บทที่ 9 ดื้ออย่างเธอต้องเจออย่างข้า [NC18+++]   1/    
已经是第一章了
บทที่ 9 ดื้ออย่างเธอต้องเจออย่างข้า [NC18+++]
- - - ณ อาณาจักรแห่งดาวนูร์ (แบลคสวอน : หงส์ดำ) - - - - - - ห้องของเจ้าชายยู - - - “ข้าบอกแล้วไงว่าข้าชื่อโซนิซ เป็นผู้ดูแลองค์หญิงฟอร์ นายจะเอายังไง” ฟอร์ยังคงยืนกรานในคำพูดของเธอ “บอกความจริงมา เรื่องนี้ข้าจะปิดเป็นความลับ” ทั้งๆที่ความจริงแล้วชายคนนี้ก็ต้องการให้เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะหากมีคนล่วงรู้ก็คงจัดการอะไรยากมากขึ้นไปอีก “บอกว่าฉัน..ข้าชื่อโซนิซ เป็นผู้ดูแลขององค์หญิง ยังจะมาคาดคั้นเอาความอะไรอีก” ก็ยังโกหกได้นะ แม้เจ้าชายยูจะถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าเธอก็ยังคงยืนกรานคำเดิมว่าเป็นผู้ดูแล อย่าให้ต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเพราะเขาได้ให้โอกาสเธอแล้ว “หรือจะให้ข้าพิสูจน์ มันไม่ยากหรอกนะ” “ก็เอาสิ” หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าพูดจาท้าทาย โดยไม่รู้เลยว่าการพิสูจน์นั้นหมายถึงสิ่งใด ชายที่อยู่ตรงหน้าไม่ปล่อยให้หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าได้ท้าทาย เข้าประชิดตัวก่อนใช้ริมฝีปากหนาของเขาประกบเข้ากับปากของเธอ ก่อนส่งลิ้นร้อนไปลิ้มรสความหวานที่ยากจะลืมนั้นอีกครั้ง ร่างบางพยายามดิ้นและผลักอกแกร่งนั้นออกไปจากกายที่ประชิดนั้น ก่อนจะเขาจะค่อยๆถอดถอนจูบนั้นออกแต่โดยดี “จะบอกไม่บอก” ชายที่อยู่ตรงหน้าไม่ว่าเปล่าก้มลงมาประกบปากเข้ากับริมฝีปากบางอีกครั้ง ไม่ปล่อยให้เธอจะพูดหรือปฏิเสธอะไร ส่วนมือก็เริ่มไม่อยู่สุขส่งไปอยู่ภายในเสื้ออย่างรวดเร็ว ก่อนจะผละออกมาอย่างไม่รู้สาเหตุ หน้าแดงระเรื่อของเธอที่อยู่ตรงหน้ายิ่งทำให้ชายที่อยู่ตรงหน้าชักจะอดทนไม่ไหว แต่อะไรกันที่ทำให้เขาต้องผละออกจากร่างกายนี้ของเธอ “ไอ้บ้าเอ้ย!!” หญิงสาวกัดฟันกรอดน่าแดงเพราะฤทธิ์ความโกรธ กำมัดแน่นง้างมือขึ้นมา พร้อมจะชกหน้าชายที่อยู่ตรงหน้าเต็มที่ แต่เขากลับยื่นหน้ามาให้เธอโดยไม่ได้สะทกสะท้านอะไร เธอชักมือกลับอย่างไม่สบอารมณ์ที่เขายังทำหน้าระรื่น “หน้าแดงด้วย