บทที่ 2 เขาไม่เชื่อเธอ
1/
บทที่ 2 เขาไม่เชื่อเธอ
พรหมลิขิตที่ผิด
(
)
已经是第一章了
บทที่ 2 เขาไม่เชื่อเธอ
พวกเขาถือว่ามาช้าที่สุดแล้ว คนบ้านศักดิ์สรรณ์แทบจะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างเป็นระเบียบ ไปนั่งที่เก้าอี้ ชมพู่อยู่อย่างเงียบและเป็นระเบียบมาก จู่ๆ เสียงใสของหญิงสาวไร้เดียงสาก็ดังขึ้น “คุณยายค่ะ คนนี้หรอที่เป็นภรรยาของพี่ก๋องน่ะ” ศรีวันไม่ชอบชมพู่นานแล้ว ทุกครั้งที่เห็นเธอ รู้สึกว่าเรื่องนี้จะคอยเตือนความอัปยศที่ตระกูลศักดิ์สรรณ์เจออยู่ตลอด เรื่องที่ตระกูลอังคนาปกปิดความจริง แล้วให้ชมพู่มาแต่งงานแทนวันนา นี่มันเป็นการทำให้ตระกูลศักดิ์สรรณ์ขายหน้าชัดๆ พอคิดถึงเรื่องนี้ ศรีวันก็โกรธมาก แต่ว่าตอนนี้ก็ไม่สามารถแก้ได้แล้ว เธอเองก็ไม่สามารถจะว่าอะไรได้อีก แต่พฤติกรรมที่มีต่อชมพู่ก็เหมือนทุกครั้งอยู่ดี พอได้ยินจุลถาม ศรีวันก็ตอบ “อือ” อย่างไม่ชอบใจ จากนั้นก็หันไปคุยเรื่องอื่นกับเธอ พอได้ยินผู้หญิงคนนั้นเรียกคำว่า ยาย ออกจากปาก ชมพู่ถึงรู้สึกโล่งใจไปที เหมือนกับรู้สึกได้ว่าสายตาของทุกคนไม่ได้มองเธอแล้ว ชมพู่ถึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้น มองผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามกับเธอ ที่เมื่อกี้ที่ถามคำถาม ดูแล้วอายุราวๆ 17-18ปี ผมสีน้ำตาลและได้ทำการลอนผมเล็กน้อย ใส่มงกุฎสีเงินเล็กๆ ไว้บนหัว ใส่ชุดใหม่ล่าสุดของAlice ทำให้เธอดูเหมือนตุ๊กตาเลย ท่าทางของเธอที่ตั้งใจฟังศรีวันพูดนั้นน่ารักมากเลย เหมือนรู้สึกได้ถึงสายตาที่ชมพู่มอง เธอก็เลยหันมากะพริบตาใส่เธอพร้อมกับส่งยิ้มให้ ชมพู่จึงรู้สึกว่าเธอน่าเข้าหา ก็เลยยิ้มกลับ ตระกูลศักดิ์สรรณ์มีนิสัยที่เวลากินข้าวไม่พูด เวลาจะนอนก็ไม่พูด เธอคีบกับข้าวอย่างระมัดระวัง พยายามไม่ให้ตะเกียบไปโดนจานแล้วส่งเสียง มือนี้เลยเป็นมือที่กินลำบากมากสำหรับเธอ พอใกล้จะกินเสร็จกันทุกคนแล้ว เฉลิมที่นั่งอยู่บนหัวโต๊ะที่ไม่ได้เปิดปากเลยก็พูดขึ้นมาว่า “พร กลับมาครั้งนี้จะอยู่นานไหม” ที่บ้านศักดิ์สรรณ์ เฉลิมเป็นหัวหน้าครอบครัวที่แท้จริง หลังจากที่เขาพูด ทุกคนจึงเงยหน้ามองไปทางศิริพรที่เพิ่งกลับมา นั่งอยู่ข้างๆ บ้านศักดิ์สรรณ์เป็นครอบครัวใหญ่ ไม่พูดถึงเครือญาติบ้านศักดิ์สรรณ์ แค่ลูกของเฉลิมก็มี 5 คนแล้ว นอกจากลูกคนเล็กของเฉลิมและเด็กมอปลายที่ชื่อบิว นอกจากนั้น ชมพู่เองก็ไม่เคยเห็น แต่ว่าไม่เคยเห็นไม่ได้เท่ากับว่าไม่รู้ ในฐานะที่เป็นพี่คนโตของเด็กทั้ง 5 คนแล้ว ศิริพร ยังมีชื่อเสียงอีกมาก ในวงการคนชนชั้นสูงแล้ว จะบอกว่าไม่มีใครไม่รู้จักเธอเลยก็ได้ เธอก็คือคนที่ใฝ่หาอิสระและความรัก ตอนที่ยังสาวๆ ตัดสินใจตัดขาดกับครอบครัวศักดิ์สรรณ์เพื่อไปกับคนที่รักและกีตาร์ของเขา