บทที่ 44 :คู่สร้างคู่สม
1/
บทที่ 44 :คู่สร้างคู่สม
รักนะ นายขี้หึงของฉัน
(
)
已经是第一章了
บทที่ 44 :คู่สร้างคู่สม
บทที่ 44 :คู่สร้างคู่สม รินรดาเหมือนจะเป็นคนนอกอย่างนั้น ที่ต้องคอยฟังคนซุบซิบนินทา แล้วทำหน้าตาตกตะลึง ปรากฏว่าตัวเองเป็นคนโง่ที่สุด ไม่รู้อะไรเลย ทำตาไม่รู้ไม่ชี้ และพี่บรรพตกับภารดีก็เป็นคู่สร้างคู่สม..... บางอย่างก็เหมือนรู้ว่าค่อนข้างจะทำร้ายคน เธอมักจะคิดว่าครอบครัวเธอกับบรรพตนั้นคล้ายคลึงกัน แต่ไม่เคยคิดว่าจะห่างไกลกันขนาดนี้ มิหน้าละ..... คนที่ยืนฟังอยุ่หน้าประตูกลับรู้สึกว่าไม่ได้มีความหมายอะไร เธอลุกขึ้นยืนเตรียมตัวจะไปกินข้าว แต่ก็น่าแปลกที่มีใครบางคนอยู่ในลิฟต์อย่างไม่ได้ตั้งใจ ติณห์เห็นว่าลิฟต์เปิดออก ก็เงยหน้าขึ้นมามอง พอเห็นรินรดาก็ไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร เพียงแต่ขยับร่างไปทางข้าง ๆ จริง ๆแล้วก็ยังมีคนอื่นอีกที่รอลิฟต์ แต่พอเห็นรินรดายืนอยู่ที่หน้าประตูลิฟต์ และติณห์ก็อยู่ในลิฟต์ ก็รู้สึกไม่โอเคที่จะต้องเข้าไป และก็ไม่รู้ว่าใครที่ผลักรินรดาจากข้างหลัง ตอนที่ลิฟต์ปิด ...... ด้วยเหตุนี้เลยกลายเป็นว่ารินรดาทำหน้าเป็นไม่รู้ไม่ชี้ยืนอยู่ในลิฟต์กับติณห์ ติณห์ก็ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไร เขาเอามือลวงไปในกระเป๋า ยืดตัวขึ้น ทำท่าเหมือนนายจ้างถามคำถามลูกน้อง “ช่วงนี้ทำงานราบรื่นดีไหม” พอรินรดาได้ฟังพูดและพึมพำอย่างเงียบ ๆ ในใจของเขา “ก็แค่ถ่ายเอกสาร จะมีอะไรไม่ราบรื่นหรือ” แต่ใบหน้าภายน้องก็ยิ้มฟืน ๆ “ก็ถือว่าราบรื่น” ติณห์พยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร ครู่หนึ่งความลำบากใจแพร่กระจายไปทั่วทั้งห้องลิฟท์เล็ก ๆ แล้วก็กระจายไปเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก รินรดาเบี่ยงตัวไปด้านข้าง แสดงให้เห็นว่าให้ติณห์ออกไปก่อน ติณห์ก็ไม่ได้เกรงใจอะไรเธอ เดินออกไปตรง ๆ รินรดารักษาระยะห่างไว้อย่างดี แต่ว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ไม่มีใครจะรู้ว่าจะเกิดขึ้นตอนไหน รถหนึ่งคันก็ขับพุ่งตรงมาที่รินรดาไม่คิดจะแตะเบรก เพราะว่าระยะห่างใกล้เกินไป รินรดาเลยยิ่งนิ่งอยู่ตรงนั้นแม้แต่จะหลบก็ไม่มีที่ให้หลบ ดังนั้นเมื่อรถเกือบจะเข้าที่ตัวเธอ รินรดาก็เลือกที่จะปิดตาลง ไม่รู้ว่าความเจ็บปวดนั้นมันจะลดน้อยลงหน่อยไหม จะดีที่สุดถ้าตัวเองหมดสติไป อย่างไรก็ตามความเจ็บปวดและผลกระทบในจินตนาการไม่ปรากฏขึ้น พอรินรดาลืมตาขึ้นมามอง ไม่รู้ว่าติณห์ที่เดินห่างจากตัวเธอออกไปกลับมาตอนไหน ยังมายืนเป็นเกาะกำบังอยู่หน้าเธอ รถคันนั้นจอดหห่างจากเธอไม่เกินหนึ่งเมตร “เธอไม่เป็นไรใช่ไหม.....”