ในตระกูลวีรภัทรเมธี เธอก็มักจะโทษตัวเองอยู่เสมอ รู้สึกว่าตัวเองแย่งของของคนอื่นไป แต่ตอนนี้เธอเองก็ยิ่งรู้ดี ว่าแม้จะไม่มีเธอ ความรู้สึกระหว่างพี่น้องของตระกูลวีรภัทรเมธีก็ไม่สามารถลึกซึ้งมากไปกว่านี้ได้ พวกเขามีแต่ความอิจฉาริษยา แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันมาเข้ากระดูกตั้งแต่แรกอยู่แล้ว “กลับมาถึงแล้วบอกฉัน ฉันจะส่งคนไปรับ” ญาณิดารู้สึกรำคาญเล็กน้อย เธอไม่ได้สนใจคำพูดของจิดาภาเลยแม้แต่นิดเดียว “ไม่ต้องค่ะ ฉันจะไปเอง” จิดาภาเองก็ไม่อยากจะคุยกับเธอต่อแล้ว จึงตัดบทแล้ววางสายไป จิรภาสลุกขึ้นมาจากโซฟาแล้วเดินมาหาเธอ “เป็นอะไรหรือครับ?” “คนของตระกูลวีรภัทรเมธี อยากจะพบฉันค่ะ” เธออธิบาย “แต่ฉันไม่อยากจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องอะไรกับคนตระกูลนั้นอีก” จิรภาสโอบไหล่เธอไว้เบาๆ “ปกป้องดูแลตัวเองดีๆนะครับ ผมสนับสนุนการตัดสินใจของคุณเสมอ” “ฉันไปพบเธอแค่พักเดียวก็กลับแล้วล่ะค่ะ จะไม่อยู่เสียเวลานานหรอก ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับพวกเขาอยู่แล้ว” จิดาภาบอกไปตามความจริง แล้วเอาศีรษะพิงไปยังหน้าอกของเขา “ขับรถคันที่ดีที่สุดของบ้านเราไปนะครับ” จิดาภาเข้าใจความหมายของเขา เขาไม่อยากให้เธอต้องถูกคนตระกูลนั้นดูถูก เพียงแต่จิดาภารู้สึกว่าไม่ว่าเธอจะทำอะไร คนตระกูลนั้นก็คงไม่มองเธอว่าสูงส่งอยู่ดี ในสายตาของพวกเขานั้นดูถูกเธอมาตลอดอยู่แล้ว กลางดึก หลังจากที่จิรภาสเก็บเอกสารแล้วนั้น เขาเห็นจิดาภานอนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่บนเตียง ไม่มีใครสามารถรังแกจิดาภาได้ คนของตระกูลวีรภัทรเมธีเองก็ด้วยเช่นกัน ......... หลังจากที่พวกเขากลับมาถึงประเทศแล้วนั้น ญาณิดาก็ได้โทรมาหาเธออีกครั้ง จิดาภาจึงนัดเวลากับเธอแล้วนั้น เธอจึงเดินลงไปยังโรงจอดรถชั้นใต้ดินในบ้านตัวเอง มองดูรถคันหรูและรถสปอร์ตที่จอดอยู่แล้วส่ายหน้า เธอจึงเลือกรถคันที่ธรรมดาและไม่ได้โดดเด่นที่สุดคันนั้นไป เธอชอบที่จะให้ความสำคัญกับการใช้งานได้จริงเสียมากกว่า ญาณิดานัดเธอที่ร้านอาหารอิตาลีแห่งหนึ่ง ซึ่งดูหรูหรามีระดับเป็นอย่างมาก บ่ายสามโมง จิดาภาเดินเข้ามาในร้านตามเวลานัด แล้วนั่งลงตรงที่นั่งที่จองไว้ แต่รออยู่นานก็ยังคงไม่เห็นญาณิดา เวลาผ่านไปหลายปีแล้ว นิสัยของพี่คนโตอย่างญาณิดาไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย ยังคงชอบที่จะบีบบังคับคนอื่นอยู่เหมือนเดิม ชอบที่จะให้คนอื่นเป็นฝ่ายรอตัวเอง เพื่อแสดงถึงตำแหน่งฐานะของตัวเอง เพียงแต่ จิดาภาไม่ได้เก็บเอาเรื่องนี้มาใส่ใจอยู่แล้ว เธอนั่งฟังเพลงคลาสสิค พลิกนิตยสารอ่าน ไม่ได้มีท่าทางรำคาญหรือหงุดหงิดปรากฏออกมาให้เห็นเลยว่าเธอกำลังรอใครบางคนอยู่
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่289 สายที่ไม่อยากรับ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A