บทที่ 43: สายตาของญาณิศา   1/    
已经是第一章了
บทที่ 43: สายตาของญาณิศา
บทที่ 43: สายตาของญาณิศา ได้ยินดังนั้น สายตาของญาณิศาก็เปลี่ยนไปแล้ว “เป็นอย่างนั้นก็ดี ฉันได้ยินมาว่าเธอเป็นเลขาของเขา หึ เว้นระยะห่างไว้ อย่าทำเป็นไม่รู้ว่าจุดยืนตัวเองอยู่ตรงไหน” รินรดาถูกพูดด้วยแบบนี้ก็ไม่ได้โมโหอะไร ทำแค่เพียงเอ่อออตามไป. “ได้ อืม ฉันรู้แล้ว ฉันเข้าใจ” แต่ว่าเธอคิดไม่ถึง คำพูดเพียงไม่กี่คำสุดท้ายก็ทำให้ติณห์โมโหใหญ่ จริงอยู่ด้วยเป็นคำพูดสุดท้าย นอกจากนี้ก็ไม่ได้มีความสามารถจะคาดการณ์รินรดาได้ว่าจะถูกทิ้ง เพียงแค่คิดง่ายๆ เท่านี้ก็ทำให้ญาณิศาดีขึ้น ญาณิศารู้สึกว่าเธอฟังคำของเธอมาก นึกว่าเธอจะรู้จุดยืนของตัวเอง ก็เลยทำท่าเป็นยืดยกขึ้น ไม่พูดอะไรมากมาย “งั้นเธอไปก่อนเถอะ ฉันก็จะขึ้นไปหาพี่ติณห์แล้ว” รินรดาเห็นว่าเธอยอมที่จะปล่อยเธอไปแล้ว รีบร้อนที่จะเบี่ยงตัวออกไป มองส่งผู้หญิงที่หยิ่งผยองคนนี้ เพียวแต่ว่าตอนที่รินรดาเดินออกมานั้นไม่ได้ดูแลตัวเองให้ดี ดังนั้นเธอจึงสัมผัสกับสายตาของทุกคนทำให้เรื่องอื้อฉาวที่สงบขึ้นเล็กน้อยนั้นแพร่กระจายอีกครั้ง แต่ว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน รินรดากำลังคิดสนุกในความขมขื่น อย่างน้อยแบบนี้ก็ทำให้หลายคนตายใจ ตัวเองก็ได้ช่วยติณห์กำจัดคนนี้ออกไป ในใจคิดแบบนี้ทำให้ดีขึ้นหน่อย และฉันก็ไม่สนใจสายตารอบตัวและรีบขึ้นลิฟต์ ไม่ง่ายเลยที่จะทำให้ตัวเองกลับมานั่งที่ตรงนี้ได้ แต่ก็สักระยะนึงแล้วที่ไม่ได้ข่าวจากโทรศัพท์ของบรรพต รินรดาแอบถอนหายใจในใจเบาๆ หลังจากนั้นก็รับสายขึ้นมา “พี่บรรพต เป็นอย่างไรบ้าง” รินรดาเรียกบรรพตตั้งแต่เธอเจอพี่สะใภ้ภารดีหลังจากนั้นก็ไม่เคยเปลี่ยนเลย ก็ยังคงเป็นพี่บรรพตเหมือนแต่ก่อน บรรพตก็รู้สึกว่าชื่อนี้ไม่ค่อยเลี่ยนเท่าไหร่ “เดือนหน้าต้นเดือนสิบ ฉันแต่งงาน ถึงตอนนั้นถ้าเธอว่างก็เชิญมานะ พี่สะใภ้เธอคิดถึงเธอแล้ว” ฟังน้ำเสียงทางโทรศัพท์ที่เป็นทางการ รินรดาหมดความอดทนในใจ วิธีการปกป้องของบรรพตที่มีต่อภารดีนั้นเป็นยังไงทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นอย่างนั้น เขาดีต่อภารดีจริง ๆ เขาและเธอเติบโตมาด้วยกัน ไม่เคยเห็นเขาดีหรืออดทนต่อผู้หญิงคนไหนแบบนี้ พอคิดถึงตัวเอง พอพบรับแรกก็เจอกับติณห์ แต่ว่ามันเป็นความรู้สึกที่กำลังจะจากไป ไม่มีความรู้สึกว่าปลอดภัย และข้างกายของติณห์...... “รินรดา เธอว่ายังไง” เมื่อได้ยินเสียงจากโทรศัพท์ รินรดาพูดตอบกลับไป “รู้แล้ว ฉันจะไปถึงให้เร็วที่สุด และกลับช้าที่สุด” ฟังคำพูดที่ขี้เล่นของบรรพตดูเหมือนจะขบขันนิดหน่อย “เหอะๆ ฉันว่างสายก่อน