ตอนที่305ประชุมเหตุการณ์วิกฤติ

ตอนที่305ประชุมเหตุการณ์วิกฤติ ไม่สนว่าบุคคลภายนอกจะสงสัยการจัดการของเค.เอฟหรือไม่เรื่องราวทั้งหมดได้ถูกส่งต่อให้ทางตำรวจตรวจสอบแล้วหากใครเกิดความข้องใจก็สามารถใช้ช่องทางกฎหมายโต้กลับมาได้ หลังการจัดการเช่นนี้เค.เอฟก็กลายเป็นผู้คุมสถานการณ์ในทันที ตลอดมาจิรภาสในสายตากรรมการของเค.เอฟเป็นคนที่โหดร้ายคนหนึ่งแต่การจัดการของเขาในครั้งนี้กลับไม่เด็ดขาดน่ากลัวว่าจะเหมือนกับที่สื่อข่าวต่างพูดกันว่านักรบจะแพ้ให้กับสาวงามถึงกับเพิกเฉยผลประโยชน์ของบริษัทเพื่อจิดาภาเพียงคนเดียว ดังนั้นคณะกรรมการบริษัทเค.เอฟจึงเรียกร้องการเปิดประชุม ความจริงสถานการณ์ในตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติจนถึงกับต้องเปิดการประชุมด้วยความสามารถแผนกประชาสัมพันธ์ของเค.เอฟย่อมจัดการได้อยู่แล้วแต่ผู้เป็นพ่อของกานดานั้นคอยกระตุ้นความสัมพันธ์ระหว่างคณะกรรมการและจิรภาสอยู่เสมอยิ่งหลังจากที่จิดาภาเซ็นสัญญาเข้ามาและจิรภาสก็ผิดกฎของบริษัทหลายข้อเพื่อเธอดังนั้น...คณะกรรมการจึงสงสัยและไม่พอใจในตัวจิรภาสเป็นอย่างมากกังวลว่าเขาจะฆ่าอนาคตของเค.เอฟเพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียว ก่อนที่จิรภาสจะออกไปก็สังเกตเห็นท่าทีเป็นกังวลท่าทีที่ไม่มั่นใจและสายตาที่เอาแต่จับจ้องมาที่เขาโดยไม่พูดอะไรของจิดาภา “กังวลหรือ”จิรภาสโอบเอวเธออย่างแผ่วเบาก็จะถามเสียงแผ่ว “ค่ะพวกกรรมการจะ...” “เรื่องนี้สามีของคุณจัดการได้อยู่แล้ว”จิรภาสอธิบายให้จิดาภาฟังอย่างตั้งใจ“ผมแค่กำลังสนุกกับมันเท่านั้น” เขาจะเป็นผู้ชนะในตอนท้ายจุดจุดนั้นจิดาภาเชื่อมั่นอย่างหมดใจเธอเข้าใจดีว่าความสามารถของจิรภาสนั้นยากแท้จะหยั่งถึง “แต่ผมจำคำที่คุณเคยบอกไว้ได้หากมีคนรังแกผมคุณจะยื่นมือเข้ามาช่วยในทันทีใช่หรือไม่” “แน่นอนค่ะ”จิดาภาเงยหน้าจากในอ้อมกอดของเขา“ฉันพร้อมตลอดเวลา...” จิรภาสมองเธอด้วยความปวดใจกดจูบที่ริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา“รอผมอีกไม่กี่วันเท่านั้นผมจะเตรียมทุกอย่างไว้ให้พร้อม” สามีภรรยาอย่างพวกเขาไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกันมากเพียงแค่สายตาก็สามารถเข้าใจความคิดของอีกฝ่ายได้อย่างถ่องแท้และความเชื่อใจของพวกเขาแข็งแกร่งดั่งกำแพงจิดาภาพร้อมจะร่วมมือกับเขาในทุกเมื่อ “ประกาศกับแฟนคลับแล้วค่ะทุกคนกำลังช่วยหาหลักฐานกันอยู่และคิดว่าจะใช้ช่วงเวลานี้จัดงานกุศลด้วย” “คุณเป็นบุคคลของสาธารณชนที่เป็นแบบอย่างที่ดีทีเดียว” จิดาภาหัวเราะก่อนจะดึงมือออกมาจากอ้อมกอดของเขา“ไปกันเถอะค่ะเหลือเวลาไม่มากแล้ว” พวกเขาเป็นสามีภรรยาที่ศีลเสมอกันหากอีกฝ่ายเริ่มลงมือก่อนเช่นนั้นก็เตรียมรับมือให้ดีเกมสนุกๆกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ..... ครึ่งชั่วโมงต่อจากนั้นภายในห้องประชุมของเค.เอฟ คณะกรรมการที่มาถึงก่อนจิรภาสต่างวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่แฟนคลับเกิดการปะทะกันไม่หยุดแสดงออกอย่างเห็นได้ชัดว่าไม่พอใจ “ตั้งแต่ที่ก่อตั้งบริษัทมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาก่อน” “ครั้งนี้ท่านประธานทำเกินไปหรือไม่ถึงจะเป็นนายหน้าให้กับจิดาภาก็ไม่ควรเพิกเฉยบริษัทเช่นนี้ตอนนี้ควรให้จิดาภาแถลงข่าวและไม่ควรปล่อยให้เค.เอฟเป็นครหาเช่นนี้” “ผมรู้สึกว่าท่านประธานกำลังหน้ามืดตามัวผู้หญิงเพียงคนเดียว...” “จะมีประโยชน์อะไรพวกเรานั่งร้อนรนกันอยู่ตรงนี้แต่ท่านประธานไม่รู้ไปกกผู้หญิงคนนั้นถึงไหนกันถึงได้จัดการอะไรล่าช้าไปหมดเธอมันนางจิ้งจอก...” ทันใดนั้นกสิณผู้เป็นพ่อของกานดาก็กระแอมไอและหยิบเอกสารขึ้นมา“ส่วนผมขอไม่ออกความคิดเห็นใดๆในส่วนจิดาภาแต่พอมองเอกสารและตัวเลขในช่วงนี้รู้สึกว่าการจัดการของท่านประธานดูเป็นไปอย่างไม่เหมาะสมหลักฐานมีอยู่ตรงนี้พวกคุณลองดู...” ก่อนหน้านั้นจิรภาสให้ตฤณติดต่อไปหาเขาแต่กสิณบอกว่ามีปัญหาทางสุขภาพจึงขอปฏิเสธการนัดพบเขาหายตัวไปเพื่อเตรียมกับดักนี้มา คณะกรรมการที่ได้อ่านหลักฐานพวกนั้นต่างเดือดดาลยิ่งขึ้น “ไม่มีทางอย่างไรก็ต้องชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้” “เมื่อเป็นเช่นนี้เค.เอฟยังมีอนาคตอยู่อีกอย่างนั้นรึ” “เหตุใดเค.เอฟถึงจะไม่มีอนาคตกัน”ทันใดนั้นเสียงของจิรภาสก็ดังขึ้นมาเขายืนอยู่ที่ประตูทางเข้าห้องประชุมสายตาเย็นชากวาดมองไปยังทุกๆคน...ทันใดนั้นคณะกรรมการต่างผลักหลักฐานชิ้นนั้นออกและไม่ได้พูดอะไร จิรภาสไม่ได้ให้ความสนใจกับความโกรธของพวกเขาเพียงส่งสายตาไปทางตฤณและนั่งลงตรงตำแหน่งที่นั่งของประธาน ตฤณก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยิบเอกสารมาให้คณะกรรมการต่างมองหน้ากันไปมาในใจต่างคิดแค่ว่าจะรักษาผลประโยชน์ของตัวเองไว้ได้อย่างไร