เจ้านี่น่ารักจังเลย” เขาไม่ว่าเปล่ายื่นหน้าเข้ามาประชิดหน้าแดงๆนั้นของเธอแล้วเพ่งพิจารณาใบหน้าของเธออย่างเธอวิสาสะ เธอเองก็ไม่ต่างกันพอได้เห็นหน้าของชายคนนี้ชัดๆเต็มสองตาก็ยอมรับเลยว่าใครยืนอยู่ตรงนี้ก็ไม่อาจละสายตาออกไปได้ “หน้าข้ามีอะไรติดงั้นรึ” หญิงสาวรีบผละออกมาจากร่างของชายที่อยู่ตรงหน้าทันทีหลังจากสะดุ้งตื่นจากภวังค์โดยที่เขาพยายามใช้จมูกนั้นถูเข้ากับจมูกของเธอ “ออกไป” “ข้ายังไม่ได้คำตอบเลยนะ จะยังโกหกอีกมั้ย” “ข้าไม่..” หญิงสาวพยายามจะพูดปฏิเสธอีกครั้งแต่ก็จ้องชะงักไป เมื่อเขาพยายามเข้ามาประชิดอีกครั้งแต่ตอนนี้ร่างของเธอติดอยู่กับผนังห้องถอยไปกว่านี้ก็คงไม่ได้แล้ว “ติดใจ จะอีกทีก็ได้นะ” “ก็ได้ๆ ฉันยอมรับก็ได้ ฉันชื่อฟอร์ แต่อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้ได้มั้ย ฉันไม่อยากมีปัญหา ฉันแค่อยากกลับบ้าน ให้คนอื่นเค้าคิดว่าพี่โซนิซคือฉันก็ดีอยู่แล้ว ถือว่าฉันขอร้อง” หญิงสาวถอยล่นออกมาเล็กน้อย ขอร้องมาขนาดนี้ก็จัดให้ ความจริงก็ไม่ได้จะต่อรองอะไรอยู่แล้ว แต่มาไม้นี้ก็ขอเล่นต่อบทจากเธอเลยละกัน “ได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน” “อะไรล่ะ” “เป็นคู่นอนข้าไง” ชายที่อยู่เบื้องหน้าพูดแกมจริงแกมเล่นแต่ออกไปในทางจริงซะมากกว่า พลางยักคิ้วให้กับหญิงสาว “ชักจะมากไปแล้ว” หญิงสาวมองหน้าชายที่อยู่เบื้องหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะค่อยๆขยับเลื่อนไปตามผนัง ออกมาเพราะใจก็อยากจะกระโดดถีบหน้าเจ้าชายขี้เก็กให้สลบคาทีนน้อยๆของเธอ แต่ตอนนี้ขอไปตั้งหลักก่อน ถ้ายังอยู่ในสภาพนี้มีหวังปากได้บวมเจ่อแน่ “ไม่เอารึไง เจ้าชายแห่งอาณาจักรหงส์ดำเลยนะ” ชายที่เธอพยายามหนีห่างออกมาแหว่งแขนมาพาดกันไว้ แทบจะเกือบโดนหน้าสวยๆของเธอ หญิงสาวจึงเลี่ยงหลบไปอีกข้างแต่ดูเขาจะรู้ทันใช้แขนอีกข้างพาดขวางไว้ “จะเอายังไงกับฉัน” “ก็ตอบมาก่อนสิ จะรับข้อเสนอข้ามั้ย” “ไม่ จะยิ่งใหญ่แค่ไหนกัน ถ้าฉันไม่สำคัญจริง นายคงไม่ไปลักพาตัวฉันมาหรอก จริงมั้ย?” หญิงสาวเริ่มหมดความอดทนกับชายที่อยู่ตรงหน้า ยังจะมาถามเรื่องนั้นอีก ฝันไปเถอะ กล้ามากนะที่เอาเรื่องอย่างว่ามาต่อรองกับคนอย่างฟอร์รี่ “…” หญิงสาวพูดอย่างเป็นต่อก่อนที่เจ้าชายจะพูดไม่ออก ไม่กล้าต่อปากต่อคำกับเธอ “แบร๋!!” หญิงสาวแลบลิ้นใส่ชายที่อยู่เบื้องหน้าของเธออย่างเป็นต่อ ก่อนหมุดออกใต้วงแขนนั้นของเขาและวิ่งเข้าไปในห้องๆหนึ่งทันที โดยไม่รู้ว่าห้องๆนี้คือห้องอะไร “ว๊ายยยยยย ยย ยยยยย” หญิงสาวตะโกนลั่น ก่อนวิ่งออกมาจากห้องนั้น เพราะภายในห้องมีแต่สัตว์แปลกๆ ที่หญิงสาวไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่มากมาย ถูกปล่อยเลี้ยงในอยู่ในธรรมชาติโดยมีอ่างน้ำ สระน้ำภายในห้องที่จัดให้เป็นสวนแห่งนี้ “…” เจ้าชายยูไม่พูดอะไรแต่กลับแอบยิ้มสะใจ ทำเอาหญิงสาวที่วิ่งออกมาหางจุกตูดนั้นแทบลมจับหู หน้าแดงกร่ำเพราะทั้งโกรธและอาย “ทำไมนายไม่บอกล่ะ” “ว่าอะไรเพคะ องค์หญิงงงงงงงงงง” ชายที่กำลังต่อบทสนทนากับเธออยู่นั้นได้ทีก็หัวเราะอย่างสบายใจ แล้วเดินกลับไปนั่งข้างหน้าต่างภายในห้องที่จัดเป็นสวนอย่างสบายใจ ก่อนหยิบอาหารมาป้อนปลาทองที่เลี้ยงไว้ในตู้ที่ถูกจัดไว้อย่างดี เห็นได้ชัดว่าได้รับการดูแลเป็นอย่างดีมีที่ให้อาหารปลาอัตโนมัติด้วย “เข้ามาสิ ถ้าเจ้าไม่ทำอะไรมัน มันก็ไมมายุ่งกับเจ้าหรอก” “ได้จริงเหรอ” “ไม่ลองไม่รู้ เจ้ากลัวรึ?” “แปลกมากรึไง ตัวอะไรก็ไม่รู้ หน้าตาประหลาดๆ เห็นสักครั้งก็ยังไม่เคย” “ท่านพ่อช่วยพวกมันไว้ทั้งหมด บางตัวน่าสงสารนะมันไม่เคยทำร้ายใครแต่ก็มีคนใจดำทรมานมัน บางตัวก็เกือบจะโดนฆ่ากิน บางตัวก็ถูกล่าเพื่อความสนุกสนานของใครบางคน” “จริงเหรอ น่าสงสารจังเลยพวกแกเนี่ย ขอฉันเล่นกับดุ๊บปี้มั้งสิ” พูดจบหญิงสาวก็รีบวิ่งฝ่าดงสัตว์ประหลาดๆทั้งหลายเข้ามาภายในจนได้ ก่อนจะวิ่งไปแย่งอาหารจากมือของเจ้าชายยู ก่อนจะป้อนอาหารให้ปลาทอง “ดุ๊ปปี้ มากินข้าวเร็ว” “เจ้าเรียกว่าอะไรนะ” “ก็ดุ๊ปปี้ไง นายลองดูสิ มันชอบทำปาก ดุ๊บ ดุ๊บ ดุ๊บ ดุ๊บ” หญิงสาวว่าพลางทำท่าทางเลียนแบบปลาทองให้ชายที่อยู่ตรงหน้าดู “…” เจ้าชายยูไม่พูดอะไรแต่กลับมองหญิงสาวที่กำลังเพลิดเพลิน มีความสุขกับการได้อยู่กับปลาทองจนลืมว่ารอบข้างมีอะไรมากมายที่เธอกลัว “อะแฮ่ม!!..