บทที่ 41 : ดิลิเวอร์รี่   1/    
已经是第一章了
บทที่ 41 : ดิลิเวอร์รี่
บทที่ 41 : ดิลิเวอร์รี่ “จริงซิมะนาว แล้วงานเธอจะทำยังไง” ณัชชาโบกมือ “ฉันมีส่งประวัติไปที่โรงพยาบาลตัวเมืองแล้ว รอดูก่อนค่อยว่ากัน” แม้คำพูดนั้นจะพูดแบบไม่ได้ชัดเจน แต่ว่ารินรดารู้อยู่แก่ใจว่าจะไม่ทำอะไรที่ตัวเองควบคุมไม่ได้ พูดกับตัวเองแบบนี้ แปลว่าต้องมีการควบคุมได้ เพียงแต่ว่าโรงพยาบาลตัวเมือง.....รินรดาขมวดคิ้วขึ้น ถามณัชชาเบาๆ ประโยคหนึ่ง “เธอรู้ไหมว่าชญานีก็อยู่ที่นั่นด้วย” ณัชชาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ชีวิตนี้ไม่ค่อยถูกชะตากับชญานี ถ้าจะให้เธอพูดก็คือเธอกับชญานี้ผู้หญิงคนนั้นชีวิตนี้ไม่มีอะไรเข้ากันได้ ที่แท้ก็เป็นณัชชาที่ได้ยินประโยคนี้ ก็เลยพยักหน้าเป็นธรรมชาติ สีหน้าลึกลับ “ฉันรู้แล้ว” เห็นเธอรู้ รินรดาก็ว่าไม่ใช่เรื่องอะไรของเธอแล้ว ดูว่าณัชชาจะอยู่ไม่ไกล นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายที่จะไปหาเรื่องชญานีอีกด้วย เพียงแต่เรื่องนี้ชญานีร้ว่าตัวเองเข้าไปยุ่งไม่ได้ ความบาดหมางใจของสองคนไม่สามารถมีคนที่ไม่ได้มีความสำคัญเข้าไปด้วย หลังจากที่คิดอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว รินรดาก็จ้อง “รีบ ๆ กิน ฉันยังต้องกลับไปทำโอที” ปากของณัชชาบ่นอู้อี๋อะไรบางอย่าง รินรดาฟังไม่ชัดเจน กำลังอยากจะถามต่อก็เห็นณัชชาได้ทำให้ตัวเองหายไปต่อข้างหน้า “ไปกันเถอะ” …………… “ฉันหล่ะนับถือเธอเลย” รินรดาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา หลังจากนั้นก็เตรียมพร้อมที่จะออกไปคิดบัญชี แต่ก็ดันถูกณัชชาห้ามไว้ “พอเถอะ จะเก่งอะไรกันนัก นั่งลงซะดี ๆ “ รินรดาจึงทำได้เพียงแค่ปัดเสื้อผ้า “ไปล่ะ คืนนี้เธอจะไปนอนที่ไหน” ณัชชาเอาคีย์การ์ดห้องในมือขึ้นมาโบกไปมา “เธอคิดว่าที่ไหน” รินรดากรอกตาขึ้นบน ไปส่งณัชชาตัวแสบที่ข้างทาง หลังจากนั้นก็วิ่งไม่หยุดที่จะกลับไปทำโอทีแล้ว แน่นอน ว่าหลังจากที่เธอส่งณัชชากลับไปแล้วก็ไปซื้อข้าวขึ้นไปฝากติณห์ ไม่อย่างนั้นติณห์คงจะรู้ว่าตัวเองเอาชื่อคนป่วยออกมากินข้างนอก จะต้องตีเธอจนตายเป็นแน่ เอาของกินไป รินรดาก็มีความกล้าที่จะเดินไปแบบหลังตรง หลังจากนั้นก็ถือแกว่งไปแกว่งมากลับไป แต่ว่าสิ่งที่เธอไม่รู้ ว่าทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาชญานีที่กินข้าวอยู่ไม่ไกล เธอเห็นของกินที่อยู่ในมือรินรดา แล้วก็เห็นเธอกำลังเดินห่างเธอออกไป ก็อยากจะรู้ว่าเธอเอาของกินนี้ไปให้ใครกิน เห้ย........ ตอนที่รินรดาเดินไปตามทางรู้สึกเหมือนมีสายตาคอยจับจ้องเธออยู่ข้างหลัง เพียงแค่เลี้ยวเข้าไป ความรู้สึกนั้นถึงหายไป รินรดายังรู้สึกตื่นกลัวจึงหันหลังกลับไปมองอีก คนที่อยู่ตามทางเต็มไปหมด แต่ว่าทุกคนดูรีบร้อนกันไปหมด อันนี้ทำให้รินรดาเกิดความรู้สึกสงสัย อาจเป็นเพราะว่าตัวเองเหนื่อยเกินไปทำให้รู้สึกหลอนก็เป็นได้ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้สนใจจะคิดมาก รีบนำอาหารที่อยู่ในมือไปส่งให้กับติณห์ ในส่วนของติณห์นั้นก็คิดอยู่ว่าเมื่อไหร่รินรดาถึงจะกลับมา ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาเลย “สวัสดี ดิลิเวอร์รี่” ติณห์ที่ถูกรินรดานำดิลิเวอร์รี่มากังขา ในตอนนั้นที่ได้ยินเสียงหน้าประตูก็ทำให้ใจอ่อนไปบ้าง ดังนั้นเขาก็ไม่ได้ตระหนักเสียงคุ้นเคยนั้น ยืนขึ้นมาไปเปิดประตู ก็ได้เห็นกับใบหน้ายิ้มทะเล้นของรินรดา ในขณะนั้นติณห์ตรียมใจไว้ที่จะตี ดีที่ว่ารินรดารู้ใจและส่งข้าวขึ้นมาให้ติณห์ เลยทำให้หยุดติณห์ไว้ได้ ติณห์ปาดตามองไปที่รินรดา แล้วก็ดูหน้ารินรดาไปด้วยของกินไปด้วย หลังจากนั้นก็ออกเท้าเดินเข้ามาในห้องทำงาน รินรดาก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เดินตามเข้ามาด้วย อันนี้ทำให้ติณห์ไม่สบอารมณ์ “เธอเข้ามาทำไม” รินรดาทำเป็นหยักไหล่ ฉันเข้ามาไม่ได้หรือ แบบนี้ไม่เพียงแต่ทำให้รินรดาไม่ออกไป แต่ยังเดินไปนั่งที่โซฟาอีกด้วย หลังจากนั้นเอามือไปลูบคางติณห์ “ฉันจะดูคุณกินข้าว” “เธอยังไม่ได้กินหรือ” เสียงของติณห์ไม่รู้ทำไมมีความมึน ๆ เขาคิดว่ารินรดาคงยังไม่ได้กิน ดังนั้นเลย…….. แต่ว่าวินาทีตามาคำพูดของรินรดาของทำให้ฝันเขาสลายไปแล้ว “ก่อนที่ฉันจะมาฉันกินไปแล้ว” รินรดาไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงพูดประโยคนั้นทำให้ได้รับดวงตาสีขาวในเวลาเดียวกันก็มีความน้อยใจ แต่ว่าเร็วมากเธอก็รู้สึกว่ามีแรงที่ทำให้เปลี่ยนไป จะพูดไปเธอเองยังไม่เคยอยู่สำรวจที่ห้องทำงานของติณห์จริงๆ ดังนั้นในตอนที่ติณห์กินข้างคงไม่มีเวลามาจัดการกับเธอ เธอก็เลยลุกขึ้นมาเดินไปรอบ ๆ ที่นี้ก็มีดมกลิ่นไปฟึ๊ดฟั๊ด ขณะที่ติณห์มองมาเหมือนกับสัตว์ตัวเล็ก ๆ กำลังทำเครื่องหมายเป็นที่ตัวเอง และก็ไม่รู้ว่าคิดไปถึงไหน ทำให้ติณห์นั้นส่งเสียงหัวเราะออกมา จนทำให้รินรดาต้องหมุนหัวกลับมาดูเขา พอดีกับที่ติณห์ก็เงยหน้าขึ้นมา สองตาก็สองคนก็ได้สัมผัสถึงกัน สื่อถึงด้วยกัน ติณห์มารู้ตัวว่าสายตาแบบนี้ทำให้รินรดาเห็นความเขินอายอย่างไม่ตั้งใจ หางตากระดกขึ้นเล็กน้อย ลูกตาดำจ้องมองอย่างไม่ขยับเขยื่อน ในขณะนั้น ติณห์สัมผัสได้ว่าหัวใจของตัวเองเต้นเร็วขึ้น