บทที่ 2 ได้เสียแบบไม่รู้ตัว   1/    
已经是第一章了
บทที่ 2 ได้เสียแบบไม่รู้ตัว
ฟางกัดปากจนพูดจบ หันหลังแล้วเดินจากไป น้ำแข็งจะเย็นขนาดไหน ก็เย็นไม่เท่าใจของเธอ ไม่รู้ว่าเดินออกจากพลตอนไหน เธอเองก็จำไม่ได้แล้ว เดินไปไกลแค่ไหน และเดินไปถึงไหนเธอเองก็ไม่รู้ตัว เพื่อที่จะได้อยู่กับพล เธอสละโอกาสที่จะไปเรียนต่อที่ไกลๆ ผลการเรียนที่ดีของเธอกลับไปสมัครเรียนต่อที่มหาลัยใกล้บ้าน ก็เพราะมหาลัย4ปีนี้จะได้อยู่กับเขา ทั้งสอนพูดกันว่าจะแต่งงานหลังเรียนจบ แต่นี่เพิ่งเรียนจบก็….. ในตอนนี้ทุกอย่างปรากฏได้ช่างสมเพช ช่างโง่จริงๆ! ท่ามกลางสายฝนในยามดึก ฟางอยากหัวเราะ หัวเราะให้กับความโง่ของตัวเอง มุมปากแสดงออกถึงความเหงา น้ำตาก็ไหลรินตามลงมา เดินอยู่กลางสายฝนเหมือนร่างที่ไม่มีวิญญาณ ทันใดนั้นก็มีบางสิ่งบางอย่างพุ่งเข้ามา ฟางไม่ตกใจ แต่ก็ล้มลงพื้น “ใครเนี่ย ไม่ลืมตาเดินหรอ….” ฟางล้มจนเจ็บ รวมแรงลุกขึ้น คำว่า“ชิง”ยังทันพูดไม่จบ ก็มองออกแล้วว่าคนข้างหน้านี้ผิดปกติ เขาคือผู้ชายที่สูงหล่อ ขาอันยาวเรียวถูกสวมด้วยกางเกงสูท เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ถูกกระดุมปลดไปแล้วครึ่งทาง เผยให้เห็นแผงอกสีเนื้อราวกับน้ำนม ชวนน่าหลงไหล มีเสื้อสูทพาดอยู่ที่แขน คิ้วที่ขมวด หน้าแดงๆ ให้ความรู้สึกถึงความเจ็บปวด ขณะที่บาสกำลังเมา รู้สึกปวดหัวเหมือนจะเป็นไข้กระทันหัน ก็เลยออกมาเดินเล่น คิดไม่ถึงเลยว่าจะไปชนโดนใคร ขณะที่กำลังจะขอโทษ “เห้ย ชนคนอื่นแล้วไม่รู้จักขอโทษหรอ? รู้จักมารยาทไหมเนี่ย?” ฟางโกรธจนหัวร้อน “หุบปาก” บาสพูดออกมาด้วยเสียงที่สุขุม ไม่เคยมีใครเลยที่กล้าพูดกับเขาขนาดนี้ เขาเงยหน้ามองคนที่กล้าพูดกับเขาขนาดนี้ แต่ฤทธิ์ยาแรงไปหน่อย เขาจึงมองเห็นผู้หญิงตรงหน้าไม่ค่อยชัด แต่ปากที่อมชมพูปากและร้ายกาจนั้นกลับหน้าหลงไหลยิ่งนัก ฟางเห็นว่าชายคนนั้นจ้องแต่เธอตลอด เธอจึงโบกมือไปมาตรงหน้าของชายคนนั้น “ฉันพูดกันเธออยู่นะ ได้ยินหรือเปล่า? !” ภายในมีความรู้สึกร้อน บาสก็เกิดความหลงไหลกับภาพที่อยู่ตรงหน้า อยู่ๆก็รู้สึกร้อนขึ้นมา “เธอเสียงดังเกินไปแล้วนะ” พูดจบ บาสก็จับคนที่อยู่ตรงหน้าของเธอ เข้ามาในอ้อมกอด สัมผัสได้ถึงความงดงาม เออ….. ฟางยังดึงสติกลับมาไม่ได้ อยู่ดีๆก็ถูกปากใครไม่รู้มาจูบเข้า จูบแรกของเธอ….. เมืองลาเบล ณ ชั้นสูงสุดของโรงแรมห้าดาว ภายใต้ห้องที่เต็มไปด้วยไฟสีเหลือง เตียงที่อยู่กลางห้องสองเตียง? “พล…. อย่าจากฉันไปนะ…..