บทที่ 9 สั่น
ในตอนที่ไลลาฟื้นขึ้นมา เธอก็รู้สึกเจ็บไปหมดทั้งตัว
แม้แต่จะลุกขึ้นมายังไม่ได้เลย เมื่อลืมตาขึ้นก็รู้สึกแสบตามาก เธอเบือนหน้าไปอีกทาง ถึงได้พบว่าตัวเองนอนอยู่ในโรงพยาบาล
เธอมองไปรอบ ๆ ในห้องผู้ป่วยไม่มีคนอื่นอยู่เลย เธอพยายามย้อนนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนที่เธอจะหมดสติไป
แต่ว่า ทำไมเธอถึงรู้สึกเจ็บขนาดนี้ล่ะ? เธอถูกทำร้ายร่างกายมานะ ไม่น่าจะถึงกับสลบไปเลย?
ไลลากำลังคิดอยู่เพลิน ๆ อยู่ ๆ ประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามา เป็นผู้หญิงที่สวมใส่รองเท้าส้นสูงคนหนึ่งเดินเข้ามา ใบหน้าของเธอประดับไปด้วยรอยยิ้มอย่างพอใจ ในมือของเธอถือชามข้าวต้มอยู่ด้วย เธอยิ้มแล้วบอกไลลาว่า “ไลลา เป็นไงบ้างจ๊ะ? ลุกขึ้นมาทานข้าวต้มก่อนสิ”
สีหน้าของไลลาเปลี่ยนเป็นเย็นชา “เธอมาทำไม? ออกไปให้พ้นเลยนะ!”
“เธอรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้เธอกำลังพูดกับใครอยู่?” น้ำรินวางชามข้าวต้มในมือลง แล้วโยนเอกสารการหย่าฉบับหนึ่งลงตรงหน้าเธอ “ดูซะให้เต็มตานะ เธอหย่ากับธามแล้ว อย่าทำเป็นโอหังไปหน่อยเลย! ที่ฉันมาเยี่ยมก็เพราะว่าไว้หน้าเธอ จากนี้เป็นต้นไป เธอก็ไม่ใช่ภรรยาของเขาอีกแล้ว!”
ไลลาถูกใบหย่าโยนใส่เต็มหน้า เหมือนกับลมหายใจของเธอหยุดลง ร่างกายเธอสั่นไปหมด เธอหยิบใบหย่าขึ้นมาดูด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด “เป็นไปได้ไง? ฉันหมดสติไป แล้วทำไมถึงมีใบหย่าออกมาได้?”
“เธอยังไม่รู้ถึงความสามารถของธามอีกเหรอ?” น้ำรินเชิดหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “ไลลา เธอน่าจะรู้ตัวได้แล้ว รีบไสหัวออกไปซะ อย่ามาเกาะแกะธามอีก ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน!”
ไลลาไม่ได้ยินอะไรอีกแล้ว เธอถือใบหย่านั้นแล้วสั่นเทิ้มไปทั้งตัว
ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ตั้งแต่แรกแล้ว ทั้ง ๆ ที่ทำใจเอาไว้แล้ว แต่ทำไม…แต่ทำไม?
ทำไมหัวใจถึงเจ็บขนาดนี้?
เธอน่าจะรู้อยู่ตั้งแต่แรกแล้ว ทำไมถึงต้องตามตื๊อเขาอย่างนั้นด้วย? ทำไมถึงต้องทำให้เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้? ใบหย่าในมือถูกเธอกำจนยับ ไลลามีคำพูดติดอยู่ในใจอีกมากมาย แต่เธอกลับพูดไม่ออก เธอได้แต่กัดฟันอดกลั้นน้ำตาให้กลับเข้าไป
สุดท้าย ไลลาหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด เธอกัดฟันแล้วตะโกนออกมาอย่างดังลั่น “ออกไปให้พ้น!”
“เธอสงบเสงี่ยมหน่อยดีกว่านะ อย่าทำให้ตัวเองทรมานไปกว่านี้เลยนะ” น้ำรินแสยะยิ้ม “ไลลา เธอดูแลตัวเองให้ดีเถอะ ที่ฉันเอาข้ามต้มมาให้เธอก็เพราะว่าสงสาร ผู้หญิงที่เพิ่งแท้งลูกไป แล้วก็ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีกน่ะ บ้านตระกูลฉัตรเฉลิมไม่มีทางต้อนรับหรอกนะ ฉันต่างหากล่ะที่จะเป็นภรรยาในอนาคตของพี่ธาม!”
“เธอว่าอะไรนะ?” ไลลาหัวใจกระตุกวาบ ดวงตาที่กำลังมองน้ำรินอยู่เริ่มพร่ามัว “ฉัน? แท้ง?”
“นี่เธอยังไม่รู้อีกเหรอเนี่ย?” น้ำรินแค่นหัวเราะออกมาอย่างสะใจ เธอยกชามข้าวต้มขึ้นมาแล้วพูดว่า “จริง ๆ เธอท้องตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอมีอะไรกับธามแล้วล่ะ แต่บังเอิ๊ญ…บังเอิญที่แม่ของฉันไปตบตีเธอ ลูกของเธอก็เลยไม่มีแล้วน่ะ เธอรู้ไหมว่าตอนนี้ลูกของเธออยู่ที่ไหน?”
น้ำรินยกชามข้าวต้มขึ้นมา เธอยิ้มจนตาหยีแล้วพูดว่า “อยู่นี่ไงล่ะจ๊ะ ฉันตั้งใจบอกให้คุณหมอเก็บลูกของเธอเอาไว้ แล้วฉันก็เอาไปต้มข้าวต้มเพื่อเอามาป้อนเธอยังไงล่ะ เห็นตำราบอกว่าช่วยบำรุงได้ดีเลยนะ ถึงแม้ว่าจะอายุครรภ์น้อยไปหน่อย แต่ก็มีเลือดเนื้อเชื้อไขเหมือนกัน…”
กลิ่นหอมของข้าวต้มตลบอบอวนไปทั่วบริเวณห้อง น้ำรินถือชามข้าวต้มเข้ามาใกล้ ๆ ไลลา “นี่เป็นเลือดเนื้อที่ออกมาจากร่างกายของเธอเลยนะ เธอกินกลับเข้าไปสิ อ้าปากสิ…อ้าม…”