ตอนที่306เรื่องราวจะต้องคลี่คลาย

ตอนที่306เรื่องราวจะต้องคลี่คลาย จิรภาสนั่งพิงพนักเก้าอี้และเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“ครับเพราะทุกคนหวังดีกับบริษัทเป็นอย่างมากทุกอย่างจะต้องได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอนผมจะรีบออกคำสั่งลงไปเพื่อระงับสถานการณ์และกลับทิศทางของมติมหาชนผมเชื่อว่าทุกคนจะได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังคาดหวังกับอนาคตของเค.เอฟไม่ปล่อยความลับให้รั่วไหลและลากบริษัทให้ตกต่ำลงตฤณ” ตฤณรีบหยิบแผนการแก้ไขสถานการณ์ที่ตระเตรียมไว้ขึ้นมาและแจกจ่ายให้กับทุกคน เมื่อได้อ่านแผนการคณะกรรมการทุกคนต่างรู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลสีหน้าพลันอ่อนลงในทันที มีเพียงกสิณที่หลังจากได้อ่านแผนการนั้นแล้วหัวใจกลับเต้นระรัว จิรภาสได้พูดไปหมดแล้วคนที่ปล่อยข่าวคือคนภายในเขาเคยบอกกับลูกสาวว่าพวกเขาจะถูกเปิดโปงแน่ๆแต่หากไม่พูดไปหมากกระดานนี้ก็จะสูญเปล่าในทันที “สีหน้าของคุณกสิณดูย่ำแย่นะครับต้องการจะคัดค้านแผนนี้หรือ” “เปล่าครับ...”กสิณเปิดอ่านแผนการอย่างร้อนรนไม่เงยหน้าขึ้นมาอีก “ถ้าทุกท่านเห็นพ้องต้องกันแล้วเช่นนั้นผมจะส่งคนแก้ไขในทันทีดังนั้นหวังว่าทุกคนจะช่วยเป็นหูเป็นตาหากแผนการในครั้งนี้หลุดรั่วออกไปอย่าได้สงสัยหากผมจะไม่ไว้หน้า”จิรภาสตักเตือนเสียงเข้มไปยังทุกคน หลังจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องประชุมไปด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย ท่าทางเอาจริงของเขาต่างทำให้คณะกรรมการทุกคนต่างตกใจในความจริงคณะกรรมการทุกคนต่างเข้าใจดีที่เค.เอฟมีวันนี้ได้ก็เป็นเพราะการควบคุมของจิรภาสทั้งนั้นเพียงแค่เขาไม่หลงจิดาภาจนหน้ามืดตามัวเช่นนั้นพวกเขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องต่อต้านการดำรงในฐานะประธานบริษัทของเขา ในส่วนของกสิณนั้น... ทุกคนต่างตั้งมั่นไว้ในใจว่าจะต้องอยู่ให้ห่างจากเขาซะเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาภายในอนาคต กสิณเดินออกมาจากห้องประชุมด้วยสีหน้าย่ำแย่เมื่อเห็นว่าทุกคนต่างออกห่างจากเขาในใจยิ่งกรุ่นโกรธการถูกจิรภาสสงสัยต่อหน้าทุกคนมันทำให้คณะกรรมการต่างจับจ้องมาที่เขา เขาขยับตัวไม่ได้แม้แต่น้อยมิฉะนั้น... คนที่ถูกดีดออกจากบอร์ดเป็นคนแรกย่อมเป็นเขาเป็นแน่ “ท่านประธานครับดูเหมือนว่าคุณกสิณและลูกสาวจะเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังอย่างแท้จริงเช่นนั้นคงไม่กล้าใช้เอกสารพวกนั้นมาตั้งข้อสงสัยกับท่านเช่นนี้” “จับตามองพวกเขาไว้ตามหาหลักฐานต่อไปและให้ส่วนอื่นๆทำตามแผนได้”จิรภาสกล่าวเสียงเรียบ หากทุกอย่างหมุนรอบแฟนคลับและความยุติธรรมเช่นนั้นก็จะแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าใครกันแน่คือฝ่ายที่อ่อนแอ ..... เย็นวันนั้นสื่อข่าวบันเทิงได้ทำการออกอากาศข่าวล่ามาแรงในช่วงเวลาทองคำ “เมื่อเร็วๆนี้ได้มีข่าวว่าคุณจิดาภานักแสดงในสังกัดเค.