จิรภาสเปิดเอกสารเพียงผ่านๆก่อนจะโยนเอกสารอย่างไม่เกรงใจใคร“อะไรคิดว่าผมทำอะไรไม่เหมาะสมอย่างนั้นรึ” “ท่านประธานครับเรื่องราวมันร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆพวกเราเพียงต้องการคำชี้แจงเท่านั้น” “ชี้แจงรึ”จิรภาสยิ้มเย็นก่อนจะจ้องกสิณเขม็ง“ในฐานะประธานบริษัทผมสามารถอธิบายได้แต่ก่อนหน้านั้นผมต้องการพบลูกสาวของคุณกสิณเสียก่อนอยากจะถามเธอว่าเหตุผลที่ลงมาควบคุมเกมนี้มันเพื่อไรกัน” เพียงสิ้นคำสีหน้าของกสิณก็แปรเปลี่ยนทันที “หมายความว่าอย่างไรกันเกี่ยวข้องกับลูกสาวของกสิณอย่างนั้นรึ” ผู้หญิงที่ไม่มีคุณสมบัติจะเข้าร่วมการประชุมของคณะกรรมการจะมามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไรคณะกรรมการต่างไม่สามารถทำความเข้าใจได้ จิรภาสยังคงกล่าวต่อไป“ความหมายของผมคือแฟนคลับของจิดาภาไม่ได้ยั่วยุณัชชาและไม่ได้ทำร้ายใครแต่คนที่อยู่เบื้องหลังการหยุดงานของณัชชากระตุ้นสงครามประสาทระหว่างแฟนคลับจนถึงขั้นกระตุ้นให้แฟนคลับของณัชชาไปฟ้องร้องจิดาภาและเค.เอฟนั่นคือกานดาลูกสาวของคุณกสิณ...นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมคุณกสิณถึงเตรียมข้อกล่าวหานั้นมาใส่ร้ายผมในตอนนี้ได้” กสิณเดือดจัดจนลุกขึ้นและตบโต๊ะเสียงดังสนั่น“ไม่คิดว่าท่านประธานจะเป็นคนเช่นนี้มาใส่ร้ายลูกสาวผมเพื่อปกป้องผู้หญิงที่ชอบได้อย่างไรกัน” “ครับเช่นนั้นคุณบอกผมมาว่าในเวลาสั้นๆสองวันนี้คุณเตรียมหลักฐานนี้ทำไม”จิรภาสโยนเอกสารเหล่านั้นไปเบื้องหน้ากสิณ“มิฉะนั้นก็อธิบายให้ผมฟังเสียหน่อยในฐานะบริษัทศิลปินการพยายามเสาะหาข้อมูลที่ดีที่สุดให้กับศิลปินมันไม่ถูกเช่นไรให้ข้อเสนอชั้นเลวกับศิลปินเพื่อให้หุ้นตกต่ำและปล่อยให้คุณไม่ได้รับเงินปันผลปลายปีคือเรื่องที่ถูกใช่หรือไม่” คณะกรรมการแต่ละคนได้แต่นั่งติดที่เพราะจิรภาสพูดได้ถูก ความจริงในวงการนี้เพื่อทรัพยากรของศิลปินนายหน้าและบริษัทนายหน้าต่างเสียเงินไปมากมายทุกคนต่างมองที่ผลลัพธ์และท่ามกลางคนเหล่านั้นวิธีการเพื่อซึ่งได้แหล่งที่มาของข้อมูลและทรัพยากรของจิรภาสต่างไม่เคยทำร้ายใคร วิธีการของเขาใสสะอาด หากกสิณยกสิ่งของเหล่านั้นเพื่อมาถามในเวลานี้ย่อมต้องร้อนรนไปข้าง วิธีการที่เขาได้มาซึ่งข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้สะอาดเลยแม้แต่น้อยความตั้งใจที่แท้จริงของเขาต่างสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน... “ผมแค่แสดงความคิดเห็นเท่านั้นว่าคุณห้ามมาใส่ร้ายลูกสาวของผม”