อยากวอนขอ
หนูนากระวนกระวายใจอยู่ในห้องพักตั้งแต่กลับจากทำงาน แม้ได้คุยกับน้องสาวซึ่งอยู่หอพักภายในมหาวิทยาลัยแต่ความกังวลก็ไม่หายไป เพราะเรื่องที่กังวลไม่ใช่เรื่องคิดถึงน้องอย่างเช่นทุกวันนั่นเอง หลายครั้งสายตาหันไปมองดูเวลา แต่เกือบเที่ยงคืนยังไม่มีวี่แววเจ้าของห้องก็แทบทนไม่ไหว ครั้นจะให้โทรไปหา เธอก็ไม่เคยทำ จึงต้องนั่งถ่างตารอต่อไป มีกำลังใจอย่างหนึ่งว่าวันพรุ่งนี้ตรงกับวันเสาร์ เธอแน่ใจว่าราฟาเอลจะมา ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ได้หกเดือนกว่า เขาไม่เคยจะไม่มาในวันหยุด
หลังจากพี่สาวเสียชีวิต เธอต้องรับภาระดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายของหลานชายเอง การผ่าตัดโรคหัวใจที่หลานเป็นมาแต่กำเนิด ทำให้เธอเครียดอย่างมาก แม้ได้เงินจากการทำขวัญจากการเสียชีวิตของพี่แต่ก็ไม่มากพอจะใช้จ่ายค่ารักษา ให้หวังพึ่งพ่อของหลานเธอเลิกคิดเรื่องนั้นไปตั้งนานแล้ว
“หนูบัวจะไม่เรียนต่อนะพี่หนูนาจะออกมาทำงานช่วยเหลือพี่ ช่วยดูศิน” น้องสาวบอกกล่าวน้ำเสียงเศร้า
“อย่าเพิ่งเลยหนูบัว” เธอปฏิเสธ เพราะเสียดายมันสมองน้องที่ดีเลิศตั้งแต่เด็กแตกต่างกับเธอที่ขี้เลื่อยเต็มไปหมด ได้เรียนแค่มอปลายก็ดีถมไปแล้ว
“แต่เราไม่มีเงินนี่จ๊ะ ตาศินอีกพี่จะทำยังไง เมื่อก่อนพี่หนูเล็กทำงานดูแลหลานเอง พี่ก็ดูแลหนูบัว พอถูไถไปได้ แต่ตอนนี้เรา…เรา ไม่มีพี่หนูเล็กแล้ว”
“เถอะน่า อีกเทอมเดียวจะจบมอปลาย แถมเอ็นฯ ติดมหาลัยดังที่ใฝ่ฝันไม่ใช่หรือ หนูบัวต้องอย่าเพิ่งถอดใจ รู้ใช่ไหมพี่หวังแค่ไหนให้เราได้เรียนสูงๆ พี่หนูเล็กอีกคน”
เสียงจริงจังของเธอ ทำให้น้องสาวไม่มีข้อโต้แย้งอีก
หนึ่งคืนกับการนอนครุ่นคิดเรื่องซึ่งเคยคุยไว้กับแขกที่เข้าพักยังโรงแรม แม้ไม่อยากทำแบบนั้นแต่เธอก็ไม่มีทางเลือก ตอนแรกอยากขอความช่วยเหลือจากแขกอีกคนหนึ่งที่ตนเคยเจอแต่นามบัตรของผู้หญิงคนนั้นเธอได้ทำหายเสียแล้ว รุ่งเช้าเธอจึงตอบตกลงเรื่องที่แขกเคยคุยด้วยทันที
“บอกแล้วให้ตกลงตั้งแต่ครั้งที่แล้วไงฮ้า แต่ไม่เป็นไรสวยอย่างหนูพี่ยินดีต้อนรับเสมอ และไม่ต้องห่วงไม่นานก็จะสบายไม่ต้องมาทำงานงกๆ แบบนี้พี่รับรอง”