เอฟไม่ลงรอยกับคุณณัชชาผู้ซึ่งรับบทนางเอกในภาพยนตร์เรื่องส่วนความทรงจำที่ทางเค.เอฟเป็นผู้ลงทุนได้มีความคืบหน้าล่าสุดแล้ว” “ตามที่ผู้สื่อข่าวภาคสนามของเรารายงานมาได้มีบุคคลนิรนามบุกรุกห้องพักผ่อนส่วนตัวศิลปินของเค.เอฟคุณจิดาภารถของเธอที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถถูกตัดสายเบรกโชคดีที่ถูกค้นพบได้ทันเวลาจึงไม่มีผู้บาดเจ็บเกิดขึ้นตอนนี้ผู้รับผิดชอบทางเค.เอฟได้กำลังดำเนินการจัดการพวกเขาชี้ว่านี่คือการท้าทายนี่คือการคุกคามศิลปินพวกเขาจะแจ้งความเพื่อเอาผิดคนร้ายให้ได้” “ทั้งบุคคลนิรนามผู้นั้นยังได้ทิ้งจดหมายข่มขู่ไว้ในห้องพักของคุณจิดาภาด้วยใจความว่าหากคุณจิดาภาไม่ออกมาขอโทษแฟนคลับของคุณณัชชาภายในหนึ่งวันเขาจะไม่หยุดเด็ดขาดนี่คือการโต้กลับของแฟนคลับคุณณัชชาอย่างนั้นหรือ” “เมื่อเทียบกับแฟนคลับของจิดาภาที่ลุกขึ้นมาจัดงานการกุศลการกระทำของแฟนคลับของณัชชามันคือการข่มขู่คุกคามและจ้องทำร้ายโดยเจตนา” เค.เอฟได้แจ้งความในเรื่องนี้แล้วแต่แฟนคลับของณัชชายังกระทำเรื่องที่เลวร้ายเช่นนี้ทันใดนั้นสถานการณ์ก็กลับตาลปัตรทันที หลายสื่อได้ออกมาเผยแพร่การเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ “จะออกมาขอโทษหรือจะออกมาฟ้องร้องกันเค.เอฟกล่าวว่าเรื่องนี้จะได้รับการแก้ไขในที่สุด” “การทะเลาะของแฟนคลับรุนแรงขึ้นเรื่อยๆแฟนคลับของณัชชาได้ก่อเรื่องเสียแล้ว” ด้วยการกระจายข่าวที่ล้นหลามผู้คนที่เคยเข้าข้างณัชชาต่างหายไปไม่เหลือแม้แต่เงาและคนที่เคยสาดเสียเทเสียใส่จิดาภาและแฟนคลับของจิดาภาเองก็หายไปเช่นกัน “ใครมันเป็นคนทำกันแน่นี่มันเลวร้ายเกินไปแล้วหากจิดาภาหรือคนอื่นมาขับรถคันนั้นมันจะหายนะขนาดไหนไม่อยากจะคิด” “ฉันยังคิดว่าแฟนคลับของจิดาภาทำเกินไปแต่คิดไม่ถึงเลย...” ชาวโซเชียลเริ่มไตร่ตรองกับคำพูดที่หุนหันของตัวเองก่อนที่เรื่องราวจะถูกตัดสินเป็นคำพูดจากความโง่เขลาของพวกเขาที่ผลักจิดาภาและเค.