ก้าวสู่ชีวิตที่เร่ร่อนตามคนที่เธอรัก เพื่อความรักยอมเสี่ยง เพื่ออิสระยอมหนีออกจากบ้าน ในวงการนี้จะเจอคนที่มีความกล้าแบบนี้ยากมาก “จะไม่ไปไหนสักพักค่ะ” ศิริพรเอาแก้วที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาอย่างเบาๆ ดื่มไปคำหนึ่ง เหมือนมีอะไรในใจที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ เฉลิมเองก็รู้สึกตกใจกับการตัดสินใจของเธอในครั้งนี้ แต่ไม่นานนักก็พยักหน้าตอบรับ “ดีแล้ว ควรมั่งคงแล้วใช้ชีวิตดีๆ ได้ละ เพราะไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว จุลเองก็ควรเข้าโรงเรียนดีๆ ตั้งใจเรียนได้แล้ว” การสนทนาของสองพ่อลูกนั้นคลุมเครือเกินไปแล้ว ชมพู่คาดว่าเมื่อก่อนเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ ศรีจันก็นั่งฟังอยู่ข้างๆ จะพูดแทรกขึ้นมาบ้างบางครั้ง คิดเรื่องที่เกิดขึ้นกับศิริพรแล้ว ก็อดที่จะหงุดหงิดขึ้นมาไม่ได้ เธอหันไปมองชมพู่ ความรู้สึกหงุดหงิดนั้นยิ่งรุนแรงขึ้นกว่าเดิม เเธอวางตะเกียบใส่บนโต๊ะอย่างแรง แล้วมองชมพู่พร้อมกับยักคิ้ว ถามด้วยเสียงที่แหลม “ชมพู่ กินข้าวเสร็จเธอก็ควรลุกขึ้นไปล้างจานด้วยตัวเองสิ หรือว่าเธอรอให้ใครมาช่วยเธอล้างจานหรอ” มองไปหาก๋อง เห็นเขากำลังดื่มชาโดยไม่ขัดอะไรเลย ชมพู่เม้มปากแล้วเตรียมจะลุกขึ้นยืน “คุณนาย เดี๋ยวฉันทำเองก็ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องให้คุณหญิงลงมือทำค่ะ” ป้าสาที่ยืนอยู่ข้างๆ เห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี ก็เลยรีบเดินขึ้นไปพูดอย่างเคารพ ศรีวันสะบัดมือ “ป้าสากลับไปพักเถอะ ตรงนี้มีคนใช้อยู่ ป้าจะมาทำอะไรอีก ไปเถอะไปเถอะ” คนใช้? ชมพู่ยื่นทื่อสักพัก ทนกัดเนื้อในปากแล้วเริ่มเก็บจานและทำความสะอาด เธอเก็บถ้วยจานทุกอย่างไปไว้ที่ห้องครัว แล้วเอาผลไม้ทีเตรียมไว้ก่อนแล้วออกมาวางไว้ที่โต๊ะรับแขก จานผลไม้เป็นกระจกทรงแปดเหลี่ยม ห้องรับแขกที่ตกแต่งอย่างหรูหรา เต็มไปด้วยแสงสว่าง เฉลิมกับพวกก๋องแยกกันนั่งคุยกันอยู่บนโซฟา ไม่มีใครมองเธอเลยแม้แต่น้อย ดูแล้วเป็นครอบครัวที่รักและมีความสุขมาก เธอชินกับการถูกปฏิบัติใส่อย่างนี้แล้ว จะบอกว่าโกรธและเสียใจมากไหม ก็ไม่ได้ขนาดนั้น ขอแค่ไม่ทำเรื่องผิดพลาดในบ้านศักดิ์สรรณ์ก็เป็นเรื่องที่เธอดีใจที่สุดแล้ว เธอเองก็ไม่เคยคิดที่จะแทรกเข้าไปพูดกับพวกเขา สำหรับพวกเขาแล้ว เธอก็คงเป็นแค่คนนอกเอง กลับเข้าไปที่ห้องครัว เธอก็ได้เริ่มล้างจานอย่างตั้งใจ ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนอยู่ที่บ้านอังคนาไม่เคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อน แต่หลังจากที่มาอยู่บ้านศักดิ์สรรณ์แล้ว ผ่านการฝึกซ้อมมาหลานพันครั้ง