บทที่5 ผู้หญิงต้องรู้จักฉลาดรอบรู้   1/    
已经是第一章了
บทที่5 ผู้หญิงต้องรู้จักฉลาดรอบรู้
ไม่ผิดหรอก ชื่อจริงฉันชื่อสุวนีย์ สุว ที่แปรว่างดงาม แต่ดูสิ ฉันกำลังทำอะไรอยู่? ใช้ร่างกายแลกเงิน แถมยังคัดหวังในตัวสามีคนอื่น! ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเขา เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้ายของเขา เป็นแค่ฉากละครเร้าร้อนเรื่องหนึ่ง หยิบจ่ายเงินออก แลกกับตักตวงความสุขไป แต่สำหรับฉัน ต้องลับ ๆ ล่อ ๆ ขโมยของของคนอื่นเขา ฉันแค่หวังว่าเขาจะมีใจให้ฉันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เรื่องไออุ่นของความรักใคร่แบบนี้ กับตัวฉันแล้ว มันยาวไกลห่างเหินมาก มันฟู่มเฟือยเกินไป ดังนั้น พอหวั่นไหวเข้าหน่อย ก็อยากจะเอื้อมคว้าจับมันมาไว้ในกำมือ ฉันใน ณ ตอนนั้น ครุ่นคิดต้องการเพียงเสี่ยว แค่เสี่ยวเดียวเท่านั้นเอง ฉันไม่สนใจมนุษยชนทั้งนั้น มนุษย์เราก็โลภเช่นนี้กันทั้งนั้น พอได้มาเสี่ยวหนึ่งแล้ว ก็อยากได้มากว่านั้นอีก จนกระทั้งทั้งหมด รุ่งเช้าวันที่สอง พอเสี่ยชายตื่นตาเบิกโพลง ฉันก็ตื่นตาโพลงเช่นกัน "อรุณสวัสดิ์ค่ะ" ฉันเอ่ยยิ้มกว้าง "อรุณสวัสดิ์ แม่สาวน้อย" เอ่ยยิ้มที่มุมปาก ยื่นมือแตะจับปลายคางฉัน ฉันเงยหน้างุดลง อ้าปากอมนิ้วมือเขาไว้ ใช้ปลายลิ้นม้วนนิ้วมือไว้ กัดเล่นอย่างทะนุถนอมเสร็จ แล้วปล่อยออก ย่านก้าวแนบประชิดลำตัวเขา สองมือบางโอบรั้งเอวหนาเขาไว้ แหงนหน้าเงยประทบจูบลงคำคอเขาอย่างอ่อนโยน จุดนี้เป็นจุดแสดงอารมณ์ความรู้สึก ทุกครั้งคราที่ประกบจูบลงนี้ เขาจะแสดงปฏิกิริยาออกอย่างเห็นได้ชัด และแล้ว ฉันเพียงแค่จูบไซ้ไปจูบหนึ่ง ก็สัมผัสได้ถึงเสียงครางกระเส่าในลำคอเขา และในขนาดเดียวกัน เสี่ยงครวญครางเร้าร้อนก็ตามมา มือนุ่มนวลลูบไล่ต่ำลงมา หยุดอยู่ที่กล้ามท้องส่วนล่าง แล้ววาดอย่างวาบหวาม "พี่ค่า พี่ขา..." ฉันเปลี่ยนคำเรียกแทน ถ้อยคำเสี่ยนั้น ราวกับไม่ได้กระตุ้นให้รู้ถึงความสัมพันธ์ของเราเอาสัก เลย จริง ๆ แล้วอยากเรียกชื่อเขาแทนด้วยซ้ำ เขาคว้าจับมือบางฉันไว้ "เด็กดี อย่าปลุกเปลวไฟเลยนะ ไฟท์บินผมแปดโมงนะ" ฉันไม่ลืมเรื่องที่เขาเอ่ยบอกเมื่อคืนหรอก ว่าวันนี้มีธุระแต่เช้า ฉันแค่อยากให้เขาจดจำมากขึ้นหน่อย ซึ่งตรงกับสำนวนหนึ่งที่ว่าได้คืบจะเอาศอก ฉันอยากเป็นนางมารร้ายสุดโหดต่อทำหน้าเขาจนไม่อาจลืมไม่ลง "พี่โอบกอดฉัน และระเริงรัญจวนแค่ครั้งเดียวเมื่อคืนวัน