เอฟให้กระโจนลงไปในหน้าผา เมื่อกลับมามองแฟนคลับของจิดาภาตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นพวกเขาทำได้เพียงแสดงหลักฐานกันเพื่อบอกว่าพวกเขาไม่เคยทำร้ายใครพวกเธอเหมือนกับไอดอลที่พวกเธอชื่นชอบไม่ออกตัวไปต่อปากต่อคำกับใครใช้วิธีใสสะอาดเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเองเมื่อเปรียบเทียบกับแฟนคลับของคนบางคนนี่ต่างหากคือความอดทนและเอื้อเฟื้ออย่างแท้จริง “หวังว่าณัชชาจะดูแลแฟนคลับของตัวเองได้ดีพอ” “การเป็นติ่งคือการไล่ตามไอดอลที่ตัวเองเห็นชอบว่าควรค่าแก่การนับถือวงการบันเทิงเละขนาดไหนก็เป็นเพราะไอดอลทำตัวไม่เหมาะสมกันเองทั้งนั้นฉันเชื่อว่าแฟนคลับของจิดาภาจะไม่กระทำต่ำทรามเช่นนั้นเพราะจิดาภาไม่มีทางทำเช่นนั้นตั้งแต่วันที่เธอกลับคืนสู่วงการจนถึงตอนนี้คิดว่าเธอโดนใส่ร้ายมาเท่าไหร่กันแล้วเห็นไหมทั้งสื่อข่าวและนักข่าวต่างโดนตอกหน้ากันมานับครั้งไม่ถ้วนแต่กลับไม่เกิดกระบวนการการเรียนรู้ใดๆเลย” “แต่ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังดึงสติหน่อยเถอะถ้าเห็นต่างก็ช่วยออกไปด้วย” ในตอนที่เค.เอฟยังไม่ลงมือจัดการหลายคนต่างคาดเดากันไปมากมายจิรภาสอาจจะโดนทางบริษัทกดดันจนต้องล้มเลิกที่จะปกป้องจิดาภาถึงขนาดมีหลายๆสื่อเตรียมเขียนบทความว่าจิดาภาได้ออกมาขอโทษแต่ณัชชาไม่ขอยกโทษให้แล้ว... แต่สุดท้ายผลลัพธ์ที่ออกมากลับตีแสกหน้าทุกคน จิดาภาจะไม่ขอโทษ เพราะเค.เอฟนั้นมีไพ่ตายที่แข็งแกร่งอยู่ถึงแม้ณัชชาจะเริ่มเล่นเล่ห์และวางอุบายใส่กันก่อนแล้วมีเหตุผลอะไรที่จิดาภาจะต้องยอมรับกันที่พวกเขาวางเกมนี้ขึ้นมาเพื่อเล่นงานเค.เอฟโดยสิ้น แฟนคลับของทางนี้เพียงแค่ทำร้ายคนแต่แฟนคลับของทางนั้นหวังจะฆาตกรรม กานดาได้วางแผนไว้หมดแล้วเพียงรอให้จิดาภาโดนความกดดันจากสื่อหลังจากนั้นจะยืมมือคณะกรรมการในเค.เอฟมาถอดถอนจิรภาสออกจากตำแหน่งซะเธอที่วางแผนมาอย่างหมดจดกลับละเลยในจุดสำคัญไปที่จิรภาสสามารถมีวันนี้และครองตำแหน่งประธานบริษัทมาอย่างเนิ่นนานไม่ใช่ได้มาเพียงเพราะโชคช่วยเท่านั้น เขาเองก็เล่นกลได้เพียงแค่ว่าจะใช้วิธีไหนกับใครเท่านั้น ในเมื่อมาท้าทายเขาทั้งยังลงมือกับจิดาภาด้วยเช่นนั้นเขาจะไม่รีรออีกต่อไป ได้กล่าวเตือนไปแล้วว่าเขาจะเอาคืนให้สาสม สุดท้ายผู้เป็นพ่อของกานดาก็เลือกที่จะเงียบไปซะการรักษาตำแหน่งของเขาไว้ย่อมสำคัญกว่าการต่อกรกับจิรภาสเขาไม่เชื่อว่าจิรภาสจะสูญเสียความมีเหตุมีผลไปเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียว ทั้งหากเลือกปะทะกับจิรภาสยอมต้องสูญเสียสิ่งที่สะสมมานานนับปีเช่นนั้นเลือกรักษาหุ้นส่วนในเค.เอฟไว้เสียก่อนที่จะถูกถอดถอนไปและไม่หลงเหลืออะไรเลยในท้ายที่สุด แต่เขาคิดผิดเพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับจิดาภาที่จิรภาสยอมเป็นคนไม่มีเหตุผลเพราะบนโลกใบนี้จิดาภาเป็นเพียงคนคนเดียวที่เขาจะไม่ยอมใครหน้าไหนมาแตะต้อง