ตอนที่7 เหยียดหยามนาง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่7 เหยียดหยามนาง
ตอนที่7 เหยียดหยามนาง หลังของนางกระแทกลงบนโต๊ะ ความเจ็บปวดที่ได้รับเมื่อครู่จึงกลับมาอีกครั้ง เหลียงซีนเจ็บปวดจนเกือบที่จะหมดสติไป ฉนฮัวที่อยู่ด้านข้างก็ทนดูไม่ได้อีกต่อไป จึงมุทะลุขึ้นไปด้านหน้า แต่ทว่าเมื่อนางเพิ่งก้าวเดินออกมาได้เพียงสองก้าวนั้น ก็ถูกเฉินเฮ่าสะบัดมือแยกนางออกไป นางจึงล้มลงที่ตรงผนังห้อง แล้วกระอักเลือดออกมาทันที ชิวยั่วที่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ดวงตาจึงเต็มไปด้วยความเลือนรางจากน้ำตา นางมองไปยังเฉินเฮ่าด้วยความเกลียดชัง และไม่กลัวที่จะวิ่งออกไปหาเหลียงซีน แต่นางเพิ่งจะก้าวออกไปได้แค่ก้าวเดียว เหลียงซีนก็ตะโกนเสียงดังขึ้นมาทันที “อย่าเข้ามา” ตอนนี้นางโมโห โมโหอย่างมาก นางเพ็งมองไปยังเฉินเฮ่าอย่างโกรธแค้น แต่กลับบอกกับชิวยั่วด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “ไปช่วยประคองฉนฮัวขึ้นมา” บุรุษผู้นี้ ใบหน้าที่ดูว่างเปล่าชวนให้ผู้คนหลงใหล แท้จริงแล้วแม้แต่สัตว์เดรัจฉานก็ยังสู้เขาไม่ได้ มองชีวิตผู้อื่นเหมือนไม่มีค่า ถ้าหากกระทำในตอนนี้ของเขาอยู่ในยุคปัจจุบันละก็อย่างน้อยคงถูกจับลากไปขังไว้ที่สถานีตำรวจหนึ่งเดือน นางกลั้นความเจ็บปวด แล้วค่อยๆ ใช้มือจับลงบนโต๊ะเพื่อยืนขึ้น ความเจ็บปวดของนางจึงกลับมาให้เห็นอีกครั้ง แต่นางไม่ยอมใช้ท่าทางที่เหมือนคนที่บาดเจ็บเผ๙ญกับเขา เขาเมินเฉยและเย่อหยิ่ง นางก็มีความหยิ่งในศักดิ์ศรีเช่นกัน “นางล่วงเกินท่านอันใดหรือ” เหลียงซีนเอ่ยถามขึ้นด้วยความเกลียดชัง เฉินเฮ่าใช้สายตาที่เฉยเมยมองท่าทางอ่อนแอของนางก่อนเอ่ยขึ้น “เพราะนางคือคนของเจ้า” “ท่าน....” หน้าอกที่เจ็บปวดขึ้น หยุดถ้อยคำที่เหลียงซีนอยากจะพูดออกมาลง นางจิกมือลงบนมุมโต๊ะแน่นขึ้น เพื่อไม่ให้ตนเองนั้นหมดสติลง “จำไว้นะ อย่าให้ตนเองมีวันนี้เช่นกัน” เสียง “ปัง” ดังขึ้น เฉินเฮ่าใช้มือตบลงไปบนโต๊ะที่อยู่ด้านหลังของเหลียงซีนจนพังลงทันที ร่างกายของนางจึงสูญเสียการทรงตัว จนทำให้นางล้มลงไปในกองเศษไม้ของโต๊ะที่พังลงมานั้น ร่างกายของนางจึงถูกเศษไม้ที่แหลมคมนั้นแทงเข้า จนเกิดเป็นความเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง ในสถานการณ์เช่นนี้ นางยิ่งไม่ยอมแพ้ ชิวยั่วที่ประคองฉนฮัวอยู่นั้น