สาวประเภทสองทำท่าดีอกดีใจเมื่อเธอตกลงเป็นเด็กในความดูแล แม้อายที่ตอบตกลงไป แต่หนูนาต้องปั้นหน้าด้านเข้าไว้ เพราะถ้าชวดจากเจ๊ดาด้า เธอก็ไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหนได้ ที่ผ่านมาเธอติดหนี้มากมาย กว่าจะผ่านพ้นมาได้แต่ละเดือนต้องปวดหัวแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ
“หนูต้องการใช้เงิน เจ้พอจะช่วยหนูก่อนได้หรือเปล่าคะ” นึกถึงค่าใช้จ่ายหลานเธอก็หน้าด้านเข้าไปอีก
“ไม่มีปัญหาต้องการเท่าไหร่ล่ะ” เจ้ดาด้าดูใจป้ำเต็มที่ ล้วงกระเป๋าไม่อิดออด
“เอ่อ…สองแสนค่ะ”
“ทำหนังสือกันนิดหน่อยนะหนู ต้องเข้าใจเจ้ เกิดหนูเบี้ยวขึ้นมาเจ้แย่แน่ๆ”
“หนูไม่ไปไหนหรอกค่ะยังทำงานที่เดิม ก็เจ้บอกเองงาน…อย่างว่าทำไม่เป็นเวลา หนูจะเลือกกลางคืนก็ได้นี่คะ”
“อะไรกันจะยังทำงานทำไม” สีหน้าเจ้ซึ่งหวังพึ่งแสดงความแปลกใจออกมา
“เผื่อหนูเก็บเงินได้ตามที่ต้องการบางทีอาจจะเลิก เจ้คงไม่ว่าที่พูดตรงๆ นะคะ”
“โอ้ย ไม่เคยเจอแบบนี้แต่เอาเถอะ เรื่องแบบนี้เจ้ไม่บังคับหรอก เอ้าเอาเช็คเงินสดไป อ่านนี่ซะแล้วเซ็นซะด้วยนะ”
เธออ่านรายละเอียดภายในสัญญา ระบุถึงการยืมเงินธรรมดา…เพียงพลอยนึกขอบคุณคนตรงหน้าที่ไว้ใจเพราะเธอนั้นไม่ได้มีหลักทรัพย์ใดใดมาใช้เป็นตัวค้ำประกันในครั้งนี้
เหมือนเจ้ดาด้าจะรู้ว่าเธอคิดอะไร พูดออกมาเสียงดังว่า “ถึงเรารู้จักกันไม่นานแต่หนูอย่าคิดหนีนะจ๊ะเพราะเจ้จะกัดไม่ปล่อยถ้าทำแบบนั้น และงานที่ไหนหนูก็อย่าหวังจะได้เข้าไปทำอีกเลย”
แม้ไม่ใช่คำขู่แต่หนูนาก็กลืนน้ำลายลงคอในน้ำเสียงเด็ดขาดนั้น เพียงสัปดาห์เดียวเธอก็ได้เจอราฟาเอล ผู้ชายเรือนร่างสูง แววตาคมเข้มอ่านความรู้สึกแทบไม่ได้เลย หัวใจปั่นป่วนชอบกลเมื่อสบตาคู่คมนั้นแต่ความหวาดกลัว กังวลหายไปบ้างเมื่อเจ้ดาด้าแจ้งว่างานที่เธอต้องทำ เป็นผู้หญิงรายปีของผู้ชายคนนี้
คืนแรกที่ต้องออกจากบ้านใบหน้าสวยอาบไปด้วยน้ำตา หวาดหวั่น หวาดกลัว แต่ใจส่วนลึกก็ดีใจที่เธอไม่ต้องขายตัวให้ผู้ชายหลายๆ คน แม้เจ้ดาด้าใช้คำว่า เป็นผู้หญิงของราฟาเอล แต่สำหรับเธอมันก็คือการขายตัวแบบรายปีนั่นเอง
กริ๊ก…เสียงประตูเปิดและปิดลง หนูนาหันไปมอง เธอมัวคิดเรื่องในอดีตเพลินสินะ ถึงไม่ได้ยินตอนคนที่เฝ้ารอเปิดประตูเข้ามา