จากที่ไม่เป็นอะไรเลยจนถึงตอนนี้ทำงานอะไรก็ไหลลื่น “พี่สะใภ้ พี่ล้านจานได้สะอาดจังเลย” น้ำเสียงขี้เล่นได้เข้าหู ชมพู่ก็เลยหันไปมองจุลที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องครัว ยิ้มแล้วถามอย่างอ่อนโยนว่า “ชื่อจุลใช่ไหม” จุลเดินเข้ามาใกล้แล้วเอามือทั้งสองไว้ข้างหลัง เขย่งปลายเท้าแล้วทำหน้าตาน่ารักแล้วพูดว่า “ใช่แล้วค่ะ หนูชื่อจุล” เธอยิ้มแล้วเตรียมจะพูดต่อ แต่จุลกลับไม่ให้โอกาสเธอได้เปิดปากเลย สีหน้าบนหน้าก็ยังเป็นสีหน้าที่ไร้เดียงสา แต่กลับพูดว่า “แต่ว่าชื่อของฉันไม่ใช่นางแพศยาอย่างแกจะเรียกได้นะ เข้าใจไหม” ชมพู่ถูกท่าทีที่แสดงหน้าหลังของเธอทำให้อึ้งไป จากนั้นก็ถูกคำพูดของเธอทำให้หน้าซีดลงทันที “จุล ทำไมพูดอย่างนี้ละ” เธอรู้สึกรน วางถ้วยลงแล้วเช็ดมือบนผ้ากันเปือน จุลหันหลังใส่ห้องรับแขก นอกจากชมพู่แล้วคนอื่นไม่มีใครเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนทันทีของเธอเลย เธอกอดอก เงยหัวแล้วหลี่ตา ทำท่าทางเหมือนตัวเองหยิ่งผยอง เสียงไม่ใหญ่มาก มีแค่ชมพู่เท่านั้นที่ได้ยิน “แกคิดว่าแกทำให้พี่แกเป็นเจ้าหญิงนิทราแล้วจะสามารถอยู่บ้านพวกฉันได้ตลอดไปหรอ แกคิดว่าแค่แกจะสามารถเฝ้าตำแหน่งคุณหญิงบ้านศักดิ์สรรณ์ได้หรอ แกฝันไปเถอะ นี่มันเป็นไปไม่ได้ พี่ก๋องไม่มีทางจะใช้ชีวิตกับแกไปตลอดหรอกนะ ไม่ว่ายังไง ฉันก็จะห้ามแก แกอย่าหวังเลย” ไม่รู้ว่าทำไมเพิ่งกลับมาที่บ้านศักดิ์สรรณ์จุลถึงมีความอคติต่อเธอมากขนาดนี้ เธออยากจะอธิบาย แต่กลับไม่รู้ว่าจะเริ่มจากไหน เรื่องทุกอย่างไม่ใช่ว่าจะพูดออกมาได้ง่ายๆ เพราะเธอกับพ่อและแม่คุกเข่าสัญญาแล้ว แสยะยิ้ม สีหน้าของจุลนั้นเหมือนจะมีเรื่องอีกยาว ชมพู่รู้สึกว่าไม่ดีแล้ว เตรียมจะเดินออกไปข้างนอก แต่ในเวลาเดียวกันเอง จุลกลับขยับไปอยู่อีกข้าง บังทางเดินของเธอ จากนั้น........... เสียงร้องเจ็บปวดดังออกมาจากห้องครัว “อ๊าก .........” ศิริพรรีบมองไปทางห้องครัว จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งไปทางห้องครัวอย่างรีบร้อน วิ่งไปด้วยเรียกอย่างเป็นห่วงไปด้วย “จุล จุลลูกแม่ ลูกเป็นอะไร” ในห้องครัว บนพื้นเต็มไปด้วยเศษจานที่แตก น้ำยาล้างจานหกเต็มพื้น บนพื้นยังเต็มไปด้วยน้ำ ชมพู่ล้มอยู่ข้างล่างตู้เก็บของ จุลหมอบอยู่บนพื้น ข้างล่างทับเศษจานที่แตกไว้ด้วย และมีดที่วางไว้บนขอบโต๊ะก็เหมือนกำลังจะตกลงมา ดูแล้วน่ากลัวมาก “จุล ลูก เกิดอะไรขึ้น” ศิริพรไปพยุงจุลที่นอนคว่ำอยู่บนพื้นอย่างระมัดระวัง “พี่สะใภ้ พี่สะใภ้เขา......