พี่ไม่รู้สึกว่าพี่ไม่คุ้มเหรอค่ะ? ฉันเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน "คุณมันก็เหตุผลเยอะสักอย่างนี้ไง!" เขายิ้มกว้าง แล้วตะแคงพลิกตัวทับโถมเรืองร่างบาง ขย้ำปลายจมูกแหลม "คราวหลังอนุญาตให้พูดตรง ๆ เลยนะ ว่าคุณอยากได้ผม" "ได้จริง ๆ เหรอค่ะ?" ขาเรียวยาวทั้งสองประสานหนีบชิดเอวหนาเขา สองมือบางโอบรอบลำคอ และจู่โจมบุกไปยังน้องชายน้อยของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า "ต้องการพี่แล้ว!" นัยน์ตาคมเขาพลางหลับลง เปลวไฟเริ่มลุกลามแรงทาบโถมต่ำลงไปอีก เขาไม่ทำท่าทีโต้ตอบกลับ อะไรเลย เพียงจ้องมองฉันอย่างไม่ลับสายตา "เป็นผู้หญิง ต้องรู้จักฉลาดรู้เรื่อง เข้าใจหรือยัง?" น้ำเสียงในประโยคเหล่านั้นไม่อ่อนโยน ไม่นุ่มนวล แต่มันเข้มทางการมาก รู้สึกตระหนกเสียวซ่านเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ ลดมือลง ลดขาลงอ่อนทะนุถนอม สีหน้าเข้มจริงจังไม่แปรเปลี่ยนของเขา ลุกจากเตียง แล้วเดินตรงดิ่งเข้าไปยังห้องนอน ได้ยินเสียงน้ำสาดดังก้อง ภายในดวงใจน้อยไม่สว่างไสวทั้งสิ้น มีเพียงความรู้สึกเสียใจทีหลังเล็กน้อย หลังจากวันนี้ไป เขาคงไม่ต้องการฉันแล้ว?! ฉันโง่เขลาเอง ที่เป็นเพียงสิ่งของแก้เหงาข้ามเวลาของเขา เป็นเพียงทิชชู่ที่เช็ดแล้วจะทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วจะมาคาดหวังลม ๆ แล้ง ๆ กับความรักอะไร? สิ่งที่ตลกไปกว่านั้นคือ ณ ตอนนั้น ฉันมัวครุ่นคิดอะไรอยู่? ครุ่นคิดเขาอดกลั้นสิ่งล่อใจอย่างฉันไม่ไหว แล้วไม่ไปขึ้นเครื่องอย่างงั้นเหรอ? คนที่ครอบครองปรปักษ์อย่างภูมิใจได้ ต้องเป็นบุคคลสำคัญที่ถูกเก็บเกี่ยวไว้ในใจส่วนลึกถึงจะมีสิทธิ์นั้นได้ ฉันมัวแต่คิดฟุ้งซ่านเฟ้อฝันกลางวันอะไรอยู่เนี่ย? ได้ยินเสียงน้ำซัดสาดในห้องน้ำ และได้ยินเสียงโทรหาแม่บ้านซักผ้า ให้ส่งเสื้อผ้าที่ส่งซักเมื่อคืนวันมา ต่อมาก็เห็นลำตัวเขานุ่งด้วยผ้าขนหนูขาว มือข้างหนึ่งใช้ผ้าเช็ดเบ้าผมตัวเอง เดินออกมา สีผิวข้าวสาลี กล้ามอกเต่งตึงท้องน้อยเป็นกล้ามมัด ๆ ช่างชื่นชวนเย้ายวนใจให้น่าหลงใหล กล้ามเนื้อไม่ได้ใหญ่เว่อร์วังอลังการขนาดนั้น แต่มันเป็นกล้ามเนื้อที่เห็นลายเส้นเป็นซิกแพค พอสวมใส่เสื้อแล้วแลดูผอมหุ่นดี และพอถอดออกก็มีน้ำมีนวลแบบนั้น เอวล้อมรอบด้วยผ้าขนหนูขาว ที่เห็นเส้นกล้ามท้องน้อยโชว์ทะละลอดออกมา ช่างมีเสน่ห์เหลือล้นเหลือเกิน
已经是最新一章了
加载中