อย่าไปนะ” “พล นายทำกับฉันแบบนี้ได้ไง ฉันเกลียดนาย!” “เออ….ฉันรักนายนะ พล” ผู้หญิงบนเตียงไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไรอยู่ เธอกอดผู้ชายของตัวเองไว้ แล้วมีอะไรกันต่อ ปกติเขาเป็นคนที่มีสติตลอดเวลา แต่ตอนนี้ความสุขุมของตัวเองกลับหายไปหมด ในตอนนี้เขาแค่อยากปล่อยตัวของตัวเองให้หลงอยู่ในตัวผู้หญิงคนนั้น ความรู้สึกแบบนั้นค่อยๆมาเป็นทีละขั้น และมาเรื่อยๆ ผ่านไปคืนนั้นทั้งคืน แสงแดดส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง ฟางพยายามลืมตา ขยี้หัวแล้วขยี้อีก มองไปข้างหน้า—หน้าต่างบานใหญ่ที่มีผ้าม่านสีน้ำตาลปิดไว้ รอบๆห้องเป็นงานออกแบบที่เรียบง่ายแต่ดูหรูหรา โทนสีและการตกแต่งของห้องราวกับโรงแรม และเหมือนอพาร์ตเมนต์ส่วนตัวที่หรูหรา เธออยู่ไหนเนี่ย?! ฟางลุกขึ้นจากเตียง รู้สึกว่าทั้งตัวเหมือนโดนซ้อมมา ปวดเมื่อยไปหมด เธอพยายามมองสภาพแวดล้อมอย่างละเอียด และพยายามนึกถึงเรื่องราวที่เกิอขึ้นเมื่อวาน หลังหนีออกมาจากบ้าน ก็มุ่งตรงไปที่บ้านของพล จากนั้นก็เห็น..... ภาพในวันนั้นยังติดตามาจนถึงวันนี้ กลับไปคิดอีก ความเจ็บปวดของฟางในวันนั้น หากมันเป็นแค่ฝันก็คงจะดี! หลังออกมาจากบ้านของพล ก็เบลอๆอยู่กลางถนน ไม่รู้ว่าเดินไปถึงไหน จากนั้นก็ชนกับคนคนหนึ่ง...... ไม่สิ ไม่ถูกๆ คือโดนคนคนหนึ่งชนสิ! จากนั้นก็…. “อ้า จูบแรกของฉัน!” ฟางรีบเอามือปิดไปที่ปากตัวเอง เจอโรคจิตคนนั้น แล้วยังโดนจูบอีก ฟางเบลอไปซักพัก ทั้งหิวทั้งเหนื่อย ร่างกายก็อ่อนเพลียไม่มีแรง ทันใดนั้นก็หน้ามืด สลบไป จากนั้นล่ะ จากนั้นล่ะ! ฟางพยายามส่ายหัวสุดแรง อยากจำเรื่องราวที่ต่อจากนั้นขึ้นมา แต่ไม่ว่าอย่างไงก็จำอะไรไม่ได้เลย เธอลุกตัวขึ้นด้วยความปวดหัว ทันใดนั้นก็เห็นผ้าปู้สีขาวมีคราบแดงอยู่ เธอกระวนกระวายไปทั้งตัว! ทันใดนั้นถึงสังเกตได้ว่าตัวเองกำลังเปลือยกายอยู่! เธอดึงสติและเหตุผลกลับมา พื้นที่มีเสื้อผ้าเรี่ยราดบวกกับคราบแดงบนเตียง บ่งบอกอย่างชัดเจนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานแล้ว เหมือนกับว่าเลือดแข็งไปทั้งตัวเลย ฟางนั่งลงที่พื้นข้างเตียง ก้มหัวแล้วร้องไห้ จากนั้นก็รีบเก็บเสื้อผ้าของตัวเองอย่ารวดเร็ว แล้วค่อยๆใส่เสื้อกลับเข้าร่างกายของตัวเองทีละตัว เหมือนกับว่าอยากลบล้างเรื่องของเมื่อวานออกไป “ติ้งต่อง!” เธอกำลังใส่เสื้อเสร็จ เตรียมตัวจะออกไป ทันใดนั้นเสียงกริ่งก็ดังขึ้น ฟางก็กระวนกระวายขึ้นมาทันที ทำไงดี!