เรื่องที่อยู่ถึงเวลาจะบอกให้เธอรู้” สามารถพูดได้ว่าบรรพตเป็นคนหนึ่งที่ตัวเองรู้สึกว่าต้องถนอมไว้ เช่นเดียวกับภารดี ว่าต้องรักษาไว้ให้ดี ต้องถือไว้อย่างระมัดระวัง หากเป็นมิตรภาพก็เป็นเรื่องของการทักทายอย่างดีที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับความสัมพันธุ์ก็พยักหน้า ตัวตนของรินรดามีความพิเศษเล็กน้อย บ้านน้องสาวถูกแม่เลี้ยงกดดัน ต้องการความช่วยเหลือจากตัวเอง แต่มันจบไปแล้ว รินรดาไม่ต้องสงสัยเลยว่าวิธีการนี้จะเป็นอย่างไรในทางกลับกันเธอยังคงชื่นชมความสามารถของบรรพตนการแยกแยะความแตกต่างระหว่างบางคน ยังคิดอีกว่า คนอย่างติณห์นั้นแยกไม่ออกสักนิด น้องสาวแบบไหนก็มีหมด วันนี้ก็มีมากอีกคนหนึ่ง พอคิดถึงเรื่องนี้เธอก็นั่งลงทันที คิดมาครึ่งวัน ผู้หญิงคนนี้ก็ขึ้นมาหาติณห์ คงไม่พูดอะไรที่ตัวเองพูดไม่ดีหรอก แต่ว่าทันใดนั้นหลังจากที่รินรดานั่งลงไปก็ตกตะลึงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าผู้คนจะพูดกันว่าอย่างไร คำพวกนั้นก็หลุดออกมาจากปากตัวเองไม่สามารถหลีกหนีความอยุติธรรมนี้ได้ ก็ในเวลานี้ ญาณิศาก็ผลักประตูห้องทำงานติณห์ออก ถึงแม้ว่าจะเหมือนถูกไล่ให้ออกมา แต่สีหน้าก็ยังแสร้งแสดงความสุขออกมา เขียนแสดงออกมาชัดเจนว่า “เธอตายแน่” ไม่กี่ตัวอักษร รินรดาไม่มีแม้กระทั่งเวลาจะไปคิดเล็กคิดน้อย ได้ยินติณห์ใช้โทรศัพท์ภายในเป็นครั้งแรก ใช้น้ำเสียงและอารมณ์อย่างหนักหน่วงพูดว่า “เธอเข้ามานี่” รินรดาเดาได้ว่าญาณิศาต้องมีเรื่องมาฟ้อง แต่ไม่คิดว่าจะลงมือรวดเร็วปาดนี้ และสามารถทำให้ติณห์โกรธได้เนื้อเต้นขนาดนี้ ติณห์ได้ยินเสียงผลักประตู แม้แต่เปลือกตาก็ไม่ได้ลืมขึ้นมาแล้วก็พูดว่ามา “นั่งเถอะ” รินรดารู้สึกเหมือนจะต้องถูกพิพากษาก็ค่อย ๆ นั่งลงอย่างว่าง่าย แล้วก็มองไปที่ขวัญ.....ของติณห์ “คุณไม่มีคำพูดอะไรจะพูดกับฉันใช่ไหม” รินรดาหยุดครู่หนึ่ง แล้วส่ายหัวด้วยความระมัดระวังขณะที่สำรวจเขาไปด้วย พอเห็นส่ายหัวแบบนี้ ติณห์รู้สึกปวดหัวขึ้นมา เขาก็รู้ว่าคนคนนี้คงจะไม่ยอมรับผิดง่าย ๆ! “ความสัมพันธ์ระหว่างเราเป็นแค่เจ้านายลูกน้อง หรอ” ติณห์พูดขึ้นมาด้วยความโมโห ในท้ายที่สุดก็มองมาที่จมูกของเธอ “เมื่อวานตอนเย็นที่เธออยู่บนเตียงไม่ได้พูดแบบนี้” พอคิดถึงตรงนี้รินรดาก็ขนหัวลุกขึ้นมา แล้วจะให้ทำยังไง พูดก็พูดแล้ว ก็เพียงแค่นั่งไป ดังนั้นเธอจึงมองติณห์อย่างระมัดระวัง พิจรณาก่อนเอ่ยปาก “ฉันรู้สึกว่าความสัมพันธ์แบบเจ้านายลูกน้องเป็นอะไรที่รับประกันได้ดีทีสุด เป็นวิธีการร่วมมือกันที่มั่นคง ฉัน....” รินรดายังไม่ทันได้พูดจบ ก็ได้ยินเสียงไม่มีอารมณ์ของติณห์ “ฉัน ไม่ต้องการทนกับข่าวลือที่สะพัด ฉันถูกบดขยี้ ฉันรู้ว่ารสชาติมันเป็นอย่างไร” ในงานแต่งที่ถูกเอาภาพถ่ายมาเปิดเผยอย่างนั้น รินรดาในเวลานั้นรู้สึกอึดอัดมากกว่าใคร เดิมทีไม่ได้คิดจะไปเช่าห้องข้างนอก ความจริงเพียงแค่ไม่อยากเห็นหน้าปีศาจของอธิชารวมไปถึงเสียงสนทนารอบ ๆอีกต่อไป เสียงนั้นมันทำให้เธอไม่สบายใจมากที่สุด จนกระทั่งมีช่วงเวลาหนึ่งเธอเกือบจะเอามีมาไว้ที่แขนของตัวเองลงไปเลย ติณห์ไม่เข้าใจในความคิดของเรื่องนี้ ในความคิดของเขารินรดาเพียงแค่ต้องการจะเว้นระยะห่างจากตัวเอง ออกห่างจากสุดศูยน์กลางนี้ พูดได้ไม่ชัดเจนว่าคือความรู้สึกอะไร แต่ว่าความรู้สึกไม่สบายนั้นมี เขารู้สึกว่าเขากำลังทรยศต่อจินตนาแล้ว แต่ว่าคนในบ้านไม่ได้คิดอย่างนั้น “เธออยากจะรักษาความสัมพันธ์แบบเจ้านายกับลูกจ้างไว้ ใช่ไหม “ ไม่รู้ว่าทำไม รินรดาฟังเสียงที่ติณห์พูด แล้วรู้สึกว่าเหมือนว่าเขาเย็นชาเหมือนกับพูดอยู่ต่อหน้าคนอื่นอย่างนั้น “ฉัน.....”รินรดาอยากจะพูดอะไรต่อ แต่พอเห็นสีหน้าเหนื่อยล้าของติณห์ที่โบกมือ “ฉันตามใจเธอ ไปเถะ” คำพูดก็พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว รินรดาก็ไม่สามารถที่จะอยู่ตรงนี้ต่อแล้ว เธอเพียงทำแค่พยักหน้ากับติณห์ หลังจากนั้นก็ปิดประตูอย่างว่าง่ายกลับไปที่ที่นั่งของตัวเอง เหมือนทุกอย่างจะกลับเข้าที่ เหมือนกับว่าทุกอย่างไม่เหมือนเดิม รินรดาพยายามที่จะเพิกเฉยต่อความแปลกประหลาดนี้ มันทนไม่ไหวแล้ว เอามือตบหน้า เริ่มที่จะจัดการเอกสารบนโต๊ะที่ต้องให้ประธานคุณเซ็นต์ชื่อ เธอพลิกดูอยู่หลายที ทันใดนั้นก็มีเอสารฉบับหนึ่งหัวข้อทำให้เธอจ้องดูอยู่อย่างนั้น “กระบวนการความร่วมมือกับบริษัทวาโร” รู้สึกแปลกซะแล้ว เอกสารอะไรทำไมถึงได้ตั้งชื่อแบบนี้ และยังมีชื่อวาโร ความอยากรู้อยากเห็นของรินรดาเต็มหัวใจ อยากจะที่เปิดออกดู แต่ปรากฏว่าเอกสารฉบับนี้ต้องใส่รหัส มีเพียงประธานคุณเท่านั้น มีแต่ติณห์ที่เปิดได้ นั้นแปลว่าเป็นเอกสารที่สำคัญมาก พอคิดถึงตรงนี้ รินรดาก็ระมัดระวังอย่างมากที่หยิบเอกสารนั้นออกมา วางไว้ทิ้งมันไว้เดี๋ยว ๆ แล้วทำงานต่อไป หลังจากเรียงลำดับเอกสารในมือแล้วรินรดาก็ไปเคาะประตูห้องทำงานของติณห์ “ประธานคุณ ฉันมาส่งเอกสารให้คุณอ่าน” คนที่นั่งอยู่ข้างใจอย่างติณห์ได้ยินแล้วก็ยกหมัดขึ้นมา ดีมาก แม้แต่ชื่อเรียกกเปลี่ยนแล้ว แต่ว่าคนอย่างติณห์ก็ไม่ได้เป็นคนยอมแพ้อะไรง่าย ๆ เขาถูกรินรดาทำให้โกรธขึ้นมาแล้ว ก็พูดอย่างเย็นชาว่า “เขามาเถอะ” รินรดาได้ยินเสียงก็เดินเข้าไป นำเอกสารไปวางไว้ที่บนโต๊ะของติณห์ หลังจากนั้นก็เตรียมที่จะออกไป