บทที่290 ขอให้คุณอย่าได้มารบกวนฉันอีก   1/    
已经是第一章了
บทที่290 ขอให้คุณอย่าได้มารบกวนฉันอีก
บทที่290 ขอให้คุณอย่าได้มารบกวนฉันอีก นิตยสารแทบทุกเล่มที่มีผลิตภัณฑ์ที่จิดาภาเป็นBrand ambassador หรือมีบทสัมภาษณ์ของเธออยู่ในนั้นด้วย ซึ่งจิดาภาเองก็นึกไม่ถึงด้วยเช่นกัน ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ญาณิดาจึงเดินถือกระเป๋าราคาแพงปรากฏตัวออกมา หากเมื่อเทียบกับท่าทางรสนิยมที่ดูเย่อหยิ่งของเธอแล้วนั้น จิดาภาความเย็นชาของเธอนั้นดูอ่อนโยนไปเสียเลย ญาณิดาสวมชุดกระโปรงสีเขียวเข้ม สวมทับด้วยเสื้อขนมิงค์สีขาว ผมดัดลอนยาวปะบ่า ริมฝีปากแดงแต่กลับดูไม่ธรรมดา เป็นความงามที่แพร่ออกมาจากเรือนร่างของเธอ หลังจากที่เห็นจิดาภาแล้ว เธอจึงเดินเข้าไปหาในทันที หลังจากนั้นเธอจึงถอดแว่นกันแดดออกแล้วนั่งลงตรงข้ามกับจิดาภา แล้วหยิบสัญญาโอนกรรมสิทธิ์ฉบับหนึ่งออกมาจากกระเป๋า “นี่คือบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นชื่อของฉัน ฉันโอนหุ้นส่วนทั้งหมดให้เธอโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ธุรกิจของบริษัทไปได้สวย เธอไม่ต้องกังวลกับเรื่องผลกำไรเลย” ฟ้าประทานเรื่องดีๆแบบนี้ให้หล่นลงมาอย่างนั้นหรือ? จิดาภายกยิ้มอย่างเย็นชา แต่กลับไม่ได้อ่านสัญญา เธอมองญาณิดาอย่างเหยียดๆ “ฉันรู้มาว่าช่วงนี้เธอสนิทสนมกับเจ้าของบริษัทใหญ่ในวงการบันเทิง แต่ผู้ชายในวงการแบบนั้นจะจริงใจกับเธออย่างนั้นหรือ? ฉันเห็นรถที่เธอขับมา เขาก็ไม่เห็นจะชอบเธอเหมือนกับที่ข่าวบอกแบบนั้นเลย? อีกอย่างตอนนี้พวกเธอก็ยังไม่ได้มีความสัมพันธ์กันอย่างเป็นทางการ ไม่มีหลักมีแหล่งอะไรเลยแบบนี้ เธอจะไม่ได้อะไรเลยนะ สู้เธอเซ็นชื่อเสียตอนนี้ ยังพอมีอะไรที่เป็นหลักประกันไว้ให้ตัวเองได้บ้าง” จิดาภาถือแก้วกาแฟ แล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆในแบบของเธอ “ที่คุณนัดฉันออกมาก็เพื่อจะมาคุยเรื่องนี้หรือคะ?” “เธอคิดว่าฉันอยากจะมางั้นหรือ? สองสามวันก่อน คุณปู่พูดถึงเธอ” “คุณก็เลยกังวล ว่าฉันจะกลับไปบ้านของคุณหรือคะ?” จิดาภารับรู้ได้ถึงเจตนาของญาณิดา ถึงจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วมีความเคร่งขรึมยิ่งขึ้น “ถ้าหากไม่ใช่คุณที่เป็นฝ่ายโทรมาหาฉันก่อน ฉันอาจจะลืมตระกูลวีรภัทรเมธีไปแล้วก็ได้ค่ะ เอาสิ่งที่คุณอยากจะบริจาคนี่กลับไปเถอะค่ะ ฉันไม่ต้องการ ขอเพียงแค่พวกคุณไม่ต้องมาปรากฏตัวตรงหน้าฉันอีก ไม่มารบกวนชีวิตของฉัน ฉันจะไม่กลับไปบ้านตระกูลวีรภัทรเมธีหรอกค่ะ” “เธอเข้าใจผิดแล้วล่ะ ฉันหมายถึงว่า ให้เธอออกจากวงการบันเทิงนี่ซะ” ญาณิดาเงยหน้าขึ้นมองจิดาภา แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดีเท่าไรนัก “เธอเซ็นสัญญาบริษัทใหม่ตอนนี้ เธอจะมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น มักจะมีคนที่เอาชื่อของเธอมาผูกอยู่กับตระกูลวีรภัทรเมธีอยู่บ่อยๆ ฉันไม่อยากให้ชื่อของตระกูลวีรภัทรเมธีไปเป็นข่าวปรากฏอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์เหล่านั้น” “เธอจะไม่สนใจข่าวลืออะไรพวกนั้นก็ได้ แต่ชื่อเสียงของตระกูลวีรภัทรเมธีจะให้ใครมาดูถูกเหยียดหยามไม่ได้” จิดาภายิ้มเรียบๆออกมา “ที่ฉันเดินมาจนถึงทุกวันนี้ได้ ฉันไม่ได้พึ่งพาอาศัยตระกูลวีรภัทรเมธีเลย คุณมีสิทธิอะไรมาชี้นิ้วสั่งทั้งๆที่นั่นมันก็เรื่องของฉัน? ฉันขอเตือนคุณไว้นะคะ ว่าอยู่ให้ห่างจากฉันไว้ ฉันจะกลับหรือไม่กลับไปตระกูลนั้นมันก็เรื่องของฉัน ฉันไม่ได้ติดค้างอะไรกับคุณ” “คุณไม่ต้องเอาตำแหน่งของคุณมาออกคำสั่งกับฉัน” “ฉันไม่ใช่คนรับใช้ในตระกูลของคุณ” ญาณิดาตั้งคำถามกับประโยคที่เธอได้ยิน ที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงเลยนั่นก็คือ ในช่วงเวลาไม่กี่ปีมานี้ จิดาภากล้าโต้ตอบเธอแบบนี้เชียวหรือ! “คำพูดที่ฉันพูดไปฉันอยากจะให้คุณได้ยินอย่างชัดเจนนะคะ และฉันก็หวังว่าคุณจะไม่มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าฉันอีก ได้ยินมาว่าช่วงนี้ความสัมพันธ์ของคุณกับครอบครัวสามีก็ไม่ราบรื่นซักเท่าไหร่นี่ค่ะ ก่อนจะมาจัดการเรื่องของคนอื่นจัดการเรื่องของตัวเองกันดีกว่านะคะ” จิดาภาพูดเสร็จแล้ว เธอก็ลุกขึ้นเพื่อเตรียมที่จะกลับออกไป เวลานี้เองที่ร่างสูงของจิรภาสเดินเข้ามาตรงหน้าเธอพอดี เขาเอ่ยถามเธอ “เสร็จแล้วหรือครับ?” “ค่ะ...คุณญาณิดาใจกว้างมาก เธอจะยกบริษัทหนึ่งให้ฉัน แต่ฉันปฏิเสธไปแล้วล่ะค่ะ” จิดาภาพยักหน้าแล้วเล่าให้เขาฟัง จิรภาสโอบจิดาภาไว้ แล้วกวาดสายตามองไปยังสัญญาโอนที่วางอยู่บนโต๊ะ เขาจึงหัวเราะออกมาเบาๆ “คุณญาณิดามั่นใจมากไปหน่อยหรือเปล่าครับ? คุณเป็นคนตระกูลวีรภัทรเมธี คุณจิดาภาเป็นคนของตระกูลปรีดาอัครกุล สำหรับอำนาจของทั้งสองตระกูลนี้ จิดาภาไม่จำเป็นต้องเก็บเอาคำเตือนของคุณมาใส่ใจเลยเสียด้วยซ้ำ....” “อย่ามารบกวนกับเธออีกเลยครับ มิเช่นนั้น ถ้าหลังจากที่ผมลงมือเองแล้ว เรื่องราวคงจะแก้ไขกันไม่ได้ง่ายๆแล้ว” ญาณิดามองพวกเขาสองคนเดินจากไปด้วยความตกตะลึง และรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ถูกจิรภาสโอบไว้เช่นนี้ ในใจของจิดาภารู้สึกอบอุ่นแปลกๆ นี่คือผู้ชายคนที่เธอเลือก ดวงตาที่ยิ้มแย้มของเธอ พร้อมกับฟ้องจิรภาสเรื่องที่เธอเจอมาอีกด้วย “เมื่อครู่เธอยังเยาะเย้ยฉันเรื่องรถที่ขับมาด้วยนะคะ” “คุณต่างหากที่ไม่ชอบโอ้อวดน่ะ” จิดาภายิ้มแล้วจับมือเขาไว้ แล้วขึ้นไปนั่งบนรถMaybachที่จิรภาสขับมา ญาณิดาที่ยืนมองฉากตรงหน้าอยู่ทางด้านบนตึกนั้น เธอทุบแก้วที่อยู่ในมือจนแตก “ได้ จิดาภา เธอคิดว่าเธอจะมีความสุขแบบนี้ไปได้นานแค่ไหนกันเชียว? ไม่ช้าหรือเร็วจิรภาสก็ต้องแต่งงานมีลูก ตระกูลปรีดาอัครกุลจะยอมให้ลูกสะใภ้ที่เป็นนักแสดงแบบเธอเข้าบ้านได้อย่างไรกัน!” ระหว่างทางกลับบ้าน อารมณ์ที่ไม่มีความสุขของเธอที่อยู่ภายในใจได้หายไปหมดแล้ว “เรื่องที่บริษัทจัดการเสร็จแล้วหรือคะ?” “ครับ....” จิรภาสขับรถไปพลาง แล้วพูดกับจิดาภาไปพลาง “มีผมอยู่ ใครหน้าไหนก็ไม่กล้ามารังแกคุณหรอกครับ” “วางใจเถอะค่ะ ฉันไม่ใช่จิดาภาคนก่อนที่ต้องทนกล้ำกลืนความเจ็บช้ำนั้นไว้อีกแล้วนะ ถึงแม้ว่าวันนี้ฉันจะต้องอดทน ก็เพื่อที่ต่อไปจะสามารถตอบโต้พวกเขากลับไปได้” เธอกล่าวอย่างมุ่งมั่น และเพิ่มเติมอีกหนึ่งประโยคไว้ภายในใจ ฉันเองก็จะไม่ให้ใครมารังแกคุณด้วยเช่นกัน “สัปดาห์หน้าก็เป็นงานแถลงข่าวเปิดกล้องเรื่อง 《ส่วนความทรงจำ》แล้ว คุณจะไปกับผมหรือเปล่าครับ?” จริงๆแล้วงานนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับจิดาภาเลย แต่....เธอรีบพยักหน้าขึ้นมาทันที “ค่ะ ฉันจะไปด้วย” แววตาของจิรภาสนั้นเต็มไปด้วยความรักและทะนุถนอน แล้วกลับบ้านไปพร้อมๆกันกับจิดาภา วันนั้นทางปารีสได้ส่งข่าวมา ว่าจิดาภาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในคนที่มีใบหน้าสวยงามที่สุดในยี่สิบอันดับ รูปถ่ายของเธอได้ลงในนิตยสารLUCIS ที่ขายดีที่สุดในต่างประเทศ อีกทั้งยังจะมีนักข่าวจากนิตยสารมาสัมภาษณ์จิดาภาอีกด้วย ด้วยผลการคัดเลือกในครั้งนี้ รางวัลนานาชาติที่จิดาภามีโอกาสได้รับนั้นก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม จิรภาสได้ออกคำสั่งให้Rickและทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ ให้ใช้โอกาสในครั้งนี้ยกระดับความดังของเธอ ต่อไป จิดาภาจะต้องเตรียมตัวถ่ายโฆษณาและการโปรโมทภาพยนตร์ของshellyneo แต่เธออยากจะจัดงานเหล่านี้ไว้หลังจากการเปิดกล้องอย่างเป็นทางการของเรื่อง《ส่วนความทรงจำ》รอจนสิ้นเดือนมกราคมเสียก่อนเธอถึงค่อยเดินทางไปถ่ายทำที่ต่างประเทศ แบบนี้เธอจะได้มีเวลาอยู่กับจิรภาสอีกซักช่วงหนึ่ง นอกจากผู้รับบทนางเองอย่างณัชชาแล้ว นักแสดงคนอื่นๆก็เริ่มทยอยกันเข้ากองถ่ายแล้ว รวมทั้งพระเอกของเรื่องด้วย แต่ผู้จัดการส่วนตัวของณัชชาแจ้งเอาไว้ว่าอยากจะให้การถ่ายทำของเธอนั้นรวมเข้าไว้ด้วยกัน เนื่องจากตารางงานของณัชชาได้กำหนดไว้ตายตัวแล้ว มีดาราดังๆบางคนที่จะมีการเรียกร้องเช่นนี้ ถึงอย่างไรเสียช่วงนี้เป็นช่วงยุคทองของการแสดงของพวกเขา ไม่มีใครที่อยากจะเสียเวลา....ในเวลานี้เองก็ไม่มีใครคาดคิดว่าที่ณัชชาเรียกร้องเช่นนี้นั้นเพราะมีแผนการบางอย่างนั่นเอง เนื่องจากความต้องการเช่นนี้นั้นมีความสมเหตุสมผล อีกทั้งในวงการยังจะมีกรณีเช่นนี้อยู่บ่อยๆ จิรภาสจึงตกลงยินยอมกับความต้องการนี้ของเธอ ไม่นานงานแถลงข่าวเปิดกล้อง《ส่วนความทรงจำ》ก็มาถึง สถานที่ได้จัดขึ้นที่ห้องประชุมฝั่งตะวันออกของอาคารเค.เอฟ บนโปสเตอร์มีชื่อของนักแสดงชายดีเด่นที่อายุน้อยที่สุดอย่างชาครและนักแสดงหญิงชาวจีนชื่อดังอย่างณัชชา อีกทั้งยังมีนักแสดงชาวยุโรปและอเมริกันมากมายเข้าร่วมด้วย บวกกับที่ทางเค.เอฟได้ประกาศออกไปแล้วถึงทีมถ่ายทำที่จัดขึ้นเฉพาะและผู้กำกับอย่างBieber กล่าวได้ว่าเป็นการรวบรวมแหล่งทรัพยากรที่ดีที่สุดในวงการเลยก็ว่าได้ การประชาสัมพันธ์ได้ถูกเผยแพร่ออกไปยังสาธารณชน แฟนๆภาพยนตร์ต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอย พวกเขาอยากเห็นภาพยนตร์ที่มีคุณภาพ ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นเพื่อสร้างกระแสทางธุรกิจ
已经是最新一章了
加载中