คราวนี้หน้าฉันมีอะไรติดรึไง” “…” เจ้าชายยูสะดุ้งเล็กน้อยตื่นจากภวังค์ ก่อนจะรีบหันหน้าหนีทันที หากเขายังมองหน้าเธออยู่แบบนี้มีหวังอดใจไม่ไหวแน่ๆ ทั้งๆที่เขาไม่เคยทำรุ่มร่ามหรือบังคับจิตใจใคร แต่กับเธอทำไมเขาถึงเป็นได้ถึงขนาดนี้ อยากจับมากอดมาหอมมารัดมาจูบให้สมใจ หรือเพราะสัมผัสทุกสัมผัสของเธอทำให้เขาติดตาตรึงใจแทบไม่สามารถถอดถอนร่างกายออกจากร่างบางได้ ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นตัวบ่งบอกอย่างดีว่าเธอเป็นไวท์สวอนหรือไวท์โครว์ที่ทุกคนต่างต้องการครอบครองนั่นเอง “ฉันรู้ละ จะบอกว่าฉันสวยล่ะสิ” “คิดว่าเจ้าเป็นใครกัน” ชายที่อยู่ตรงหน้าพยายามหลบสายตา หันไปอีกทางเพื่อไม่ให้เธอรู้ว่าตอนนี้เขากำลังเก็บอาการไม่อยู่ “ฉันก็เจ้าหญิงฟอร์ไง แล้วนายล่ะ” หญิงสาวไม่ว่าเปล่ายื่นหน้าเข้ามาประชิดเหมือนจงใจจะแกล้งเขา แต่เธอจะรู้มั้ยว่าการทำแบบนี้มันยิ่งจะทำให้ความอดทนที่มีอยู่น้อยนิดตอนนี้มันจะไม่เหลืออยู่แล้ว “เจ้าชายยู เจ้าชายแห่งอาณาจักรดาวนูร์ หรืออาณาจักรหงส์ดำแห่งนี้ไง” เขาต้องพยายามปรับสายตาให้เป็นปกติและพูดกลบเกลื่อนความต้องการของเขา “เจ้าชายอย่างเจ้าเหรอ สุดท้ายก็ต้องสยบให้เจ้าหญิงอย่างข้า” “เจ้าหญิงจอมปลอม หากข้าพิสูจน์ได้เมื่อไหร่ว่าเจ้าไม่มีเชื้อสายของเผ่าพันธุ์ไวท์สวอนหรือไวท์โครว์แต่อย่างใด ถึงเวลานั้นเจ้าก็ไม่มีความหมาย” แม้เขารู้อยู่แก่ใจว่าเธอไม่ได้โกหกแต่ก็ต้องพูดไปแบบนั้นเพื่อไม่ให้เขาเป็นรองเธอ “งั้นเหรอ แต่ตอนนี้ฉันก็สำคัญมากสินะ คงต้องดูแลให้ดีล่ะ ถ้าฉันหนีไปได้หรือใครมาลักพาตัวฉันไปอีกไม่รู้ด้วยนะ” “หากคิดว่าจะหนีได้ก็เอาเถอะ แต่อย่าคิดว่าจะหนีข้าพ้น แล้วอีกประการหนึ่งนะเจ้าอยู่ในฐานะผู้ดูแลองค์หญิง ไม่ใช่เจ้าหญิง” “...” หญิงสาวเริ่มมีน้ำโหเมื่อเห็นใบหน้าที่รนหาบาทาน้อยๆของเธอเป็นที่สุด “อย่าทำหน้าเช่นนั้นนะองค์หญิงกำมะลอ” “ถ้าวันไหนที่ฉันเป็นเจ้าหญิงจริงๆนะ คอยดู ฉันจะบินหนีไปให้ไกลเลย” “ไหนปีกล่ะเพคะ องค์หญิงน้อย ขอให้ข้าได้เชยชมสักนิดได้รึไม่” เจ้าชายยูว่าพลางเดินเข้าห้องนอนของตัวเองไป ปล่อยให้หญิงสาวยืนงง หันซ้ายขวาแต่ก็ไม่เห็นมีอะไรพอจะเป็นที่นอนให้สำหรับเธอได้ เพราะตอนนี้ประตูบานใหญ่ของห้องใหญ่ห้องนี้ถูกล็อคโดยชายคนที่ซึ่งพึ่งเข้าห้องไปโดยไม่สนใจเธอไปแล้ว