บทที่ 9 ตั้งใจ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 9 ตั้งใจ
ปกติได้ทำโปรเจคสร้างวิลล่าขนาดใหญ่ ฉันยังไม่เคยเห็นผู้จัดการเฉลิมดีใจขนาดนี้มาก่อน คิดว่าโปรเจคครั้งหน้าน่าจะใหญ่จริงๆ ในรถผู้จัดการก็ได้บอกกับฉัน “บริษัทนี้ต้องการสร้างโรงงานขนาดใหญ่ มันอาจจะเป็นโปรเจคที่ปกติเราไม่เคยได้ทำ แต่โปรเจคใหญ่มากจริงๆ พวกเราต้องลอง” ดีไซด์โรงงานฉันไม่เคยทำแม้แต่ครั้งเดียว ปกติฉันแค่เคยทำแต่โปรเจคดีไซด์วิลล่าและออฟฟิศเท่านั้น ในใจของฉันจึงรู้สึกตื่นเต้นเบาๆ “ผู้จัดการค่ะ ฉันกลัวว่าฉันจะทำออกมาได้ไม่ดี ยังไงโปรเจคสร้างโรงงาน ดิฉันยังไม่เคยทำเลย! ถึงเวลาไม่รู้ว่าควรพูดยังไง” ผู้จัดการเฉลิมตบไหล่ของฉันแล้วพูดขึ้น “อย่ากังวลเลย เราไม่ได้เป็นคนควบคุมงานดีไซด์ทั้งหมด ทางบริษัทของเขาก็มีกลุ่มดีไซด์อีกกลุ่มหนึ่งมาด้วย เราแค่ได้มีส่วนร่วมในโปรเจคเล็กๆบ้าง ก็สามารถทำเงินได้มากมายมหาศาลแล้ว” รอได้เจอบริษัทที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ พอได้เห็นผู้ที่จะมาร่วมโปรเจคนี้มีแต่บริษัทยักษ์ใหญ่ ทำให้ฉันรู้ว่าบริษัทนี้ต้องไม่ใช่บริษัทธรรมดา ฉันจึงถามผู้จัดการ “บริษัทนี้ชื่อว่าบริษัทอะไรค่ะ ดูๆแล้วไม่ธรรมดาจริงๆ เห็นแค่สิ่งก่อสร้างก็ใช้ก็พรีเมี่ยมมากๆ” เธอที่เรียนเกี่ยวกับการออกแบบบ้าน พอเห็นวัตถุก่อสร้างพวกนี้ก็รู้สึกคุ้นชินมากๆ ผู้จัดการเฉลิมจึงพูดขึ้น “แน่นอนสิ บริษัท QS ที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงเทพ ต่อให้เป็นแค่บริษัทลูก บริษัทธรรมดาๆก็ไม่สามารถเทียบได้” พอฉันได้ยินคำว่า บริษัทQSที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงเทพ ฉันจึงตกตลึงมาก ฟ้าสวรรค์รู้ว่าตอนนี้ฉันไม่ได้จะเกี่ยวข้องด้วยที่สุดก็คือตระกูลสุขสำราญ ทันใดนั้นท่าทีของฉันจึงเปลี่ยนไป “ผู้จัดการค่ะ โปรเจคสร้างโรงงานฉันกลัวว่าจะฉันทำได้ไม่ดี คุณหาสถาปนิกคนอื่นมาทำดีกว่า!” เฉลิมใช้สายตาที่แปลกประหลาดมองฉัน “ญาดา เมื่อกี้ตอนอยู่ในบริษัทถึงไม่บอกว่าทำไมได้ตั้งแต่แรก ตอนนี้มาถึงที่นี่แล้ว เธอกลับบอกว่าทำไมได้ อีกอย่าง บริษัทเรานอกจากสถาปนิกรุ่นแก่แล้ว รุ่นใหม่ๆที่ไฟแรงเท่าเธอยังมีใครอีก” ฉันยังอยากจะปฏิเสธผู้จัดการเฉลิม แต่เขาไม่ให้โอกาสฉันได้พูดเลย และพนักงานของบริษัทฝ่ายตรงข้ามจึงเข้ามาถามพวกเขา “พวกคุณทั้งสองคือมาจากบริษัทFX Design ใช่ไหมคะ?” ผู้จัดการเดินไปแล้วพยักหน้าให้พนักงานสาวสวยคนนั้น “ใช่ครับ พวกผมมาจากบริษัทFX Design ผมเป็นผู้จัดการฝ่ายออกแบบชื่อเฉลิมครับ” เฉลิมชี้มาทางฉันแล้วแนะนำขึ้น “นี่เป็นสถาปนิกที่อายุน้อยที่สุดในบริษัทผมครับ ชื่อว่าญาดา เธอมีประสบการณ์และทำโปรเจคมาเยอะครับ” พนักงานสาวสวยคนนั้นจึงพยักหน้าใส่พวกเรา “บริษัทที่มาร่วมโปรเจคนี้ต้องขึ้นไปประชุมที่ชั้นสิบเอ็ดนะคะ ทั้งสองท่านเชิญตามดิฉันมาค่ะ” ฉันถูกผู้จัดการเฉลิมลากตัวและเดินตามพนักงานสาวสวยคนนั้นไปที่ชั้นสิบเอ็ด สิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกโล่งอกก็คือไม่ได้เจอไอ้คนที่ฉันเกลียด ในห้องประชุมมีคนนั่งเต็มไปหมด มีบางคนที่ฉันรู้จัก เป็นทีมงานออกแบบที่ได้ประสิทธิภาพที่สุดในเชียงใหม่ บริษัทแม่ของQSส่งทีมงงานออกแบบพวกนี้มา พวกเขาอยากจะหาบริษัทออกแบบในท้องถิ่น เพื่อที่จะช่วยอีกแรง ถึงแม้งานที่ตกมาอยู่ในมือของพวกเขาจะไม่เยอะ แต่บริษัทQS ก็ถือว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในแทบเอเซีย ยังไงแค่ได้รับงานเล็กๆจากบริษัทนี้มาทำ แต่รายได้ก็คงเยอะกว่างานโปรเจคสร้างวิลล่าหลายโปรเจคอยู่แล้ว ดังนั้น พอบริษัทQSอยากจะหาบริษัทออกแบบในเชียงใหม่ หลายบริษัทออกแบบต่างก็มาแย่งงานนี้ทำกัน ใครไม่อยากจะร่วมงานกับบริษัทที่มีชื่อเสียงขนาดนี้ ฉันจึงนั่งฟังแต่บริษัทได้ทำการเสนอโปรเจคนี้ ผู้จัดการเฉลิมได้แต่จดโน๊ตไม่หยุด เพราะเดี๋ยวก็ตาบริษัทเราได้ทำเสนอ เขาเป็นคนให้ฉันเตรียม แต่ฉันกลับไม่ได้จดอะไรไว้สักอย่าง นัยน์ตาดูอ้างว้างและตอนนี้ตัวเองเหมือนกระดาษแผ่นเปล่าที่ไม่มีไอเดียอะไรเลย เฉลิมจึงสะกิดไหล่ของฉันเบาๆ “ญาดา เธอกำลังคิดอะไรอยู่ รีบเขียนไอเดียของเธอเร็ว มาเอาไอเดียของฉันไปรวมกันด้วย เดี๋ยวจะได้นำเสนอแล้ว” ฉันมองเฉลิมด้วยสีหน้าที่ไม่มีชีวิตชีวา “ดิฉันบอกแล้วว่าดิฉันไม่เคยทำงานออกแบบโรงงาน จะมีไอเดียมาจากไหน!” ท่าทีของฉันทำให้ผู้จัดการฉันไม่พอใจมากๆ เขาจึงพูดขึ้น “นี่เธอกำลังจะทำให้ฉันเสียหน้า กลับไปฉันจะหักโบนัสของเธอ” ฉันพยักหน้าอย่างไม่แคร์ “แล้วแต่คุณผู้จัดการเลยค่ะ หักก็หักไปเลย โปรเจคนี่ดิฉันไม่อยากจะเข้าร่วมจริงๆ” ท่าทีที่ชัดเจนของฉัน ทำให้เฉลิมเอาฉันไม่อยู่จริงๆ ก่อนหน้านี้เธอทำสำเร็จไปหลายโปรเจค บริษัทบอกว่าจะให้ฉันได้พักร้อน แต่ฉันกลัวว่าพอฉันว่าง ฉันก็จะคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ดีเลยครั้งนี้จะได้พักผ่อนบ้าง จะได้ไม่ต้องร่วมทำงานโปรเจคนี้ ช่วงนี้ทำงานหนักเกินไปจริงๆ ทั้งร่างกายของเธอเหนื่อยหน่ายมาทั้งวัน เหมือนไม่มีเรี่ยวแรงและไม่มีชีวิตชีวา ตอนเฉลิมลุกขึ้นมาพูดไอเดียของตัวเอง ห้องประชุมได้ถูกคนเปิดออกจากข้างนอก ทันใดนั้น ทั้งห้องประชุมเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี ฉันและคนอื่นก็ได้หันไปมองตรงหน้าประตูทางเข้าห้องประชุม จึงเห็นคีรินที่สวมใส่ชุดสูทสีดำที่ดูเรียบหรู มือข้างหนึ่งได้สอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ใบหน้าของเขาดูเด่นมาก