ติณห์ก็ไม่ได้พูดอะไร แค่ปล่อยให้รินรดาเดินออกไป พอถึงตรงประตู รินรดาเห็นติณห์ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เธอไม่รู้ว่าทำไมในใจพูดอะไรไม่ออก แต่ว่าเธอเข้าใจ คนที่พูดว่าอยากจะรักษาระห่างคือเธอเอง ติณห์เพียงแค่ทำตามที่เธอต้องการเท่านั้น ดังนั้นถึงแม้ว่าจะสูญเสียรินรดาก็สามารถทำได้เพียงแค่อึกอักอยู่ข้างใจพูดไม่ได้ ท่าทีเย็นชาแบบนี้คงเป็นต่อไปอีกอย่างน้อยเป็นสัปดาห์ รินรดาก็ยังคงไม่มีความหวังของญาณิศาที่จะลาออกหรือถูกไล่ออก ตัวเองคิดว่าเข้าใจญาณิศาของติณห์ว่าดูนั่งไม่ค่อยติดที่ เธอคงต้องลงมือทำอะไรสักอย่างแล้ว เพียงแต่ว่าเธอเพียงแค่ไปห้องทำงานของติณห์มาครั้งหนึ่ง ไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังใช้ร่างกายของรินรดาเพื่อรักษาตำแหน่งของตัวเองไว้ เอาคนที่ไม่ได้มาบริษัทตั้งนานอย่างชญานีถูกเตะออกไปแล้ว ในใจของรินรดาแถบจะระเบิดอยากจะเปิดปากอธิบาย แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายอะไรดี เพราะว่าคนเหล่านั้นที่พูดถึงเธอไม่ว่าจะมากจะน้อยก็ทำไปหมดแล้ว มีอีกเรื่องที่ทำให้เธอนั้นค่อนข้างจะอยู่ยากก็คือเรื่องที่เธอแอบไปดูเอกสารวันนั้น แต่ว่าไม่เห็นข้อความรินรดาไม่รู้ว่าติณห์จะทำอะไรกับบริษัทวาโรกันแน่ ทำให้เธอต้องออกตัวถาม ซึ่งเป็นเรื่องไม่สมควรดังนั้นเธอจึงอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก รู้สึกอึดอัด แต่ว่าติณห์ก็เป็นคนมีสัจจะ วันนั้นพูดไว้ยังไง วันนี้ก็จะทำอย่างนั้น ทุกวันก็เหมือนใส่หน้ากากเย็นชาเข้าหารินรดา ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ไม่พูดอะไรเลย หลังจากนั้นมาก็เหมือนว่าติณห์จะเริ่มใส่หน้ากากอันใหม่ ทำให้คนรอบตัวเดาได้ยากว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นคนรอบตัวไม่กี่วันนี้ก็ซุบซิปเกี่ยวกับเรื่องของรินรดากับติณห์ว่าความสัมผัสของทั้งสองมีปัญหา มีบางคนพูดหนักไปถึงว่าเห็นว่ามีคนแปลกหน้าจากบริษัทหวอหนิวเคอมาตามหารินรดา เพียงแค่ดึงหัวใช่เท่าออกมาจากโคลน บรรพตก็ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท เพียงแต่จากนั้นไม่นานก็มีคนพูด ว่าบรรพตไม่ได้หมั้นหมายกับรินรดาแล้วหรือ พอมีข่าวนี้ขึ้นมา ยิ่งทำให้ผู้คนนั้นแตกตื่นกันไปใหญ่ ภารดี รินรดาไม่รู้อะไร แต่ว่าคนของสำนักงานทั้งหมดหลายคนรู้เรื่องบ้านของเธอและความสัมพันธ์กับบ้านติณห์ ไหนเลยจะปล่อยง่ายๆ ให้ไม่เอารินรดาใส่เข้าไปด้วย เพียงแต่บรรพต ทุกคนแสดงออกไม่ชัดเจน เพราะว่าทรัพย์สินของเขาเกือบทั้งหมดอยู่ต่างประเทศ ก็ไม่รู้ว่าอีกหน่อยแต่งงานแล้วจะจัดการอย่างไร
已经是最新一章了
加载中