รินรดาลืมตาขึ้นมามองติณห์ เธอไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร รู้สึกแต่ว่าตกใจ ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง “ฉัน.....ไม่เป็นไร......” พอติณห์พูดจบก็เป็นลมหมดสติไปต่อหน้ารินรดา ดีที่รถคันนั้นยังเบรกได้ทันเวลาไม่อย่างนั้นคงชนเข้ากับติณห์ที่มาเป็นเกราะกำบังให้เธอ รินรดาหายใจสั่นระรัวดูลมหายใจของติณห์ เห็นว่าเขาเพียงแค่หมดสติไปเท่านั้น ถึงได้เบาใจไปเปราะหนึ่ง แล้วก็เอามือที่สั่นนั้นโทรไปที่120 คนที่อยู่บนรถนั้นคือญาณิศา เดิมทีเธอคิดจะชนเข้ากับรินรดา และที่จริงก็เกือบจะสำเร็จแล้ว แต่ว่าไม่รู้ว่าติณห์นั้นโผล่มาจากมุมไหน ถึงได้มาบังอยู่ข้างหน้ารินรดา ญาณิศาไม่รู้จะทำยังไงได้จึงได้แต่เหยีบเบรครถ แต่ว่าเธอก็คิดไม่ถึงว่าจะชนเข้ากับติณห์ ตอนนี้แม้แต่จะลงจากรถยังไกล้า กำมืออยู่ที่พวงมาลัยแน่น เขาถามตัวเองต่อไปว่า "ฉันทำอะไรลงไป" รินรดามองเข้าไปในรถรู้ว่าคนนั้นไม่ลงมาแน่นอน ดังนั้นจึงถ่ายป้ายทะเบียนรถไว้ แล้วก็โทรไปที่110 คนบางคนถ้าไม่สอนบทเรียนไว้สะบ้างก็จะไม่จำ ใกล้ๆ กับบริษัทมีโรงพยาบาล รถพยาบาลก็มาได้ถือว่าเร็วมาก พอรินรดาเห็นรถพยาบาลมา ก็ไม่ได้ไปสนใจอะไรกับเรื่องคนขับรถแล้ว เลือกว่าต้องไปโรงพยาบาลกับรถพยาบาล ตอนที่นั่งอยู่บนรถพยาบาล อารมณ์ของรินรดาค่อนข้างจะสับสน ด้านหนึ่งเธอรู้สึกโกรธแค้นคนที่ขับรถ เธอรู้ว่าคนที่นั่งสั่นอยู่ในรถนั้นคือญาณิศา ส่วนอีกด้านหนึ่งพอเห็นติณห์หมดสติไปเธอก็รู้สึกว่าเขาโง่มากเลย ดูซิ เป็นประธานคุณอยู่ดี ๆ ไม่ชอบ จะเอาเนื้อมาสู้กับเหล็ก คิดได้ยังไงกัน……. รินรดาไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าตอนนี้หัวใจของเธอรุนแรงขึ้นอย่างรุนแรงด้วยอารมณ์ที่ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะลดศีรษะของเธอไปกอดติณห์ไว้ “รินรดา เธอเป็นอะไรไป เธอเป็น....” เธอแอบถามในใจของเธอว่าเธอหลงรักติณห์แล้วหรือ ทุกครั้งที่ตั้งคำถามก็ถามได้เพียงครึ่งไม่กล้าถามต่อ เพราะคำตอบนั้นชัดเจนเพราะเธอกลัวที่จะเผชิญกับคำตอบนั้น เพียงแต่ติณห์ ก็มีความรู้สึกกับเธอเหมือนกันหรือเปล่า ตอนที่นั่งอยู่ในรถพยาบาลและนั่งที่ประตูห้องผ่าตัดรินรดาทำได้เพียงถามตัวเองเงียบ ๆ คำตอบกำลังจะมา แต่เธอเลือกไม่ ในช่วงเวลานั้น บรรพตที่อยู่ประจำโรงพยาบาลทำการผ่าตัดเสร็จ พอออกมาก็เห็นรินรดานั่งอยู่ไม่สุข อยากจะเจอก็ได้เธอเลย เลยเข้าไปทักทาย “ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่” รินรดาได้ยินเสียงคนพูดกระทันหัน สะดุ้งตกใจ หมุนตัวมาดูปรากฏว่าเป็นชญานี อารมณ์ตอนนั้นแปรปรวน “ฉัน....”