ก่อนที่หญิงสาวจะเดินหาห้องเล็กที่อยู่ภายในห้องใหญ่ห้องนี้ หญิงสาวยังคงพยายามหาห้องเพื่อใช้เป็นที่นอนชั่วคราว พยายามลองเปิดห้องแล้วห้องเล่า แต่ทุกห้องก็ถูกล็อคหมด ก่อนที่ประตูบานใหญ่จะถูกเปิดออกมาอีกครั้ง “ข้าลืมไปเลย นั่นห้องนอนของเจ้า” ชายคนนั้นว่าพลางชี้ไปที่ห้องห้องหนึ่งที่อยู่ข้างๆห้องของเขา “ขอบใจ เอ๊ะ!!..แต่นั่นมันห้องน้ำนะ” “เข้าไป” ชายคนนั้นไม่ว่าเปล่า เดินออกมาจากห้องนอนของเขาแล้วผลักเธอเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะล็อคประตูไว้ “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” “หาทางบินลอดออกไปเองละกัน หากคิดว่าทำได้” “นายจะบ้ารึไง ปล่อย!!” หญิงสาวยังคงเอะอะโวยวายอยู่ภายในห้องน้ำ ทำเสียงดังตึงตังเพื่อให้คนที่อยู่ข้างนอกได้รู้ตัวว่าเธอไม่พอใจกับสิ่งที่เขาทำ ก่อนที่ร่างสูงจะเปิดประตูเข้ามาจ้องตาเขม้ง เขาไม่ได้โกรธแต่อย่างใดแต่ถ้าไม่ข่มความคิดนี้ไว้มันจะทำให้เขาชั่งใจไว้ไม่อยู่ แค่ได้ยินเสียงก็เหมือนเป็นเสียงที่เรียกเขาเข้าไปหา “ข้าว่าข้ามีความอดทนมากพอแล้วนะ” ชายที่อยู่เบื้องหน้าพยายามพูดด้วยเสียงราบเรียบพร้อมกับเดินเข้ามาประชิดตัว ทำให้ร่างบางถึงกลับถอยล่นเข้าไปในห้องน้ำ อยากจะหัวเราะกับใบหน้าที่เลอหลาของเธอจริงๆ แต่ก็ต้องอดทนไว้ก่อน เดี๋ยวเธอจะจับได้ “ก็ปล่อยฉันสิ” “เจ้านี่วุ่นวายที่สุดเลยรู้มั้ย” “ปล่อยฉันสิ ฉันจะไม่ยุ่งวุ่นวายกับนายอีกเลย” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงก่อนจะมองใบหน้าอันหล่อเหลานั้นแล้วส่งสายตาอ้อนวอน “นี่ยั่วข้าอยู่งั้นรึ” ชายที่อยู่ตรงหน้าไม่ว่าเปล่าโอบเอวเข้าประชิดตัว “ไอ้เจ้าชายเฮงซวย” หญิงสาวเริ่มหมดความอดทน บทโหดก็ไม่ยอม บทอ่อนลงก็ไม่ปล่อย เธอจะทำยังไงกับชายที่อยู่ตรงหน้าที่เอาแต่จ้องเธอแบบนี้ ความคิดที่เริ่มก่อตัวสั่งให้อย่ายอมแพ้เข้าครอบงำ “พูดใหม่สิ” ชายที่อยู่ตรงหน้ายิ่งได้ใจเมื่อเห็นหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าปากก็ทำเป็นเก่ง แต่ขาเรียวนั้นก็ขยับถอยห่างออกตลอด “ไอ้เจ้าชายบ้ากาม” เขากระชับร่างของหญิงสาวยกสะโพกขึ้นจนขาเธอยืนไม่ติดพื้น ร่างบางดิ้นไม่หยุดส่งผลให้ร่างกายของเขาและเธอแทบเสียดสีกันทุกส่วน