นี่คือความรู้สึกที่ผิดไป ความรู้สึกที่ผิดไป ในใจของติณห์บอกตัวเองอย่างเงียบ ๆ เพราะว่าด้วยความรวดเร็ว รินรดาก็เก็บสายตาที่เขินอายนั้นกลับไป แล้วก็เริ่มทำเป็นมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง ทันใดนั้นรินรดาก็พบกับประตูที่ซ่อนอยู่ชั่วขณะหนึ่งทำให้รู้สึกตื่นเต้นคล้ายกับว่าได้พบกับความลับอะไรสักอย่างของติณห์ และติณห์ก็ได้เงยหน้าขึ้นมามอง แบบนั้นทำให้รินรดาขนลุกซู่ มันคือห้องพักของเขา ปกติเวลาที่เหนื่อย ก็สามารถที่จะเข้ามาพักในห้องนี้ได้ ตอนนั้นเองที่รินรดาในกำลังเล็กน้อยใจการผลักประตูเปิดออก หลังจากนั้นก็ได้เห็นห้องนอนขนาดเล็ก ........ มองไปข้างหน้ารู้สึกเหมือนกับเตียงที่คุ้นเคย รินรดาค่อย ๆนั่งลงไป ลูบไล้ไปมาคล้ายกับว่าเคยสัมผัสมาก่อน ติณห์มองไปที่รินรดาไม่พูดอะไรก็มานั่งอยู่ที่บนเตียง สายตาหมาป่าหดลงอย่างไงอย่างนั้น ก็เลยไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ หายใจถี่เร็ว ตอนที่รินรดากำลังทดประสิทธิภาพของเตียงอยู่นั้น ติณห์ได้จัดการกับอาหารบนโต๊ะจนหมดแล้ว หลังจากนั้นก็เดินเข้ามา แล้วก็ร้อนรนรีบล๊อกประตู ....... กระต่ายขาวตัวน้อยเพิ่งจะรู้สึกว่ามีหมาป่าสีเทาตัวใหญ่กำลังจ้องมองอยู่ แต่ว่าเพิ่งจะมารู้สึกเอาตอนนี้ก็ดูจะสายไป สีหน้าขี้โกงของติณห์เดินเข้ามา พอใกล้จะถึงเตียง รินรดาก็ยืนมือข้างหนึ่งออกมาทันที ดันติณห์ไว้ข้างหน้า “ย่อยให้เสร็จก่อนค่อยขึ้นเตียง เดี๋ยวมันจะไม่ดีต่อกระเพาะ” ติณห์รู้สึงตลกจนยกคิ้วขึ้น จากนั้นก็มองไปที่รินรดา เห็นว่าเธอไม่ได้จะยืดเวลาไป เพียงแต่คิดเพื่อเขา ตอนนั้นมันทำให้ติณห์ในเต็นท์ แล้วก็ไม่รู้ว่าคิดไปถึงไหนแล้ว จู่ ๆ ก็มายื่นอยู่ห่างไปไม่ไกล สองคนก็ถลึงตามองกันอยู่อย่างนั้นห้านาที หลังจากนั้นติณห์ก็รู้สึกว่าตัวเองย่อยได้พอสมควรแล้ว เลยเริ่มที่จะคืบคลานขึ้นไปบนเตียง ไปนั่งอยู่ข้างๆ รินรดา หลายวันแล้วที่ไม่ได้สัมผัสความใกล้ชิดระหว่างติณห์กับรินรดาที่ใกล้ชิดเขาขนาดนี้ มันทำให้รู้ขุมขนทั้งร่างนั้นหดเกรงไปหมด ทำให้คนทั้งคนไม่สู้ดี ดังนั้นรินรดาก็ค่อยๆ ขยับบั้นท้ายไปอยู่ข้าง ๆ แต่ว่าการกระทำนี้ทำให้ติณห์พบว่า เขาเองก็ขับตัวไปตามทิศเดียวกับรินรดา ........ ใจของรินรดาคิดว่าติณห์คิดว่าเขาโง่แน่ ๆ การกระทำชัดเจนขนาดนี้คิดว่าฉันไม่รู่หรือ กว่าจะรู้ว่าตัวเองหนีไม่พ้นรินรดาคงทำได้แค่เพียงเผชิญหน้าแล้ว เธอพับข้านั่งบนเตียงดี ๆ หลังจากนั้นก็ถามคำถามประหลาดกับติณห์ “อยากจะเล่นโยคะกับฉันไหม” ติณห์อดทนกับเธอนานมาก จนในที่สุดไม่อยากจะอดทนแล้ว หยิกเขาไปที่เนื้อของเธอไม่แรงไม่เบา หลังจากนั้นร่างของรินรดาก็ชาไปครึ่งตัว แล้วก็ตัวอ่อนไปครึ่งหนึ่ง ต้องอย่างนี้ถึงจะเรียบร้อย ติณห์รู้สึกพอใจจนมุมปากโค้ง หลังจากนั้นรินรดาแสดงสีหน้าด้วยความระแวง แล้วก็ฉีกเสื้อผ้าเธอออก .......... ตอนนี้ในใจของรินรดานั้นแค้นมาก เสียใจภายหลังว่าทำไมตัวเองสามารถรู้สึกได้ว่าติณห์จะหิวตายเอาได้ ยังมีน้ำใจดีเอาข้าวมาส่งให้เขา แต่ผลดันไม่เป็นอย่างที่คิดว่าจะเอาตัวเองมาเป็นอาหารเย็นให้เขากิน!!! รินรดามองติณห์ด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย แต่เพราะว่าร่างกายมันชาไปแล้ว แล้วยังถูกติณห์ทำแบบนี้ เธอในเวลานั้นก็ไม่มีแรงจะไปต่อต้าน อันนี้ทำให้รินรดาสิ้นหวัง เธอค่อย ๆ หลับตาลงช้า ๆ และปล่อยให้เป็นเหยื่อ หรือติณห์อาจจะชอบแบบบังคับรุนแรง ทำเป็นคนเรียบร้อยแบบนี้เขาอาจไม่ชอบ หลังจากนั้นก็อาจจะปล่อยเธอไป รินรดากำลังหลงอยู่ในความคิดของตัวเองในสมอง แต่ว่าเป็นเพราะเธอนั้นหลับตาจึงไม่ได้สนใจรอยยิ้มที่มุมปากของติณห์ เธอคิดว่าทำตัวแบบนี้แล้วฉันจะปล่อยเธอไปหรือ ติณห์ก้มลงมากัดหนึ่งทีแรง ๆ ความแรงแบบนี้ไม่ถือว่าหนัก ดังนั้นจึงทำให้เนินอกของรินรดานั้นรู้สึกเร่าร้อนอย่างประหลาด ทำให้ร่างกายของเธอมีการตอบสนองอย่างที่ไม่ต้องการ ทำให้ทั้งคู่นั้นปากแห้งลิ้นแห้ง “ไม่เอา.....”เสียงหวานเลี่ยนดังออกมาในตอนนั้นทำให้ตัวรินรดาเองนั้นตกใจเข้าแล้ว เหอะๆ ๆ ……ติณห์หัวเราะยิ้มเสียงลึก ๆ แล้วก็มาจูบที่หน้าผากของรินรดา .......... นานแล้วที่ไม่ได้สัมผัสอะไรแบบนี้จากติณห์ก่อนนี้มีแต่ความบ้าคลั่ง จนถึงกระทั่งรินรดาต้องร้องขอว่าไม่เอาแล้ว โชคดีที่ห้องของติณห์รู้ว่าต้องมีการเพิ่มการเก็บเสียงเอาไว้ ไม่อย่างนั้นถ้าตะโกนแบบนี้ คนข้างห้องคงเดาได้ไม่อยากว่าทำอะไรกันอยู่ แต่ว่าติณห์ก็ไม่ได้จะปล่อยรินรดาไปง่าย ๆ ไม่นานหลังจากที่เขายิ่งไปชุดแรก ตอนที่รินรดากำลังปลือเปลือกตาขึ้น ติณห์ก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าของตัวเองแข็งขึ้นมาแล้ว แสดงออกมาจนรินรดารู้สึกได้แล้ว สีหน้าเธอมองเขาอย่างเศร้า ๆ ทั้งหน้าเขียนตัวอักษรว่า “สัตว์ร้าย” สองคำ แต่ว่าติณห์ก็ไม่ได้สนใจ ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล ถ้าไม่ดุร้ายสักหน่อยแล้วจะผ่านไปได้ยังไง ดังนั้นในวันที่สองหลังจากที่รินรดาตื่นขึ้นมา ก็เห็นคนนอนข้างๆ ที่คุ้นเคยอย่างติณห์ อยากจะฆ่าเขาที่ทรมานใจเธอ แต่เป็นไปได้ว่ายังเช้าอยู่มากเธอยังได้ไม่ตื่น ดังนั้นเธอจึงได้เห็นใบหน้าที่อ่อนโยนของติณห์
已经是最新一章了
加载中