รินรดารู้สึกลังเลอยู่สักครู่ ไม่รู้ว่าจะบอกชญานีอย่างไรดี “ติณห์กำลังอยู่ในห้องผ่าตัด” พอชญานีได้ยินก็ตกใจ ถึงแม้ว่าเธอจะโกรธติณห์ แต่ว่านั่นก็เป็นคนสภาพแข็งแรงมากอย่างเขา อยู่ ๆ ก็ลมเพลมพัดให้ต้องเข้าห้องผ่าตัด ครั้งก่อนที่เธอได้เห็นเขาก็ยังดี ๆ อยู่! “เขาเป็นอะไรหรือ!”ชญานียังคงอดไม่ได้ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้รินรดา รินรดารู้สึกใจคอไม่ดี จะให้เธอพูดยังไง เพราะว่ามาช่วยเธอจากอุบัติเหตุรถชนพูดแบบนี้กับชญานีเท่ากับหาเรื่องฆ่าตัวตาย ดังนั้นรินรดาจึงเลือกที่จะตอบอ้อม ๆ “เขาประสบอุบัติเหตุรถยนต์” พอชญานีได้ยินก็ไม่กลับไปที่ห้องทำงานแล้ว ยืนอยู่เป็นเพื่อนรินรดาที่หน้าห้องผ่าตัด เพราะว่ารินรดาเคยคุยกับเธอเรื่องของติณห์ทำให้กลัวชญานีเล็กน้อย ครั้งนี้ต้องมาอยู่ข้าง ๆเธอ รู้สึกว่าใจเต้นเป็นกลอง “พี่.....ชญานี อย่างตื่นเต้นไป นั่งลงก่อนเถอะ” รินรดาพูดค่อนข้างดีกับชญานี “ไม่เป็นไร ฉันยืนได้” ในใจชญานีฉันมีบางสิ่งบางอย่างขึ้น ๆ ลง ๆ เดิมทีนึกว่าตัวเองโกรธแค้นติณห์ แต่เพียงรู้ว่าเขาต้องอยู่ในห้องผ่าตัดก็เดินออกไปไม่ได้ เธอเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ “อืม.......ตามใจละกัน” คนสองคนงุ่มง่ามรออยู่ที่ประตูห้องผ่าตัดจนประตูห้องเปิดขึ้น หมอสวมเสื้อคลุมสีขาวพร้อมหน้ากากถามว่า “ใครเป็นคนในครอบครัวของติณห์” พอรินรดาได้ยินก็กำลังจะลึกขึ้นไป แต่ว่าชญานีดันไวกว่าไปหนึ่งก้าว “ฉันค่ะ” คุณหมอคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาดูชญานี หนึ่งที “หมอชญานี เดี๋ยวอีกสักพักคุณต้องมีเข้าห้องผ่าตัวไม่ใช่หรือ ว่ากันว่าอยู่กับเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ชญานีเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังมีอีกเคสหนึ่งที่รอเธออยู่ และเขาก็รออยู่ที่หน้าประตูห้องผ่าตัดตอนนี้ “ฉัน ฉันยังมีธุระ คนในครอบครัวคือคนนั้น” ชญานีมองไปที่เวลา เห็นว่ายังเหลือเวลาสิบนาทีก่อนที่จะเริ่มผ่าตัด ดังนั้นเธอจึงลังเลที่จะทิ้งชื่อสกุลให้กับรินรดายืนอยู่ที่นั่นชั่วคราว แต่ก่อนจะออกเดินไปเธอถามกลับไปว่า "การผ่าตัดเป็นอย่างไรบ้าง?" คุณหมอไม่เข้าใจว่าทำไมชญานีถึงได้ใส่ใจคนที่นอนอยู่นั้นนัก อย่างไรก็ตามแพทย์ไม่สามารถอนุมานตรรกะของคนที่จะทำสิ่งต่างๆ ได้ ทำได้เพียงพยักหน้าให้ความร่วมมือว่า “การผ่าตัดสำเร็จไปด้วยดี” รินรดารอจนชญานีเดินไปไกล ถึงได้พูดเสียงเบา ๆว่า”ติณห์เป็นอย่งไรหรือคะ” แพทย์ตรวจสอบตัวตนของรินรดาแล้วจึงบอกเธอ “ยังดีอยู่ รถไม่ได้ชนเข้าไปจังๆ เพียงแต่บริเวณเอวได้รับการกระทบกระเทือนแล้ว” เพียงแค่นี้ ทำไมถึงหมดสติไปหล่ะคะ” รินรดาเอาคำถามในใจถามออกมา หมอทำเป็นดันแว่นขึ้นสูง “เหนื่อย เห็นสภาพเปลือกตาที่หมองคล้ำแล้ว แสดงให้เห็นว่าไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว” พอได้ยินแบบนี้แล้ว ก็รู้ว่าติณห์ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว รินรดาก็เบาใจไปเปราะหนึ่ง หลังจากนั้นความคิดก็ผสมกันไปมาทำให้เหมือนเธอจมน้ำ หมอพูดว่าเขาไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว หรือเป็นเพราะว่าวันนั้นเธอพูดให้เขาโมโหไปแล้ว หรือเพราะว่าตัวเองก็มีความสำคัญกับเขามาก คำพวกนี้ก็ไม่รู้ว่ารินรดาจะไปตรวจสอบยังไง แต่ว่าเธอแน่ใจว่าเธอเองก็ชอบติณห์แล้วจริง ๆ อาจเป็นเพราะว่าตอนที่เขามาเป็นกำบังอยู่ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าตอนที่เขากำลังหยอกล้อเธอบนเตียง หรืออาจจะก่อนหน้านั้น....... สมองของรินรดารู้สึกยุ่งเหยิงสับนปนเปไปหมด รู้สึกเหมือนว่าจะระเบิดออกมา ทำได้แค่เพียงกดลงไป ตามเตียงของโรงพยาบาลไปที่หอผู้ป่วย เนื่องจากพรหมลิขิตของชญานี ทำให้ติณห์ถูกส่งตัวไปที่ห้องคนไข้เดี่ยว รินรดาเลยโชคดีที่ได้ที่พักผ่อน “หมอค่ะ เขาจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่....”รินรดามองติณห์ที่นอนอยู่บนเตียงอย่างระมัดระวัง ก็ไม่รู้ว่าที่หลับอยู่นั้นเพราะฤทธิ์ยาหรืออะไร หมอก็หัวเราะ “นอนหลับพอแล้วก็ตื่นมาเอง เขาไม่ได้ถูกฉีดยาชาอะไร” แย่แล้วย่าแล้ว รินรดารู้สึกหมดหวัง ครั้งหน้าก็ต้องติดหนี้เขาเยอะขึ้น ยังไม่ได้ฉีดยาชา ถึงแม้ว่าในใจจะใกล้บ้าแล้ว แต่ว่าสีหน้าที่แสดงออกอย่างมีมารยาทพยักหน้านิด ๆ “ขอบคุณค่ะหมอ” หลังจากที่ส่งหมอออกไป รินรดาก็ไปนั่งมองอยู่ที่ข้างเตียง ในใจคิดว่ายังไงติณห์ก็ยังไม่ได้ยิน ตัวเองก็เลยพูดเรื่อยเปื่อย “ติณห์ ทำไมวันนี้คุณต้องช่วยฉัน คุณมาทำอย่างนี้มันยิ่งทำให้ฉันคิดเรื่อยเปื่อย....” “อีกหน่อยฉันจะไม่ทะเลาะกับคุณแล้ว เดิมทีฉันเป็นคนมีเหตุผล ปรากฏว่าคุณออกมาทางนี้คุณต้องการให้ฉันทำอะไร ... " “ติณห์ วันหลังอย่าทำอะไรโง่ ๆอีก ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกกับคุณอย่างไร เพียงแค่คิดถึงคุณหัวใจฉันก็สั่นระรัว....” จริง ๆแล้วติณห์กำลังฟังรินรดาพล่ำเพ้ออยู่ลำพัง บอกรักซะยกใหญ่
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 44 :คู่สร้างคู่สม
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A