อยากหนีก็หนีไม่พ้นแล้ว! คนหน้าประตูรอแล้วรออีก ก็ไม่เห็นมีใครมาเปิดประตู เธอจึงเสียบการ์ดเปิดประตูเข้าไป ฟางมองดูคนที่เข้ามาอย่างกลัว เสื้อผ้าที่เรียบร้อย คือพนักงานของโรงแรม “คุณผู้หญิงตื่นแล้วหรอคะ นี่คือของของผู้ชายที่มากับคุณฝากมาให้คุณค่ะ” บริการของพนักงานสาวอย่างสุภาพ แต่ในตากลับมีแต่ความโกรธที่ปกปิดไม่ได้ พูดจบ ก็มีบัตรธนาคารยื่นมา “นี่คืออะไรคะ?” ฟางถามด้วยความไม่เข้าใจ “ผู้ชายคนนั้นบอกว่าคือค่าตอบแทน เรื่องเมื่อวาน” ค่าตอบแทน? ผู้ชายคนนั้นเห็นว่าเธอเป็นอะไรกันแน่! “ฉันไม่เอา คุณเอาไปคืนเขาเถอะ!” “แต่ว่าผู้ชายคนนั้นบอกว่าต้องส่งให้ถึงมือคุณ” “ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่เอา คุณออกไป!” ฟางโกรธมาก จึงสั่งพนักงานคนนั้นไป “หยุดนะ!” พนักงานที่กำลังจะออกไป ถูกฟางเรียกให้หยุด ฟางค้นแล้วค้นที่กระเป๋าตัวเอง ก็เจอแต่เงินไม่กี่บาทที่เหลือจากเรียกแท็กซี่เมื่อวาน เธอนำเงินไม่กี่บาทนั้น ส่งให้พนักงานคนนั้น พูดว่า “นำเงินส่วนนี้ให้ผู้ชายคนนั้นด้วย ก็บอกว่าเป็นเงินตอบแทนที่ฉันให้เขา เกี่ยวกับเรื่องเมื่อวาน” พนักงานก็ยังคงไม่เข้าใจ จากนั้นฟางก็ออกจากห้องที่สกปรกห้องนั้น บริษัทอนันที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเมืองโลกัส ท่านประธานบาสกำลังนั่งเช็คเอกสารที่หน้าโต๊ะห้องทำงานสีดำน้ำตาล ใบหน้าที่หล่อเหลาและสุขุม หยิบปากกามาเซ็นต์เอกสารพวกนั้น มองออกเลยว่าต้องตั้งใจกับงานนี้มากๆ ทันใดนั้นประตูก็ถูกผลักออก คิมเดินเข้ามา บาสแสดงออกถึงความไม่พอใจที่มารบกวน สายตาที่สุขุมและเยือกเย็น คิ้วสองข้างที่คมเฉียบ กลับไม่ต้อนรับใคร แล้วเช็คเอกสารต่อ คิมเห็นว่าบาสไม่ต้อนรับ ก็แกล้งถอนหายใจออกมา “เฮ้อ ท่านประธานบาสยุ่งขนาดนี้ ฉันก็มาเสียเที่ยวอีกแล้วสิ!” พูดจบ ก็นั่งลงบนเก้าอี้หมุนที่อยู่หน้าโต๊ะ บาสหน้าตาที่ไร้อารมณ์ ก็ไม่ได้เงยหน้ามองเขา ทำไมล่ะ บาสมีชื่อเสียงด้านของความสุขุมเย็นชา คนปกติแล้วจะกลัวความเย็นชาของเขามาก มีก็แต่คิมที่เติบโตกับเขามาตั้งแต่เด็กที่กล้าทำกับเขาแบบนี้ เพราะพ่อของคิมเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของบริษัทอนัน ร่วมงานกับพ่อของบาสตั้งแต่ยังหนุ่ม ซื่อสัตย์และตั้งใจทำงานมาตลอด และก็คือผู้ใหญ่ส่วนน้อยที่บาสเคารพ “มีเรื่องอะไร?”
已经是最新一章了
加载中