ร้อนใจจนน้ำตาไหลออกมา นางอยากจะเข้าไปประคองเหลียงซีนอีกครั้ง แต่กลับถูกนางสั่งห้าม เหลียงซีนกลั้นความเจ็บปวด แล้วดันทุลังลุกขึ้นอีกครั้ง เฉินเฮ่าเชิดหน้าขึ้น ลำตัวตั้งตรงคล้ายกับหินบนยอดภูเขาน้ำแข็งที่เยือกเย็น ไม่มีความรู้สึกใดเลยแม้แต่น้อย “จูยฟง ฉูยั่ว พวกเจ้าสองคนเข้ามา” เฉินเฮ่าตะโกนขึ้น คนชุดดำสองคนจึงเดินเข้ามาในห้องทันที ใบหน้าของพวกเขาทั้งสองคนก็ซึ่งไร้ความรู้สึกเหมือนหิน ร่างกายก็เช่นกัน มองดูแล้วคือคนที่ฝึกวิทยายุทธ์มานานหลายปี เหลียงซีนยิ้มเยาะขึ้น เฉินเฮ่าคงได้วิธีที่จะทรมานนางอีกครั้งแล้ว แต่นางคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเขาจะใช้วิธีการที่ต่ำช้าเช่นนี้ “พวกเจ้าสองคน ช่วยข้าถอดเสื้อผ้าของนางออกให้หมด แล้วเหยียดหยามนางซะ” เหลียงซีนเบิกตากว้างขึ้นทันที ร่างกายก็พร่ามัวไป จูยฟงและฉูยั่วไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย เดินไปอย่างไม่ลดความเร็วของฝีเท้าลง เหลียงซีนตกใจจนก้าวถอยไปด้านหลัง ชิวยั่วที่ตกใจรีบคุกเข่าลงบนพื้นหมอบคลานไปยังเฉินเฮ่า “ท่านอ๋อง ข้าขอร้องท่านได้โปรดยกโทษพระชายาเอกด้วยเจ้าคะ ท่านอ๋องได้โปรดยกโทษพระชายาเอกด้วยเจ้าคะ” ในใจของเหลียงซีนนั้นเย็นเฉียบ มือของนางกำนิ้วแน่น เหยียดหยามนางให้เสื่อมเสียเท่ากับให้นางไปตาย แม้นางจะมาจากยุคใหม่ แต่ก็ไม่อนุญาตให้ผู้ใดมาทำให้ร่างกายของนางเสื่อมเสีย นางกัดฟันเอ่ยขึ้น “เฉินเฮ่า ท่านลงมือฆ่าข้าซะดีกว่า” “ฆ่าเจ้า” เฉินเฮ่ายิ้มเยาะ ในดวงตาคู่นั้นมีแต่ความเกลียดชัง “ฆ่าเจ้าแล้ว ก็จะสามารถชดใช้สิ่งเลวร้ายที่เจ้าทำกับน้องอินได้เช่นนั้นหรือ ตอนที่เจ้าทำเรื่องพวกนี้ เคยคิดหรือไม่ว่าน้องอินก็อยากที่จะฆ่าตัวตายเหมือนเจ้าเช่นกัน” ฆ่าตัวตาย เมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อนหน้านี้เหลียงอินยังมาที่ตึกของนาง นางก็ดูปกติดีไม่ใช่หรือ ทำไมถึงจะฆ่าตัวตาย หน้าผากของนางเจูยฟงตุบตับคล้ายกับมีเรื่องสำคัญที่อยากจะเตือนนาง “ข้าทำเรื่องอะไรผิดไปหรือ” “เจ้าไม่ต้องมาแกล้งโง่” เฉินเฮ่าเอ่ยขึ้นเสียงดังคล้ายประณาม “ตนเองทำผิดอะไรยังไม่รู้ตัวอีก” เหอะ เหลียงซีน ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องเช่นนี้ เจ้าตายไปเป็นพันครั้งก็ยังไม่พอ” นางทำเรื่องอันใดที่ทำให้เฉินเฮ่าเคียดแค้นนางขนาดนี้ เหลียงซีนในตอนนี้นั้นกลับใจเย็นลงอย่างเหลือเชื่อ มองไปยังบุรุษผู้นั้น ด้วยสัญชาตญาณที่บอกกับนางว่าจะต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเป็นแน่ มิฉะนั้นเฉินเฮ่าคงจะไม่มีสาเหตุอันใดที่จะลงโทษลงบนร่างกายของนางเช่นนี้ ยังมีที่เขาพูดว่าเหลียงอินจะฆ่าตัวตาย มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น เมื่อได้สติแล้วนางจึงเอ่ยขึ้น “ถ้าหากว่าข้าได้ทำลงไปก็จะต้องยอมรับอย่างแน่นอน แต่หากถ้าไม่ได้ทำสิ่งใด ท่านก็อย่าหวังจะนำความผิดมาวางใส่ที่หัวของข้า” เฉินเฮ่าหรี่ตามอง ยิ่งรู้สึกเกลียดความดื้อแข็งของนาง เขาจึงกลั้นความโกรธลง จนสุดท้ายเอ่ยขึ้นมาอย่างหมดความอดทน “เจ้าให้ฉนฮัวออกไปซื้อสิ่งใด” สัญชาตญาณของเหลียงซีนบอกว่าคงเกิดเรื่องราวที่ไม่ดีขึ้นเป็นแน่ แต่เวลานี้นางไม่อาจปกปิดเขาได้อีก จึงเอ่ยขึ้นอย่างหยิ่งยโส “สมุนไพร” “นำมาใช้เพื่อสิ่งใด” เฉินเฮ่าเอ่ยถามขึ้นเพื่อบีบคั้นนาง เหลียงซีนนั้นเป็นที่เมื่อถูกบีบคั้นจนอึดอัดแล้ว จะชอบวู่ว่ามเพื่อแสดงการต่อต้านออกไป นางจึงกัดฟันเอ่ยขึ้น “รักษาบาดแผล” “เหอะ!” เฉินเฮ่าฉีกยิ้มที่มุมปาก ความเย็นชาแผ่กระจายออกมาจากทั่วร่างกายของเขา เขามองไปยังเหลียงซีนพร้อมเหน็บแหนมขึ้น “รักษาบาดแผล เจ้าวางแผนนี้มานานเท่าไหร่แล้ว” สีหน้าของเหลียงซีนนั้นเยือกเย็น นางเม้มริมฝีปากแน่น มองเห็นความตายเหมือนได้กลับบ้าน “ท่านพูดเช่นนี้ ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูด ท่านอยากให้ข้าตาย ข้าก็ต้องตาย” ความหมายก็คือเฉินเฮ่านั้นใช้ความรู้สึกโกรธแค้นกล่าวโทษนางนั่นเอง เรื่องจริงก็คือนางใช้สมุนไพรรักษาบาดแผล แต่นางจะพิสูจน์ความจริงได้อย่างไร เฉินเฮ่ายิ้มยะเยือก ดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยไอสังหาร เพ่งมองไปยังนางอย่างดุดันแล้วเอ่ยขึ้น “ดี! ท่านอยากให้ข้าตายข้าก็จะตาย คำพูดนี้เจ้าเป็นคนเอ่ยขึ้นเอง ตอนนี้เจ้ายิ่งรู้แก้ตัวนัก คิดว่าเป็นเช่นนี้แล้วข้าจะยกโทษเจ้า รักษาบาดแผลเป็นเพียงแค่ข้ออ้างของเจ้าเท่านั้น เจตนาเดิมที่แท้จริงของเจ้าคือวางยาทำให้คนมาข่มเหงน้องอิน” เหลียงซีนตะลึงงัน ข่มเหงเหลียงอิน นางทำเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ “หลักฐานอยู่ที่ใด” ถึงแม้ว่าเป็นการใส่ร้ายนาง แต่นางก็ต้องการหลักฐาน
已经是最新一章了
加载中