ยังดีที่หนูไม่ถูกพี่สะใภ้แทงโดน” จุลร้องไห้กระซิกกระซิกอย่างเบาๆ มองไปทางมีดที่อยู่บนขอบอ่างล้างจานที่ใกล้จะตกแล้ว ศิริพรกัดฟันเดินไปข้างหน้าด้วยสีหน้าที่โกรธ แล้วกระชากผมของชมพู่ ชมพู่ยื่นมือไปอยากห้ามการกระทำของเขา แต่เพราะว่าศิริพรเป็นคนที่ชอบวิ่งไปมาอยู่ข้างนอกอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เธอยังเป็นแม่ที่อยากระบายเพื่อลูก เธอจึงห้ามไม่อยู่ ถูกเขาลากไปชนใส่ตู้ลิ้นชักหลายครั้ง กัดฟันไว้แน่น ชมพู่เลยฉวยโอกาสลุกขึ้น “ไม่ใช่ฉัน......” ศิริพรตบไปที่หน้าของเธอหนึ่งครั้ง เธอถูกตบจนหน้าส่ายไปอีกข้างหนึ่ง ผมที่ยุ่งได้ปิดหน้าอีกข้างของเธอไว้ คนอื่นมองไม่เห็นสีหน้าของเธอ เธอคิด ต้องน่าเวทนาขนาดไหนถึงยอมให้ศิริพรรังแกขนาดนี้ ก่อนที่จะมาบ้านศักดิ์สรรณ์ เธอก็เป็นลูกรักของคนบ้านอังคนาเหมือนกัน ไม่เคยทนความอัปยศขนาดนี้มาก่อน มองมือของศิริพรที่จะตบลงมาอีกครั้ง ชมพู่หลบไปอยู่ข้างๆ โดยสัญชาตญาณ แล้วยกมือขึ้นแล้วจับข้อมือของศิริพรไว้ จากนั้นตะโกนอย่างโมโหว่า “ฉันไม่ได้........” ยังไม่ทันพูดจบ ชมพู่ก็รู้สึกถึงความเจ็บจากด้านซ้ายของหน้า จากนั้นเสียงที่เย็นชาของเฉลิมก็ได้ดังขึ้น “ชมพู่ ออกไปเลยนะ ตระกูลศักดิ์สรรณ์ไม่มีลูกสะใภ้อย่างแก” ชมพู่กัดริมฝีปาก ไม่ได้มองไปทางเฉลิม แต่กลับมองไปหาก๋องที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย จากนั้นพูดกับเขาอย่างจริงจังว่า “ฉันไม่ได้ทำ ไม่ใช่ฉัน เป็นเขา.......” สายตาที่เลือดเย็นของก๋อง ไม่มีความว่าฟังที่เธออธิบายเลย เขายืนอยู่ห่างๆ เอามือสอดไว้ในกระเป๋ากางเกง เหมือนกับเทวกาที่ใสสะอาด ส่วนตัวเธอนั้นเต็มไปด้วยน้ำและคราบสกปรก ผมก็ยุ่งไปหมด ต่างกันอย่างฟ้ากับเหว เขาไม่เชื่อเธอ เธอมองออกแล้ว เขาไม่เชื่อเธอ ชมพู่รู้สึกทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาทันที ทีแรกเธอแค่อยากจะช่วยพ่อแม่เฉยๆ แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เธอเอาเวลาความเป็นวัยรุ่นมาเสียให้กับตระกูลศักดิ์สรรณ์ไม่ใช่เพราะตระกูลอังคนาอย่างเดียว แต่เป็นเพราะก๋องมากกว่า แต่ตลอด 3 ปีที่ใช้ชีวิตคู่มานั้น ก๋องกลับไม่เชื่อเธอในเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย รู้สึกเสียใจ เธอไม่รู้ว่าที่ตัวเองทนมาโดยตลอด อยู่บ้านศักดิ์สรรณ์อย่างหน้าด้านแบบนี้เพื่ออะไรกันแน่ จู่ๆ เธอก็ไม่อยากอธิบายแล้ว ยอมถูกเข้าใจผิด เธอก็ไม่อยากอธิบายอะไรอีกแล้ว เชื่อหรือไม่เชื่อก็อยู่ในเวลาสั้นๆ เท่านั้น ถ้าคนที่เข้าใจเธอ ทำไมจะต้องอธิบายอีกละ ถ้าไม่เข้าใจเธอ จะอธิบายไปสักเท่าไหร่สำหรับเขาแล้วก็เป็นการแก้ตัวเท่านั้นแหละ ชมพู่ไม่พูดอะไร ศิริพรเหมือนมั่นใจว่าเพราะเธอรู้สึกผิด จึงยิ่งหยิ่งผยองขึ้นกว่าเดิม
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 2 เขาไม่เชื่อเธอ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A