“นึกว่านอนแล้วซะอีก” เขาเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงขรึมเช่นเคย หนูนาเดินไปรินน้ำมายื่นให้
“คอยคุณค่ะ” ราฟาเอลรับน้ำในมือหญิงสาว สายตาคมแหงนมองใบหน้าสวย เพราะปกติคนที่มาหาไม่เคยมีเรื่องคุยกัน เธอไม่ช่างพูด ช่างขอเหมือนผู้หญิงบางคนส่วนนี้ที่ทำให้ราฟาเอลพอใจ แต่เธอดูแลเขาด้วยหัวใจ จุดนี้ราฟาเอลคิดว่าเขามั่นใจ หนูนาเองก็หน้าแดงเมื่อคิดว่าเรื่องเดียวที่เธอกับเขามีร่วมกันภายในห้องนี้นั่นคือการร่วมรักที่เร่าร้อน
“เอ่อ คุณดื่มน้ำก่อนสิคะ”
“ไม่ล่ะ ฉันแวะมาเอาของลืมทิ้งไว้ จะกลับเลย”
“กลับเลย” หนูนาใบหน้าซีด หยุดตนเองไว้ ตอนแรกคิดว่าจะเดินเข้าไปกอดร่างสูง แม้ไม่เคยทำนอกจากเวลาอยู่บนเตียงแต่วันนี้ไม่รู้ทำไมหัวใจมันร่ำร้องอยากจะกอดเขาเหลือเกิน
“เป็นอะไรไป” ราฟาเอลเห็นสีหน้า ท่าทีหญิงสาวถามด้วยความสงสัย “หรืออยู่กับฉันมาหกเดือนขาดฉันไม่ได้เสียแล้วรึไง”
“ทำไมคุณพูดแบบนี้คะ” เธอตาแดง ยิ่งตอกย้ำสิ่งที่ราฟาเอลสุดแสนเบื่อ
อีกคนแล้วสินะ…ราฟาเอลไม่แปลกใจหากผู้หญิงทุกคนของเขาจะมีมากกว่าคำว่าเซ็กที่เร่าร้อนให้กัน หากชายหนุ่มก็เบื่อหน่ายเกินจะฟังคำนั้น สำหรับราฟาเอลผู้หญิงก็แค่ที่ปลดปล่อยอารมณ์ ชายหนุ่มไม่พึงประสงค์คำว่ารักที่น่าเบื่อ เขาเองก็ไม่คิดจะให้คำนั้นกับใครเช่นเดียวกัน แต่ขณะนี้เมื่อเห็นตาแดงก่ำ ใจชายหนุ่มสั่นไหวรุนแรง ทนไม่ได้จนต้องเดินมาโอบกอดหญิงสาว น้ำตาหนูนาพาลจะไหลออกมากับการกระทำนั้น
“จำที่ฉันเคยคุยกับเธอได้รึเปล่า วันแรกที่เราเจอกัน ฉันเข้าใจว่าเธอคงรู้สึกผูกพันกับผู้ชายคนแรกในชีวิต แต่เมื่อเราจากกัน ในวันหนึ่งมีคนใหม่เข้ามาเธอก็จะลืมฉันเอง อย่าคิดมารักฉันเลยนะ” ราฟาเอลไม่คิดพูดให้มันแตกต่างกับผู้หญิงคนก่อนหน้าของตน แม้ครั้งนี้ถ้อยคำที่ใช้จะนุ่มนวล แต่ความหมายก็ไม่ได้แตกต่าง
“คุณ…” เธอน้ำเสียงสั่น
“อาจแค่ความใกล้ชิด เซ็กซึ่งลงตัวของเรา เธอก็เลยคิดว่าเธอรักฉันแต่มันจะเป็นไปได้หรือ…”
“แต่คุณไม่ได้มีใครไม่ใช่หรือคะ หนูนาขอ…”
เพราะน้ำเสียงอ่อนโยนทำให้หนูนากล้าพูดเข้าเรื่องที่ซักซ้อมไว้หลายวัน หากเมื่อเธอพูดออกไปแค่นิดเดียวร่างสูงที่โอบกอดกันแข็งไปชั่วขณะ หนูนาชักหวาดหวั่นว่านั่นจะเป็นลางที่ไม่ดีหรือเปล่า