ร่างของเขาสูงประมาณ 1.8 เมตร ทำให้เขาดูเหมือนท่านประธานที่บ้าอำนาจในละครน้ำเน่า คนมากมายในห้องประชุมต่างก็ทำท่าทางแทบจะสยบในแทบเท้าของเขา นิ้วมือของฉันได้จับฝ่ามือไว้แน่นๆ ทำไมฉันถึงได้เฮงซวยแบบนี้ ยิ่งกลัวอะไรก็ยิ่งได้เจอ ฉันพยายามจะก้มหน้าลงไม่ให้เขาเห็น และหวังว่าเขาจะไม่สังเกตเห็นตัวเอง สายตาของเธอจับจ้องไปยังที่นั่งหลักของคีริน ทันใดนั้นทุกคนก็เงียบลง แล้วก็ฟังผู้จัดการเฉลิมพูดขึ้นต่อ การประชุมครั้งนี้เมื่อไหร่จะจบ ฉันรู้ เพราะว่าฉันนับเวลาทุกนาทีและทุกวินาทีที่ผ่านไป ทำไมมันจึงผ่านไปช้าจัง ชีวิตนี้คนที่ฉันเกลียดที่สุด อยู่ใกล้ฉันไม่ถึงเมตร พอการประชุมได้จบลง คีรินจึงลุกขึ้นและเดินออกมาก่อน ช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาไม่ได้มองฉันแม่แต่แวบเดียว ระหว่างเราก็ควรเป็นแบบนี้ ทั้งสองคนที่ต่างฝ่ายก็เกลียดกัน ในใจมีความเกลียดที่ซ่อนอยู่ ตอนที่เจอหน้ากันใหม่ก็ควรเป็นแบบนี้ ต่างฝ่ายก็ทำเป็นไม่รู้จักกัน ฉันนึกว่าฉันกับคีรินคงจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ถ้าหากได้เจอกันครั้งหน้า แต่ผ่านไปไม่กี่วัน เฉลิมกลับบอกฉันว่าบริษัทQSเลือกบริษัทเราร่วมงาน บริษัทQSก็เจาะจงมาว่าต้องให้ฉันเป็นรองหัวหน้าสถาปนิก พอเฉลิมบอกเรื่องนี้กับฉัน ฉันจึงรู้ว่าเรื่องนี้คีวินต้องเป็นคนบงการแน่นอน ทำไมเขายังคงมายุ่งกับฉันแบบนี้ด้วย แต่ก่อนเขาเกลียดฉันขนาดไหน เกลียดจนไม่อยากจะเจอหน้าฉัน แต่ทำไมวันนี้กลับเป็นแบบนี้ ฉันรู้ดีว่าคีรินโหดเหี้ยมต่อฉันมากๆ แน่นอนว่าเขาตั้งใจชี้ตัวว่าฉันต้องเป็นรองหัวหน้าออกแบบโปรเจคครั้งนี้ เขาต้องสร้างกับดักนี้ไว้ให้ฉันแน่นอน เฉลิมมองฉันด้วยสีหน้าที่คาดหวังมากๆ และรอคำตอบจากฉันอยู่ ฉันคงต้องทำให้เขาผิดหวังแล้วแหละ จึงพูดขึ้นว่า “ขอโทษนะคะผู้จัดการ ดิฉันไม่อยากทำโปรเจคนี้จริงๆ รบกวนคุณไปแจ้งทางโน่นหน่อยนะคะ ว่าส่งสถาปนิกคนอื่นไปได้ไหม?” เฉลิมได้ยินแบบนี้จึงทำหน้าบูดขึ้นมา จากนั้นก็โยนเอกสารเกี่ยวกับการวางแผนโปรเจคครั้งนี้ลงบนโต๊ะของฉัน จนเอกสารปลิวกระจายไปหมด “ญาดา เธอคิดว่าบริษัทเรามีแค่สถาปนิกที่ได้เรื่องนั้นมีแค่เธอคนเดียวใช่ไหม นี่เธอกำลังต่อล้อต่อเถียงกับฉันอยู่ใช่ไหม?” พอฉันสบตากับเฉลิม นัยน์ตาของเขาไม่ได้ดูโกรธเคืองเหมือนครั้งก่อนๆ แต่ฉันกลับนิ่งเฉย “ผู้จัดการคะ ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยสบาย โปรเจคใหญ่เกินไป ดิฉันไม่ทำแน่นอนค่ะ เพราะว่าร่างกายของฉันทนไม่ไหวกับแรงกดดันขนาดนี้ รบกวนคุณหาคนอื่นทำแทนฉันด้วยค่ะ!” เฉลิมได้ยินจึงยิ้มเยาะขึ้นมา “ฉันว่าเธอตั้งใจจะมาเล่นลิ้นกับฉัน ตอนนี้เธอมีแค่สองทางเลือก หนึ่ง รับโปรเจคนี้ไปทำ สองคือลาออก”
已经是最新一章了
加载中