รวมถึงแก่นกายที่พยายามระงับทุกวิธีทาง “ให้พูดใหม่อีกที” หญิงสาวเริ่มมีท่าทีที่หวั่นเล็กน้อยแต่เพียงแค่นั้นมันไม่ได้ทำให้เธอถึงกับต้องขอร้องออดอ้อนจากชายที่ยืนหัวโด่อยู่เบื้องหน้าของเธอ “ไอ้เจ้าชาย...” ไม่ทันที่คำพูดต่อไปจะเล็ดลอดออกมา ชายคนนี้ก็เริ่มละเลงริมฝีปากของเขาประกบเข้ากับริมฝีปากบางนั้น ก่อนจะส่งลิ้นร้อนเข้าสัมผัสกับลิ้นของเธอ เขาไล่วนชมรสความหวานภายในโพรงปากของหญิงสาวที่ยังคงดิ้นดื้อดึง ความอดทนที่พยายามระงับควบคุมร่างกายนั้นขาดสบั่นลง ไม่เคยมีใครปฏิเสธสัมผัสของเขาแต่กลับเธอไม่ใช่ ทำไมเขาไม่มีอิทธิพลต่อหญิงสาวเลยงั้นรึ ทำไมเธอเอาแต่ดิ้นพยายามใช้มือปัดป่าย แต่นั่นมันก็ยิ่งทำให้เขาได้ใจมากขึ้น มือบางถูกรัดตรึงด้วยมือหนาข้างหนึ่งของเขาอย่างง่ายดาย พร้อมๆกับที่มืออีกข้างล่นชุดที่ปกปิดร่างบางนี้แทบทุกส่วนนั้น ยิ่งเห็นก็ยิ่งขัดใจกับชุดพวกนี้ ไม่รู้จะปิดอะไรมิดชิดขนาดนี้ อยากกระชากมันออกให้รู้แล้วรู้รอดไป สุดท้ายชุดพวกนี้ก็ลงไปกองอยู่กับพื้นได้ในพริบตา ร่างบางที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้มีเพียงชุดด้านในเผยให้เห็นเรือนร่างที่แท้จริงสัดส่วนดูจะลงตัวสมส่วนไปทั้งหมด มีแต่หน้าอกหน้าใจที่มันดูจะเกินความคาดหมาย ล้นปลี่ออกจากบลาตัวน้อยๆ ชายที่อยู่ตรงหน้าไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปง่ายๆ ใช้มือหนานั้นเอื้อมไปปลดตะขอบลาเพื่อไม่ให้ก้อนสองก้อนที่ตั้งเด่นอยู่นั้นต้องอึดอัด อัดอั้นอยู่ภายในเนื้อผ้าอันน้อยนิด “อู้ อี้ อ่า..” ปากที่ยังคงโดนประกบไม่ปล่อยนั้นมีเพียงเสียงอู้อี้ในลำคอของหญิงสาวที่ยังคงดิ้นไม่หยุดทั้งแขนทั้งขาพยายามปัดป่าย จนเขาต้องพันธนาการแขนนั้นด้วยเชือก “อ่ะ อ่า เห้ออ อย่าทำแบบนี้นะ” หลังจากที่ริมฝีปากหนาผละออกมาปล่อยให้เธอได้พักหายใจ เขาก็อุ้มหญิงสาวไปวางไว้บนเค้าท์เตอร์อ่างล้างหน้าที่มันกว้างพอๆกับที่จะทำเป็นเตียงได้ ร่างบางที่เปลือยท่อนบนอยู่นี้พยายามใช้ขาที่เหลืออยู่ถีบเข้ากับอกแร่งนั้นแต่เขากับรับมันได้อย่างง่ายดาย มือหนาข้างหนึ่งลูปไล้ตั้งแต่เรียวขาด้านล่างจนมาทั้งต้นขายกมันมาวางไว้บนเค้าท์เตอร์นี้ ส่วนอีกข้างก็ไม่ปล่อยเหงาเดียวดายเคล้าคลึงเล่นกับยอดปทุมถันทั้งสองข้างอย่างเอาแต่ใจ “โอะ อย่าทำแบบนี้นะ โอ่วววววส์” ใบหน้าที่แดงกร่ำไม่รู้เพราะโกรธหรืออายที่เรือนร่างที่เธอเฝ้าทะนุถนอมนี้ถูกรุกล้ำ แทะโลมจากชายที่เขาพึ่งรู้จัก ต้องเรียกว่าไม่อยากรู้จักซะมากกว่า เขายิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นร่างบางที่ถูกพันธนาการแค่เพียงแขนนั้นเริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนอง ใบหน้าแดงกร่ำ ปากที่ขบเม้ม และเสียงที่เล็ดลอดออกมามันทำให้ชายที่อยู่ตรงหน้ายิ่งได้ใจคิดว่าสาวเจ้าเรียกร้องการสิ่งเหล่านี้ เขาใช้จังหวะที่หญิงสาวบิดกายไปมาจากการใช้มือเคล้าคลึงเล่นกับอกอันอวบอิ่มคู่นี้ เอาใบหน้าเบียดเข้ากับอกพรมจูบ ขบเม้มเป็นรอยแดงให้เธอได้เสียวซ่านขึ้นมา “ปล่อยนะ อุ่ววววววส์” หญิงสาวยังคงสั่งห้ามไม่หยุดแต่ร่างบางกลับบิดเร้าไปตามแรงที่เขาปะทะเข้ากับอกคู่ใจของเธอ ไม่เพียงแค่ส่วนบนที่กำลังหลงละเริงอยู่นั้นเขาใช้มือหนาอีกข้างลูบไล้อาภรณ์เพียงชิ้นเดียวที่ติดกายเขาอยู่นั้น เขาลูบมันขึ้นลงภายใต้ผ้าชิ้นบางก่อนรับรู้ถึงสัมผัสที่มันชุ่มฉ่ำเต็มผ้าบางผืนนั้น เขาไม่รอช้าเกี่ยวล่นอาภรณ์ตัวน้อยนั้นออกอย่างรวดเร็ว ก่อนยกขาทั้งสองข้างขึ้นมาวางไว้ที่เค้าท์เตอร์อ่างน้ำและแยกมันออกทันที พร้อมกับที่เธอจะก็รีบหุบมันเข้าอัตโนมัติ เขาไม่ปล่อยให้ทำแบบนั้นได้ง่ายๆ รีบผละริมฝีปากออกจากยอดถันเพื่อไปโยนโฉมกลีบกุหลาบงามให้ประจักษ์แก่สายตา “ฉันกลัวแล้ว นายจะให้ทำอะไรฉันก็ยอม” หญิงสาวเอ่ยขึ้นมาอย่างสั่นเทา เขาคนนี้ที่กำลังเริงรสสวาทอยู่นี้ไม่ได้สนใจกับคำพูดของเธอ เหมือนเป็นเสียงที่ลอยมากับสายลมและผ่านไปเท่านั้น เขาจับขาที่ยังดิ้นไม่หยุดแยกมันออกด้วยสองมือคู่นี้ให้เห็นได้ชัดอีกครั้ง โดยไม่รู้เลยว่าภายใต้แรงพิศวาสนี้เขาได้ทำให้หญิงสาวที่ดิ้นทุรนทุรายนี้ต้องหลั่งน้ำตาได้มากมายขนาดไหน เขาไม่มีทางรู้แน่เพราะตอนนี้คนคนนี้เอาแต่จมอยู่กับกลีบกุหลาบแดงระเรื่อที่มันงดงามจนเขาไม่อาจละสายตาไปสนใจอย่างอื่นได้ ชายคนนี้มองน้ำเกสรดอกไม้จากกลีบกุหลาบที่ไหลเยิ้มออกมานั้นพร้อมกับที่เขาได้ส่งลิ้นร้อนนี้เข้าไปลิ้มชิมรส