บทที่ 3: ตายก็ไม่ขอโทษ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 3: ตายก็ไม่ขอโทษ
ชาตรีใช้เท้าถีบ พิงกี้ที่เจ็บไปทั้งเนื้อทั้งตัวและหมดเรี่ยวแรงลงบนพื้น มือที่กว้างใหญ่เหมือนใบพัดตบที่ใบหน้าและร่างกายเธอครั้งแล้วครั้งเล่า แรงจนไม่เหมือนกำลังสั่งสอนลูก แต่เหมือนกำลังทำกับคนที่ โกรธแค้น “ นางลูกทรพี เพราะแกคนเดียว ทำให้ตระกูลเรากลายเป็นตัวตลกไปทั่วทั้งเมือง! ” ใบหน้าที่ขาวเนียนของพิงกี้บวมแดงขึ้นมา เธอกัดริมฝีปากไว้ไม่พูดสักคำ มาลาตีที่สวยสง่าจ้องดูด้วยความเย็นชา พร้องน้ำเสียงเยือกเย็น “ ชาตรี เดี๋ยวออกสื่อแถลงข่าวเลยว่าตัดขาดความสัมพันธ์ฉานพ่อลูกกัน! คนที่เกิดมาในถิ่นทุรกันดาร ยังไงก็แก้นิสัยเสียๆอย่างคนชั้นต่ำไม่ได้หรอก ตอนหล่อนอายุสิบห้าปี เราก็ไม่ควรเอาหล่อนกลับมาแล้ว!” “ ไม่ได้! ” แววตาของชาตรีสับสน “ พามารพจญนี้ไปขอโทษที่บ้านภิรมย์ภักดีก่อน จากนั้นก็ไปเฝ้าลิสา และจัดการเรื่องนี้ให้จบๆไป! บ้านเราจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาไม่ได้อีก เรื่องที่ว่าพี่น้องแย่งผู้ชายคนเดียวกัน” ขอโทษ? ถ้าขอโทษก็เท่ากับว่าฝ่ายถูกกระทำอย่างเธอ ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนผิดหน่ะสิ? พิงกี้รู้สึกอ้างว้างในใจ เมื่อก่อนเธอทำอะไรผิด? ลิสาก็จะแสดงเป็นพี่สาวที่อ่อนโยนและแสนดี หว่านล้อมให้เธอขอโทษ บอกว่าถ้าเธอขอโทษและยอมรับผิด ชาตรีกับมาลาตีก็จะไม่โกรธ คนอื่นก็จะไม่เอาเรื่อง..... ตอนนั้นเธอไม่รู้เรื่อง ก็ได้แต่ทำตามที่ลิสาพูดอย่างโง่ๆ ขอโทษกับเงินที่ตัวเองไม่ได้ขโมย ขอโทษกับคนที่ตัวเองไม่ได้ตี ....และขอโทษกับหลายๆสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำ.....เธอนึกว่าเธออดทนกับความทุกข์ใจ ก็สามารถเห็นท้องฟ้าที่กว้างไกล แต่ว่า เธอได้อะไรกลับคืน? สิ่งที่เธอได้รับกลับคืนมา มีแต่ความเกลียดชังของชาตรีกับมาลาตี และชื่อเสียงที่เหม็นเน่าของเธอ ครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมโง่อีกต่อไป! และก็ไม่อยากโง่อีกต่อไปด้วย! “ หนูไม่อยากไปบ้านของตระกูล ภิรมย์ภักดี และยิ่งไม่มีทางไปขอโทษลิสา นอกจากหนูตาย! ” “ งั้นแกก็ไปตายซะ !ตระกูลภิรมย์ภักดีจะได้หายโกรธ! ” ชาตรีโมโหและตะคอกเสียงดัง “เพราะยังไงตระกูลเราก็ถูกแกขายขี้หน้าไปหมดแล้ว แกไม่ตาย ฉันก็จะทำให้แกตายเอง!” บ้านภิรมย์ภักดี เป็นตระกูลที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะขัดใจจริงๆ! ถ้าการตายของพิงกี้สามารถทำให้บ้านภิรมย์ภักดีหายโกรธ เขาก็ยินดีอย่างยิ่ง! พิงกี้ถูกชาตรีคุมตัวไปขอโทษที่บ้านภิรมย์ภักดี แม้แต่เสื้อผ้ายังไม่ให้เธอเปลี่ยนเลย นั่งอยู่บนรถ ร่างกายที่เมื่อยล้าทำให้คิดถึงผู้ชายที่บ้าคลั่งเมื่อคืน และแววตาที่เยือกเย็นเหมือนยมบาล มือที่แรงใหญ่บีบที่คอเธอ เธอไม่สงสัยเลยว่าเขาจะฆ่าเธอให้ตาย... ถ้าไม่ใช่ลิสาโรคหัวใจกำเริบ ตอนนี้เธอคงจะกลายเป็นศพไปแล้วมั้ง? การตาย...ไม่ได้เป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างที่คนคิดไว้ ถึงหน้าบ้านภิรมย์ภักดี คนเฝ้าประตูไม่ได้ให้รถของพวกเขาเข้าไป บอกแค่ว่าวันนี้คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายไม่อยู่บ้าน ไม่ว่าชาตรีจะพูดยังไง สุดท้ายก็ได้แต่กลับรถมุ่งไปที่โรงพยาบาล อารมณ์โกรธแค้นในใจสุดท้ายก็เอามาลงที่พิงกี้ พอถึงโรงพยาบาล พิงกี้ถูกชาตรีลากจนเดินเซไปมา เธอเหมือนตุ๊กตาไม้ที่ถูกเขาบังคับและเดินตามหลังเขา แม้แต่แรงจะขัดขืนก็ยังไม่มี ระหว่างเดินอยู่ เธอเห็นเงาของผู้ชายที่สูงโปร่ง คือเขา! จู่ๆหัวใจรู้สึกปวดแน่น พิงกี้ก้มหน้าลง “ คุณเควิน คุณมาเยี่ยมลิสาหรือครับ? ”ชาตรีรู้สึกเซอร์ไพรส์และเดินไปข้างเควิน และพูดอย่างระวังปาก “เรื่องเมื่อคืนต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ ผมจะให้มารผจญนี้ขอโทษคุณเดี๋ยวนี้เลยครับ!” พอพูดจบก็ดึงพิงกี้ “ ยังไม่รีบขอโทษคุณเควินอีก?” พิงกี้ถูกดึงและล้มลงไปที่พื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว เธอเงยหน้าขึ้นมาอย่างทรุดโทรม สบตากับดวงตาคู่ที่คมลึก
已经是最新一章了
加载中