ตอนที่ 5 ขอความช่วยเหลือทั้งๆที่หน้าแดง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 5 ขอความช่วยเหลือทั้งๆที่หน้าแดง
ตอนที่ 5 ขอความช่วยเหลือทั้งๆที่หน้าแดง ตัวฉันแข็งทื่อ แล้วก็มองหน้าศรัณด้วยสายตาตื่นตระหนก หลังจากนั้น ฉันก็เหมือนว่าเห็นศรัณคลี่ยิ้มออกมา เขากอดฉันไว้ในอ้อมอกที่อบอุ่น แล้วก็พูดออกมาว่า “เข้าใจแล้ว” ห้องข้างๆของพวกเราต่างโดนเปิดออกเพื่อสำรวจ ฉันซ่อนอยู่ตรงหน้าอกของศรัณด้วยความกังวล “ออกไป!”ศรัณหันหน้าไปไล่พวกเขาอย่างเย็นชา “ขอโทษครับ! คุณศรัณ! ขอโทษจริงๆครับ!” คนพวกนั้นได้แต่เอ่ยปากขอโทษ แล้วก็รีบปิดประตูลงทันที ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ในที่สุดก็รอดแล้ว “เธอต้มฉันซะเละเลยนะ” ศรัณเบะปาก แล้วก็ถอยห่างออกจากตัวฉัน ในตอนนี้ฉันควรจะพูดอะไรดี? ขอบคุณ หรือว่าจะด่าที่เขาบังคับฉันมาที่นี่กัน? ศรัณรูดซิปกางเกงของตัวเองขึ้น เหลือบมองฉันที่เหมือนคนโง่ เขาหัวเราะและพูดว่า “ดูสภาพเธอตอนนี้น่าจะยั่วฉันไม่ขึ้นนะ” ฉันถลึงตาใส่เขาไปทีนึง แล้วก็จัดเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อย แล้วก็นั่งลงไปบนชักโครก ทั้งตกใจทั้งกลัว ตอนนี้สติฉันยังกลับมาไม่ครบถ้วน “นักข่าวอย่างพวกเธอนี่ก็ใจสู้เหมือนกันเนอะ” ศรัณพูดพลางเอานิ้วลูบผมของฉัน แล้วก็พูดอย่างกังวลว่า “แล้วถ้าเธอโดนคนอื่นทำมิดีมิร้ายขึ้นมาจริงๆล่ะจะทำยังไง?” ฉันเผลอโพล่งออกมาว่า “ก็โดนนายแล้ว……” พอพูดเกือบจะจบฉันถึงรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะพูดออกไป ใบหน้าร้อนผ่าว ฉันค่อยๆเงยหน้าขึ้นแล้วก็สบตากับเขาพอดี แสงจากไฟด้านบนของเขาแยกฉันกับเขาเอาไว้ คนนึงอยู่ในแสงสว่าง อีกคนอยู่ในมุมมืด เขาที่อยู่ใต้แสงสว่างยิ้มอย่างพอใจ ส่วนฉันที่อยู่ในมุมมึดได้แต่หน้าแดงไปด้วยความอาย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ฉันถึงรู้สึกมีลางสังหรณ์ว่าฉันจะสลัดเขาไม่หลุด เหมือนกับว่าเราต่างถูกลิขิตให้เข้าไปพัวพัน และทรมานซึ่งกันและกัน ศรัณกอดฉันพร้อมเดินออกไป ก็เลยไม่มีใครกล้าถามถึงตัวตนที่แท้จริงของฉัน เขากอดฉันและพยายามบังใบหน้าของฉันไว้ แม้แต่กระเป๋าที่ฉันทิ้งไว้ตอนก่อนออกไปยังมีคนหยิบมาให้ เสียงของรถสปอร์ตที่ขับออกมา ฉันหันกลับไปมองแสงไฟของ June club แล้วก็รู้สึกโล่งใจ “ฉันว่าเธอไม่เขียนข่าวอะไรเกี่ยวกับJune clubจะดีกว่านะ” ศรัณพูดออกมา ฉันเปิดกระเป๋าของตัวเอง และก็หยิบปากกาอัดเสียงออกมา แต่ทุกอย่างกลับหายไปแล้ว ฉันโยนปากกากลับลงไปในกระเป๋าอย่างท้อแท้ “ฉันเป็นนักข่าว ฉันมีสิทธิที่จะทำให้ประชาชนได้รับรู้ความจริง” “งั้นก็แล้วแต่เธอ” ศรัณหัวเราะเหอะๆออกมาสองที หลังจากนั้นบรรยากาศระหว่างเราสองคนก็เริ่มอึดอัด พูดตามตรง ฉันไม่รู้ว่าฉันควรจะเผชิญหน้าเขายังไง ที่จริงเขาก็มีเสน่ห์ดึงดูดฉันอย่างร้ายแรง แต่ยังไงฉันก็รู้อยู่แล้วว่าโอกาสเรื่องเราสองคนมันเป็นไปได้น้อยมากๆ พวกเราสองคนไม่เจอกันอีกคือทางที่ดีที่สุด “เดี๋ยวเลี้ยวซ้ายทางข้างหน้านั้น ฉันจะลงตรงนั้นแหละ” ฉันชี้นิ้วไปตรงนั้น ศรัณส่งเสียงอืมในลำคอ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่กลับกลายเป็นว่าเขายิ่งพาฉันไปไกลกว่าเดิม “ฉันจะกลับบ้าน” ฉันถอนหายใจ ศรัณหันหน้ามามองหน้าฉันด้วยสายตาเย็นชา “เธอคิดว่าใช้ฉันเสร็จแล้วก็จะกลับไปแบบนี้น่ะเหรอ?” “พวกเราก็เป็นแค่คู่นอน” ฉันกำเสื้อผ้าของตัวเองแน่น ไม่กล้าหันไปมองหน้าเขา ทันใดนั้นเขาก็ยื่นนิ้วมือจับที่คางของฉัน บังคับให้ฉันหันไปมองหน้าเขา “ฉัน ศรัณไม่เคยบังคับผู้หญิงคนไหนมาก่อน”สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเอาแต่ใจ และจริงใจ เขาคลี่ยิ้มออกมาแล้วพูดต่อว่า “ดังนั้น อนาคตเรายังอีกยาวไกล” หลังจากนั้นเขาก็ปล่อยฉันเป็น แล้วก็มองไปข้างหน้าเหมือนเสือดาว แล้วก็เร่งความเร็วไปท่ามกลางถนนที่ว่างเปล่า รถค่อยๆเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ เสียงลมรอบๆก็ยิ่งดัง ฉันรู้สึกเหมือนว่ากำลังจะขึ้นบินยังไงยังงั้น หัวใจของฉันเต้นแรง แต่ไม่ใช่เพราะตื่นเต้นเพราะความเร็วของรถหรอกนะ แต่เพราะสิ่งที่ศรัณพูดกับฉันเมื่อกี้ต่างหากล่ะ ถนนในตอนเช้าตู่ค่อนข้างเงียบ พอห่างออกมาเรื่อยๆก็เริ่มห่างจากความวุ่นวาย ฉันได้ยินแต่เสียงลม เสียงลมปนมาด้วยความกระสับกระส่ายร้อนรน ราวกับว่าตอนกลางคืนเปรียบดั่งร่มที่คอยปกป้องคนเราไว้ ให้คนเราสามารถปลอมตัวได้โดยไม่มีใครเห็น “อ๊าก……” ทันใดนั้นฉันก็นั่งหลังตรง แล้วก็ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ระบายอารมณ์ออกมาอย่างเต็มที่ เหมือนกับว่ามันจะสามารถทำให้ฉันทิ้งความทุกข์ทั้งหมดของฉันไปได้ “พวกเราไปทะเลกันเถอะ!” ฉันหลับตาลง รู้สึกถึงลมหนาวที่พัดมาโดนใบหน้าของฉัน ทำให้คนทั้งรู้สึกปลอดโปร่ง ทั้งมึนเมา “ได้!” ศรัณตอบรับอย่างมีความสุข ถนนที่เงียบสงบเต็มไปด้วยเสียงเครื่องยนต์ของรถสปอร์ต แล้วรถก็มาจอดที่ริมชายหาด ด้านหน้าของฉันมีแต่ทะเลที่มืดมิด มองอะไรไม่เห็นสักอย่าง ได้แต่ได้ยินเสียงคลื่นกระทบโขดหิน ฉันถึงได้รู้ว่าเรามาถึงทะเลกันแล้ว ศรัณเข้ามากอดฉันจากด้านหลัง แล้ววางซบลงมาที่หัวของฉัน ฉันไม่ขยับ เต็มใจยอมให้เขาทำแบบนี้ แล้วความใกล้ชิดนี้ ก็ทำให้ฉันเริ่มเพ้อฝัน ถ้าเกิดว่าฉันเจอศรัณตั้งแต่แรก นิทานเรื่องนี้มันจะเปลี่ยนไปไหมนะ น่าขำซะจริง ฉันพึ่งเคยเจอผู้ชายคนนี้แค่สองครั้ง แต่กลับนึกถึงตอนแก่เฒ่าซะแล้ว “รสชาติของเธอทำให้คนหลงใหล เหมือนลมทะเล” ศรัณก้มลงดมเส้นผมของฉัน ตอนนี้ในหูของฉันมีแต่เสียงของเขา “ฉันชอบเธอตั้งแต่เห็นเธอครั้งแรก หลายวันมานี้ฉันตามหาเธอมาตลอด พวกเรามาคบกันได้ไหม?” ไม่ดี ไม่ดี พวกเราไม่เหมาะสมกันหรอก ทำไมคำพูดพวกนี้ฉันถึงพูดไม่ออกนะ ความโดดเดี่ยวของฉัน จริยะธรรมที่ฉันมีทำให้ฉันไม่สามารถทำให้สิ่งที่ฉันต้องการได้ “ขอโทษนะ” ฉันตอบกลับไปอย่างโหดร้าย แต่ในขณะเดียวกัน ในใจฉันกลับรู้สึกเจ็บปวด “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร” ศรัณก้มลงจูบที่คอของฉัน และลูบเส้นผมของฉันเบาๆ เสียงของเขาแหบและสั่น “ฉันจีบเธอต่อไปก็ได้” เหมือนว่าพระอาทิตย์จะขึ้นแล้ว ฉันมองดูแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆโผล่ขึ้นมาจากขอบทะเล ฉันหันกลับไป จับหน้าของศรัณไว้ แล้วก็จูบลงไปที่ริมฝีปากของเขา
已经是最新一章了
加载中