บทที่ 7 กลัวผมมากขนาดนี้เชียว?   1/    
已经是第一章了
บทที่ 7 กลัวผมมากขนาดนี้เชียว?
ภานุวัฒน์นิ่งค้างไป เขามองมาที่ฉันอย่างไม่เชื่อสายตา "เพียงขวัญ คุณเป็นอะไรไป? นี่คุณยังโกรธผมเรื่องเมื่อคืนอยู่อีกหรอ?" สีหน้าของมณีจันทร์เปลี่ยนไป เธอจ้องเขม่งมาที่ฉัน "ฉันทำอะไรให้เธอไม่พอใจอีกหรอ เพียงขวัญ?" ฉันไม่ได้สนใจคำพูดของแม่สามี แต่จ้องไปที่หน้าของภานุวัฒน์ แล้วพูดด้วยสีหน้าเย็นชา "เราหย่ากัน ถือว่าเป็นการคืนอิสรภาพให้ฉันและคุณ" ภานุวัฒน์จับมือของฉันแน่น แล้วถามด้วยความเจ็บปวด "เพียงขวัญ คุณพูดอะไรของคุณ ผมทำอะไรให้คุณเข้าใจผิดรึเปล่า" เหมือนว่าจะคิดอะไรขึ้นมาได้ เขารีบพูดอธิบาย "เรื่องน้ำหอมผู้หญิงที่ติดตัวผมเมื่อวานนี้ ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงติดตัวมาได้" ฉันปรายตามองไปที่เขา "คุณภานุวัฒน์ เห็นแก่ความสัมพันธ์ของเรา อย่าทำร้ายกันไปมากกว่านี้เลยค่ะ" มณีจันทร์มองมาที่ฉัน จากนั้นก็พูดขึ้น "เพียงขวัญ ทำไมต้องพูดถึงขั้นนี้ด้วย ตาวัฒน์ของฉันมีผู้หญิงมารุมล้อมมากมาย!” "ใช่ค่ะ นั่นแหละค่ะ" ฉันแสยะยิ้ม แล้วปรายตามองไปที่ภานุวัฒน์ "เมื่อคืนคุณไปไหนมาคะ?" "ผม..." ภานุวัฒน์เงียบ จากนั้นก็รีบพูดขึ้น "ผมไม่ได้ไปไหน คุณต่างหากที่กลับมาดึกดื่น!” "โรงแรมอิมพิเรียล ห้อง303” ฉันพูดชื่อโรงแรมและหมายเลขห้องขึ้นช้าๆ เขาหน้าถอดสีทันที มณีจันทร์ที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงหันไปถามลูกชายตนเอง "โรงแรมอะไรห๊ะลูก?" ภานุวัฒน์คลายมือที่จับมือของฉันเอาไว้ จากนั้นถอยหลังอย่างเสียไม่ได้ "ไม่ว่าคนที่บริษัทจะพูดยังไงฉันก็ไม่เคยเชื่อ แต่ตอนนี้ฉันยอมแพ้แล้ว" ยิ่งฉันพูดออกมา สีหน้าของภานุวัฒน์ก็ยิ่งซีดขาว ตอนที่แม่สามีหันไปมองหน้าลูกชายตัวเองที่เถียงไม่ออกนั้น หน้าของเธอก็ถอดสีแล้วเหมือนกัน มณีจันทร์ด่าลูกชายตนเองไม่กี่คำ จากนั้นหันมาหาฉัน "เพียงขวัญ ผู้ชายก็แบบนี้แหละลูก อยากไปเจออะไรใหม่ๆบ้างก็เท่านั้น แต่ถึงยังไงใจของตาวัฒน์ก็อยู่ที่หนู อย่างน้อยคนที่ตาวัฒน์รักก็คือหนู" "เพียงขวัญ ผมผิดไปแล้ว... ผมรักคุณมากจริงๆนะ" ฉันมองนิ่งไปที่เขา "เราหย่ากันเถอะค่ะ" ชีวิตแต่งงานตลอดสามปีที่ผ่านมานี้ เหมือนความฝันที่ถูกปลุกให้ตื่น เมื่อแม่สามีเห็นว่าฉันยืนยันที่จะหย่า เธอก็ต่อว่าฉันในทันที "เพียงขวัญ อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ ตาวัฒน์เป็นที่ต้องการของสาวๆ แต่เธอต่างหากที่สมควรจะใช้ความคิดให้มาก ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ไม่มีใครเขาอยากได้หรอก" ฉันหันไปมองแม่สามีและมองดูภานุวัฒน์ที่ในตอนนี้ยังคงเงียบ คำตอบมันชัดเจนอยู่แล้ว... หลังจากนั้นฉันจึงเก็บข้าวของและออกไปจากบ้านหลังนี้ หลังจากไปถึงบริษัท หัวหน้าทีมพี่นุชดาก็บอกกับฉันว่าแผนกลยุทธ์ของฉันได้รับเลือกแล้ว ถ้าไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้น อีกไม่นานก็จะได้รับเปอร์เซ็นต์ "ขอบคุณนะคะพี่นุชรา" พี่นุชราคือหัวหน้าทีมที่คอยดูแลฉัน เธอดีกับฉันมาก และฉันก็รักและเคารพเธอมากเหมือนกัน นุชราคลายยิ้ม "ไม่ต้องขอบคุณพี่หรอก พี่ต่างหากที่ควรจะขอบคุณเรา คิดไม่ถึงว่าเราจะเขียนแผลกลยุทธ์ได้ดีขนาดนี้ ตั้งใจทำงานให้ดีนะ" "ค่ะ ฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุด" ตลอดหลายวันที่ผ่านมานี้ นี่เป็นข่าวดีแรกหลังจากที่เจอแต่เรื่องร้ายๆ ฉันสูดลมหายใจเข้า จากนั้นก็เตรียมเอกสารในการประชุม ณ ห้องประชุม เมื่อเริ่มประชุม พิรภพก็พูดถึงแผนกลยุทธ์ของฉันในทันที ทำให้ทุกสายตาจับจ้องมองมาที่ฉัน ฉันรู้สึกเกร็งไปหมด จากนั้นก็ได้มีการประชุมพูดคุยรายละเอียดงานต่างๆ และรวมถึงแบ่งหน้าที่รับผิดชอบเป็นส่วนๆ หลังจากที่ตกลงกันได้แล้วนั้น ก็เป็นการจบการประชุม ช่วงที่ผ่านมานี้ ฉันพยายามที่จะไม่สบตากับพิรภพ ตอนที่ได้ยินเขาบอกว่าเลิกประชุมนั้น ฉันจึงรีบเก็บเอกสารและเตรียมตัวออกไป ทว่าใครจะไปคิด พิรภพร้องเรียกชื่อของฉัน "เพียงขวัญ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ" พี่นุชราเดินเข้ามาหาฉันและตบบ่าเบาๆเป็นการให้กำลังใจ และฉันก็ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมด้วยความเสียวสันหลัง หลังจากที่ทุกคนออกไปกันจนหมด พิรภพก็พูดขึ้น "เพียงขวัญ แผนกลยุทธ์ของคุณทำได้ดีหนิ" คำพูดของเขาทำให้ฉันอึ้งไป ฉันรีบตอบกลับในทันที "ไม่หรอกค่ะ เป็นเพราะพี่นุชราสอนงานได้ดีค่ะ" "อ่อ? แต่เอ๊ะ ทำไมผมถึงไม่มีส่วนในแผนกลยุทธ์นี้ล้ะ?" ฉันกวาดตามองบน "ถ้าท่านประธานไม่มีธุระอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ" "เดี๋ยวก่อน" พิรภพเดินมาตรงหน้าฉัน ฉันตกใจจนก้าวถอยหลัง คนอย่างเขาควรจะรักษาระยะห่างเอาไว้ เพราะฉันไม่อยากจะมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขาอีกแว พิรภพมองดูท่าทีของฉัน แล้วหัวเราะขึ้นมา "คุณกลัวผมมากขนาดนี้เชียว?" ฉันเงียบและก้มหน้าลง พร้อมกับภาวนาในใจให้เขาปล่อยฉันออกไปสักที
已经是最新一章了
加载中