หลังจากที่ส่งลิ้นเข้าไปนั้นทำให้ร่างบางร้องกระเส่าเรียกเสียงครางที่ฟังแล้วแสนไพเราะสำหรับเขานั้นได้ไม่น้อย ร่างบางเกร็งกระตุกเล็กน้อยเมื่อใครคนนี้ใช้ลิ้นตวัดกวาดเลียโรมภายในกลีบกุหลาบที่เธอเฝ้าทะนุถนอมยิ่งกว่าสิ่งใดเพื่อให้คนที่เธอรัก แต่มันกลับกลายมาเป็นของคนแปลกหน้าอย่างเขาที่เธอไม่อยากรู้จัก เธอไม่น่าเฝ้าทะนุถนอมรักษามันไว้เท่าชีวิตเลยหากรู้ว่าสุดท้ายคนที่พรากมันไปจะไม่ใช่คนที่เธอรัก ยกให้คนที่เขารักเรามันก็คงจะดีซะกว่ากับคนที่เห็นเราเป็นแค่ของเล่นแบบนี้ ใช่ว่าเขาจะมีใบหน้าเป็นต่ออยู่ฝ่ายเดียว หน้าตาระดับอย่างเธอจะหาใครมาดูแลแล้วก็ตามใจเธอก็คงไม่ยากเหมือนกัน น้ำตาที่ไหลอาบแก้มแต่ไม่ได้ทำให้เธอร้องสะอื้นแม้แต่น้อย เขาไม่มีสิทธิ์ได้ยินเสียงนั้นแน่ เชิญ..อยากทำอะไรก็เชิญ ถ้าคิดว่ามีอารมณ์กับร่างที่ตายด้านแบบนี้ก็เชิญเลย หลังจากที่หญิงสาวเรียกความเข้มแข็งกลับมาให้กับตัวเอง และตัดสินใจได้แบบนั้นร่างบางก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองกับสิ่งที่ชายคนนี้กำลังทำอยู่ เขาค่อยๆถอดถอนลิ้นออกมาจากกลีบกุหลาบนั้น หลังจากเห็นว่าหญิงสาวไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ ไม่สู้ ไม่ดิ้น และกระสับกระส่ายไปกับสิ่งที่เขาทำอยู่นี้ เขาลอบมองเห็นใบหน้าเนียน อาบไปด้วยคราบน้ำตาแต่ไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้นให้เขาได้ยิน เขายืนนิ่งมองใบหน้านั้นด้วยความรู้สึกผิดและหยุดการกระทำนั้นลง “ข้าขอโทษ” พูดจบร่าสูงค่อยๆช้อนร่างบางที่มีสีหน้าเรียบเฉยไม่พูดไม่จา แต่ปรากฏให้เห็นใบหน้าและริมฝีปากที่ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด เจ้าชายยูอุ้มร่างบางที่เปลือยเปล่านั้นออกมาเพราะจะให้ใส่ชุดกลับไปก็คงไม่ได้ มันเปียกชื้นไปด้วยน้ำหมดแล้ว ชายคนนี้เดินออกมาและตรงขึ้นไปยังชั้นสองของห้องใหญ่ห้องนี้ซึ่งด้านบนจะมีห้องนอน ห้องแต่งตัวและห้องน้ำอีกห้องอยู่ด้วย เขาค่อยๆวางร่างบางลงกับเตียงก่อนไปหยิบชุดของเขามาใส่คลุมให้หญิงสาวไว้ ดึงผ้าห่มจากปลายเตียงมาห่มให้ร่างบางนี้ ก่อนเดินออกไปจากห้องนอนแห่งนี้ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
已经是最新一章了
加载中